ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้ารอประโยคนี้มาตั้งนานแล้ว เขาประสานมือเพื่อน้อมรับและพูดออกมาว่า “ครับ! ผมจะไปเดี๋ยวนี้!
เซียงเหม่ยเอ๋อพูดออกมาด้วยความลังเล “นายรู้ไหม เฮยฉานคนนั้นเป็นถึงปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่? แถมยังมีทักษะทางด้วยเวทมนตร์ด้วย นายยังจะกล้าไปท้าเขาสู้อีกเหรอ?”
“ไม่เป็นไร” ฉินเฉิงตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่เฉยเมย หลังพูดจบเขาก็เดินกลับไปที่ห้อง
“ฉินเฉิงคนนี้จะบ้าเกินไปแล้ว!” เหล่าซ้งอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ก้าวข้ามคำว่าปรมาจารย์ไปแล้ว ความแตกต่างของมันนั้นมากกว่าที่จะจินตนาการได้ หลายปีที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครไปถึงขั้นนั้นได้เลย!”
เซียงเหม่ยเอ๋อรู้สึกสงสับเล็กน้อย ดูจากลมปราณภายในร่างกายของฉินเฉิงแล้วเขาก็เป็นแค่เจ้าแห่งพลังปราณธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่ทำไมถึงกล้าไปท้าทายเฮยฉาน? เขาบ้าไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?
แต่เธอเองก็ไม่ได้คิดมาอะไร เมื่อถึงเวลาที่สำคัญ ตระกูลเซียงของเธอจะต้องเข้าไปขัดขวางเขาไว้แน่
ที่ทำไปก็ไม่ใช่เพื่อใครอื่น ทั้งหมดก็เพื่อซูวาน
ข่าวการกลับมาของกระจายไปทั่วปีนัง
สิ่งที่มันจะผ่านไปแล้วกลับดังสนั่นขึ้นมาอีกครั้ง
“ในที่สุด”คนนั้นก็กลับมาแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกนายได้ยินข่าวนี้ไหม? คุณปู่ซูเองก็กลับมาแล้ว นี่มันหมายความว่าอย่างไง?”
“หรือว่าคุณปู่ซูจะเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย?”
“ฉันว่าไม่ใช่ ไม่แน่ว่าคุณปู่ซูเขาอาจจะไปไปหาคนของสำนักงานความมั่นคงเอาไว้ และรอให้เฮยฉานปรากฎตัวออกมา และทันใดนั้นเขาก็อาจจะถูกยิงตายทันที!”
ในตอนนั้นทุกคนต่างพูดอะไรออกไปต่างๆนานา
และพวกนักธุรกิจของปีนังก็ยังไม่ได้เลือกว่าจะยืนอยู่ฝั่งไหน พวกเขาเลือกที่จะดูไปก่อน
วันรุ่งขึ้น ฉินเฉิงยืนอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์อย่างสงบ เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าออกมา
ครั้งล่าสุดที่เขากลับมาจากเมืองหลวงก็ยังเป็นที่ที่คนพลุกพล่าน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นไม่ค่อยมีใคร
เป็นอย่างที่คิด คนพวกนั้นพึงพาไม่ได้กันเลย
ที่ทะเลสาบหลิวซิน เฮยฉานกำลังยืนอยู่บนผิวน้ำ
ในมือของเขาเต็มไปด้วยยันต์ เขาค่อยๆโยนยันต์เหล่านั้นลงไปในน้ำ
และรอบตัวของเขาก็เต็มไปด้วยหนอนกู่ ถ้าลองมานับจำนวนดูอย่างน้อยๆก็เป็นหมื่นตัว
เฮยฉานมองดูหนอนกู่เหล่านี้ด้วยความรักและพูดด้วยรอยยิ้ม เขาพูดออกมาว่า “หลังจากจบเรื่อง ฉันจะให้พวกแกกินอย่างสมใจ!”
ราวกับว่าหนอนกู่เหล่านั้นเข้าใจที่เขาพูด พวกมันกระโดดขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวา
ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เฮยฉานส่งอาหารไปให้หลินชิงชือทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้เธออดอาหารจนตาย
ร่างของหยางที่บริสุทธิ์ก็เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตทั้งนิกายของเขา บางทีไม่แน่ว่าอาจจะทำให้เขาก้าวข้ามสิ่งที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้ไปก็ได้
เฮยฉานยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้หลินชิงชือต้องมาตายที่นี่
“ฉินเฉิง นายจะต้องชดใช้ในสิ่งที่นายได้ทำลงไป” เฮยฉานหรี่ตาลงและพุดออกมา
ส่วนทางด้านของฉินเฉิงก็เหมือนว่าเขาไม่ได้ทำการเตรียมตัวอะไรเลย 24 ชั่วโมงของเขา เขาเอาแต่ดูแลคุณปู่ซู ทุกวันเข็นเขาออกไปที่ลานหน้าคฤหาสน์เพื่อตากแสงอาทิตย์ ให้รู้สึกสบายตัว
“น่าเสียดายที่อยู่ไม่ถึงวันที่นายกับวานเอ๋อมีลูกกัน” คุณปู่ซูถอนหายใจ
ฉินเฉิงเงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “ผมรับประกัน คุณไม่เพียงแต่จะได้เห็นลูกของผมกับซูวาน แต่คุณยังจะได้เห็นหลายของผมกับซูวานด้วย!”
ถึงแม้จะพูดออกไปแบบนั้น แต่ฉินเฉิงก็ไม่ได้มีความมั่นใจเหมือนกับคำพูด
สองวันนี้เขาคิดหาวิธีการมากมาย แต่เขาก็ยังหาวิธีที่จะยืดอายุของคุณปู่ซูต่อไปไม่ได้
เขาพยายามลองใช้พลังวิญญาณของเขาเพื่อทำลายออร่าแห่งความตายที่ปกคลุมร่างของคุณปู่ซู แต่ออร่าเหล่านั้นมันหายไปเพียงแค่แวบเดียวและมันก็กลับมาร่วมกันใหม่อีกครั้ง
คุณปู่ซูเขาสามารถปล่อยวางได้แล้ว ดังนั้นใบหน้าของเขาจึงไม่มีความกังวลใดๆ
แต่เสียอยู่อย่างเดียว เขาไม่สามารถพบกับซูวานก่อนที่จะจากไปได้
ก่อนที่จะสู้กับเฮยฉานหนึ่งคืน เฝิงกงพาคนของตระกูลเฝิงและลูกศิษย์ของเขามาที่ปีนัง
“พ่อ ผมให้คนไปหาข้อมูลของฉินเฉิงมา ทุกวันนี้เขาก็เพิ่งจะเป็นแค่เจ้าแห่งพลังปราณธรรมดาๆ” เฝิงเหยนพูดออกมา “ฉันว่าฉันคงไม่มีโอกาสที่จะได้ลงมือ”
“เป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว” เฝิงกงพูด
เฝิงเหยนถอนหายใจ พูดออกมาเสียงต่ำว่าๆ “น่าเสียดายที่ไม่สามารถแก้แค้นให้กับตระกูลเฝิง และกู้สักดิ์ศรีคืนมาด้วยตัวเองได้”
เฝิงกงยิ้ม “ไม่ต้องเป็นกังวลไป โอกาสยังมีอีกตั้งมากมาย พวกเราแค่รอเวลาเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้คุณปู่ซูคงอยู่ได้อีกไม่นาน การที่จะไปต่อต้านกับเขาในตอนนี้คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี”
“ใช่ครับ” เฝิงเหยนพยักหน้า “ถ้าหากเขาตายไป ตระกูลเฝิงของเราก็สามารถฟื้นฟูกลับมาอีกครั้งได้”
“รอหน่อย” เฝิงกงยิ้ม “พรุ่งนี้ก็รู้ผลแล้ว”
ในตอนนั้นฉินเฉิงกำลังนั่งอยู่ข้างๆคุณปู่ซู
จนกระทั่งถึงตอนเช้าฉินเฉิงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะง่วง
ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ร่างของคุณปู่ซู
“ความตายกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่ามันจะถึงจุดสูงสุดในไม่ช้า” ฉินเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมา
และในตอนนั้นก็มีร่าสองร่างกำลังเดินเข้ามา
เมื่อเห็นร่างของสองร่างนั้น ฉินเฉิงก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นเป็นอย่างมาก
ร่างทั้งสองเป็นร่างดำหนึ่งร่าง ร่างขาวอีกหนึ่งร่าง เหมือนกับที่กล่าวไว้ตำนานไม่มีผิด ในมือของพวกเขาถือโซ่ เสียงโซ่ลากพื้นทำให้ชวนขนลุก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นภาพแบบนี้ ครั้งล่าสุดตอนที่คุณซูป่วยหนักฉินเฉิงก็เคยได้เห็นแล้ว
เขาไม่รอช้ารีบหยิบยาชุบชีวิตป้อนเข้าไปที่ปากของคุณปู่ซูทันที
แต่น่าเสียดายที่ของสิ่งนั้นไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับร่างทั้งสองร่างนี้ เขายังคงเดินเข้ามาหาคุณปู่ซูอย่างช้าๆ
“ออกไปซะ!” ฉินเฉิงระเบิดพลังอย่างรุนแรง ทำให้ของในห้องของเขาพังละหล่นลงมา
แต่ภูตผีทั้งสองนั้นไม่ได้รับผลกระทบเลย ราวกับว่ามองไม่เห็นฉินเฉิง
“หยุดอยู่ตรงนั้น หยุดเดี๋ยวนี้!” ฉินเฉิงกำหมัดแล้วกระแทกใส่ทั้งสองคน!
