คำพูดของเหลียนจี้เทียน ทำให้สีหน้าของหลิวชวินเปลี่ยนกะทันหัน ดูเหมือนว่าคิดถึงอะไรบางอย่าง
“คุณ…..คุณเหลียน เขาคงไม่ใช่ฉินเฉิงคนนั้นที่ทำให้ตระกูลเฝิงก้มหัวให้นะ…….” หลิวชวินถามด้วยริมฝีปากสั่นเทา
เหลียนจี้เทียนหัวเราะอย่างเย็นชาและพูด :”หรือว่าไม่ใช่เหรอ?”
สีหน้าของหลิวชวินเปลี่ยนทันที เขาไม่สนใจความเจ็บปวดแล้ว คุกเข่าขอความเมตตาและพูด :”คุณเฉินปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันมีตาหามีแววไม่ ฉันเป็นคนตาต่ำ เพียงแค่ขอให้คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ……”
ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาโบกมือและพูด :”เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กเท่านั้น ฉันไม่ได้จะฆ่าแกอยู่แล้ว”
หลิวชวินได้รับการนิรโทษกรรมทันที คำนับอย่างสุดชีวิตและพูด :”ขอบคุณคุณฉิน ขอบคุณคุณฉิน!”
และหลินชวนที่อยู่ด้านข้างก็ยิ่งละอายใจมากขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนในศิลปะการต่อสู้ก็ตาม แต่เขารู้จักตระกูลหู รู้จักตระกูงเฝิง!
“ฉิน…..ฉินเฉิง ฉัน…..ฉันผิดไปแล้ว……” หลิวชวนตกใจจนขาทั้งคู่สั่น แม้แต่ยืนก็ยืนไม่นิ่งแล้ว
สำหรับหลิวชวน ฉินเฉิงไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ แม้ทั่งไม่น่าขยะแขยงเลย
ในสายตาของเขา คนประเภทอย่างหลิวชวนเป็นเหมือนแค่ต้นหญ้าต้นไม้เท่านั้น ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ล้วนแล้วไม่คุ้มที่จะอยู่ในสายตา
ด้วยเหตุนี้ ฉินเฉิงไม่ได้สนใจ เขามองไปทางเหลียนจี้เทียนและถาม :”การแข่งขันนี้จะเริ่มตอนไหน?”
“เดี๋ยวนี้แล้ว” เหลียนจี้เทียนก้มหัวและพูด “คุณฉิน หรือไม่ก็พวกเรารีบเข้าไปในสถานที่ดีกว่าไหม”
“ได้” ฉินเฉิงไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่ต่ออีกต่อไป เขาตอบกลับหนึ่งคำ จากนั้นกลับเข้าไปสนามแข่งอีกครั้ง
หลังจากนั่งลง ฉินเฉิงพบว่าเจ้าแห่งลมปราณหูกำลังวอมร่างกายของเขา ด้วยท่าทางที่พร้อมจะต่อสู้
ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความประหลาดใจ :”เจ้าแห่งลมปราณหู หรือว่าผู้ตัดสินก็ต้องลงไปประลองด้วยเหรอ?”
