บทที่ 180 การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม
ฟางเหล่ยถงไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่เขาเห็น เขานึกไม่ถึงมาก่อนว่าเส้นหนวดที่ดูไร้พลังที่โผล่ออกมาจากประตูลึกลับนั่นจะสามารถตัดร่างเขาให้ขาดครึ่งได้
“นี่มันเป็นไปได้ยัง…” ฟางเหล่ยถง ซึ่งยังคงมีลมหายใจอยู่ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
แต่หลังจากที่พูดจบ ในใจของเขาก็เริ่มขุ่นเคือง เขาขุ่นเคืองที่ตัวเขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 2 แต่เขากลับถูกเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมขอบเขตหลอมรวมลมปราณระดับ 3 สังหาร
ด้วยความขุ่นเคือง ความคิดมุ่งร้ายอันวิปริตจึงบังเกิดขึ้นในห้วงความคิดของเขา เขาคิดว่าหากเขาจะต้องตายแบบนี้คนเดียวด้วยน้ำมือเด็กที่ยังอายุไม่ถึง 10 ขวบด้วยซ้ำ นี่มันหยามเขาเกินไป เขาต้องลากเด็กเวรนี่ลงนรกไปกับเขาด้วยอีกคน!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฟางเหล่ยถงโคจรพลังวิญญาณทั้งหมดที่ยังเหลืออยู่ในร่างและหวังจะยิงมันออกไปยังหลิงฟ่างหัว
แต่ในขณะที่ ฟางเหล่ยถง กำลังจะปล่อยพลังวิญญาณเฮือกสุดท้ายของเขาไปยังหลิงฟ่างหัว
หลิงตู้ฉิงที่คอยสังเกตอยู่แล้วเขาพุ่งร่างหายไปปรากฎอยู่ตรงหน้าของฟางเหล่ยถงทันที และเด็ดเส้นใยของหลิงจู้ ออกมาหนึ่งเส้นพร้อมกับดีดมันเข้าใส่ร่างของฟางเหล่ยถง ส่งผลให้ร่างของฟางเหล่ยถง เมื่อถูกเส้นใยของหลิงจู้ปะทะแล้วจึงเกิดการระเบิดสลายหายไปทันที
แต่น่าเสียดายที่ภาพที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทุกคนที่ดูการประลองอยู่ล้วนทันเห็นแต่ภาพที่หลิงตู้ฉิงโจมตีฟางเหล่ยถง ในจังหวะสุดท้ายแค่เพียงเท่านั้น พวกเขาไม่ได้เก็นตอนที่จังหวะประตูของหลิงฟ่างหัวโจมตี หรือตอนที่ฟางเหล่ยถงกำลังพยายามที่จะฆ่าหลิงฟ่างหัว
เมื่อได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้จึงทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจ
“อาจารย์หลิง นี่ท่านทำเช่นนี้มันจะไม่เกินไปหน่อยงั้นเหรอ!” จิ๋นห้าวหมิง พ่นลมหายใจฮึดฮัดและพูดขึ้น “ต่อให้ท่านจะไม่ชอบใจอาจารย์ฟาง แต่ท่านก็ไม่ควรถึงกับต้องฆ่าแกงกันขนาดนี้เลย อาจารย์หลิง!”
เว่ยเทียนไล้พ่นลมหายใจฮึดฮัดขึ้นเช่นกัน “อาจารย์หลิง การกระทำของท่านมันเกินไปจริง ๆ”
เมื่อคณบดีทั้งสองได้เปิดประเด็น บรรดาอาจารย์คนอื่น ๆ ก็เริ่มส่งเสียงฮึมฮัมไม่พอใจ
เมื่อเห็นว่าทุกคนเริ่มไม่พอใจ หลิงตู้ฉิงตะโกนด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเจ้าทั้งหมดหุบปาก! พวกเจ้าทั้งหมดล้วนเคยเข้ามาพึ่งใบบุญฟังชั้นเรียนของข้า แทนที่พวกเจ้าจะสำนึกในพระคุณ พวกเจ้ากลับเนรคุณวางแผนชั่วลับหลังพยายามสร้างความรำคาญให้ข้า พวกเจ้าคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องนี้เลยรึไง?”
“และไอ้อาจารย์ที่ข้าสังหารไป ข้าได้เตือนมันไปก่อนถึง 3 ครั้งแต่มันก็ยังดื้อดึงอยากตายให้ได้อยู่นั่น พวกเจ้าทุกคน ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าทุกคนได้รับคำสั่งมาจากใครหรือไอ้หน้าไหนเป็นคนหนุนหลังให้ แต่นับจากตอนนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าทุกคนจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาเหยียบที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป!”
