บทที่ 547 ไม่อาจครอบครองหัวใจก็ขอครอบครองกาย
ในระหว่างที่เย่ชิงเฉิง มู่หลงหยาน และหลิงตู้ฉิงคุยกัน จู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากหน้าห้องโถงรับรองรายงานพวกเขา “นายหญิง เล้งหวงขออนุญาตเข้าพบท่าน!”
มู่หลงหยานตอบกลับทันที “อนุญาตให้เขาเข้ามาได้”
นางรู้ว่าเล้งหวงมาที่นี่เพราะอะไร และในเมื่อนางยังไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงจะสามารถช่วยสามีนางได้หรือไม่ แต่เล้งหวงในตอนนี้กลับมีความคืบหน้าทุก ๆ วันในการผ่านเข้าไปในหมอกหลังสำนัก ดังนั้นนางจึงไม่มีอะไรจะปฏิเสธไม่พบกับเขา
“เล้งหวง กำลังเข้ามาแล้ว” มู่หลงหยานเอ่ยขึ้นสื่อความหมายแฝงไปยังเย่ชิงเฉิง และหลิงตู้ฉิง
เย่ชิงเฉิงสูดหายใจลึก จากนั้นางพูดกับหลิงตู้ฉิง “สามี ข้าขอคุยกับเขาเอง ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนสังหารเขานะ!”
นางรู้สึกกังวลว่าเล้งหวงจะเข้ามาและพูดจายั่วยุหลิงตู้ฉิง จนทำให้เกิดการลงไม้ลงมือกัน ซึ่งถ้าหากมันเกิดเรื่องขึ้นจริง ปัญหาภายในสำนักที่แต่เดิมก็มีอยู่แล้วมันก็ยิ่งบานปลายมากขึ้นไปอีก
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “อืม! ข้าไม่ทำหรอก!”
ก็แค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งมันมีอะไรให้เขาต้องใส่ใจกัน? หากเด็กหนุ่มผู้นั้นมันล่วงเกินเขาจนเลยเถิดจริง ๆ เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องลงมือฆ่าเองด้วยซ้ำ
จากนั้นครู่ต่อมา ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ดูสง่างามก็เดินเข้ามา
เมื่อชายหนุ่มผู้นั้นเห็นเย่ชิงเฉิง เขาก็รีบเดินตรงเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเอ่ยขึ้นทันที “ข้าได้ยินว่าศิษย์น้องกลับมาแล้ว ดังนั้นข้าจึงรีบมาหาเจ้าทันที เจ้ารู้ไหมว่าตั้งแต่ที่เจ้าออกไปทำภารกิจ ศิษย์พี่ผู้นี้ก็รู้สึกนอนหลับไม่เต็มตาเลยสักคืน”
เย่ชิงเฉิงรีบตอบกลับทันที “ศิษย์พี่เล้ง ข้าจำเป็นต้องบอกท่านเรื่องสำคัญ ตอนนี้ข้าได้แต่งงานแล้ว และนี่คือสามีของข้า หลิงตู้ฉิง ข้าตัดสินใจแล้วว่าข้าจะอยู่กับเขาไปจนชั่วชีวิต อันที่จริงข้าเองก็ทราบมาตลอดว่าท่านรู้สึกต่อข้าอย่างไร แต่สำหรับข้าแล้ว ข้าคิดกับท่านเป็นเพียงแค่พี่ชายที่ดีคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งถ้ามันทำให้ท่านเข้าใจในตัวข้าผิดมาโดยตลอด ข้าก็ขออภัยจากใจของข้าด้วย”
นางเลือกที่จะพูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อมใด ๆ กับเล้งหวงแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มของเล้งหวงก็จางหายไปในทันที เขามองไปที่เย่ชิงเฉิงและพูดว่า “ศิษย์น้อง เจ้าด่วนตัดสินใจเร็วเกินไปรึเปล่า? เจ้าควรจะรู้ว่าที่ผ่านมาหลายร้อยปีข้าดีกับเจ้ามาก ๆ มาโดยตลอด แถมผู้คนทั้งสำนักเราก็มีแต่คิดว่าสวรรค์สร้างพวกเรามาให้คู่กัน”
เย่ชิงเฉิงโบกและพูดแทรกทันที “ศิษย์พี่ ไม่ว่าใครคนอื่นจะคิดอะไรยังไงข้าไม่สนใจทั้งนั้น มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาท่านดีกับข้ามาโดยตลอด แต่ท่านต้องเข้าใจว่าความรักไม่ใช่รางวัลของการตอบแทนความดี และโดยเฉพาะที่ตอนนี้ข้าแต่งงานมีสามีแล้ว ดังนั้นมันจึงยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เราสองคนจะแต่งงานกัน”
เล้งหวงเงียบไปอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็พยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ถ้างั้นข้าจะปล่อยเรื่องนี้ไปก่อนชั่วคราวก็ได้!”