เจ้าแห่งลมปราณหูหัวเราะเสียงดัง :”ในเรื่องนี้ยังมีอะไรที่คุณไม่เข้าใจ คนที่เหมือนกับพวกเรา ชื่อเสียงเป็นของนอกกาย ไม่รู้ว่ามีคนเท่าไหร่ที่ต้องการเหยียบย่ำขึ้นตำแหน่งของพวกเรา ล้วนแล้วมีคนต้องการมาท้าทายผู้ตัดสิน”
“มันเป็นเพราะอะไร?” ฉินเฉิงไม่เข้าใจอย่างมาก
เจ้าแห่งลมปราณหูยิ้มเบาๆและพูด :”ถ้าหากพวกเขาเอาชนะฉัน แล้วคนเหล่านั้นก็จะกลายเป็นดาวดวงใหม่ ถ้าหากพวกเขาแพ้ฉัน ก็ไม่มีผลกระทบอะไรเลย แม้กระทั่งในเวลาเดียวกันอาจนำชื่อเสียงมาด้วย และฉันก็ไม่สามารถลงมือฆ่าได้ แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ทิ้งไปอย่างแน่นอน”
“งั้นถ้าหากไม่ยอมรับล่ะ?” ฉินเฉิงถาม
“ถ้าหากไม่ยอมรับ คนอื่นก็จะบอกว่าคุณเป็นเต่าหัวหด” เจ้าแห่งลมปราณหูส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าแห่งลมปราณหู ฉินเฉิงค่อยรู้แจ้งกระกระจ่างทันที
ไม่น่าแปลกใจที่อาจารย์หลายคนเลือกที่จะอยู่อย่างสันโดษ เกรงว่าคงเบื่อที่ถูกคนระยำมาท้าประลองทุกวัน
“เมื่อชื่อเสียงของคุณยิ่งอยู่ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ คุณก็จะเข้าใจถึงความขมขื่นแบบนี้” เจ้าแห่งลมปราณหูถอนหายใจและพูด
“นี่ก็คือจุดประสงค์ที่คุณเชิญฉันมาที่นี่ใช่ไหม?” ฉินเฉิงมองไปทางเจ้าแห่งลมปราณหู
เจ้าแห่งลมปราณหูกล่าวด้วยความเขินอายเล็กน้อย :”ไม่ผิด คุณฉิน ในเรื่องนี้ฉันปิดบังคุณจริงๆ หวังว่าคุณอย่าได้ใส่ใจ……..”
ฉินเฉิงโบกมือและพูด :”ไม่ใส่ใจ ท้ายที่สุดแล้วฉันก็ไม่ได้มาเปล่าๆ ถ้าไม่ทำอะไรสักหน่อย ตรงกันข้ามฉันรู้สึกละอายใจนิดหน่อย”
“อย่างนั้นคุณก็สบายใจได้เลย” เจ้าแห่งลมปราณหูพยักหน้าและพูด
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะมองไปทางพันโฮวที่อยู่ข้างๆ
เสียงตะโกนของเขาเมื่อคืนนี้ เดาได้ว่าทำให้คนหงุดหงิดไม่ใช่น้อย? ผู้เข้าแข่งขันในวันนี้จะใช้โอกาสนี้ประลองกับพันโฮวหรือไม่?
ระหว่างที่พูด เกมการแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว
สำหรับฉินเฉิงแล้ว เกมการแข่งขันเหล่านั้นเหมือนกับการละเล่นของคนทั่วไป แทบไม่มีอะไรให้ดูเลย
เช่นเดียวกับเกมอื่น ๆ หลังจากผ่านการคัดเลือกระดับแล้วระดับเหล่า ท้ายที่สุดแล้วก็เลือกผู้ชนะออกมา
ฉินเฉิงนั่งอยู่บนเวที เฝ้ามองดูพวกเขาอยู่เงียบๆ ในไม่ช้า สายตาของเขาจับจ้องไปที่บนตัวของคนสองคน
สองคนนี้ล้วนแล้วอยู่ในระดับเจ้าแห่งพลังปราณ หนึ่งในนั้นดูเหมือนว่าอายุสี่สิบกว่า เขามีเคราเต็มปากไปหมด ความดุดันบนใบหน้าไหลอย่างเป็นธรรมชาติ บนร่างกายมีจิตสังหาร แข็งแกร่งเป็นพิเศษ
เห็นได้ชัดอย่างมาก คนนี้ผ่านการต่อสู้ชีวิตและความตายมานับไม่ถ้วน ผู้เข้าแข่งขันที่ประลองฝีมือกับเขา บางคนก็พิการ บางคนก็ตายในสนามแข่งเลย
อีกคนหนึ่งอายุยังน้อย ดูเหมือนว่าประมาณสามสิบ วิธีการนุ่มนวลอย่างมาก
“เกรงว่าสองคนนี้มีความโดดเด่นอย่างมากในการแข่งขันครั้งนี้” ในเวลาเดียวกันเจ้าแห่งลมปราณหูก็สังเกตเห็นการมีอยู่ของคนสองคนนี้
ฉินเฉิงพยักหน้าเบาๆ พูดเสียงต่ำ :”คนที่มีเคราคนนั้น เกรงว่าจะมาไม่ดี”
พันโฮวหัวเราะเยาะและพูด :”น้องชายฉิน ไม่ใช่ว่าคุณกลัวแล้วนะ? ในฐานะคนที่มา ฉันจำเป็นต้องเตือนคุณสักหน่อยนะ ความดีไม่เหมาะกับตำแหน่ง ย่อมต้องมีภัย คุณนะ ระวังไว้หน่อยก็ดีนะ”
ฉินเฉิงเหลือบมองเขาหนึ่งที และพูด :”คำพูดนี้ ฉันก็มอบให้คุณเช่นกัน”
“คุณหมายความว่ายังไง!” พันโฮวโกรธอย่างมากทันที “ทำไหม คุณคิดว่าตำแหน่งประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้ไม่คู่ควรกับฉันเหรอ?”