จิ๋นห้าวหมิงและเว่ยเทียนไล้ เมื่อได้ยินคำประกาศของหลิวตู้ฉิงเช่นนี้ สีหน้าของพวกเขามืดหม่นลงทันที พวกเขารู้ได้ทันทีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นต้องมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา
พวกเขาเริ่มย้อนกลับไปคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ในตอนแรกบรรดาอาจารย์ทั้งหลายที่มาที่นี่ท่าทีของทุกคนดูเป็นมิตรอย่างมาก พวกเขาบางคนถึงกับยอมลดตัวลงมาทดสอบความสามารถของเหล่านักศึกษาและเด็กเล็ก ๆ ทั้งเป็นลูกของหลิงตู้ฉิงด้วยตัวเอง ซึ่งอันที่จริงแล้วหากคิดดี ๆ การกระทำแบบนี้มันผิดวิสัยที่ผู้บ่มเพาะระดับสูงจะปฏิบัติ
พวกเขาทั้งคู่จึงทำได้แต่ถอนหายใจและเงียบไม่พูดอะไรต่อ
เพราะถ้าหากพวกเขายังพูดอะไรต่อ พวกเขาจะถูกเหมารวมไปด้วยว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่ต้องการสร้างปัญหาให้หลิงตู้ฉิง
“ถึงแม้ว่าท่านจะบอกว่าท่านมีบุญคุณกับพวกเราโดยการที่ท่านให้พวกเราเข้าฟังชั้นเรียนของท่าน แต่พวกเราก็ใช้สิ่งของของเราจ่ายเป็นค่าฟังตามที่ท่านกำหนดไว้เช่นกัน!” อาจารย์ผู้หนึ่งตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
หลิงตู้ฉิง เมื่อได้ยินอาจารย์ผู้นั้นเถียงด้วยประเด็นนี้ เขายิ้มและตอบกลับทันที “ได้! ข้าเองเป็นคนที่ทำอะไรด้วยความซื่อตรงอยู่แล้ว ในเมื่อข้าไม่อนุญาตให้เจ้าเข้ามาที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์ของข้าอีก ข้าก็จะคืนเหล่าวัสดุของเจ้ากลับคืนไป ไม่งั้นเจ้าจะหาว่าข้าเอาเปรียบเจ้าอีก”
หลังจากพูดจบ หลิงตู้ฉิงควักเอาวัสดุระดับสูงมาหนึ่งชิ้นออกจากแหวนมิติและส่งพวกมันพุ่งไปหาอาจารย์ผู้นั้นที่ไม่พอใจในตัวเขา
หลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นอาจารย์ผู้นั้นได้รับวัสดุแล้ว เขาตะโดนขึ้นกับทุกคนต่อ “มีใครนอกจากเขา ที่ยังต้องการได้รับวัสดุของตัวเองคืนอีกไหม?”
อาจารย์อีกคนหนึ่งที่ฟังอยู่ยืนขึ้นทันที แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร หลิงตู้ฉิงได้ทำการส่งวัสดุระดับสูงไปโผล่ที่ตรงหน้าเขาเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเห็นว่าอาจารย์ทั้งสองคนได้วัสดุระดับสูงคืนอย่างง่ายดาย บรรดาอาจารย์อีกหลายคนก็เริ่มลุกขึ้นตามกันเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะลุกขึ้นแล้วไม่ได้พูดอะไร แต่ความหมายของกระทำนี้ก็บ่งบอกได้อยู่แล้วว่าพวกเขาต้องการวัสดุระดับสูงคืน
หลิวตู้ฉิงที่ได้เห็นภาพเช่นนี้ เขาเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์โดยที่ไม่พูดอะไร ตราบใดที่มีคนลุกขึ้นยืน เขาจะส่งวัสดุระดับสูงบินเข้าไปหาทันที
เมื่อเวลาผ่านไป อาจารย์ที่มาทั้งหมดกว่า 80 คน ครึ่งหนึ่งในพวกเขาต่างลุกขึ้นยืนและได้วัสดุระดับสูงกลับไปครบหมด
หลิงตู้ฉิงที่เห็นว่าตอนนี้มีผู้คนจำนวนลุกขึ้นเขาส่ายหัวและพูดว่า “พวกเจ้านี่มันน่าสมเพชจริง ๆ พวกเจ้าให้ค่ากับอีแค่วัสดุระดับสูงเพียงไม่กี่ชิ้น พวกเจ้าทำให้ข้ารู้สึกอยากจะอาเจียนเมื่อมองไปยังพวกเจ้า ช่างเถอะในเมื่อพวกเจ้าโง่งมกันถึงขนาดนี้งั้นข้าจะช่วยส่งเสริมให้ก็แล้วกัน เดี๋ยวข้าจะคืนวัสดุระดับสูงให้กับพวกเจ้าทั้งหมดตั้งแต่ที่เจ้าได้จ่ายให้ข้ามาตั้งแต่เดือนแรกที่ข้าเปิดให้พวกเจ้าคนนอกเข้ามาเรียนเลยก็แล้วกัน! ซึ่งระยะเวลานั้นมันก็ผ่านมา 4 เดือน ฉะนั้นข้าจะคืนวัสดุให้พวกเจ้าเพิ่มอีกคนละ 4 ชิ้น!”
เมื่อพูดจบหลิวตู้ฉิงส่งวัสดุระดับสูงจำนวนมากบินไปยังบรรดาอาจารย์ที่ยืนอยู่อีกรอบทันที
บรรดาอาจารย์ที่ได้วัสดุคืน พวกเขาต่างยืนตะลึงงัน ด้วยความสงสัยว่สทำไมหลิงตู้ฉิงถึงใจดีกับพวกเขาเช่นนี้?
ด้วยการคืนวัสดุระดับสูงถึง 5 ชิ้น บรรดาอาจารย์บางคนที่ยังลังเลอยู่ก็เริ่มลุกขึ้นยืนบ้างทันที
รอยยิ้มของหลิงตู้ฉิงเริ่มเจ้าเล่ห์มากขึ้นเรื่อย ๆ ตราบใดที่มีคนลุกขึ้นยืนเขาจะส่งวัสดุระดับสูงคืนไปให้ทันที
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยได้สร้างสมบัติเพิ่มสักเท่าไหร่ ฉะนั้นเขาจึงเหลือวัสดุระดับสูงอยู่ในแหวนมิติเป็นจำนวนมาก
จนท้ายสุด จำนวนคนที่ลุกขึ้นยืนในตอนนี้พุ่งไปถึง 57 คนแล้ว เหลืออีกเพียงแค่ 25 คนเท่านั้นที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่
ในบรรดา 57 คนที่ลุกขึ้นยืน หนึ่งในนั้นคือ หลูเทียนหมิง คณบดีโอสถศาสตร์
มองไปยังบรรดาอาจารย์ทั้ง 57 คนที่ยืนยิ้มอย่างเบิกบานใจ หลิงตู้ฉิงหัวเราะขึ้นและตะโกนว่า “เอาล่ะในเมื่อข้าคืนวัสดุของพวกเจ้าไปหมดแล้ว แต่ความรู้ที่พวกเจ้าได้ไปจากศาลาศักดิ์สิทธิ์ของข้าพวกเจ้ายังไม่ได้คืนให้ข้าเลย!”
หลูเทียนหมิงหัวเราะและตอบกลับ “อาจารย์หลิง ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ว่าจะเป็นความรู้อะไรที่ข้าได้รับจากศาลาศักดิ์สิทธิ์ของท่านข้าจะไม่นำมันมาใช้ และข้าจะไม่ส่งต่อไปยังผู้อื่นแน่นอน”
หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างเยือกเย็นและตอบกลับ “แต่ไม่ใช่ว่าเจ้าได้ประโยชน์จากมันไปแล้วงั้นเหรอ? ครั้งแรกที่ข้าสอนเจ้า ข้าอธิบายเกี่ยวกับเป้าหมายในเส้นทางแห่งเต๋า ครั้งที่สอง บทเรียนของข้าทำให้เจ้ารู้แจ้งกฎแห่งการบ่มเพาะ แล้วนี่เจ้ายังกล้าพูดว่าไม่นำมาใช้แล้ว? ไม่ส่งต่อ? สิ่งต่าง ๆ ที่เจ้าได้เรียนรู้และบรรลุ เจ้าได้ประโยชน์จากมันไปแล้วและมันจะติดตัวเจ้าไปจนวันที่เจ้าตาย! ในเมื่อข้าได้คืนของของเจ้ากลับไปแล้ว ตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่เจ้าต้องคืนสิ่งที่เจ้าเรียนรู้ไปจากข้าคืนมาทั้งหมด!”
บรรดาอาจารย์ต่าง ๆ ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า พวกเขาเข้าใจถึงคำพูดของหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างดี พวกเขารู้ว่าความรู้ทั้งหมดที่พวกเขาได้รับมา ต่อให้พวกจะบอกว่าไม่ส่งต่อให้คนอื่น หรือไม่นำมันมาใช้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่จะติดตัวพวกเขาตลอดไป และถ้าหากเขาจะนำพวกมันมาใช้ในอนาคต หลิงตู้ฉิงผู้ซึ่งไม่ได้ตัวติดอยู่กับพวกเขาสักหน่อยจะรู้ได้อย่างไร?
และที่สำคัญ ยังไงซะถึงแม้หลิงตู้ฉิงจะบอกว่าให้พวกเขาคืนความรู้ให้ มันก็ไม่มีทางทำได้จริงอยู่แล้วใช่ไหม?
หลิงตู้ฉิง ในเวลานี้เขาหันมาทางโม่หยูถังและพูดว่า “พ่อบ้านโม่ เจ้าได้รับการถ่ายทอด คัมภีร์เก้าเทพอสูรบทที่สองมาแล้วหรือยัง?”
โม่หยูถังตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “นายท่าน ข้าได้รับการถ่ายทอดบทที่สองมาแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าจงบทสวดคาถา ‘ซุ่มเสียงแห่งเทพอสูร’ จากในบทที่สองของคัมภีร์เก้าเทพอสูรของเจ้า ทำให้พวกเขาลืมทุกสิ่งที่ข้า เจ้า และครูถังสอนให้หมด! เจ้าไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องจำนวนพลังวิญญาณที่ต้องใช้ ข้าจะช่วยเรียกพลังวิญญาณที่อยู่รอบ ๆ ให้เจ้าเอง” หลิงตู้ฉิงพูขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“อาจารย์หลิง…” จิ๋นห้าวหมิงและคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ลุกขึ้นรีบร้องขึ้น
เหตุผลที่พวกเขาไม่ได้ลุกขึ้นตามคนอื่น ๆ นั้น เพราะพวกเขารู้สึกว่าหลิงตู้ฉิงแสดงท่าทีแปลก ๆ และยังแสดงรอยยิ้มที่ไม่ปกติตั้งแต่ที่เขาเริ่มคืนวัสดุให้กับคนที่ลุกขึ้นยืน พวกเขาจึงมั่นใจว่าหลังจากที่คืนของทั้งหมดเสร็จหลิงตู้ฉิงจะต้องทำอะไรบางอย่างที่ทำให้คนเหล่านี้ที่ไม่สำนึกในบุญคุณของเขาให้หลาบจำแน่นอน
และอีกอย่างคือพวกเขาเองที่ได้ความรู้จากหลิงตู้ฉิงมาตั้งมากมายด้วยจิตสำนึกของพวกเขาที่ยังคงดีอยู่ พวกเขาจึงไม่คิดที่จะหาประโยชน์เพิ่มเติมโดยวิธีไร้ยางอายแบบนี้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ถึงแม้พวกเขาจะรังเกียจการกระทำของบรรดาอาจารย์ที่ลุกขึ้นยืนเพื่อขอวัสดุระดับสูงคืน แต่พวกเขาก็ยังเป็นห่วง กลัวว่าหลิงตู้ฉิงจะลงมือสังหารทุกคนที่ลุกขึ้นยืนจนหมดพวกระบายความขุ่นเคือง
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นมันก็คงเท่ากับว่า สถาบันราชวงศ์คงจะแทบไม่เหลืออาจารย์ไว้ให้สอนเลย
จ้าวปาเทียนเองก็คิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน เขารีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “อาจารย์หลิง ช้าก่อนโปรดท่านลองให้โอกาสพวกเขาอีกสักครั้ง…”
เมื่อพูดจบประโยค จ้าวปาเทียนก็หันกลับมาทางบรรดาอาจารย์ที่ยืนอยู่และตะวาดเสียงดังลั่น “ไอ้พวกเนรคุณ พวกเจ้าได้ความรู้ไปแล้วตั้งมากมายยังจะโลภเอาของคืนจากอาจารย์หลิงไปอีก! พวกเจ้ารีบเอาของมามอบกลับให้อาจารย์หลิงเดี๋ยวนี้!”
ในบรรดาอาจารย์ที่ลุกขึ้นยืนทั้ง 57 คน บางคนในนั้นเริ่มจะรู้สึกตัวได้ว่าสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปมันต้องเลวร้ายแน่นอน พวกเขาจึงรีบหยิบเอาวัสดุที่หลิงตู้ฉิงพึ่งมอบให้กับพวกเขายื่นคืนกลับไปในทันที
แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้วสำหรับพวกเขา หลิงตู้ฉิงสะบัดหลิงจู้ไปทางพวกเขาหนึ่งครั้ง ส่งผลให้บรรดาอาจารย์ที่ยืนอยู่ทั้ง 57 ถูกตรึงแข็งไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่นิ้วเดียว
จากนั้น หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าบอกกับพวกเจ้าไปแล้ว ว่าข้าเป็นคนที่ยุติธรรมกับทุกสิ่งที่ข้าแลกเปลี่ยนเป็นอย่างมาก ในเมื่อข้าคืนของของพวกเจ้าให้พวกเจ้าไปแล้ว พวกเจ้าก็ต้องคืนของของข้ากลับมาเช่นกัน เอาล่ะหากมีใครที่ต้องการจะได้วัสดุระดับสูงคืนอีกจงรีบลุกขึ้นยืนมาไว ๆ ข้าจะได้คืนให้และข้าจะได้ดึงของของข้าคืนไปพร้อม ๆ กันทีเดียว!”