สามวันให้หลัง พี่น้องตระกูลตงก็มาถึงสลัมแห่งนี้
“ซ่งอวี่ อยู่หรือเปล่า?”
ตงเทียนปาพาพาน้องสาวเขาเข้าบ้านโทรม และมองหาทีละหลัง สุดท้ายก็เจอจั๋วฝานในบ้านโทรมที่มีรูใหญ่บนหลังคา
ตอนนี้ จั๋วฝานกำลังนั่งสมาธิบนเตียงดิน ดวงตาของเขาหลับลงและกำลังบ่มเพาะ!
“น้องชาย ข้าเจอเจ้าแล้ว ดีจริงที่เจ้าไม่เป็นไร!”ตงเทียนปาดีใจและวิ่งไปข้างหน้า แต่ทว่า ตอนเขาเหยียบพื้นเสียงดัง เขาก็โดนดีดกลับด้วยกำแพงโปร่งใสบางอย่างและล้มลงกระแทกพื้น
จั๋วฝานค่อย ๆ ลืมตา ถอนหายใจและยืนขึ้น
หลังบ่มเพาะสามวันสามคืนเต็ม เขาก็ก้าวสู่อาณาจักรหลอมกระดูกขั้นสองได้สำเร็จ!และนี่ก็ต้องขอบคุณพิษทั้งสามชนิดของหยานฟู่
ทุกอย่างที่เป็นพิษเองก็เป็นยาบำรุง หลังจั๋วฝานกลั่นพิษสามชนิด และดูดซับพลังปราณหยินของฉู่ฉู่ เขาก็ทะลวงผ่านได้อีกครั้งในเวลาไม่ถึงสองเดือน
จากขั้นแรกของอาณาจักรหลอมกระดูกเป็นขั้นสอง ครั้งนี้ พลังของเขายิ่งมากกว่าเดิม ไม่ต้องพูดถึงยอดฝีมือระดับนภาท่วไป แม้กระทั่งยอดฝีมือระดับนภาที่บ่มเพาะกายาเป็นหลักก็ยังด้อยกว่าเขา!
ด้วยการโบกมือ เขาถอนค่ายกลป้องกันบนพื้น จั๋วฝานค่อย ๆ เดินออกบ้านและมองตงเทียนปาที่ตงเสี่ยววานกำลังพยุงขึ้นแล้วยิ้ม”พี่ชายตง ท่านเป็นถึงว่าที่ผู้นำตระกูลระดับสอง แต่กลับวิ่งมาบ้านซอมซ่อของตระกูลระดับสามอย่างข้า มาสิ มันทำให้ที่พักข้าเปล่งแสงเลย!”
“ไป ไป อย่ามาลูกไม้นี่!”
ตงเทียนปาปัดฝุ่นบนตัวแล้วพูดอย่างสงสัย”มีอะไรแปลก ๆ ในบ้านเจ้า ทำไมข้าถึงเหมือนโดนใครบางคนตีกระเด็นออกมา?”
“ฮ่าๆๆ…ใครบอกให้ท่านวิ่งเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตเล่า?”จั๋วฝานส่ายหัว”ข้าบ่มเพาะอยู่สามวัน และก็กลัวว่าจะมีคนมารบกวน ข้าจึงตั้งค่ายกลป้องกันรอบบ้าน”
“เจ้ารู้วิธีสร้างค่ายกลได้ไงกัน?”
ตอนตงเทียนปาได้ยิน เขาก็ผงะ ดวงตาแปลกใจสองคู่จับจ้องทั้งตัวจั๋วฝาน”น้องชาย แค่ข้าไม่ได้กินดื่มและเล่นสนุกกับเจ้าเป็นเวลานาน เจ้ากลับยืนอยู่คนละชั้นกับข้าแล้ว ไม่เพียงพลังของเจ้าจะแกร่งกล้าขึ้นมาก แต่เจ้ายังมีวิชาหลอมโอสถ และรู้วิธีสร้างค่ายกล?”