ฉินเฉิงขี้เกียจสนใจเขา ไม่พูดอะไรอีกต่อไป นั่งชมการแข่งขันอย่างเงียบๆ
“ตุ้ม!” บนเวที ชายร่างใหญ่มีเคราต่อยหัวของฝ่ายตรงข้ามหนึ่งหมัด หัวของผู้เข้าแข่งขันคนนั้นระเบิดออกทันที ไม่รู้ว่าคนเท่าไหร่หายใจเข้าด้วยความตะลึง!
“วิธีการโหดเหี้ยมอย่างมาก” เจ้าแห่งลมปราณหูขมวดคิ้วเล็กน้อย
ต่อจากนั้น การแข่งขันรอบต่อไป ชายร่างใหญ่มีเคราหักคอของคู่ต่อสู้อย่างโหดร้าย!
การแข่งขันสิบกว่ารอบติดต่อกัน คนที่ประลองฝีมือกับเขา ถูกฆ่าอย่างทารุณทั้งหมด ไม่มีใครรอดแม้แต่คนเดียว!
“ทำตามอำเภอใจมากเกินไปแล้ว ช่างโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!” พันโฮวลุกขึ้นทำคดี จ้องที่ชายร่างใหญ่ที่มีเคราด้วยความโกรธ
“การแข่งขันจัดขึ้นมาหลายปีแล้ว ไม่เคยเห็นตัวร้ายแบบนี้มาก่อน!” พันโฮวลุกขึ้นและพูด “ในฐานะประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้ ฉันไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์แบบนี้ดำเนินต่อไปได้!”
“ประธานพันเดี๋ยวก่อน” เจ้าแห่งลมปราณหูพยักหน้าเบาๆ “ใกล้จะถึงการแข่งขันรอบสุดท้ายแล้ว คุณลงมือตอนนี้ มันสายเกินไปแล้ว”
พันโฮวคิดสักพัก พยักหน้าพูด :”เอางั้นก็ได้”
ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่ด้านข้าง พันโฮวคนนี้เป็นคนที่เจ้าเล่ห์จริงๆ เขาไม่ยอมลงมือแต่เนินๆและไม่ยอมลงมือสายๆ แต่กลับต้องการสั่งให้หยุดในเวลารอบสุดท้าย เห็นได้ชัดอย่างมาก เขาไม่ต้องการให้การแข่งขันถึงตอนสิ้นสุด
การแข่งขันรอบสุดท้าย ย่อมเป็นการดวลกันระหว่างชายหนุ่มกับชายมีเครา
ทั้งสองยืนอยู่บนเวที แรงกดดันอันทรงพลังมีการกดดันอยู่รอบๆตัวขึ้นมา
จากมุมมองของความผันผวนภายใน ทั้งสองมีความแข็งแกร่งเท่ากัน แต่วิธีการของชายมีเคราดุร้ายกว่า เกรงว่าหนุ่มคนนี้จะประสบความสูญเสียครั้งใหญ่
การแข่งขันเริ่มอย่างรวดเร็ว การต่อสู้ของทั้งคู่เร่งเร้าความกระตือรือร้นของฉากให้ถึงจุดไคลแม็กซ์!
ตามที่ฉินเฉิงคาดไว้ เพราะว่าวิธีการลงมือของชายมีเคราโหดเหี้ยมกว่า ดังนั้นจึงเหนือกว่าชายหนุ่มหนึ่งก้าว
และชายหนุ่มถูกโจมตีจนถอยอย่างต่อเนื่อง เกือบตายหลายครั้ง
“ต้นกล้าดีๆแบบนี้ ห้ามมีจุดจบอยู่บนเวทีเลยนะ” เจ้าแห่งลมปราณหูขมวดคิ้วเอาไว้แน่น เห็นได้ชัดออย่างมาก เขาอยากจะให้ชายหนุ่มคนนี้ชนะ
ฉินเฉิงนั่งบนเวทีโดยไม่พูดอะไรสักคำ ในเวลานี้ ทันใดนั้นชายหนุ่มคนนั้นก็เดินเซ นั่งลงไปบนพื้นอย่างแรง
และชายมีเคราไล่โจมตีอย่างมีชัย พร้อมกับหมัดหนักที่ดุร้าย โจมตีไปยังใบหน้าของชายหนุ่มโดยตรง!
