ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 131 เค้าคู่ควรด้วยเหรอ?

ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็พูดด้วยน้ำเสียงทื่อๆ “ผมอธิบายกับจินฮู่แล้ว ก็เลยกลับมา”

ต้วนอู่มองไปที่ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าและพูดอย่างสงสัย: “จริงเหรอ? เท่าที่ฉันรู้ จินฮู่คนนี้เค้าไม่ใช่คนรั้นอะไร แต่ถ้ามีคับแค้น นายคงจะไม่ได้โกหกเราใช่ไหม?”

ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ฉันจะโกหกไปเพื่ออะไรกัน!”

“เอาหละ เอาหละ ฉันเชื่อว่าเสี่ยวเหม่ยจะไม่โกหกพวกเรา” ในตอนนี้เอง นายท่านตระกูลต้วนก็โบกมือแล้วพูดขึ้นมา

แม้ว่าจะพูดออกมาแล้ว แต่ต้วนอู่กับต้วนซุนก็ยังคงมีความสงสัยอยู่ในแววตาของพวกเค้า

ทันทีที่พวกเค้านั่งลง ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง

คนที่เดินเข้ามาจากด้านนอกมีสองคน คนหนึ่งหนึ่มคนหนึ่งชรา คนชราอายุใกล้เคียงกับต้วนอู่ ส่วนคนหนุ่มก็น่าจะมีอายุมากกว่าฉินเฉิงอย่างน้อยก็สองสามปี

“อ้าว เหล่าสื่อกลับมาแล้ว!” เช่นเดียวกัน พวกเค้ามาสาย แต่ท่าทีของทุกคนกลับต่างกันมาก แม้แต่นายท่านต้วนเองก็ยังลุกขึ้นมาทักทายเค้าด้วยตัวเอง

ต้วนเหล่าสื่อยิ้มเล็กน้อย “ขอโทษที ฉันเพิ่งจะรีบกลับจากเมืองเอกหนะ ก็เลยมาสาย”

“โอ้ พี่ก็พูดไป พวกเราก็ครอบครัวเดียวกัน ทำไมต้องทำอย่างกับเป็นคนนอกกันด้วยหละ!” ต้วนซุนยิ้ม “เหล่าสื่อ ผมได้ยินมาว่าพี่กำลังทำธุรกิจใหญ่ในเมืองเอกของมณฑล?”

ต้วนเหล่าสื่อยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ธุรกิจใหญ่อะไร แค่หลายสิบล้านหยวนเอง”

“โอ้ พี่เหล่าสื่อนี่ถ่อมตนจริงๆแล้ว! หลายสิบล้านหยวนในมณฑลเหม่ย นี่มันก็ไม่ใช่คนที่รวยที่สุดเลยเหรอ?” ต้วนอู่พูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

ต้วนเหล่าสื่อพยักหน้าและพูดว่า: “ก็คงประมาณนั้น อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ที่ฉันกลับมา ฉันเตรียมที่จะลงทุนในมณฑลเหม่ยหนะ”

“เหล่าสื่อเอร้ย ตอนนี้เสี่ยวตงเป็นไงบ้าง?” จากนั้นทุกสายตาก็จับจ้องไปที่ลูกชายของเหล่าสื่อ ต้วนตง

ต้วนตงลุกขึ้นและพูดอย่างภาคภูมิใจ: “ตอนนี้ผมเป็นสมาชิกของสำนักความมั่นคงมณฑลปิ่นโจว ผมได้ติดดาวหนึ่งดวงที่บ่าแล้ว”

ทุกคนหายใจเข้าทันที ดาวหนึ่งดวง? นี่คือระดับขั้นที่สูงที่สุด!

เมื่อคนที่อยู่ในห้องอาหารส่วนตัวเห็นแบบนี้ พวกเค้าก็รีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า: “เสี่ยวตงนี่เก่งมากจริงๆ ต่อไปในอนาคตตระกูลต้วนของเราจะต้องพึงพาเธอแล้ว!”

ต้วนตงยิ้มและโบกมือ จากนั้นแววตาของเค้าก็กวาดมองไปที่ชายที่มีแผลเป็นที่หน้ากับฉินเฉิง เค้ามองดูตั้งแต่หัวจรดเท้า

“หึหึ เหล่าเอ้อ ดูสิ นี่เป็นทายาทรุ่นที่สามของตระกูลต้วนนะ ดูเซี่ยวตงแล้วลองกลับไปดูเสี่ยวเหม่ยลูกชายของนายสิ” ต้วนอู่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตำหนิ

“อีกคนเป็นหัวหน้าระดับสูง อีกคนเป้นอันธพาล เวลาแค่ไม่นานมันแตกต่างกันมากขนาดนี้เลยเหรอ” ต้วนซุนก็พยักหน้าขึ้นมา

