“อ-อะไรนะ?”ซ่งเฉียนพบว่าจั๋วฝานทำสีหน้าแปลกๆและถาม
หลังพึมพำกับตัวเอง จั๋วฝานก็พุด”อืมคือ ทางเลือกเดียวคือดูดพิษ..”
ซ่งเฉียนเข้าใจจากความลังเลของเขาและใบหน้าที่ซีดเซียวก็เปลี่ยนเป็นสีชมพู
“งั้น ขออภัยที่ทำให้เจ้าลำบาก..”เสียงแผ่วเบาของซ่งเฉียนดังขึ้นในหูเขา แววตาทรงเสน่ห์จะทำให้คนเห็นใจ
จั๋วฝานเลียริมฝีปากแห้ง ฉีกเสื้อรอบแผลนาง เผยให้เห็นผิวเนียน
ซ่งเฉียนตัวสั่นขณะหลับตาด้วยใบหน้าแดงก่ำ นางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ แต่ตอนเสื้อผ้าโดนฉีก นางก็ยังสะดุ้ง
“งั้น ขออภัยด้วย แม่นางซ่ง”จั๋วฝานฝืนยิ้มอย่างอึดอัดใจและนำปากไปจ่อใกล้แผล และเริ่มดูดพิษ
แต่ยิ่งเขาดูด ความสงสัยก็ยิ่งแตกหน่อ[ทำไมเลือดถึงร้อน?ทำไมเลือดของซ่งเฉียนจึงปกติ ราวกับนางไม่ติดพิษตั้งแต่ต้น?]
แต่ทว่า เขาพับเก็บความคิดขัดแย้งทั้งหมดไปและดูดต่อจนกระทั่งเลือดนางเปลี่ยนเป็นสีแดงฝาดอีกครั้ง
“ข้าถอนพิษส่วนใหญ่ออกแล้ว มันไม่ควรมีปัญหาอะไร”จั๋วฝานพ่นลมหายใจ แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
จากนั้น ร่างร้อนรุ่มก็กอดเขาและเรียวแขนสองข้างก็โอบรอบคอเขา
จั๋วฝานตกใจ.”แม่นางซ่ง อะไร…”
ลมหายใจร้อนของซ่งเฉียนเข้าหูเขา”จั๋วฝาน เจ้ารู้ไหม?ข้าชอบเจ้าตั้งแต่แรกที่เห็น”
ดวงตาของจั๋วฝานมองซ้ายขวา น้ำเสียงของเขาหวั่นไหว”แม่นางซ่ง น้องชายเจ้าจะมาในไม่ช้า”
“ช่างเขา”ลิ้นของซ่งเฉียนเลียแก้มเขา ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนสายฟ้าฟาด”ข้าแค่อยากให้เจ้าอยู่ข้างข้า!”
นางไม่ให้โอกาสเขาได้ต่อต้านเลยขณะที่จูบเขา
เขาเบิกตาโพล่ง หัวใจเต้นกระหน่ำและหัวก็ว่างเปล่า
เขาเคยเป็นจักรพรรดิปีศาจเพราะเขามักบ่มเพาะในหัว เก็บทุกย่างก้าว ทุกรายละเอียด มากจนมองข้ามเรื่องระหว่างชายกับหญิง
ตอนลั่วหยุนยางกับเหล่ยยู่ถิงมารุมเขา มันทำให้เขาท้อแท้ แต่คราวนี้ ความคิดของเขาปลิวไปตามมัน
[บัดซบ ข้าเกิดสองครั้งและเป็นชายบริสุทธิ์ทุกครั้ง แต่ไม่เคยเจอศึกแบบนี้มาก่อน!]
จากนั้น ดวงตาของจั๋วฝานก็ลุกเป็นไฟด้วยความโกรธและผลักซ่งเฉียนออกไป”เจ้าเพิ่งให้อะไรกับข้า?”
แม้จะสับสน เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่เข้าปากเขาและละลาย
ซ่งเฉียนกรีดร้องขณะล้มกระแทกพื้น จากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะ”ฮ่าๆๆ บางสิ่งที่มหัศจรรย์นะสิ”
เงาร่างสีดำปรากฏและโยนระฆังโปร่งใสขนาดใหญ่เหนือจั๋วฝาน
จั๋วฝานอุทาน”อาวุธจิตวิญญาณระดับสี่?”
“ฮ่าๆๆ ใช่แล้ว นี่คือสมบัติของตระกูลฉี ปะรำม่วง!”
ร่างสีดำทิ้งตัวตรงหน้าจั๋วฝานและเผยตัวเอง ดวงตาของชายชราเต็มไปด้วยความยินดีแบะคับแค้น
“เจ้าก็คือยอดฝีมือระดับนภาของตระกูลฉี?”จั๋วฝานพยายามลุก แต่หัวของเขากลับหนักอึ้ง ทำให้เขาล้มคุกเข่า
“เกิดอะไรขึ้น?ข้าโดนวางยารึ?”
