ทันทีที่มีข่าวออกมา มันก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองปีนัง
เพราะความลึกลับของเฮยฉาน แม้แต่ต้วนซุนเองก็ยังทำอะไรไม่ได้เลย คนแบบนี้เค้าไม่เคยเจอเลยด้วยซ้ำ
หลังจากได้ยินข่าวนี้ หลายคนเลือกที่จะหนีไปเพราะกลัวว่าฉินเฉิงจะถูกตอบโต้แล้วตัวเองจะติดร่างแหไปด้วย
ที่สำนักงานของบริษัท ฉางหลุนกำลังดิ้นรนอยู่
มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าฉินเฉิงอยู่ที่ไหน เค้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
ถ้าเขาเลือกที่จะบอกเฮยฉาน ตอนนี้เค้าก็อาจจะพอได้รับโอกาสบ้าง
ในหัวของฉางหลุนก็มีสองความคิดที่วนไปวนมา เค้ากำมือแน่นราวกับว่ามันเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่
หลังจากผ่านไปได้ไม่นาน มือของเค้ามันก็ค่อยๆคลายออก
“ถ้าฉันไม่ได้พึ่งพาเค้าตั้งแต่แรก บางทีตอนนี้มันก็อาจจะพอมีโอกาสอยู่บ้าง” ฉางหลุนก็พูดเบาๆขึ้นมา
เค้าตัดสินใจที่จะปกปิดที่อยู่ของฉินเฉิงเอาไว้
…
บนภูเขาหลงไห่ เซียงเหม่ยเอ๋อก็ลืมตาขึ้น มันดูไม่ออกเลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“คุณหนูครับ ผมตรวจสอบแล้ว คนๆนั้นคือเจ้าเมือง เมืองซวนหมิง ชื่อของเค้าคือเฮยชาน” เหล่าซ้งก้มหน้าแล้วพูดขึ้นมา
เซียงเหม่ยเอ๋อพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ฉันเคยได้ยินชื่อนี้ มันค่อนข้างโด่งดังในตะวันตกเฉียงใต้ ฉันไม่รู้จริงๆว่าฉินเฉิงไปทำให้เค้าขุ่นเคืองได้ยังไงกัน”
“หืม ในที่สุดผมก็รู้แล้วว่าทำไมจู่ๆฉินเฉิงก็หายตัวไป” เหล่าซ้งก็เยาะเย้ยขึ้นมา “เค้าคงรู้ข่าวนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ก็เลยไปซ่อนตัว”
เซียงเหม่ยเอ๋อเหลือบมองเหล่าซ้ง เธอส่ายหัวและพูดว่า: “เป็นไปไม่ได้ จากที่ฉันรู้มาจากซูวาน ผู้ชายคนนี้เค้าไม่เคยกลัวอะไร”
“นั่นมันก็ไม่เสมอไปนะครับ บางทีคุณซูอาจจะพลาดไป” เหล่าซ่งพูดอย่างไม่มั่นใจ
เซียงเหม่ยเอ๋อไม่พูดอะไร เธอรู้จักซูวานดี
หลายปีที่ผ่านมา ซูวานไม่เคยมองผู้ชายที่ไหนเลย แม้แต่คนที่มาจากเมืองจิงตู เธอก็ปฏิเสธ แต่เธอกลับมาหลงรักชายผู้ยากไร้คนนี้
ผู้ชายคนนี้เค้าน่าจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น มันก็ผ่านไปแล้วสามวัน แต่ฉินเฉิงก็ยังไม่ปรากฎตัว
ในตอนนี้ หลายคนที่เกี่ยวข้องกับฉินเฉิง พวกเค้าต่างก็เริ่มตื่นตระหนก
คนที่กลัวมากที่สุดก็คือจินฮู่
เค้านั่งอยู่ในห้องทำงาน ถูหัวล้านของตัวเองไปมาอยู่ตลอดเวลา
ที่นอกสำนักงาน ลูกน้องหลายสิบคนได้รับมอบหมายให้ดูแลเค้า แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ไม่สามารถลดละความกลัวของเค้าไปได้เลย
“บอส ฉินเฉิงนี่เค้าคงจะไม่ได้กลัวใช่ไหม?” ลูกน้องของจินฮู่ก็บ่นขึ้นมา
จินฮู่เหลือบมองเค้าแล้วพูดว่า: “ไร้สาระ มันเป็นไปไม่ได้!”