ต้วนตงเหลือบไปที่ชายที่มีแผลเป็นที่หน้ากับฉินเฉิง จากนั้นเค้าก็จ้องมองไปที่ฉินเฉิง

“พี่ชายคนนี้หน้าตาดูคุ้นๆมากเลยนะ? เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า?” ต้วนตงมองฉินเฉิงแล้วพูดขึ้นมาอย่างสงสัย

ฉินเฉิงเหลือบมองเค้าแล้วไม่พูดอะไร

ท่าทีแบบนี้เองก็ทำให้ต้วนตงไม่พอใจและต้วนอู่ก็ตะโกนว่า: “เสี่ยวเหม่ย คบเพื่อนแบบไหนกัน นี่มันไม่รู้จักเรื่องมารยาทเลยอย่างงั้นเลย?”

“ดูท่าแล้ว ฉันเดาว่ามันก็คงจะเป็นพวกนักเลงอย่างงั้นสินะ”

ท่าทีดังกล่าวมันก็ทำให้ฉินเฉิงไม่พอใจจนต้องขมวดคิ้วขึ้นมา แต่เมื่อมองดูที่ใบหน้าของชายที่มีแผลเป็นบนหน้า เค้าดูเหมือนว่าจะหมดความอดทน

“ช่างมันเถอะ ฉันไม่สนใจหรอก” ต้วนตงโบกมือขึ้นมา “รีบกินข้าวกันดีกว่า”

ระหว่างกินข้าวเย็น ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็กระซิบกับฉินเฉิงว่า “คุณฉิน ผมขอโทษ”

ฉินเฉิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “คนในตระกูลของนายทุกคนเป็นคนเหยียดคนอย่างงั้นเหรอ?”

ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็ถอนหายใจ: “ตอนที่ฉันต่อสู้กับจินฮู่ในเมืองเพื่อฮาณาเขต พวกเค้าต่างก็กระตือรือร้นที่จะตีสนิทกับผม ต่อมาในตอนที่ผมหลบหนี พวกเค้าก็ไม่เคยสนใจผมเลยด้วยซ้ำ”

ฉินเฉิงนิ่งเงียบ แต่ไหนแต่ไรจิตใจของมนุษย์มันก็เป็นสิ่งที่ชั่วร้าย ยิ่งมียาติพี่ร้องมาก มันก็ยิ่งเลวร้าย

ในตอนนี้เอง ประตูก็ถูกผลักเปิดออก

มันมองเห็นชายในวัยสามสิปปีที่เดินเข้ามาพร้อมกับกล่องของขวัญ

“หัวหน้าต้วน สวัสดีปีใหม่ครับ!” เค้ามองต้วนตงด้วยความเคารพ

“คุณจ้าว มาที่นี่ได้ยังไงกัน?” ทุกคนในตระกูลต้วนก็ลุกขึ้นทันที มองเค้าด้วยความยินดี

คุณจ้าวหัวเราะคิกคัก: “ฉันได้ยินมาว่าหัวหน้าต้วน กลับมาแล้ว ฉันเลยคิดว่าจะแวะมาทักทาย นี่เป็นของขวัญเล็กน้อยสำหรับคุณ”

ต้วนตงรับของกำนัลและกล่าวว่า: “เสี่ยวจ้าว ไม่ต้องมีมารยาทมากขนาดนี้หรอก”

คุณจ้าวคนนี้อายุมากกว่าต้วนตงมาก แต่เค้ากลับถูกเรียกว่าเสี่ยวจ้าว

และคุณจ้าวคนนี้ไม่สนใจเลย แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

“ไหนๆก็มาแล้ว นั่งลงแล้วดื่มซักหน่อยสิ” ต้วนตงก็ยิ้มขึ้นมา

คุณจ้าวส่ายหัวและพูดว่า: “ไม่ ไม่ ผมก็แค่มาเยี่ยมคุณหนะครับ ผมจะไปขัดจังหวะอาหารเย็นของคุณได้ยังไงกัน ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ…”

“งั้นก็ไปเถอะ” ต้วนตงพยักหน้า

คุณจ้าวพยักหน้าและโค้งคำนับ เค้าเดินออกไปด้วยรอยยิ้ม

“เสี่ยวตงนี่ดังมากเลย คุณจ้าวคนนี้เป็นหนึ่งในคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในมณฑลเหม่ย เค้ามาอวยพรคุณด้วยตัวเองจริงๆด้วย!”

“ใช่ ต่อไปตระกูลต้วนของพวกเค้าคงจะได้รับการยกระดับแล้วหละ!”