“ฮ่ๆๆ นั่นคือพิษที่ร้ายแรงสุดของตระกูลฉี พิษกลืนวิญญาณ!”ชายชราเยาะเย้ย”มันเล่นงานดวงวิญญาณและไม่มีใครที่ต่ำกว่าระดับเซียนจะทนได้นานกว่าสองชั่วโมง แม้กระทั่งยอดฝีมือระดับเซียนก็ยังจะตายภายในสามวันถ้าไร้ยาแก้พิษของเรา!”
จั๋วฝานขมวดคิ้ว
ชายชรามองเขาและหัวเราะเยาะ”เจ้าคงสงสัยว่าเจ้าโดนวางยาได้อย่างไร?ฮี่ๆๆ ข้าจะบอกเจ้าให้ มีดนั้นไม่มีพิษ มันแค่เป็นบางสิ่งที่ทำให้เลือดคนเปลี่ยนสี พิษแท้จริงอยู่บนไหล่ของเฉียนเอ๋อร์ ซึ่งเจ้าเต็มใจดูดมันออกมาเอง”
ร่างอีกสองร่างเดินออกมาข้างซ่งเฉียน ซ่งอวี่กับฉีเทียนเหล่ย ซ่งเฉียนกับซ่งอวี่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ทั้งคู่หลบสายตาจั๋วฝาน แต่ฉีเทียนเหล่ยกลับจ้องเขาด้วยความเกลียดชังที่ฝังลึก
“เจ้าฆ่าพ่อข้า วันนี้ข้าจะมัดเจ้าไว้กับม้าและให้มันฉีกร่างเจ้า”
“ฮึ่ม ข้าเคยเห็นแพะแก่น่าสมเพชมามาก แต่ผู้อาวุโสตระกูลฉีของเจ้าได้ใจข้าไปเลย”จั๋วฝานเยาะเย้ย”ถ้าข้าเดาไม่ผิด ฉีกังเลี่ยคงเป็นเหยื่อตั้งแต่ต้น แถมยังคาดหวังให้ข้าฆ่าเขาซะด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่ง เจ้ายอมละทิ้งเขาตั้งแต่ต้น”
พอโดนเปิดเผย ฉีเทียนเหล่ยก็พูดไม่ออก
แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง มันก็ไม่มีใครกล้าพูดถึง ไม่งั้น เขาจะได้รับสายตาดูถูกและเหยียดหยามตอนเรื่องหลุดออกไปว่าลูกชายแท้ ๆ โยนพ่อตัวเองให้ฝูงหมาป่าเพื่อเขาจะได้คว้าเงินรางวัลเสียเอง
“ฮึ่ม เจ้าพยายามจะหลอกใครกัน?”
จั๋วฝานเยาะเย้ยชายชรา”เจ้าคงรู้วิธีเล่นมือใหญ่ ใช้ผู้นำตระกูลกับผู้อาวุโสทั้งเก้าเป็นปลาตัวน้อย”
ชายชราไม่สนใจคำพูดทิ่มแทงของจั๋วฝาน”แล้วไง?ข้าละทิ้งลูกชายข้า แต่ข้ายังมีหลานชาย มันคุ้มที่จะแลกกับหัวเจ้า เมื่อเรากลายเป็นตระกูลบริวารอันดับหนึ่งของโหยวหมิงกู่ เราจะมีผู้อาวุโสได้มากตามใจชอบ เราจะแข็งแกร่งกว่าที่เป็น การสูญเสียเล็กน้อยนี้เทียบไม่ได้กับความรุ่งโรจน์ในอนาคตของตระกูลฉี!”
“ฮ่ๆๆ ทะเยอทะยานมาก แต่ก็หน้าด้าน”จั๋วฝานยกย่อง จากนั้นก็เยาะเย้ย”แต่สุดท้าย ความคิดของเจ้าก็คับแคบเกินไป เจ้ายอมจ่ายหนักเช่นนั้นเพื่อให้กลายเป็นสุนัขอันดับหนึ่งของโหยวหมิงกู่ ถ้ามันเป็นข้า ข้าคงกลายเป็นผู้ปกครองทวีปไปแล้วด้วยสิ่งที่เจ้าจ่ายไป!”
[เด็กนี่บ้าหรือเปล่า?เจ้ารู้ไหมว่าจักรวรรดิเทียนอวี่ยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่เจ้ากลับพูดถึงทั้งทวีป?]
[แค่เด็กคุยโว!]
ชายชราแค่นเสียง”ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าทำไมเจ้าถึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับโหยวหมิงกู่ เจ้ามันบ้านี่เอง!คนธรรมดาคนหนึ่งจะปกครองทั้งทวีปได้ไง?”