“หยุดก่อน!” เจ้าแห่งลมปราณหูตะโกน เขาก้าวไปข้างหน้า คว้ามือของชายมีเคราเอาไว้
แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ มือของชายมีเครายังคงตกลงไปบนหัวของชายหนุ่ม
แต่เนื่องจากการแทรกแซงของเจ้าแห่งลมปราณหู ทำให้ความแข็งแกร่งลดลงอย่างมาก หมัดนี้กลับไม่ได้เอาชีวิตของชายหนุ่มไป
ชายหนุ่มตกใจจนหน้าซีดขาว แขนขาทั้งคู่อ่อน เขารีบลุกขึ้น พูดด้วยความกลัวที่เอ้อระเหย :”ขอบ…..ขอบคุณเจ้าแห่งลมปราณหูที่ช่วยชีวิต!”
เจ้าแห่งลมปราณหูโบกมือ และพูด :”ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ”
ชายมีเคราพูดอย่างเย็นชา :”พวกเราสองคนยังไม่ได้ตัดสินผลลัพธ์ คุณกลับมาหยุดการแข่งขัน เจ้าแห่งลมปราณหูหมายความว่ายังไง?”
เจ้าแห่งลมปราณมือไขว่หลัง พูดอย่างไม่แยแส :”พวกคุณสองคนได้ที่หนึ่งร่วมกัน”
“ได้ที่หนึ่งร่วมกัน?” ชายมีเคราไม่พอใจอย่างมาก “แสดงว่า พวกเราสองคนล้วนแล้วได้รับยาวิญญาณคนละเม็ดเหรอ?”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว” เจ้าแห่งลมปราณไขว่มือทั้งคู่และพูด “เนื่องจากพวกคุณสองคนล้วนแล้วเป็นชนะเลิศ จะได้รับรางวัลชนะเลิศอย่างเป็นธรรมชาติ”
ชายมีเคราหัวเราะฮ่าๆและพูด :”ดังนั้น พวกเราสองคนล้วนแล้วสามารถประลองกับผู้ตัดสินอย่างพวกคุณได้แล้วใช่ไหม?”
เจ้าแห่งลมปราณหูขมวดคิ้ว ดูไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย
ด้วยเหตุนี้ เขาพูดอย่างเย็นชา :”แน่นอนว่าได้อยู่แล้ว ฉันยืนอยู่ตรงนี้แล้ว ลงมือได้เลย”
ชายมีเคราพยักหน้าและพูด :”เป้าหมายของฉันไม่ใช่คุณ”
เจ้าแห่งลมปราณขมวดคิ้วและพูด :”อย่างนั้นคุณต้องการอะไร?”
ชายมีเคราไขว่มือทั้งคู่ไว้ ชี้ไปบนเวที ตะโกนพูด :”ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้มีปรมาจารย์คนหนึ่งที่ชื่อว่าฉินเฉิงปรากฏตัวอออกมาจากมณฑลปิงโจว วันนี้ก็อยู่บนเวทีของการตัดสิน ไม่ทราบว่าคุณฉินสามารถลงมาจากเวทีประลองสักหน่อยไหม?”
สิ้นสุดเสียง ทุกคนเริ่มตะโกนชื่อฉินเฉิงขึ้นมา
ตามที่เจ้าแห่งลมปราณหูคาดเอาไว้ คนมากมายมาที่นี่ก็เพื่อฉินเฉิง
รวมถึงบางคนที่แพ้เกมไปแล้วเหล่านั้น ต้องการประลองฝีมือกับปรมาจารย์ที่มีอายุยี่สิบกว่า
“ฮ่าๆๆ เป็นยังไง ฉันเคยพูดแล้ว ความดีไม่เหมาะกับตำแหน่ง ย่อมต้องมีภัย” สัมผัสแห่งชัยชนะแวบวาบในสายตาของพันโฮว
และเจ้าแห่งลมปราณหูที่ยืนอยู่บนเวทีก็ดูสงบ เห็นได้ชัดว่ามีการคาดการณ์สถานการณ์นี้เอาไว้แล้ว
เขาหัวเราะอย่างไม่แยแสและพูด :”คุณแน่ใจเหรอว่าต้องการประลองฝีมือกับฉินเฉิง?”