ตงเสี่ยววานเองก็จับจ้องจั๋วฝานด้วยสายตาชื่นชม
เขาอดส่งเสียงหัวเราะไม่ได้และรีบอธิบาย”ฮี่ๆๆ..ออย่าพูดเล่นงั้นสิพี่ชายตง ข้าเองก็เคยขี้เล่น แต่ต่อมาโดนคุณหนูตงผลักดันจนต้องเปลี่ยนตัวเอง”
“พี่ชายซ่งกำลังตำหนิข้าที่พูดแบบนั้นหรือ?”ตงเสี่ยววานมองเขาโกรธ ๆ แต่ไม่ว่าใครจะมองยังไง มันก็ไม่มีความเกลียดในดวงตาของนางเลย มันกลับเต็มไปด้วยความรัก
ตงเทียนปาเลียริมฝีปาก”โอ้ พอได้เห็นความสำเร็จของน้องชายในวันนี้แล้ว ข้าละละอายใจเหลือเกิน!ในอนาคตข้าเองก็คงต้องฝึกหนักเช่นกัน!”
ฮ่าๆๆๆ เรื่องบ่มเพาะ หนึ่งมองที่พรสวรรค์ สองมองที่โอกาส และสาม พึ่งพาการฝึกหนัก!ถ้าเจ้าพึ่งพาแค่การฝึกหนักเพื่อเป็นผู้แข็งแกร่ง ก็จะมีผู้แข็งแกร่งไปทั่วแล้วในวันนั้น
จั๋วฝานยิ้มอย่างหน่ายใจ พอเห็นทัศนคติของตงเทียนปา เขาคงไปไม่ได้ไกลนัก ถ้าไม่มีการผจญภัย ไม่ว่าจะฝึกหนักแค่ไหน แต่มันจะทะลวงผ่านได้ไง?
แต่ทว่า จั๋วฝานไม่คิดพูด
“เห้ย น้องชายซ่ง แล้วแม่นางฉู่ละ?”ตอนนี้เอง ตงเทียนปามองไปรอบๆแล้วถามอย่างสับสน”นางบอกว่านางอยากช่วยเจ้า แต่นางก็ช่วยเจ้าไว้จริง ๆ นางเป็นคนแปลกยิ่งนัก ทำไมตอนนี้ข้าถึงไม่เห็นนางแล้วละ?”
“โอ้ เรื่องมันยาว!’
พอได้ยิน จั๋วฝานก็ถอนหายใจ ราวกับกำลังคิดถึงยาหยกโพธิ์อีกครั้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ”ข้าเคยมีโอกาสครั้งใหญ่ต่อหน้า แต่ไม่คว้ามัน จนกระทั่งมันเสียไป ข้าถึงเสียใจ ถ้าพระเจ้าให้โอกาสข้าทำมันอีกสักครั้ง ข้าจะต้อง..ทำมันแน่!’
พอพูด ดวงตาของจั๋วฝานก็ฉายแววมุ่งมั่น แต่ตงเทียนปาดูเหมือนจะเข้าใจผิดและพึมพำ”นาง…ไปแล้ว?”
จั๋วฝานพยักหน้า
“โอ้ น้องชายช่างอาภัพเสียจริง!”ตงเทียนปาตบไหล่ปลอบจั๋วฝาน”แต่มันไม่สำคัญ คนรักจะได้อยู่ร่วมกันอีกแน่ โอกาสหน้า เจ้าอย่าปล่อยนางไปปอีกละ”
จั๋วฝานผงะ รุ้ว่าอีกฝ่ายเข้าใจผิด แต่ก่อนจะได้มีเวลาอธิบาย ตงเสี่ยววานก็กระแอมและจ้องพี่ชายนางดุ ๆ
ครั้งนี้ ตงเทียนปาดูเหมือนจะเพิ่งรู้ตัว เขารีบเปลี่ยนคำพูด”อ่อ น้องชาย จริง ๆ แล้ว แม่นางฉู่ก็ไปแล้ว มันต้องมีคนรักใหม่ เจ้าอย่ารอนางเลย!หญ้าในโลกมีตั้งเยอะ ทำไมน้องชายถึงชมชอบดอกไม้เดียวละ?บางทีอาจมีดอกที่งามกว่าตรงหน้าเจ้าไม่ใช่หรือ?”
