ฉินเฉิงก็ไม่ได้สนใจเยว่จงเช่นกัน เดิมทีเขาก็ทำเพื่อฟางเสี่ยวเต๋อเท่านั้น
แต่เสี่ยวจื่อกลับรีบวิ่งตามไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว ด้วยท่าทางที่อยากจะดูเรื่องดีๆ
ระหว่างทางจนถึงทางเข้า ในเวลานี้ใกล้จะเริ่มคอนเสิร์ตแล้ว ดังนั้นคนที่มีตั๋ว ดูเหมือนว่าจะเข้าไปหมดแล้ว
“นี่ ตกลงว่าคุณเชื่อถือบ้างหรือเปล่า” ดูเหมือนว่าฟางเสี่ยวเต๋อระมัดระวังอย่างมาก
ฉินเฉิงพูดติดตลก :”ไม่ใช่ว่าเธอถูกเรียกว่าแม่มดน้อยของโลกเหรอ? ทำไหมตอนนี้ถึงกลัวขนาดนี้?”
“คุณจะไปเข้าใจอะไร!” ฟางเสี่ยวเต๋อเหลือบมองหนึ่งที “ฉันก็แค่ไม่อยากจะขายหน้า!”
ฉินเฉิงไม่ได้พูดอะไรออกมา หลังจากเขาเดินมาถึงทางเข้า พี่กวางอ้ามือขวางทางฉินเฉิง พูดโดยไร้สีหน้า :”ตั๋ว”
“ฉันไม่มีตั๋ว” ฉินเฉิงพูด “แต่ชูซีหยุนเคยบอกว่า เหลือทีไว้ให้ฉันแล้ว”
พี่กวางอึ้งไปชั่วขณะ เขารีบเปลี่ยนสีหน้าทันที ถามคำถามเบื้องต้น :”มิทราบว่าคุณชื่ออะไร?”
“ฉินเฉิง”
เมื่อพี่กวางได้ยิน พยักหน้าและพูดพร้อมกับโค้งคำนับ :”ที่แท้เป็นคุณฉินนี่เอง คุณหนูชูมอบหมายเป็นพิเศษ บอกให้ฉันรอคุณอยู่ที่นี่! ฉันเป็นผู้จัดการของที่นี่ คุณเรียกฉันว่าเสี่ยวกวางก็พอแล้ว!”
เมื่อเห็นฉากนี้ เสี่ยวจื่อและจงเยว่ที่อยู่ไม่ไกลล้วนแล้วอ้าปากค้าง
ไอ้คนนี้สามารถเข้าไปได้จริงๆเหรอ?
ไม่เกินครึ่งวินาที จงเยว่รีบวิ่งเหยาะๆเข้ามาหา
เธอเปลี่ยนสีหน้าทันที ยิ้มและพูด :”อิๆๆ ขอบคุณพี่ชายนะ!”
ฉินเฉิงโบกมือและพูด :”รีบพาพวกเราเข้าไปได้แล้ว”
“ได้เลย!” พี่กวางโบกมือ พนักงานสองคนรีบเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
หลังจากฉินเฉิงเข้าไปแล้ว เสี่ยวจื่อถามอย่างไม่เข้าใจ :”พี่กวาง ไอ้คนนั้นเป็นใครเหรอ?”
“ฉันก็ไม่รู้จักเหมือนกัน” พี่กวางส่ายหัวและพูด “ฉันรู้เพียงแค่ว่าเขาชื่อฉินเฉิงอะไรนั่น ดูแล้วอายุก็ไม่มาก เดาว่าน่าจะเป็นคนรวยรุ่นที่สองมั้ง”
“ฉินเฉิง?” เสี่ยวจื่อขมวดคิ้ว หลังจากนั้นสีหน้าเปลี่ยนอย่ากะทันหัน
ก่อนหน้านี้ไม่นานคนที่เอาชนะเฝิงกง ก็มีชื่อว่าฉินเฉิงไม่ใช่เหรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสี่ยวจื่อก็ไม่สนใจแม้แต่คอนเสิร์ตแล้ว หันหัววิ่งออกไป
…
ตำแหน่งผู้จัดคือตำแหน่งที่ดีที่สุดในหมู่ผู้ชม ไม่ใช่แค่การมองเห็นที่ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้รอบๆก็ไม่มีคนอะไร
“ว้าว ตำแหน่งนี้เยี่ยมมากเลย!” สาวน้อยสองคนกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ราวกับว่าเกือบจะลอยขึ้นแล้ว
“เพื่อนของเธอคนนี้พึ่งพาได้อย่างมาก!” จงเยว่ตีไปที่ตัวของฟางเสี่ยวเต๋อหนึ่งที หลังจากนั้นกระซิบถาม :”เขามีแฟนสาวหรือยัง?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ฟางเสี่ยวเต๋อจ้องทันที และพูด :”ดีที่สุดเธออย่ามีความคิดกับเขาเลย ไม่อย่างนั้นพวกเราสองคนเป็นเพื่อนกันไม่ได้อีกแล้ว!”