“ไม่ผิด” ชายมีเคราหัวเราะอย่างเย็นชาและพูด “ฉันอยากประลองฝีมือกับปรมาจารย์ที่มีอายุยี่สิบกว่า”
เจ้าแห่งลมปราณหูพยักหน้า เขาหัวเราะอย่างไม่แยแสและพูด :”งั้นฉันทำได้เพียงแสดงความยินดีกับคุณล่วงหน้าเท่านั้น”
หลังจากนั้น เขาเดินไปอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มคนนั้น พูดเสียงเบา :”เดี๋ยวคุณต้องการท้าประลองฝีมือกับผู้ตัดสินไหม?”
ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย ถามอย่างระมัดระวัง :”ฉันก็ประลองได้เหรอ?”
“แน่นอน” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักของเจ้าแห่งลมปราณหู “จำเอาไว้ เดี่ยวอีกสักพักเลือกพันโฮว เขาเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินของพวกเราที่อ่อนแอมากที่สุด”
ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างแรง ในแววตาเต็มไปด้วยการขอบคุณ
บนเวที ฉินเฉิงคิ้วขมวดเล็กน้อย
เขาสามารถเข้าใจความรักของเจ้าแห่งลมปราณหูได้ แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ออกคือ เจ้าแห่งลมปราณหูสามารถช่วยชายหนุ่มคนนี้ได้ อย่างนั้นคนอื่นๆที่ตายด้วยมือของชายมีเคราล่ะ? ชีวิตของพวกเขาไม่มีค่าเหรอ?
“คุณฉิน” เจ้าแห่งลมปราณหูเดินมาอยู่ต่อหน้าฉินเฉิง เขาสุดลมหายใจหนึ่งที และพูด :”ชายมีเคราคนนี้ เกรงว่ายังซ่อนความแข็งแกร่งบางอย่างเอาไว้ คุณต้องระวังให้มากนะ”
ฉินเฉิงเงียบไม่พูด เขาก้าวเดินออกมา ในพริบตาก็กระโดดมาอยู่บนเวทีแล้ว
มุมปากของชายมีเครายกขึ้นและหัวเราะอย่างเย็นชา เขาพูดเสียงต่ำ :”ฉินเฉิง แกกล้าขึ้นเวทีจริงๆด้วย!”
ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดเสียงต่ำ :”แกเป็นใคร?”
“สำนักชื่อหลง ดาวดวงใหม่เซี่ยจุน!” สีหน้าของชายมีเคราค่อยๆเย็นลงอย่างช้าๆ
“ที่แท้เป็นคนของสำนักชื่อหลง” ฉินเฉิงลูบหัว “สำนักชื่อหลงของพวกแกไม่จบไม่สิ้นเลยนะ”
“สำนักชื่อหลงมีแค้นต้องชำระ” ชายมีเครามีการเคลื่อนไหวข้อมือ “วันนี้ แกจำเป็นต้องตายที่นี่!”
นี่เป็นการท้าทายครั้งที่สามถึงที่ของสำนักชื่อหลงแล้ว ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเบื่อเล็กน้อย
“ตกลงต้องทำยังไงสำนักชื่อหลงของพวกแกถึงจะหยุดสักที?” ฉินเฉิงพูดอย่างหมดหนทาง
ชายมีเคราหัวเราะฮ่าๆและพูด :”มีสองทางเลือก อย่างที่หนึ่งคือแกตาย อย่างที่สองคือเข้าร่วมสำนักชื่อหลง ไม่อย่างนั้นตามฆ่าอย่างไม่มีวันสิ้นสุด!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของฉินเฉิงค่อยๆเย็นลง
“และยังมีทางเลือกที่สาม” พลังชีบนร่างกายของฉินเฉิงพุ่งออกมาอย่างแรง “นั่นก็คือเหยียบย่ำสำนักชื่อหลง”