เมื่อขึ้นมาที่บนชั้นสาม ซือโถวเหวินหยวนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจกับความจริงที่ว่า หอการค้าพิรุณทองคำ เป็นหอการค้าใหญ่สมชื่อเสียงจริง ๆ
ที่นี่มีแม้กระทั่งวัสดุระดับสวรรค์มากมายวางขาย และแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนมีราคาอันน่าตกตะลึงตามคุณภาพ
เท่าที่สายตาของเขามองเห็นได้ที่ชั้นสามนี่ยังมีกำแพงวิญญาณอันทรงพลังที่คอยปกป้องสมบัติเหล่านี้ เพื่อป้องกันเหล่าคนไร้สมองที่จะฉกมันไป
และนอกเหนือจากกำแพงวิญญาณแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือที่ชั้นนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ 2 คนคอยดูแล
หลิงตู้ฉิงมองไปที่เหล่าวัสดุและสมบัติต่าง ๆ ทีละชิ้นจนเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอาย มีหลายสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขา แต่เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น ต่อให้เขาจะสามารถสร้างสมบัติวิเศษระดับราชวงศ์มาแลกพวกมันได้ แต่เขาจะต้องสร้างพวกมันอีกกี่ชิ้นกันถึงจะเพียงพอ?
หลังจากเดินดูสักพัก หลิงตู้ฉิงก็ชี้ไปที่ก้อนหินสีดำและถามว่า “นี่ราคาเท่าไหร่?”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ชรากวาดสายตามองไปที่หลิงตู้ฉิงและคนอื่น ๆ จากนั้นก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “ราคาของผลึกปฐพีเวหาอยู่ที่ 30 ล้านเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณ”
หลิงตู้ฉิงเคยได้รับผลึกปฐพีเวหาจากจ้าวปาเทียนในอดีต แต่อันที่อยู่ตรงหน้าเขาใหญ่กว่าของจ้าวปาเทียนเล็กน้อย ในความเป็นจริงเมื่อตอนนั้นเขาเองก็รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อได้รับผลึกปฐพีเวหาจากจ้าวปาเทียน
แน่นอนว่าถ้าจ้าวปาเทียนรู้ว่าราคาของผลึกปฐพีเวหาแพงถึงขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะปวดใจแค่ไหน
หลิงตู้ฉิงลังเล เขาไม่รู้ว่าควรซื้อผลึกปฐพีเวหานี้หรือไม่
ผลึกปฐพีเวหา เป็นวัสดุระดับสวรรค์ที่มีกฎแห่งดินที่แข็งแกร่งและเป็นวัสดุชั้นยอดในการสร้างสมบัติวิเศษที่ทรงพลัง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสิ่งนี้สามารถใช้เป็นแหล่งพลังกฎแห่งสวรรค์ชั่วคราวสำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์แทนสมบัติสวรรค์ได้
แน่นอนว่าของสิ่งนี้ หลิงตู้ฉิงไม่ได้ต้องการนำมันมาใช้กับตัวของเขาเอง เนื่องจากเขายังอยู่ห่างจากขอบเขตสวรรค์มาก
อย่างไรก็ตามเขาจำเป็นต้องใช้มันเพื่อสร้างสมบัติวิเศษเฉพาะเพื่อเสริมความแข็งแกร่งแก่ร่างกายของเหลียงเฟ่ยเอ๋อ
แต่ที่เขายังลังเลอยู่ก็เพราะเขายังไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเขาจะสามารถหาวัสดุล้ำค่ามากกว่านี้ได้หรือไม่จากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ
เมื่อคิดอยู่สักพักเขาก็ตัดสินใจได้
แม้ว่าเขาจะหาสิ่งที่ดีกว่าผลึกปฐพีเวหาได้ แต่ถ้าหากเขาได้มันมาเขาก็ยังสามารถนำมันมาใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกมากมาย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะซื้อมัน
“ข้าจะซื้อมัน!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “แต่ข้าไม่มีเหรียญคริสตัลมากขนาดนั้น ข้าจะใช้ของอย่างอื่นมาแลกเปลี่ยน”
“ถ้าเจ้าไม่มีคริสตัลมากพอจะซื้อ เจ้าก็จงยืนดูอยู่เฉย ๆ อย่าสะเออะหวังสูงอยากได้มัน! ผู้จัดการหลิน ข้าจะซื้อผลึกปฐพีเวหานั่น” เสียงอันแหลมเล็กดังขึ้น “ผู้จัดการหลิน หอการค้าพิรุณทองคำของท่านยอมให้คนจน ๆ แบบนี้ขึ้นมาได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หลิงตู้ฉิงหันกลับมาและเห็นชายหนุ่มผมมันเป็นเงาและมีแก้มสีดั่งดอกกุหลาบ พร้อมกับข้างกายของเขายังมีผู้ติดตามชราอยู่ด้านข้างอีกคนหนึ่ง
ระดับบ่มเพาะของผู้ติดตามชราผู้นี้ไม่ได้อ่อนแอ แต่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตครึ่งสวรรค์
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ชราที่เป็นคนของหอการค้าพิรุณทองคำ หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้จัดการหลิน พยักหน้าและพูดว่า “โอ้ เป็นท่านนี่เอง นายน้อยจื่อหวง!”