ทันทีที่สิ้นเสียง ตงเสี่ยววานก็ลดหัวนางอย่างอาย ๆ
โดยไม่สามารถกะพริบตาได้ จั๋วฝานได้แต่ร้องไห้และหัวเราะในใจขณะมองสองพี่น้อง
ข้าแค่เสียใจว่าทำไมถึงไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาดแล้วยอมปล่อยให้ยาหยกโพธิ์เล็ดลอดไปได้
แต่ทว่า จั๋วฝานไม่สามารถอธิบายมันได้”พี่ชายตง ท่านมาหาข้าวันนี้เพื่อดูว่าข้าตายแล้วหรือยังหรือมีเรื่องอะไร?ถ้าท่านมาดูว่าข้าเป็นหรือตาย งั้นท่านก็ไปได้แล้ว”
พอได้ยิน ตงเทียนปาก็ดูเหมือนจะจำอะไรได้ เขาตบหน้าผากตัวเอง”โอ้ น้องชาย เจ้าพูดถึงพอดี ข้าเกือบลืม ข้ามาหาเจ้าครั้งนี้ อย่างแรกก็เพื่อดูบาดแผลเจ้า สอง ถ้าเจ้าหายดี เพื่อความปลอดภัยของตระกูลตงกับซ่งเรา น้องชายเจ้าอาจต้องตามข้า”
พอพูดแบบนั้น ตงเทียนปาก็อดดึงจั๋วฝานออกมาไม่ได้
จั๋วฝานพูดไม่ออก แต่พอเห็นใบหน้าจริงจัง เขาจึงยอมตาม ยังไงซะ เบาะแสของยาหยกก็หายไปแล้ว
นับจากนั้น ภายใต้การนำของตงเทียนปา ทั้งสามใช้เวลากว่าสามชั่วโมงและในที่สุดก็มาถึงประตูสูง พอมองบันไดใหญ่โต จั๋วฝานก็หัวเราะ แต่มีรอยยิ้มชั่วร้ายบนหน้า เขามองตงเทียนปา”ฮี่ๆๆ..พี่ชายตงเพิ่งบอกว่าอยากฝึก ทำไมตอนนี้ถึงพาน้องชายมาสถานที่นี้เล่า?”
“ข้าพาเจ้าไปไหน?”ตงเทียนปาดูสับสน
จั๋วฝานชี้บันไดและพูดเสียงดัง”พี่ชายตง ท่านยังแกล้งสับสนอีก?คิดว่าข้าอ่านไม่ออก ดูนั่นสิ ชิง…โหรว..”
หะ!
แต่ทว่า จั๋วฝานไม่ทันพูดจบ ตงเทียนปาก็ปิดปากเขาและดุ”หุบปาก นี่คือเมืองฮัวอวี่ ที่ที่กลุ่มผู้หญิงเป็นใหญ่ มันจะไปมีที่แบบนั้นได้ไง?”
“เอ่อ งั้นนี่….”จั๋วฝานกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา
พอมองตามทางเขาและแหงนขึ้น ตงเทียนปาก็อยากร้องและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ”น้องชาย โปรดดูให้ชัด นั่นไม่ใช่ชิง..นั่นคือหมู่ตึกชิงฮัว!”
ครั้งนี้ จั๋วฝานเพ่งตามอง เห็นผ้าไหมสีแดงเดิมบนแผ่นโลหะที่โดนลมพัดปลิวไปตรงกลาง บังคำว่า’ฮัว’ไว้
ที่นี่คือหมู่ตึกชิงฮัว หมู่ตึกแรกของ15หมู่ตึกฮัวอวี่ และเจ้าหมู่ตึกชิงฮอัว เขาก็เคยเจอมาแล้ว มันคือฉินไช่ชิง!”