“นี่มันก็ผ่านมาหลายวันแล้ว เค้ายังไม่ออกมาเลยนะครับ…”
“หุบปาก!” จินฮู่ตะโกนขึ้นมา “คุณฉินบอกว่าเค้ามีเรื่องบางอย่างที่จะต้องไปทำ”
“พี่ฮู่ พี่กลัวไหมครับ?” ลูกน้องก็ถามอย่างไม่มั่นใจ
จินฮู่ตกตะลึง เค้าตบหน้าอกของตัวเองแล้วพูดว่า “แกเคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนไหม? กลัวสิ? ล้อเล่น!”
“ปังปัง!”
ในตอนนี้เอง ก็มีคนมาเคาะประตูที่ข้างนอก จินฮู่ก็ตกใจมากจนรีบเข้าไปหลบอยู่ที่ใต้โต๊ะ
…
“นี่มันก็ผ่านมาแล้วสามวัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าฉินเฉิงไม่ปรากฏตัว ฉันจะฆ่ามันทีละคน!”
เฮยฉานพูดขึ้นมาอีกครั้ง มันยิ่งทำให้ผู้คนหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก
“ฉันบอกว่า คนบ้ามันจะต้องได้รับการลงโทษ!!” ที่ตระกูลหลิน หลินชวนเจิ้งก็มีสีหน้าที่ดุร้าย
“เหตุผลที่ตระกูลหลินของเรามาถึงจุดนี้ก็คือฉินเฉิง! ไอ่หมอนั่น ฆ่าฉินเฉิงยิงเร็วก็ยิ่งดี!”
หลินชิงเฉิงไม่ได้พูดอะไรเลย ทั้งหมดที่เธอกำลังคิดอยู่ก็คือน้องสาวของเธอ
ในตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีร่างหนึ่งที่เดินเข้ามา
ทันทีใดนั้นเอง เธอก็มองเห็นร่างสูงอายุยืนอยู่หน้าหลินชวน
“นายเอง!” สีหน้าของหลินชิงเฉิงก็เปลี่ยนไปในทันทีเมื่อมองเห็นเหยฉาน
เฮยฉานเพิกเฉยต่อหลินชิงเฉิง แต่เค้ามองไปที่หลินชวนและเยาะเย้ย: “ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นพ่อบุญธรรมของฉินเฉิง งั้นก็เริ่มจากแกเลยก็แล้วกัน”
หลินชวนผงะและรีบป้องกันตัวเอง: “ฉันไม่ใช่พ่อบุญธรรมของเค้า…อ๊ะ!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เฮยฉานก็เอาฝ่ามือตบหน้าผากของเค้า
หลินชวนเลือดออกแล้วเสียชีวิตไปในทันที
“อร้ายย!!!” หลินชิงเฉิงจับหัวของตัวเองแล้วกรีดร้องอย่างสิ้นหวัง
…
การตายของหลินชวนทำให้ทุกคนยิ่งกลัวมากขึ้น
มันเห็นได้ชัดว่าเฮยฉาน ไม่ได้แค่จะขู่ให้พวกเค้ากล้ว แต่เค้าฆ่าคนจริงๆ
“บอส หรือ…หรือพวกเราจะหนี” ในห้องทำงานของจินฮู่ พวกลูกน้องก็หวาดกลัวกันขึ้นมา
จินฮู่มีแผนนี้มานานแล้ว เค้าเหลือบมองดูเวลาแล้วบ่นขึ้นมา: “วันนี้มันฆ่าคนแล้ว วันนี้ถ้าจะหนีมันก็ยังไม่สายเกินไป!”
จินฮุ่ขับรถในตอนกลางคืน เข้าตรงเข้าไปที่เมืองเอกของมณฑล
ที่เมืองเอกของมณฑลมันก็มีคนๆหนึ่งที่เค้าต้องการที่จะตามให้กลับไปที่เมืองปีนัง
คนนี้ก็คือนายท่านซู
แม้ว่าเค้าจะออกจากเมืองปีนังไปแล้ว แต่เค้าก็ยังมีเส้นสายอยู่ ข่าวนี้มันน่าจะมาถึงหูเค้าแล้ว
ตอนกลางคืน ที่ศาลา
นายท่านซูนั่งอยู่ตรงข้ามกับเฮยฉาน ที่ข้างหลังเค้ามีบอดี้การ์ดสี่คนพร้อมกับกระสุนจริง
“นายท่านซู” เฮยฉานยิ้มอย่างมืดมน
นายท่านซูจิบชาและพูดเบาๆว่า : “อย่างที่คิดเอาไว้เลย เจ้าเมือง เมืองซวนหมิงที่มีชื่อเสียง”
เฮยฉานยิ้มและพูดว่า “นายท่านซู นี่เป็นเรื่องความคับข้องใจระหว่างฉันกับฉินเฉิง มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย ฉันรู้ว่าตระกูลของคุณมีอำนาจมาก แต่ถ้าฉันต้องการจะฆ่าคุณ ต่อให้ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม ตระกูลของคุณมันก็ทำอะไรไม่ได้”
เมื่อได้ยินแบบนี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังนายท่านซูก็หยิบปืนพกออกมาแล้วเล็งไปที่หัวของเฮยฉาน
เฮยฉานถอนหายใจออกมาและโบกมือเบาๆ จากนั้นบอดี้การ์ดทั้งสี่คนก็หมดสติไป
นายท่านซูดูเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ เค้ายิ้มเบาๆและพูดว่า “ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องระหว่างคุณกับฉินเฉิง ฉันเชื่อว่าฉินเฉิงเค้าไม่มีวันที่จะหลบหนีหรอก”
“แต่… คุณก็ควรที่จะรอคอยเค้าอย่างช้าๆ หากคุณเลือกที่จะใช้วิธีฆ่าคนเพื่อให้เค้าออกมา..”
“แล้วแกจะทำไม” เฮยฉานหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย
“หน่วยงานรักษาความปลอดภัยจะกวาดล้างเมืองซวนหมิงนั่นภายในสามวัน!” เสียงของคุณปู่ซูไม่ดังมาก แต่มันจริงจังมาก!
ใบหน้าของเฮยฉานเปลี่ยนไปในทันที แม้ว่าเค้าจะอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ต่อให้เค้ามีพลัง แต่เค้าก็ขาดเส้นสาย
หากฝ่ายความมั่นคงตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำลายพวกเค้า มันก็อาจจะใช้เวลาแค่สามวันก็เท่านั้น!
เฮยฉานเงียบไปครู่หนึ่ง เค้าลุกขึ้นมาแล้วพูดว่า “โอเค ฉันตกลง”
“ฉันแนะนำว่าทางที่ดีก็อย่าใช้ความสัมพันธ์ของตระกูลเฝิงน่าจะดีกว่า” ในตอนนี้นายท่านซูก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่การติดต่อของตระกูลเฝิงในเมืองเอกของจังหวัด ฉันก็จัดการเก็บกวาดพวกมันไปแล้ว”
นายท่านซูรู้ชะตากรรมของเค้า ดังนั้นเค้าจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปูทางไว้ให้ซูวาน
สีหน้าของเฮยฉานเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ตามที่นายท่านซูคาดเดาไว้ เค้าวางแผนที่จะใช้เฝิงกง เพื่อจัดการกับนายท่านซู
แต่คำพูดของนายท่านซูก็ทำให้เฮยฉานเหงื่อแตก
“ไอ่แก่เจ้าเล่ห์นี่…” เฮยฉานด่าขึ้นมาในใจ เค้าสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วโค้งคำนับ “นายท่านซู ฉันจะถอยก่อนซักก้าวหละกัน”
เฮยฉานหายตัวไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเอง เค้าก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่อบแบบนี้ขึ้น เขารู้ดีว่าหากยังเป็นนี้ต่อไป บางทีเค้าอาจจะได้ไปตายที่โรงพยาบาล
“แต่ก็หวังว่าฉันจะอยู่พ้นปีนี้ไปได้…” นายท่านซูจับไปที่หน้าอกของเค้า สีหน้าของเค้าดูเศร้าเล็กน้อย