“ผู้จัดการหลิน ข้าตามเก็บสะสมผลึกปฐพีเวหาพวกนี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว และข้าแตกต่างจากคนจนที่น่าสงสารบางคน ตรงที่ข้ามีปัญญาซื้อผลึกปฐพีเวหาได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นท่านควรขายให้ข้าจะดีกว่า” จื่อหวงพูดกับผู้จัดการหลินโดยแสร้งทำเป็นมองข้ามหัวหลิงตู้ฉิง
ผู้จัดการหลินยิ้มและพูดว่า “ท่านจื่อ โปรดรอสักครู่ ท่านที่มาก่อนท่านนี้เขาเองก็ชื่นชอบผลึกปฐพีเวหาเช่นกัน ข้าสามารถขายให้ท่านได้หลังจากที่เขาตัดสินใจแล้วเท่านั้น”
จื่อหวงหันกลับมาและมองไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ข้าคือ จื่อหวง นายน้อยของตระกูลจื่อ และสิ่งนี้สำคัญมากสำหรับท่านปู่ของข้า เจ้าควรจะถอดใจจากมันซะและปล่อยให้ข้าซื้อมันจะเป็นการดีแก่ตัวเจ้ามากที่สุด”
หลิงตู้ฉิงมองไปที่จื่อหวง และพูดว่า “ข้าตัดสินใจซื้อมัน!”
ถ้าเป็นก่อนหน้าที่เขาจะตัดสินใจได้ บางทีหลิงตู้ฉิงอาจจะยอมให้จื่อหวงซื้อมันไป แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันสายไปแล้ว หากเขาต้องการที่จะได้มันมาใครก็ไม่สามารถแย่งมันไปจากเขาได้
และด้วยน้ำเสียงที่ยียวนของจื่อหวง มันทำให้หลิงตู้ฉิงรู้สึกไม่พอใจและเขาก็ต้องพยายามอดทนต่อแรงกระตุ้นที่จะซัดจื่อหวงให้ลงไปกองกับพื้น
หากเป็นชาติก่อน คนที่กล้าคุกคามเขาเช่นนี้จะต้องตายไปแล้ว
จื่อหวงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงคุกคาม “เจ้าคิดให้ดี ๆ! อย่าแย่งของกับข้าดีกว่า มิฉะนั้นเจ้าจะไม่สามารถอยู่ในเมืองนี้ได้อย่างสงบสุข!”
หลิงตู้ฉิงฟังแล้วก็หัวเราะ เขาหันไปถามผู้จัดการหลิน “ท่านประเมินโอสถวิญญาณบริสุทธิ์แบบนี้สักเท่าไหร่?”
เขายังคงมีโอสถวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ 2-3 เม็ด ซึ่งมันมีค่ามากโดยเฉพาะกับผู้เชี่ยวชาญเช่นผู้จัดการหลินผู้นี้
เมื่อผู้จัดการหลินเห็นเม็ดโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังศักดิ์สิทธิ์ ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายวาบขึ้นมาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนที่เขาจะพูดด้วยเสียงที่ดังกังวาล “แม้ว่ามูลค่าแท้จริงของโอสถวิญญาณบริสุทธิ์เม็ดนี้จะไม่เพียงพอที่จะแลกกับผลึกปฐพีเวหา แต่ข้าสามารถตัดสินใจแลกเปลี่ยนมันกับโอสถของท่านได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของจื่อหวงก็เปลี่ยนไป ขณะที่เขาหันไปพูดกับหลิงตู้ฉิงอย่างเย็นชา “ไม่คิดเลยว่าไอ้ตัวน่าสงสารอย่างเจ้าจะมีของดีกับเขาด้วย! อย่างไรก็ตามข้ามีเงิน! ผู้จัดการหลินข้าขอเสนอราคาใหม่ด้วยเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณ 40 ล้านเหรียญ! ไอ้กระจอก ทีนี่เจ้ายังจะกล้าเสนอราคามากกว่าข้าอีกไหม?”