หลังจากนั้น ผู้คนจำนวนมากก็เดินเข้ามาพร้อมกับของขวัญ จุดประสงค์ของพวกเค้าก็เหมือนกับของคุณจ้าว พวกเค้าทั้งหมดมาเพื่ออวยพรปีใหม่ให้กับต้วนตง

ในกลุ่มของพวกเค้ามีคนที่ร่ำรวยที่สุดและผู้อาวุโสในมณฑลเหม่ย ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีฐานะ

ยิ่งด้วนตงเติมโตมากเท่าไร ญาติของจะยิ่งมองข้ามชายที่มีแผลเป็นที่หน้ามากขึ้นเท่านั้น

“เสี่ยวเหม่ย ดูพี่ชายของเธอสิ ต้วนตงแล้วมองดูตัวเองสิ ต่อไปเธอจะทำอะไร!” ต้วนอู่พูดขึ้นมาอย่างประชดประชัน

“ตระกูลต้วนของเราเองก็เป็นตระกูลที่มีหน้ามีตาในมณฑลต้วน แต่เธอถูกขับไล่ออกจากปีนังไป เธอไม่อายบ้างเหรอ” ต้วนซุนเองก็ตำหนิขึ้นมา

พ่อแม่ของชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็หน้าแดงก่ำขึ้นมา พวกเค้าไม่พูดอะไรเลย แต่ดูเหมือนว่าพวกเค้าเองก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามันจะต้องออกมาเป็นแบบนี้

“เสี่ยวเหม่ย งั้นแบบนี้ไหม ฉันคิดว่าเธอค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างงั้นก็ไปเป็นลูกน้องที่สำนักงานความมั่นคงมณฑลปินโจวไหม ฉันจะกักที่ไว้ให้นายเอง” ต้วนตงก็พูดขึ้นมาแล้วเอามือตบเข้าไปที่ไหล่ของชายที่มีแผลเป็นที่หน้า

“เสี่ยวตงนี่ใจดีจริงๆ” ต้วนอู่กับคนอื่นๆก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เสี่ยวเหมย ทำไมเธอยังไม่รีบขอบคุณพี่เค้าอีกหละ!”

ในใจของชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็เต็มไปด้วยไฟ เค้าก็เลยไม่พูดอะไร

เสี่ยวตงก็ยิ้มและพูดว่า: “เพื่อนของนายจะไปด้วยก็ได้นะ แม้ว่าเค้าจะดูไม่ค่อยแข็งแรงก็ตาม แต่ฉันสามารถจัดการให้เค้าได้”

“ได้ยินแล้วยัง? นี่สิถึงจะเรียกว่าญาติ! เสี่ยวเหม่ย เสี่ยวเหม่ยทำไมยังไม่รีบให้เพื่อนเธอรินเหล้าให้เสี่ยงตงอีกหละ!” ต้วนซุนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าเค้าก็กัดฟันแล้วไม่พูดอะไรออกมา

“ยังจะมามัวงุนงงอะไรอยู่อีก? ถ้านายเข้าไปอยู่ในสำนักงานความมั่นคงได้แล้ว จินฮู่มันไม่กล้าทำอะไรนายแน่นอน! ยิ่งไปกว่านั้น งานดีๆแบบนี้มันก็หาได้ยากนะ!” ต้วนอู่ก็ดุขึ้นมา

ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็กัดฟัน เค้ากำลังจะลุกขึ้น แต่ฉินเฉิงก็เอื้อมมือออกไปและกดไหล่ของเค้าไว้

เค้ามองไปที่ผู้คนและพูดด้วยสีหน้าที่ดูไม่ออกเลยว่าเค้ากำลังรู้สึกอย่างไร: “รินเหล้าให้เค้า? เค้าคู่ควรอย่างงั้นเหรอ?”

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป จู่ๆพวกเค้าก็โมโหขึ้นมา: “แกพูดอะไรนะ!”

ฉินเฉิงพูดซ้ำโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนไปเลย: “ฉันบอกว่า รินเหล้าให้เค้า เค้าคู่ควรแล้วอย่างงั้นเหรอ?”

“กล้า!” ต้วนอู่ก็เริ่มด่าขึ้นมา “แกเป็นคนนอก การได้เข้ามากินข้าวกับพวกเรามันก็เป็นเกียรติมากแล้ว แกกล้ามาพูดจาแบบนี้? เสี่ยวตงเค้าไม่ใช่พวกอันธพาลที่แกจะพูดยังไงก็ได้นะ?!”

ฉินเฉิงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย: “ในสายตาของพวกคุณ เค้าก็คงจะสูงส่งมากสินะ แต่ในสายตาของฉัน มันก็แค่เศษดินใต้ตีนก็เท่านั้น”

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset