“ใคร?”ฉินไช่ชิงกับฉู่ชิงเฉิงตะโกน
“ฮ่าๆๆๆ ฉู่เอ๋อร์ ชิงเอ๋อร์ ลืมตาแก่คนนี้ไปแล้วหรือไง?”
มันคือชายชราชุดเหลืองที่ตาบอดข้างหนึ่ง มีอีกาเกาะไหล่เขาแต่ตาของเขายังมีสายฟ้าสีม่วงส่องสว่าง
เขาคือตาเทพหลงจิ่วแห่งศาลาเฉียนหลง และสัตว์อสูรคู่กายเขา อีกากลืนวิญญาณ คนสองคนด้านหลังเขาคือผู้บ่มเพาะหลอมกระดูก หลงขุ่ยกับหลงเจี่ย
จั๋วฝานตกใจ ไม่คิดว่าจะได้พบกับคนคุ้นหน้า
“ลุงจิ่ว?”ฉู่ชิงเฉิงกับฉินไช่ชิงร้องด้วยความยินดี ขณะที่ราชาเม็ดยาอสูรขมวดคิ้ว”ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะได้ตาของเจ้ากลับคืนมา ตาเทพหลงจิ่ว”
หลงจิ่วหัวเราะ”ฮ่าๆๆ มันต้องขอบคุณน้องชายข้า ข้าได้ฉายาของข้าคืน และไม่ต้องกลัวคนอย่างเจ้า ราชาเม็ดยาอสูร”
ใบหน้าของราชาเม็ดยาอสูรกระตุก แต่หัวใจกลับก่นด่าสวรรค์
พลังรักษาของตาเทพหลงจิ่วที่มาพร้อมกับเนตรทองสายฟ้าม่วงคล้ายกับดาวข่มเขา ฝ่ามือเมฆสายรุ้งมักไม่ได้ผลกับหลงจิ่ว
ราชาเม็ดยาอสูรหรี่ตา หัวใจของเขาตื่นตระหนกขณะที่ลอบจับน้ำเต้า”หลงจิ่ว เจ้ากำลังจะรวมหัวกันจัดการข้าหรือ?”
แม่นางทั้งสองรีบหันมามองหลงจิ่ว
หลงจิ่วเหลือบมองน้ำเต้าของราชาเม็ดยาอสูรจากนั้นก็ส่ายหัว”หยานซ่ง อย่าเข้าใจผิด ข้ามาที่นี่เพื่อไกล่เกลี่ย เราล้วนเป็นแขกในหมู่ตึกฮัวอวี่และควรทำตัวให้เหมาะกับการเป็นแขก”
“ฮ่าๆๆ ข้าชื่นชมความมีเหตุผลของผู้อาวุโสจิ่ว งั้นวันนี้ข้าจะลืมการกระทำที่ไร้เหตุผลของพวกนาง แต่พวกนางอาจไม่ลืมเหมือนข้า”
ราชาเม็ดยาอสูรสบายใจพอรู้ว่าหลงจิ่วไม่คิดสู้ ตอนนี้เขาจึงหันไปฉีกยิ้มให้สองสาว
ฉู่ชิงเฉิงกัดฟันและมองหลงจิ่วด้วยความหวัง แต่หลงจิ่วกลับส่ายหัว นางจึงทำได้แค่ยอมแพ้”ฮึ่ม หยานซ่ง วันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่เจ้าอย่าได้บังอาจมาสร้างปัญหาในเมืองฮัวอวี่อีก”
“ฮี่ๆๆ นั่นขึ้นอยู่กับวิธีที่ท่านเจ้าหมู่ตึกฉู่จะรับแขก”ราชาเม็ดยาอสูรหัวเราะและบินไป
พวกเขาถอนหายใจโล่งอกหลังเห็นอีกฝ่ายไป แม้กระทั่งสาวงามทั้งสอง ปากพวกนางบอกจะฆ่า แต่การสู้กับคนอย่างหยานซ่งนั้นไม่ง่ายเลย
“ลุงจิ่ว ทำไมท่านถึงหยุดเรา?ท่านลืมแก้แค้นให้ท่านย่าแล้วหรือไง?”ฉินไช่ชิงบ่น แต่ฉู่ชิงเฉิงกลับคว้าไหล่นาง”ศิษย์พี่ ท่านเข้าใจลุงจิ่วผิด เขาช่วยเราต่างหาก”
หลงจิ่วถอนหายใจ”ข้าคือคนเดียวที่รู้จักราชาเม็ดยาอสูรหยานซ่งดีที่สุด เขาชั่วยิ่งกว่าโหยวกุ่ยฉี การสู้กับเขามีแต่จะทำให้พวกเจ้าตาย”
“แต่ข้าทำร้ายเขาได้แล้วไม่ใช่หรือ?”ฉินไช่ชิงเถียง
หลงจิ่วพูด”ชิงเอ๋อร์ เจ้าไม่ได้สังเกตน้ำเต้าของเขาหรือ?”
ฉินไช่ชิงส่ายหัว
“เราเจอกันมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ข้าไม่เคยเห็นเขาพกน้ำเต้ามาก่อน เขาต้องพกมันมาด้วยแรงจูงใจซ่อนเร้นบางอย่าง ราชาเม็ดยาอสูรเป็นคนบ้าและอวดดี แต่หัวใจของเขาชั่วร้ายจนแม้แต่โหยวกุ่ยฉียังไม่กล้ายุ่ง!”
“แต่ลุงจิ่ว เราไม่มีทางจัดการกับสุนัขเฒ่านั่นได้เลยหรือ?”ฉินไช่ชิงไม่เต็มใจยอมแพ้
หลงจิ่วลูบเครา”พูดยาก..เว้นแต่ว่า…น้องชายของข้าจะมาที่นี่ เขาต้องมีหนทางแน่”
“น้องชายของท่าน”ฉู่ชิงเฉิงกับฉินไช่ชิงถาม
จั๋วฝานเลิกคิ้ว[เขาคงไม่ได้หมายถึงข้าหรอกใช่ไหม?]
อารมณ์ของหลงขุ่ยขุ่นมัวหลังได้ยินคำพูดของหลงจิ่ว”ลุงจิ่ว จะพูดถึงเด็กบัดซบนั่นขึ้นมาทำไม?เขาเคยฆ่าแค่โหยวกุ่ยฉี แต่ท่านกลับเอาเรื่องเขามาคุยโวไม่หยุด!หลายคนจากศาลาเฉียนหลงเริ่มคิดว่าท่านไม่ใช่แค่พี่น้องกันแล้ว!’
“ฮี่ๆๆ เสี่ยวขุ่ย เจ้าอิจฉาหรือ?ใครในรุ่นเจ้าที่สามารถฆ่าสารเลวโหยวกุ่ยฉีได้บ้าง?แม้กระทั่งการยึดถือเขาเป็นบรรพบุรุษของข้าก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง ยิ่งไปกว่านั้น เราเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันแล้ว”
“ลุงจิ่ว ท่านกำลังพูดถึงข่าวลือนั่น……สัตว์ประหลาดจั๋วฝานหรือ?”ฉู่ชิงเฉิงเลิกคิ้ว
หลงจิ่วพยักหน้า”ฉู่ฉู่ เจ้าคืออัจฉริยะที่โดดเด่นในรอบล้านปี แต่น้องชายของข้าไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเจ้า!”
“ฮึ่ม อัจฉริยะอะไร เขารู้จักแต่ใช้กำลัง ฆ่าทุกที่ที่ไป!”หลงขุ่ยพูด
หลงเจี่ยส่ายหัว”เสี่ยวขุ่ย ผิดแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะต้องการหรือไม่ เจ้าก็ต้องยอมรับว่าจั๋วฝานเหนือกว่าเราในทุกด้าน เขาอาจบ้าดีเดือด แต่พรสวรรค์ของเขาเทียบได้กับหกมังกรแห่งเจ็ดตระกูลใหญ่ และพอพูดถึงการฆ่า ไม่มีใครในรุ่นเราที่เทียบได้”
“อ่อ เสี่ยวเจี่ยพูดถูก”หลงจิ่วชม แต่หลงขุ่ยกลับเดินไปตรงหน้าฉินไช่ชิง “ฮึ่ม เจ้าพูดอะไร?ไม่มีทางที่เด็กบัดซบนั่นจะเทียบได้กับพี่สาวชิงเฉิง!”
[ฮึ เพ้อเจ้อกันทั้งนั้น ข้าเก็บตัวมาเสมอ!ข้าอยู่ในเมืองฮัวอวี่มาหลายวัน และข้าก็ไม่เคยอาละวาดสักครั้ง!]
จั๋วฝานไม่พอใจ[ข้ามักทำตัวไม่โดดเด่นไม่ใช่เหรอ?ปกติข้าจะฆ่าโดยไม่ระบุชื่อนี่?]
ทว่ากลับทำให้เขางุนงงว่าชื่อของเขาเป็นที่รู้จักรในจักรวรรดิเทียนอวี่ว่าสัตว์ประหลาดได้ไง!
[ข้าเป็นที่รู้จักรในฐานะคนที่ฆ่าโหยวกุ่ยฉี ซึ่งดันเป็นเวทีใหญ่ แน่นอนว่าทุกคนคงรู้เกี่ยวกับข้าจากเหตุการณ์นั้น แต่คนอื่นไม่ควรยึดติดกับชื่อข้า]
เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนมีเหตุผลและสงบ แต่สำหรับคนอื่น ทุกการเคลื่อนไหว ทุกท่าทางเต็มไปด้วยความหยิ่ง!
ฉู่ชิงเฉิงจับมือหลงขุ่ยแล้วมองหลงจิ่วอย่างมีความหวัง”ลุงจิ่ว จั๋วฝานมีพลังพอจะฆ่าราชาเม็ดยาอสูรจริงหรือ?”
หลงจิ่วส่ายหัว”ข้าไม่แน่ใจ แต่จากที่ข้าเดา จุดจบของราชาเม็ดยาอสูรจะอยู่ในกำมือของน้องชายจั๋วฝานของข้าเท่านั้น”
“ข้าเริ่มอยากรู้เกี่ยวกับอัจฉริยะผู้นี้เสียจริง”ดวงตาของฉู่ชิงเฉิงเหม่อลอย
ต่อมา ฉู่ชิงเฉิงก็จัดงานเลี้ยงให้หลงจิ่วในหมู่ตึก จั๋วฝานอยากใช้โอกาสนี้หนี แต่ก่อนเขาจะได้ทำอะไร ฉู่ชิงเฉิงก็คว้าคอเขา ลากเขากลับไปหมู่ตึกฮัวอวี่ราวกับไก่
ดวงจันทร์ลอยสูงในคืนเงียบสงบ แขกหลายคนกำลังพักผ่อน ยกเว้นตะเกียงที่ยังส่องไฟในห้องเล็ก
ห้าคนรวมกัน ฉู่ชิงเฉิง เจ้าหมู่ตึกชิงฮัว เจ้าหมู่ตึกมู่ตาน เสี่ยวตานตานกับจั๋วฝาน กล่าวอีกนัยหนึ่ง จั๋วฝานเป็นแค่คนนอกคนเดียว
[ข้าจบสิ้นแล้ว!]
จั๋วฝานคร่ำครวญ การเคลื่อนไหวผิดครั้งเดียวจะทำให้ยอดฝีมือนภาสามคนกระโดดใส่เขา
เจ้าหมู่ตึกมู่ตานมองจั๋วฝานด้วยความสงสัย[ทำไมเจ้าหมู่ตึกใหญ่ถึงพาคนอื่นมา?]ขณะที่ดวงตาของเสี่ยวตานตานจ้องจั๋วฝานเป็นเวลานาน
จั๋วฝานเคยทำให้นางอับอายครั้งหนึ่ง แต่ด้วยเหตุผลแปลกๆ นางไม่ต่อต้านเขา
“เจ้ามองอะไร?ไม่เคยเห็นผู้ชายมาก่อนเหรอ?”จั๋วฝานหงุดหงิดและตะคอกเสี่ยวตานตานจนนางตัวสั่นและถอยหลัง
“หยาบคาย!”
เจ้าหมู่ตึกมู่ตานระเบิดอารมณ์ทันที”เจ้าเด็กหยาบคาย เจ้าเป็นใครมาจากไหนถึงกล้าพูดเช่นนี้ในหมู่ตึกของข้า?ไม่รู้หรือไงว่าเจ้าอยู่ที่ไหน?”
“ใครสน อย่าปล่อยให้นางจ้องข้าด้วยสายตาเร่าร้อนเช่นนี้สิ”
“สะ-สายตาเร่าร้อนอะไร?”เจ้าหมู่ตึกมู่ตานตกใจ
จั๋วฝานชี้เสี่ยวตานตาน”ดูตานางสิ เห็นได้ชัดว่ากำลังเปลื้องผ้าข้า เจ้าไม่เห็นข้าสวมเสื้อผ้าอยู่หรือไง?ถ้านั่นไม่ใช่สายตาเร่าร้อน ข้าก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร!”
แม่นางทั้งสามถ่มน้ำลาย ในที่สุดก็รู้ว่าสายตาเร่าร้อนหมายถึงอะไร ใบหน้าพวกนางแดงก่ำ เสี่ยวตานตานแดงกว่าใครเพื่อน นางก้มหัวอย่างเขินอาย
[เจ้าเด็กนี่หยาบคายเกินไป สายตาเร่นร้อนอะไร?ข้ามองเจ้าแค่สองครั้งเอง!]
แต่เสี่ยวตานตานนางเริ่มแดงจนแทบจะลุกเป็นไฟ
ฉู่ชิงเฉิงจ้องเขม็ง”ซ่งอวี่ หยุดพูดจาหยาบคายได้แล้ว!”
“ขอรับ พี่สาวฉู่!”
จั๋วฝานเปลี่ยนเป็นเด็กเชื่อฟังทันทีต่อคำว่าของฉู่ชิงเฉิง เขารู้จุดอ่อนนางว่านางจะไม่ตำหนิเขาถ้าเขาทำตัวแบบนี้
“ในที่สุดก็ได้พบเจ้า ซ่งอวี่!เจ้าคือคนที่รังแกศิษย์ข้า!’
แต่อารมณ์ของเจ้าหมู่ตึกมู่ตานลุกเป็นไฟอีกครั้งพอได้ยินชื่อ แต่จั๋วฝานกลับตะโกนกลับอย่างไม่เกรงกลัว”แล้วไง?ใครบอกให้นางรังแกผู้หญิงของข้า?ไม่เห็นหรือไงว่าศีลธรรมของนางต่ำทรามแค่ไหน?”
เจ้าหมู่ตึกมู่ตานตัวสั่น แน่นอนว่านางรู้ความจริง แต่นางไม่คิดว่าเด็กเหลือขอคนนี้จะหัวรั้นถึงกล้าโต้เถียงกับนางในหมู่ตึกฮัวอวี่
นางรู้ว่านางผิด นางเต็มใจปล่อยปละละเลย แต่ทว่า นางกลับถูกทำให้อับอายแทน
“เจ้าเด็กบัดซบ ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตายคามือ!”
เจ้าหมู่ตึกมู่ตานเตรียมจู่โจมแต่โดนหยุดไว้ ทว่าคนที่หยุดนางไม่ใช่ฉู่ชิงเฉิง มันกลับเป็นเสี่ยวตานตานที่ยื่นมือมาหยุดนางไว้
นางวิงวอนด้วยสายตาให้ปล่อยเด็กบัดซบนั่นไป!เจ้าหมู่ตึกมู่ตานงงงวย
“ศิษย์รัก เขาทำให้เจ้าอับอายถึงสองครั้งสองคราไม่ใช่หรือ?ทำไมเจ้าถึงปกป้องเขา?”