ถ้าเป็นเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณ 40 ล้านเหรียญ ราคานี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่โอสถวิญญาณบริสุทธิ์จะสามารถเทียบได้
แม้ว่าผู้จัดการหลินจะต้องการโอสถวิญญาณบริสุทธิ์จริง ๆ แต่เขาก็ไม่สามารถฝ่าฝืนกฎของหอการค้าพิรุณทองคำได้
หลิงตู้ฉิงหยิบโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ออกมาอีกเม็ด และไม่ได้มองไปที่จื่อหวง ขณะที่เขาพูดกับผู้จัดการหลิน “ตอนนี้ล่ะ ให้ข้าได้หรือยัง?”
ผู้จัดการหลินยิ้มทันทีและพูดว่า “แน่นอน ในฐานะพ่อค้า เมื่อท่านจ่ายให้เรา เราก็จะมอบของให้ท่าน นี่คือกฎของเรา”
หลังจากที่เขาพูดจบ ในขณะที่เขากำลังจะมอบผลึกปฐพีเวหาให้กับหลิงตู้ฉิง
จื่อหวงจ้องไปที่หลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ข้าเสนอ เหรียญคริสตัลระดับวิญญาณ 60 ล้านเหรียญ ถ้าเจ้ามีอีกอันก็เอาออกมา…”
เขามองไปที่โอสถวิญญาณบริสุทธิ์ที่หลิงตู้ฉิงหยิบออกมาเพิ่ม ใบหน้าของเขาก็ซีดลงทันที
โอสถวิญญาณบริสุทธิ์ 3 เม็ด เขาต้องนำเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณออกอย่างน้อย 80 ล้านชิ้นเพื่อที่จะซื้อผลึกปฐพีเวหา นี่เป็นไปไม่ได้เลย นอกจากนี้เขายังไม่มีเหรียญคริสตัลระดับวิญญาณถึง 80 ล้านเหรียญด้วยซ้ำ
“สารเลวเจ้ากล้ามาก!” จื่อหวงตะคอกด้วยความโกรธ “ในเมืองเจินไห่นี้ไม่เคยมีใครกล้าที่จะขวางทางข้า เจ้าระวังตัวเอาไว้ก็แล้วกัน!”
หลังจากฝากแค้นเสร็จ เขาก็จากไป
หลังจากที่จื่อหวงออกไปแล้ว ผู้จัดการหลินก็พูดด้วยรอยยิ้มในที่สุด “ตระกูลจื่อเป็นตระกูลที่ค่อนข้างมีอำนาจในเมืองเจินไห่ จื่อคง ซึ่งเป็นผู้นำของตระกูลจื่อ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตหลุดพ้นสามัญ ส่วนจื่อหวงเป็นหนึ่งในรุ่นอัจฉริยะของทายาทรุ่นหลังที่จื่อคงเอ็นดูเป็นอย่างมาก และตอนนี้ท่านทำให้เขาขุ่นเคืองเข้าแล้ว ดังนั้นท่านต้องระวังตัวเองให้ดี”
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ข้าไม่กลัวปัญหาไร้สาระพวกนี้หรอก! ท่านจะได้โอสถวิญญาณบริสุทธิ์ 2 เม็ดจากข้า ท่านคิดว่ายังไง?”
ผู้จัดการหลินพูดไม่ออก “นี่ท่านไม่คิดจะกลับคำพูดใช่ไหม?”
“ข้าจะไม่กลับคำพูดของข้า แต่ท่านต้องแถมยันต์ผิวหยกให้แก่ข้า!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “อายุขัยของท่านใกล้จะหมดแล้ว ด้วยความช่วยเหลือของโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านจะสามารถทะลวงขอบเขตต่อไปได้ การมอบยันต์ผิวหยกตอบแทนข้าบ้างมันก็เป็นเรื่องสมควรแล้วไม่ใช่หรือไง?”
ผู้จัดการหลินมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาเพ่งพินิจ จากนั้นเขาพยักหน้าช้า ๆ และยื่น ยันต์ผิวหยกให้หลิงตู้ฉิง
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงกำลังจะจากไป เขาจึงได้พูดขึ้นอีก “ท่านยังมีโอสถวิญญาณบริสุทธิ์อยู่อีกหรือไม่?”
“ข้ามี” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าโดยไม่ลังเล
“หอการค้าพิรุณทองคำของเรายังมีของดีอีกมากมาย ท่านไม่อยากดูอีกเหรอ?” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์อีกคนของหอการค้าพิรุณทองคำที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ก่อนหน้านี้รีบถามขึ้นทันที
หลิงตู้ฉิงพิจารณาทั้งสองสักพักและหัวเราะ “นี่พวกท่านคงอยากได้โอสถวิญญาณบริสุทธิ์อีกล่ะสินะ? เอาแบบนี้เป็นไง ตราบใดที่ท่านยอมให้ข้าเลือกของอีก 3 สิ่งที่ข้าต้องการ ข้าจะช่วยทำให้พวกท่านทะลวงผ่านไปยังขอบเขตสามัญหลุดพ้น!”
Related