“ฮึ่ม แล้วมดรู้อะไรเกี่ยวกับมนุษย์ที่เหยียบมันบ้าง?”
จั๋วฝานส่ายหัวและถาม”โอ้ ข้าลืมบอกไป แต่ข้าเป็นผู้หลอมโอสถ ถ้าไหล่นางมีพิษ ข้าต้องรู้”
“ฮี่ๆๆ ข้าได้ยินว่าเจ้าฆ่าโหยวกุ่ยฉี สิ่งนี้บ่งบอกถึงความคิดที่บิดเบี้ยวของเจ้าที่กล้าสู้กับเขา เจ้าคิดว่าเราจะใช้พิษทั่วไปตอนรับมือกับเจ้าหรือไร?’
ชายชราแสดงน้ำเสียงเย่อหยิ่ง”พิษกลืนวิญญาณเป็นส่วนผสมของยาสองชนิดที่ต่างกัน หนึ่งอยู่บนไหล่เฉียนเอ๋อร์และอีกหนึ่งคืออันที่เจ้าเพิ่งกลืนลงไป”
“นั่นคือสิ่งที่นางให้ข้าตอนนางจูบข้า?”
“ถูกต้อง!นั่นก็เพื่อความปลอดภัยของตัวนางเอง ถ้านางไม่ป้อนเจ้า นางจะตาย”
ชายชรายิ่มอย่างบ้าคลั่ง”เพื่อจบชีวิตเจ้า ข้าได้ค้นหาข่าวลือทุกข่าวลือและข้อมูลทุกข้อมูลเกี่ยวกับเจ้า ส่วนใหญ่บอวก่าเจ้าโผล่หัวมาสู้กับโหยวหมิงกู่เพราะเด็กสาวคนหนึ่ง ข้าจึงรู้ว่าเจ้าเป็นพวกตัวโตแต่ด้านในอ่อนแอ นี่จึงกลายเป็นหายนะของเจ้า’
จั๋วฝานเยาะเย้ยตัวเอง[ใครจะไปรู้ว่าการต่อสู้ของข้ากับโหยวหมิงกู่ถูกบิดเบือนกลายเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม]
[งั้นก็อีกครั้ง มันเป็นเรื่องจริง แถม การช่วยหญิงสาวเป็นสิ่งแรกที่ข้าทำหลังเกิดใหม่นี่?]
จั๋วฝานส่ายหัว”เห้ย แพะเฒ่า เจ้ามันเจ้าเล่ห์ไม่ต่างอะไรกับโหยวกุ่ยฉีเลยนะ”
“ขอบคุณ”ชายชราเชิดคางอย่างภาคภูมิใจ”โหยวกุ่ยฉีแค่โชคดีเกิดในเจ็ดตระกูลใหญ่ ถ้าข้ามีสิทธิพิเศษแบบนั้น ความสำเร็จของข้าคงเกินกว่าเขา เจ้ารู้ไหมว่าข้าโดนเรียกว่าอะไร แม่น้ำตรวนเหล็ก ฉีเว่ยหลิน ฮ่าๆๆ”
จั๋วฝานแสยะยิ้ม’แม่น้ำตรวนเหล็ก ไม่เลว ไม่เลว คนที่ตกอยู่ในเงื้อมมือเจ้าจะไม่สามารถร้องขอชีวิตหรือตายได้!”
“ถูกต้อง!”
ฉีเว่ยหลินหัวราะ พูดราวกับเป็นเพื่อนสนิท”เจ้าเห็นไหม นี่คือครั้งแรกที่เจ้าได้ยินชื่อข้าและเจ้าก็ชื่นชมฉายาข้าแล้ว ไม่แปลกใจที่เจ้าจะล้มโหยวกุ่ยฉีได้ ข้าเกลียดที่จะต้องตัดหัวสวยๆของเจ้าออก แต่น่าเสียดายที่มันคุ้มมากเกินไป”
“เจ้าคิดเจ้ามีสิ่งที่สามารถตัดหัวข้าได้หรือ?”จั๋วฝานเยาะเย้ย
ซวบ!
ไฟสีฟ้าเผยตัวพร้อมกับควันดำที่ลอยออกจากมัน
พิษกลืนวิญญาณโดนสลายไปต่อหน้าพลังของไฟนี้
จั๋วฝานลุกขึ้นยืนและกวาดมองคนตรงหน้าด้วยจิตสังหาร”ข้าบอกโหยวกุ่ยฉีไว้อย่างหนึ่งตอนข้าฆ่าเขา และตอนนี้ข้าจะพูดมันให้เจ้าฟัง ต่อหน้าพลังแท้จริง แผนร้ายทั้งหมดเป็นได้แค่ขยะ!”