“ตู้มม!” หมัดของฉินเฉิงผ่านร่างกายไปกระทบกับกำแพงที่อยู่ด้านหลัง
ไม่นานร่างทั้งสองก็มาอยู่ตรงด้านหน้าของคุณปู่ซู เขาหยิบโซ่ที่อยู่ในมือไปคล้องคอของคุณปู่ซูเอาไว้!
จากนั้นพวกเขาก็ดึงวิญญาณของคุณปู่ซูออกมาจากร่าง พวกเขามองไปรอบๆราวกับว่ามองไม่เห็นฉินเฉิงอยู่ในสายตา
หลังจากที่เขาตรึงวิญญาณของคุณปู่ซูเอาไว้แล้ว พวกเขาก็เดินหายไปในความมืด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ฉินเฉิงตะโกนออกไป และทันใดนั้นแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากคิ้วของเขา!
ลำแสงนี้เป็นจิตศักดิ์สิทธิ์ของฉินเฉิง จิตศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นร่างมนุษย์และรีบวิ่งตามไป
“กรึก!”
ร่างจิตศักดิ์สิทธิ์ของฉินเฉิงดึงโซ่นั้นเอาไว้อย่างสุดชีวิต
แต่พลังของภูตผีสองตัวนี้มากเกินไป พวกมันไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย และพวกมันก็เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
“หยุดเดี๋ยวนี้!” ฉินเฉิงตะโกนออกมาอีกครั้ง และแสงสีทองของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมากกว่าเดิม
“กรึก กรึก!”
ฉินเฉิงพยายามดึงโซ่นั้นกลับมาอยู่หลายครั้ง จนร่างวิญญาณทั้งสองนั้นหันกลับมา
แววตาของพวกมันมืดมน มองมาที่ฉินเฉิงด้วยความเย็นชา นั่นทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังเป็นอย่างมาก
“ออกไปเดี๋ยวนี้!” ฉินเฉิงตะโกนด้วยความโกรธ ร่างจิตศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงดึงโซ่นั้นเอาไว้อยู่!
“ตู้มมม!”
หลังจากที่มีเสียงดังเกิดขึ้น ร่างของวิญญาณทั้งสองก็สะเทือนถอยไปเล็กน้อย
ฉินเฉิงยังคงปล่อยหมัดใส่พวกมันหมัดแล้วหมัดเล่า
1 หมัด 2 หมัด 3 หมัด!! ไม่รู้ว่าต่อยไปกี่ครั้งแล้ว แต่แสงสีทองของจิตศักดิ์สิทธิ์เริ่มหลี่ลง
“อัก!”
ฉินเฉิงกระอักออกมาเป็นเลือด หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ!
แต่ฉินเฉิงยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุด เขาพยายามต่อไปอย่างเต็มที่เพื่อจะหยุดวิญญาณสองร่างนั้น!
หลังจากที่ถูกชกไปจำนวนนับไม่ถ้วน ร่างวิญญาณทั้งสองก็ปล่อยโซ่ออก
พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังฉินเฉิงอย่างเย็นชา และทันใดนั้นก็มีลมหายใจสีดำออกมาจากปากของพวกมัน
พลังงานสีดำกระทบร่างกายของฉินเฉิงราวกับกระสุน จากนั้นพวกมันก็ค่อยๆหายไปในความมืด
เมื่อเขามีสติกลับคืนมา ฉินเฉิงก็สัมผัสไปที่ท้องของเขา เขาก็ไม่พบว่าร่างกายของเขามีอะไรผิดปกติ
นี่มันไม่ใช่เวลามาคิดอะไรแล้ว เขารีบวิ่งเข้าไปหาคุณปู่ซู เขย่าคุณปู่ซูเบาๆ “คุณปู่ซู คุณฟื้นสิ!”
คุณปู่ซูลืมตาขึ้นด้วยความงุนงง เขาขยี้ตาแล้วพูดว่า “ฉินเฉิง ทำไมนายยังไม่นอน?”