มันเป็นชายในชุดคลุมเขียวที่เดินเข้าโถงมา
ผมของเขาเป็นสีเขียว ดวงตาก็สีเขียว แม้กระทั่งเครายังเป็นสีเขียว สร้างภาพลักษณ์แปลกๆ
เขามีน้ำเต้าสีม่วงห้อยอยู่ที่เอว การมาของเขาทำให้ผู้อาวุโสหลินกับผู้อาวุโสห้าแสดงความเคารพ
“อาจารย์ ท่านก็พูดไป แม้กระทั่งโหยวหมิงกู่กับไขว่ฮัวก็ไม่กล้าส่งเสียงต่อหน้าท่านหรอก ฮ่าๆๆ”
คนหนุ่มในวัยยี่สิบเดินตามหลังผู้อาวุโสมา เขาอยู่ที่ระดับหลอมกระดูกขั้นสูงสุด แต่ น้ำเสียงเขาขาดความเคารพและท่าทีที่คนควรมีพอพูดถึงผู้อาวุโศ
ใบหน้าของทั้งสามดำมืด ความโกรธค่อยๆเพิ่ม แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้
ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกใจ สามยอดฝีมือระดบนภากลับโดนรุ่นเยาว์ถากถาง และพวกเขาก็ยังไม่โต้กลับ
ผู้อาวุโสห้าที่ทุกคนรู้กันดีว่าอารมณ์ร้อนยังเงียบ ฉากนี้ทำให้ศิษย์ของเขาพบว่ามันยากที่จะเชื่อ
“ผู้อาวุโสหยาน ท่านควรดูแลศิษย์ท่านให้ดี เขาดูไม่มีมารยาทเขาเสียเลย นี่คือวิธีที่ผู้เยาว์ควรใช้พูดกับผู้อาวุโสหรือ?”ผู้อาวุโสห้าพูดด้วยความไม่พอใจ
แต่ ผู้อาวุโสในชุดเขียวกลับลูบเคราด้วยรอยยิ้ม”ผู้อาวุโสห้าแห่งโหยวหมิงกู่ ใยต้องไปเถียงกับเด็กด้วยเล่า?มันไม่เหมาะกับฐานะหรอก ฮ่าๆๆ’
“ใช่ เจ้าไม่ทำตัวให้เหมาะสมกับที่ผู้อาวุโสควรมี ทำไมข้าถึงควรปฏิบัติกับเจ้าดีๆ?”
ผู้อาวุโสห้าตัวสั่นและใบหน้าก็แดง เขาคันเท้ายุบยิง แต่ฝืนสะกดความโกรธลงและกำหมัดแน่น
แกร๊ก โต๊ะสลายเป็นไอ
หลินจื่อเทียนมองผู้อาวุโสห้าและถอนหายใจ เขาสงวนท่าทีไว้ตอนมองผู้อาวุโสในชุดเขียวและฝืนหัวเราะ”ฮ่าๆๆ ข้าไม่คิดเลยว่างานเล็กๆน้อยๆนี่จะถึงกับรวมสี่ในเจ็ดตระกูลใหญ่ได้ ด้วยผู้อาวุโสหยานที่เข้าร่วม งานจะต้องราบรื่นแน่!”
“ฮี่ๆๆ หลินจื่อเทียน เจ้าไม่ต้องประจบข้า ข้ารู้ว่าไม่มีใครอยากเจอหน้าข้า แต่ใครบอกเจ้าให้ตั้งชื่องานว่างานไป่ตานกัน?เ้จ้าคิดว่ามันคู่ควรกับคำว่า’ร้อยเม็ดยา(ไป่ตาน)หรือถ้าข้า ราชาเม็ดยาไม่มาเข้าร่วมด้วย?”