“ฮ่าๆๆ..หมู่ตึกชิงฮัวนี่เอง ข้าคิดว่าจะเป็นสถานที่ไร้การศึกษาซะอีก”
“เจ้ายังจะพูดอีก!”ตงเทียนปามองเขาดุๆ หันไปมองรอบๆ และเห็นว่าไม่มีใครได้ยินถึงถอนหายใจ แต่ทั้งตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ
การกล้าพูดเรื่องแบบนั้นต่อหน้าหมู่ตึกฮัวอวี่เท่ากับรนหาที่ตาย!
ตงเสี่ยววานหน้ามุ่ย มองทั้งสองและพูดเสียงเย็น”หึ ผู้ชายมันไม่มีดีเลยจริงๆ ข้าบอกเจ้า ไม่มีใครจะได้ไปสถานที่แบบนั้นอีก”
จั๋วฝานหัวเราะ เจ้าต้องดูแลพี่ชายเจ้าให้ดี ข้าไม่ได้เป็นญาติกับเจ้าซะหน่อย ข้าจะไปไหนก็ได้ตามใจชอบ
“พี่ชายตง ทำไมท่านถึงพาข้ามาที่นี่ละ?”จั๋วฝานเมินตงเสี่ยววานแล้วถามตงเทียนปา
ตงเทียนปาขมวดคิ้ว แสดงความจริงจัง”น้องชาย ข้าคิดถึงทุกอย่างที่ผ่านมา เหตุผลว่าทำไมเราถึงโดนคนทำร้ายก็เพราะเราไปตอแยเสี่ยวตานตาน”
“ท่ามกลางเจ้าหมู่ตึกทั้ง 15 เจ้าหมู่ตึกชิงฮัวเข้าหาได้ง่ายสุด ข้าวางแผนมาหานางเพื่อยุติความแค้นนี้ ไม่งั้น เราสองตระกูลคงต้องหนีไปบวช!”
พอได้ยิน จั๋วฝานก็หัวเราะอย่างดูถูกและลอบส่ายหัว
ถ้าเจ้าหมู่ตึงชิงฮัวอยากช่วยพวกเขา นางคงไม่ปล่อยเสี่ยวตานตานมา และจุดประสงค์ที่นางทำเช่นนี้ จั๋วฝานก็พอเดาจุดประสงค์ได้
แต่ไม่เป็นไร จั๋วฝานเองก็อยากเจอเจ้าชิงฮัวผู้นี้เพื่อดูว่าอีกฝ่ายสงสัยเขามากแค่ไหน แม้จะหลังสู้กับหยานฟู่ ความสงสัยก็คงไม่หาย!
พอคิดได้ จั๋วฝานยิ้มและพยักหน้า”พี่ชายตงยังรอบคอบ เจ้าหมู่ตึกชิงฮัวผู้นี้ควรค่าให้เราสองตระกูลมาเยือน”
“อืม ในเมื่อน้องชายตกลงกับความคิดของข้า งั้นข้าก็จะไปส่งหมายขอเข้าพบ”!
ตงเทียนปาหัวเราะ หยิบเอาเทียบเชิญออกมา และเดินไปหมู่ตึกชิงฮัว ที่ประตูหมู่ตึก มีสาวน้อยสองคนระดับหลอมรวมปราณกำลังเฝ้า
ทันทีที่ตงเทียนปาไปถึง เขาก็ก้มหัว 90 องศา และแสดงเทียบเชิญ”โปรดบอกว่าข้าตงเทียนปา ตงเสียววานกับซ่งอวี่มีเรื่องสำคัญอยากขอพบเจ้าหมู่ตึกชิงฮัว!”