เดิมทีจงเยว่ยังต้องการพูดตลกอีกสองประโยค แต่เมื่อเห็นท่าทางที่จริงจังของฟางเสี่ยวเต๋อ ทำได้เพียงแค่หัวเราะและพูด :”ฉันก็แค่พูดเล่นเอง ทำไหมต้องวู่วามขนาดนี้ แล้วอีกอย่าง ฉันไม่ชอบผู้ชายอายุมากแบบนี้หรอก!”
“ผู้ชายอายุมาก” ห้าคำ ทำร้ายจิตใจของฉินเฉิงอย่างมาก……
ในไม่ช้า ชูซีหยุนเดินขึ้นไปบนเวที
ทันทีที่เธอปรากฏตัว บรรยากาศในสถานที่ล้วนแล้วถูกจุดไฟทันที ดูเหมือนว่าคนแทบจะทั้งหมดกรี๊ดร้องออกมา
และเอฟเฟกต์บนเวทีของชูซีหยุนก็ดีมากเช่นกัน เสียงลำโพงที่ฟังแล้วเหมือนเป็นธรรมชาติอย่างมาก
สิ่งที่น่าเสียดายคือ ฉินเฉิงไม่มีเซลล์ของการแบ่งแยกด้านดนตรีเลย เขารู้สึกเพียงแค่วุ่นวายไปหมด พัฒนาไปถึงขั้นใช้วิชาอุดหูเอาไว้ แล้วอิงลงไปนอนอยู่ที่นี่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ภายใต้การเขย่าตัวของฟางเสี่ยวเต๋อ ทำให้ฉินเฉิงตื่นขึ้นมา
“พระเจ้า คุณกำลังนอนหลับอยู่ในคอนเสิร์ตของชูซีเต๋อเหรอ?” ฟางเสี่ยวเต๋อหมดคำพูด
จงเยว่ที่อยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะตะโกนพูด :”คนบ้านนอก!”
ฉินเฉิงขยี้ตา และพูด :”ในที่สุดก็จบแล้วใช่ไหม กลับบ้านแล้วใช่ไหม”
ในเวลานี้ พนักงานสองคนวิ่งเหยาะๆเข้ามาทันที
พวกเขากล่าวด้วยความเคารพ :”คุณฉิน คุณผู้หญิงชูนัดเจอคุณที่ข้างหลังเวที”
“ไม่สนใจ” ฉินเฉิงปฏิเสธโดยไม่มีการคิดด้วยซ้ำ
“นี่นี่นี่ โอกาสดีขนาดนี้ คุณสามารถปฏิเสธแบบนี้ได้ยังไง!” จงเยว่กังวลทันที เธอมองดูพนักงานแล้วพูดว่า :”คือว่า พวกเราก็สามารถไปด้วยได้ใช่ไหม?”
“เอ่อ…..” พนักงานคนนั้นเกาหัว “เพียงแค่เป็นเพื่อนของคุณฉิน น่าจะไปได้อยู่นะ……”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จงเยว่และฟางเสี่ยวเต๋ออดไม่ได้ที่จะดึงฉินเฉิงขึ้นมา แล้วเดินไปข้างหลังเวที
ในห้องที่ค่อนข้างหรูหราหลังเวทีห้องหนึ่ง ชูซีหยุนกำลังคุยกับผู้จัดงานบางอย่าง
ผู้จัดงานเป็นลูกพี่ใหญ่จากมณฑลปินโจว ชื่อว่าโฮ่ต๋า ว่ากันว่ามีมูลค่านับพันล้าน และในครั้งนี้ที่เขาเชิญชูซิหยุน จุดประสงค์หลักคือร่างกายที่ผู้คนปรารถนาและใบหน้ารูปไข่ของชูซีหยุน
“คุณผู้หญิงชู คุณคิดว่าฉันสามารถเชิญคุณไปเลี้ยงข้าวสักมื้อได้ไหม?” โฮ่ต๋าพูดด้วยแววตาที่หื่นกาม
ชูซีหยุนขมวดคิ้วและพูด :”ต้องขออภัยด้วย ฉันนัดคนไว้แล้ว”
โฮ่ต๋ายังมาพร้อมกับคำข่มขู่และพูด :”ไม่เป็นไร พาเขาไปด้วยเลยก็ได้นะ ให้ฉันรู้จักเขาไปด้วยเลยก็ได้นะ ฉันอยากจะรู้นักว่าใครเป็นคนที่โชคดีขนาดนี้ สามารถรู้จักดาราใหญ่ได้!”
สิ้นสุดเสียง มีมือข้างหนึ่งยื่นมาวางบนไหล่ของเขา
“แกอยากรู้จักฉันยังไงเหรอ?” เสียงของฉินเฉิงดังมาเหมือนกับผี ดังขึ้นมาที่ข้างหูของโฮ่ต๋า
ทันใดนั้นโฮ่ต๋าตัวสั่นทันที เขาเริ่มโกรธ จากนั้นฉันก็เห็นใบหน้าที่ไม่เป็นอันตรายของฉินเฉิง
“ฉิน……ฉินฉินฉิน……” โฮ่ต๋าตกใจจนลิ้นพันกันโดยตรง อึ้งไปชั่วขณะจนพูดไปออก
“ที่แท้เป็นคนติดอ่างเหรอ” ฟางเสี่ยวเต๋อบ่นพึมพำอยู่ข้างๆ
โฮ่ต๋าไม่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก เขาพูดด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย :”คุณ……คุณฉิน ต้องขออภัยด้วย ที่แท้คุณและคุณผู้หญิงชูรู้จักกันเหรอ…..”
ฉินเฉิงไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่เป็นการชี้ไปทางประตู
โฮ่ต๋ารีบลุกขึ้น ยิ้มและพูด :”ฉันจะไส้หัวไปเดี๋ยวนี้!”
ชูซีหยุนที่อยู่ด้านข้างตะลึงอย่างมาก พูดด้วยความสงสัย :”ทำไหมโฮ่ต๋าถึงกลับนายขนาดนี้?”
“ไม่รู้นะ น่าจะเป็นเพราะว่าฉันมีหน้าตาที่คนหวาดกลัวมั้ง” ฉินเฉิงนั่งบนโซฟาอย่างสบาย ๆ
แต่ฟางเสี่ยวเต๋อและจงเยว่ตื่นเต้นจนไม่รู้จะอธิบายออกมายังไงแล้ว คนทั้งสองล้อมรอบชูซีหยุน ถามต่างๆนาๆอย่างไม่หยุด
ชูซีหยุนคิดไม่ถึงเลยว่าฉินเฉิงจะพาคนอื่นมาด้วย หลังจากที่เธอรีบจัดการกับประโยคไม่กี่ประโยค จากนั้นเดินมาอยู่ต่อหน้าฉินเฉิง
“พูดมาได้เลย หาฉันมีเรื่องอะไร” ฉินเฉิงหลับตาลงเล็กน้อยแล้วพูด
“ทำไหม ไม่มีเรื่องอะไรก็หานายไม่ได้เหรอ?” ชูซีหยุนกระพริบตาและพูด :”คิดถึงนาย พอใจหรือยัง? คือว่าเดี๋ยวจะชวนนายไปกินข้าวได้ไหม?”
“ไม่ได้!” ฟางเสี่ยวเต๋อที่ยังคงตื่นเต้นเมื่อวินาทีที่แล้ว วินาทีนี้เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
เธอยืนอยู่หน้าฉินเฉิง พูดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย :”คุณผู้หญิงชู ฉินเฉิงมีแฟนสาวแล้ว ขอให้คุณพูดจาช่วยเคารพตัวเองนิดหน่อย ไม่อย่างนั้นอย่าโทษฉันไม่เกรงใจนะ!”
ในฉากนี้ทำให้ฉินเฉิงกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกทันที ความเร็วของการเปลี่ยนสีหน้าของฟางเสี่ยวเต๋อ ทำให้คนสะดุ้งจริงๆ!
แต่สิ่งนี้ยังแสดงให้เห็นปัญหาจากด้านข้าง นั่นคือฟางเสี่ยวเต๋อและซูวานมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างมาก แม้แต่ต่อหน้าจะเป็นไอดอลของตัวเอง ยังคงไม่มีความลังเลที่จะยืนอยู่ข้างเดียวกับซูวาน
“เอาล่ะ ฉันก็แค่พูดล้อเล่น อย่ากังวลไป” ชูซีหยุนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย ทำไหมเมืองเจียงถึงมีแต่คนแปลกประหลาด!
“อ่ะ นี่คือเงินยี่สิบล้านที่ติดนาย” ชูซีหยุนพูดอย่างจริงจัง
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอหยิบกล่องเล็ก ๆ จากกระเป๋าของเธอแล้วยื่นให้ฉินเฉิง
“นายช่วยฉันเอาไว้ ฉันไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณนายยังไงดี นี่คือยาที่ปู่ของฉันได้มาจากปรมาจารย์จากต่างประเทศ ว่ากันว่ามีผลอัศจรรย์ แต่มันใช้ไม่ได้สำหรับคุณปู่ของฉัน มอบให้นายแล้วกัน” ชูซีหยุนพูด
หลังจากที่ฉินเฉิงรับกล่องนี้มา แววตาเป็นประกายขึ้นมาทันที