ผู้อาวุโสชุดเขียวไม่ไว้หน้าหลินจื่อเทียนเลยและยังถากถางเขาจนถึงจุดที่หลินจื่อเทียนต้องสะบัดหน้าหนี
เจ้าหมู่ตึกมู่ตานดูมีชีวิตชีวา แต่นางก็ไม่ปกปิดความโกรธและเกลียดชัง
“ผู้อาวุโสหยานซง”เจ้าหมู่ตึกมู่ตานพูด”หมู่ตึกฮัวอวี่เราไม่ได้เชิญโถงราชาเม็ดยา แล้วไฉนท่านถึงให้เกียรติเราโดยการมาทั้งที่ไม่ได้รับเชิญ?”
“ฮ่าๆๆ มู่ตาน เจ้ายังดุร้ายเหมือนเคย!”
ดวงตาของเขาเปล่งแสงสีขียว หยานซงแค่นเสียง”ในจักรวรรดิเทียนอวี่ ไม่มีที่ใดที่ข้าไปไม่ได้!ตอนนี้ข้ามาอยู่ในเมืองฮัวอวี่ เจ้าจะเตะข้าออกไปหรือไง?”
“เจ้า..”
นางกำลังจะโจมตี แต่หลินจื่อเทียนหยุดนางไว้”เจ้าหมู่ตึกมู่ตาน อย่าวู่วาม”
หยานซงมองอย่างระมัดระวัง ขณะที่หลินจื่อเทียนถอนหายใจ”ก่อนเจ้าหมู่ตึกใหญ่จะมา โปรดอย่าทำให้เรื่องมันใหญ่โต!”
มู่ตานแค่นเสียง นางหมุนตัว คลายความกังวลองหลินจื่อเทียน
“ฮ่าๆๆ เจ้าหมู่ตึกมู่ตานช่างเหมือนหญิงสาวผู้อาฆาตแค้น ข้าละสงสัยจริงว่าทำไมเจ้าถึงยังเป็นเจ้าหมู่ตึกได้?อาจารย์ ท่านพูดถูก พวกมันทำอะไรไม่เคยสำเร็จ หมู่ตึกฮัวอวี่ถือว่ากระจอกสุดในหมู่เจ็ดตระกูลใหญ่แล้ว”
ดวงตาของทั้งสามเปลี่ยนเป็นแหลมคม[ราชาเม็ดยาอสูรหยิ่งเกินไป ศิษย์ของเขายังกัดทุกคนที่เขาเห็น]
บทสนทนาแสน’เป็นมิตร’ของพวกเขาโดนขัดด้วยเสียงที่มาจากนอกประตู
“น้องชาย หมู่ตึกฮัวอวี่เราอาจมีแค่ผู้หญิงแต่มันก็ยืนหยัดในจักรวรรดิเทียนอวี่มาได้นาน มันมีหลักการของมัน ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะวิจารณ์ได้”
สาวงามในชุดฟ้าลอยเข้ามา มันคือเจ้าหมู่ตึกชิงหัว ฉินไช่ชิง!
“ท่านพี่ ท่านกลับมาแล้ว!”เจ้าหมู่ตึกมู่ตานกรีดร้อง ฟื้นความมั่นใจของนางกลับ”ท่านไปไหนมา?เรามีแขกปากสุนัขที่ไม่ได้รับเชิญและข้าก็ไร้อำนาจจะหยุดพวกเขา”
ดวงตาของเจ้าหมู่ตึกมู่ตานตวัดมองหยานซงแต่ฉินไช่ชิงกลับยิ้ม”เจ้าควรดูแลศิษย์แสนล้ำค่าของเจ้าให้ดีไม่ใช่หรือ?ข้าเคยบอกเจ้าให้เลี้ยงศิษย์ให้ดี ไม่ใช่ให้ทำลายชื่อเสียงของเรา”
“นางไปตอแยใคร?”
ฉินไช่ชิงส่ายหัว และปรบมือ
ผู้หญิงสองคนพาตัวเสี่ยวตานตานที่ยังโดนริบบิ้นสีฟ้ารัดตัวเดินเข้ามา ด้วยสัดส่วนที่แสดงออกมาเต็มที่ นางจึงได้รับสายตาร้อนแรงของศิษย์ผู้อาวุโสหยาน
จากนั้นศิษย์อีกสองคนก็พาตัวหลินเทียนอวี่ที่หมดสติเข้ามา
“เทียนอวี่!”
หลินจื่อเทียนกระโดดไปข้างเขา จากนั้นก็แผ่จิตสังหารออกมา”ใครทำร้ายเขา?”
ผู้เยาว์ตัดบทนางก่อนนางจะได้ตอบ”อาจารย์ บาดแผลของเด็กนั่นร้ายแรงไหม?”
“ฮี่ๆๆ ไม่ใหญ่โตอะไร แค่ถ้าไม่ตายก็พิการ ผู้ลงมือนั้นไม่ออมมือเลยจริงๆ”หยานซงยินดีในความโชคร้ายของคนอื่น
ผู้เยาว์หัวเราะลั่น”ศิษย์ของไขว่ฮัวช่างไร้ความสามารถ อาจารย์ของมันก็คงไม่ต่างกัน”
หลินจื่อเทียนกัดฟัน จ้องอีกฝ่ายตาเขม็ง
ฉินไช่ชิงยิ้ม”น้องชายพูดผิดแล้ว คนที่เขาพบคือชายหนุ่ม ผู้มีพลังเหนือกว่าศิษย์อัจฉริยะของเจ็ดตระกูลใหญ่ทั้งหมด น้องชายคือศิษย์ของผู้อาวุโสหยาน แต่ข้าเกรงว่าเจ้าจะพบชะตากรรมเดียวกัน”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ไม่พอใจ และฉินไช่ชิงก็ลอบยิ้ม
“ท่านพี่ ทำไมท่านไม่พาตัวเขามา?หรือเขาแข็งแกร่งกว่าท่าน?”มู่ตานยิ้มเยาะ
ฉินไช่ชิงส่ายหัว”บางทีอาจไม่ แต่เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นคนแบบไหน ถ้ามีคนมายุ่งกับศิษย์ข้า ข้าจะแทรกแซง แต่…”
ฉินไช่ชิงถอนหายใจขณะมองเสี่ยวตานตาน”ตานตาน เจ้าอธิบาย และพูดตามจริง ข้ารู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว”
“ค่ะ ท่านป้า!”
เสี่ยวตานตานพยักหน้า จากนั้นก็บอกเล่าเหตุการณ์
คนที่นี่ถอนหายใจ ไม่ใช่เพราะเห็นใจตระกูลตง เนื่องจากไม่มีเจ็ดตระกูลใหญ่ใดที่ให้ค่าคนเหล่านี้ พวกเขาเป็นได้แค่ทาสในสายตาพวกเขา
และศิษย์พวกเขาก็มีความคิดเดียวกัน บางคนอาจโหดร้ายกว่าเสี่ยวตานตานด้วยซ้ำ มันต้องขอบคุณที่ว่าข้อบังคับของหมู่ตึกฮัวอวี่ได้จำกัดศิษย์ของตนไว้
สิ่งที่อยู่ในหัวทุกคนคือฝีมือของจั๋วฝาน
ไม่เพียงเขาจะล้างความอัปยศให้ตระกูลตง แต่เขายังทำให้เสี่ยวตานตานกับคู่หมั้นนางกลายเป็นฝ่ายที่อับอายแทน
ผู้อาวุโสห้าอดนำเขาไปเทียบกับคนคนหนึ่งไม่ได้
ไม่ใช่ว่าการกระทำของเขาคล้ายกับจั๋วฝานที่ฆ่าผู้อาวุโสเจ็ดไปงั้นหรือ?
เขาลูบเคราขณะพูด”ฮ่าๆๆ เกิดอะไรขึ้นกับจักรวรรดิเทียนอวี่กันแน่?ด้วยจั๋วฝานเป็นต้นตอ หลายคนจึงเริ่มไม่ไว้หน้าเจ็ดตระกูลใหญ่ โจมตีศิษย์เราซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้าเราไม่เชือดไก่ให้ลิงดู มันคงไม่มีใครยำเกรงเราอีกในอนาคต”
“ฮี่ๆๆ มันก็เพราะความไร้น้ำยาของโหยวหมิงกู่ไม่ใช่หรือไร?เจ้ายังไม่เจอตัวเจ้าหนูนั่นด้วยซ้ำ เจ้ากำลังทำให้เราอีกหกตระกูลใหญ่ดูแย่ไปด้วย!”หยานซงเยาะเย้ย
ผู้อาวุโสห้าไม่โกรธแต่หันไปมองชายหนุ่มด้านหลังเขาด้วยรอยยิ้ม”ใช่ มันเป็นความผิดของเรา แต่การให้ผู้อาวุโสก้าวมายุ่งความขัดแย้งของศิษย์นั้นไม่น่าละอายกว่าหรือ?หลินจื่อเทียน มันน่าเสียดายนะที่เจ้าไม่พาศิษย์คนอื่นมาล้างแค้นให้เทียนอวี่และรักษาชื่อเสียงของแม่นางตานตาน”
ชายหนุ่มกระโดดไปตรงหน้าเสี่ยวตานตานก่อนหลินจื่อเทียนจะได้ตอบและคว้าแขนนาง”มากับข้า ข้าจะล้างแค้นให้เจ้าเอง!”
และด้วยการประกาศสั้นๆนั้น ทั้งสองก็หายตัวไป ทำให้ผู้อาวุโสห้าฉีกยิ้มกว้าง
“อวดดี!เด็กนั่นไม่มีมารยาทเลย เขาถึงกับเมินข้าและพาศิษย์ข้าไป!”ริมฝีปากของเจ้าหมู่ตึกมู่ตานสั่นด้วยความโกรธ
หยานซงโบกมือขณะเดินออกไป”ฮ๋าๆๆ ในโลกนี้ ชะตากรรมของผู้หญิงล้วนอยู่ใต้ผู้ชาย หมู่ตึกฮัวอวี่คงอยู่มาไม่ได้นานขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะมัน!”
ตอนหยานซงไป ดวงตาของผู้อาวุโสห้าก็หรี่ลงขณะที่คิดจะออกไปเหมือนกัน”ตาแก่โง่นั่นต้องสัมผัสได้เหมือนกัน..”
เจ้าหมู่ตึกมู่ตานสับสน”ทำไมทุกคนถึงไปกันหมด?”
หลินจื่อเทียนขมวดคิ้ว สบตากับฉินไช่ชิง”เจ้าหมู่ตึกชิงหัว ท่านแน่ใจหรือว่าตัวปัญหานั่นไม่ใช่ปีศาจจั๋วฝานคนนั้น?”
“อะไรนะ?เขาคือจั๋วฝาน?”มู่ตานเบิกตากว้าง
ดวงตาของฉินไช่ชิงทอประกาย”ข้าไม่แน่ใจ เด็กนั่นโดดเด่น แต่ไม่พอจะฆ่ายอดฝีมือระดับนภา!”
“บางทีเขาคงกำลังปลอมตัว…”จากนั้นหลินจื่อเทียนก็หัวเราะ”ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมแม้กระทั่งราชาเม็ดยาอสูรก็ยังอยากไปดูการต่อสู้ ถ้าเขาเป็นจั๋วฝานจริง ศิษย์ของเขาคงตายแน่!ตอนนั้น…”
“หยานซงจะเคลื่อนไหว แต่ทว่า…”ริมฝีปากของเขายกโค้งขึ้น
ฉินไช่ชิงจึงพูดต่อให้จบ”มันยังไม่ชัดเจนว่าจั๋วฝานจะสามารถฆ่าชายที่ชั่วร้ายกว่าโหยวกุ่ยฉีได้หรือไม่ เหนือสิ่งอื่นใด ฉายาราชาเม็ดยาอสูรของเขาก็ไม่ได้มาเล่นๆ!”
หลินจื่อเทียนพยักหน้า”ข้าได้แต่หวังว่าเขาจะเป็นจั๋วฝาน”