จากนั้นเล้งหวงหันไปพูดกับมู่หลงหยานด้วยรอยยิ้มว่า “ป้าหยาน เมื่อครู่ก่อนที่ข้าจะมาหาท่าน ผู้อาวุโสเฉิน ตอนนี้สามารถฝ่าเข้าไปในหมอกนั่นได้อีกเกือบ 200 เมตรแล้ว ซึ่งมันเหลืออีกเพียงไม่กี่ร้อยเมตรก็จะพ้นพื้นที่ชายขอบของมันแล้ว ข้ามั่นใจว่าเราต้องทำได้สำเร็จ!”
มู่หลงหยานพยักหน้า “ข้าก็หวังให้เป็นเช่นนั้น!”
“ถ้างั้นข้าขอตัวก่อนป้าหยาน ข้าขอกลับไปดูผู้อาวุโสเฉินก่อนว่าในตอนนี้เขาได้คืบหน้าไปถึงขนาดไหนแล้ว” เมื่อพูดจบ เล้งหวงก็เดินจากไปทันที
หลังจากที่เล้งหวงจากไป มู่หลงหยานมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าซับซ้อนและพูดว่า “ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถแก้ปัญหาหมอกนั่นได้ก่อนคนอื่น ๆ ไม่เช่นนั้นพวกเราคงต้องเจอกับปัญหาใหญ่แน่นอน เอาล่ะพวกเจ้าเดินทางกันมาไกล เอาเป็นว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อน ชิงเฉิง เจ้าพาสามีและคนของเขาไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
นางสามารถบอกได้ว่าในตอนนี้เล้งหวงนั้นมีแผนการอื่นอยู่ในใจ ซึ่งมันจะเป็นปัญหากับสถานะของนางในสำนักเป็นอย่างมาก
หลังจากที่เย่ชิงเฉิงและหลิงตู้ฉิงจากไป มู่หลงหยานก็รีบเอ่ยถามเย่หยูหลันเกี่ยวกับหลิงตู้ฉิงทันที เนื่องจากนางจำเป็นต้องรู้ว่าเขามีความสามารถพอที่จะช่วยเหลือนางได้หรือไม่ ซึ่งโดยเฉพาะการช่วยเหลือนี้มันเกี่ยวพันกับชีวิตของสามีนาง
ถึงแม้ว่าในตระกูลเย่จะมีคนอยู่อีกหลายคนที่มีความแข็งแกร่งกว่าสามีนาง แต่คนเหล่านั้นก็เป็นบรรดาผู้อาวุโสที่แก่แล้ว ซึ่งไร้อนาคตที่จะสามารถแข็งแกร่งไปได้เพิ่มมากกว่าที่เป็นอยู่ คนเหล่านั้นอย่างมากที่สุดก็เป็นได้แค่เพียงผู้ที่คอยช่วยค้ำจุนสำนักให้ยังคงอยู่รอดต่อไปได้ แต่พวกเขาไม่สามารถกลายเป็นความหวังให้กับสำนักเพื่อพัฒนาต่อไปได้
แตกต่างจากสามีของนางที่ในตอนนี้อายุของเขายังไม่มากเท่าไหร่ แถมอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิแล้วอีกต่างหาก ซึ่งเขายังคงมีอนาคตอีกไกล
หากไม่มีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นถึงแม้ว่าสามีของนางอาจจะไม่บรรลุไปถึงระดับตัวตนที่สามารถสร้างวิถีเต๋าของตัวเองได้ อย่างน้อย ๆ เขาก็จะต้องได้เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิแน่นอน
แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้เขากลับติดอยู่ในเขตแดนหมอกด้านหลังสำนักมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งหลังจากที่เขาติดอยู่ในนั้นมาเป็นเวลานาน อิทธิพลของตระกูลเย่ก็ค่อย ๆ เสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ ถ้าหากไม่เป็นเพราะว่าตระกูลเย่ ยังมีเหล่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนที่คอยค้ำจุนอยู่ พวกเขาคงเสียอำนาจการควบคุมสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ไปนานแล้ว
ในระหว่างที่มู่หลงหยานและเย่หยูหลันกำลังคุยกันอยู่นั้น เล้งหวงก็กลับไปถึงเรือนของเขาแล้วเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นต้น เล้งเจี้ยนชิว ผู้ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อาวุโสสูงของสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์และยังเป็นพ่อของเล้งหวง ทั้งสถานะและความแข็งแกร่งของเขานั้นนับได้ว่าเขาเป็นตัวตนที่สำคัญต่อสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะมีความสำคัญต่อสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ ในอดีตเขากลับไม่ค่อยมีอิทธิพลในสำนักเท่าไหร่นัก ผู้ที่มีสิทธิ์มีเสียงพูดในสำนักนั้นมีเพียงแค่ 3 ตระกูล ตระกูลเย่ ตระกูลหาน ตระกูลหยู
แต่ด้วยตำแหน่งของเขาที่ยังคงมีความพิเศษอยู่บ้าง มันจึงยังคงมีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเข้าร่วมกับเขา ซึ่งมันก็พอที่จะทำให้เขาพอมีพรรคพวกอยู่
แต่ต่อมาหลังจากเหตุการณ์ที่พ่อของเย่ชิงเฉิง เย่ชางคง ไปติดอยู่ในเขตแดนหมอก มันก็ส่งผลให้ตราะกูลเย่เสื่อมถอยลงจนทำให้กลุ่มของเล้งเจี้ยนชิวสามารถผงาดขึ้นมาได้ และทำให้ในตอนนี้ภายในสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ จึงมีฝ่ายที่คอยถ่วงดุลกันอยู่ 4 ฝ่าย
ทั้ง 4 ฝ่ายนี้ในบางครั้งก็แอบมีการกระทบกระทั่งกันอยู่บ้าง
ส่วนทางด้านของเล้งหวง เนื่องจากเขาหลงรักเย่ชิงเฉิงมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงคอยขอให้พ่อเขาคอยสนับสนุนตระกูลเย่เรื่อยมาตั้งแต่ที่เย่ชางคงหายตัวเข้าไปในเขตแดนหมอก ซึ่งทำให้ตระกูลเย่ยังคงสามารถฝืนควบคุมสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์มาได้จนถึงทุกวันนี้
แต่ตอนนี้…
เมื่อเล้งหวงกลับมาถึงเรือน เขาก็เดินมุ่งหน้าเข้าไปหาเล้งเจี้ยนชิวทันที
“เป็นยังไงบ้าง?” เล้งเจี้ยนชิวเอ่ยถามขึ้น
เล้งหวงตอบกลับด้วยสีหน้ามืดหม่นว่า “ในตอนแรกข้าคิดว่า หานซ่งหยวน กับ หยูจิ้งเฉิง แต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อทำให้ข้าไขว้เขว แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าทั้งหมดมันคือเรื่องจริง นางแต่งงานไปแล้วจริง ๆ ท่านพ่อ!”
เล้งเจี้ยนชิวเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “นางแต่งงานแล้วมันสำคัญยังไง? สิ่งที่เจ้าต้องการนั้นเพียงแค่ตัวของนาง ไม่ใช่หัวใจของนาง เจ้าจงอย่าลืมว่าเจ้าต้องการนางเพียงเพื่อเกื้อหนุนให้เจ้าฝึกร่างเทพสุริยะสำเร็จก็เท่านั้น!”
“แต่…จากที่ข้าดูท่าทีของนางแล้ว นางคงไม่ยอมโอนอ่อนให้ข้าอย่างแน่นอน” เล้งหวงตอบกลับด้วยเสียงเศร้า
เล้งเจี้ยนชิวยิ้ม “ไม่ต้องเป็นห่วง สถานการณ์ที่ตระกูลเย่กำลังเผชิญอยู่นั้นไม่ใช่อะไรที่สาวน้อยอย่างนางจะขัดขืนได้ ในท้ายที่สุดหากแผนการของเราสำเร็จ และเฉินจี้ซีสามารถช่วยคนในเขตแดนหมอกออกมาได้ เมื่อนั้นต่อให้นางจะไม่ยินยอมแต่งกับเจ้า นางก็จะต้องถูกกดดันโดยตระกูลหาน ตระกูลหยู หรือแม้แต่ตระกูลนางเอง ให้มาแต่งกับเจ้าเพื่อเอาใจพวกเราอยู่ดี นางไม่มีวันที่จะขัดขืนอะไรได้หรอก!”