“ฮึ ตระกูลระดับสองกับสามอยากเจอเจ้าหมู่ตึกเรา มันจะง่ายแบบนั้นได้ไง?”แม่นางที่ประตูยิ้มดูถูก
ใบหน้าของตงเทียนปาแดงก่ำ แต่ก็ได้แต่ก้มหัวและไม่กล้าลุก
ตงเสี่ยววานกัดปากและถอนหายใจ
แม้นางจะรู้สึกไม่ดีแทนพี่ใหญ่ แต่นางก็ทำอะไรไม่ได้ ตระกูลธรรมดาต้องทนความอัปยศนี้ถ้าอยากเจอผู้อาวุโสของเจ็ดตระกูลใหญ่
แต่ทว่า จั๋วฝานไม่มีความอดทนแบบนั้น เขาเดินไปขณะตงเสี่ยววานไม่สนใจ ตงเสี่ยววานไม่มีเวลาหยุดเขา
“แม่นางทั้งสอง เจ้ารู้จักเสี่ยวตานตานไหม?”
ทั้งสองมองหน้ากัน”นางคือศิษย์พี่เรา เจ้ารู้จักนางหรือ?แต่ต่อให้เจ้ารู้จักนาง นางก็เป็นคนของหมู่ตึกมู่ตาน และนี่คือหมู่ตึกชิงฮัว”
“ฮี่ๆๆ.ข้าไม่ได้มาเพื่อเดินผ่านประตูหลัง แต่เจ้าเคยได้ยินไหมว่านางโดนผู้ชายเปลื้องผ้าบนถนน”
ทั้งสองพยักหน้าเล็กน้อย
“ฮี่ๆๆ..ผู้ชายคนนั้นก็คือข้าไงละ!”
จั๋วฝานยิ้มเย็น”จะเชื่อหรือไม่ ถ้าพวกเจ้าสองไม่ไปรายงาน ข้าจะเปลื้องผ้าพวกเจ้าในหนึ่งนาทีและโยนพวกเจ้าไปกลางถนน!”
ทั้งสองตกใจและอดก้าวถอยหลังไม่ได้”เจ้ากล้า?นี่คือหมู่ตึกชิงฮัว”
“แล้วแตกต่างกันไง?”จั๋วฝานจ้องทั้งสอง และขยิบตา
ทันใดนั้น จิตสังหารก็ระเบิดออกมา
ทั้งสองรู้สึกหนาวสั่น ด้วยเหตุผลบางอย่าง ความรู้สึกกลัวผุดจากก้นบึ้งของหัวใจ
“เจ้า…รอก่อนเถอะ ข้าจะไปแจ้งท่านเจ้าหมู่ตึก!”สุดท้ายพวกนางก็ทนสายตาของจั๋วฝานไม่ได้แล้ววิ่งหนีไป ทิ้งสาวน้อยอีกคนให้จ้องจั๋วฝานอย่างอาย ๆ ด้วยขาที่สั่นสะท้าน
ตงเทียนปากุมหน้าผากและถอนหายใจ
พอเห็นซ่งอวี่แบบนี้ ตงเทียนปาก็รู้สึกว่านี่ไม่ใช่น้องชายคนเดิมของเขา ไม่เพียงพลังจะเพิ่มขึ้นนิสัยยังเปลี่ยนไป แม้กระทั่งเมินเฉยเจ็ดตระกูลใหญ่
เรามาที่นี่เพื่อขอความเห็นใจ แต่ถ้าเจ้าทำแบบนี้ เจ้าจะโดนฆ่าเอานะ
แต่ทว่า จั๋วฝานไม่สนใจ เขามองตงเทียนปา”พี่ชายตง การข่มขู่คนที่ดูถูกเรานั้นสุดยอดจริงๆ!ฮี่ๆๆ…”
“น้องชายซ่ง เจ้า…”ตงเทียนปารู้สึกว่าพูดไม่ออกไปสักพัก เขาส่ายหัว
ตอนนี้เขาได้แค่หวังว่าเจ้าหมู่ตึกชิงฮัวจะมีความเป็นผู้ใหญ่พอ