ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 139 ฉันขี้เกียจที่จะสนใจนายแล้ว

คนที่เข้ามาก็คือซูอี้ซิ่ว กับปรมาจารย์ของตระกูลซูอีกสองคน!

สีหน้าของฉินเฉิงนั้นเฉยเมย ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ พยักหน้าและตอบว่า “อืม”

“นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” ซูอี้ซิ่วถามออกมาด้วยสายตาแห่งความเย่อหยิ่ง ในฐานะที่ตนเองเป็นคนของตระกูลชั้นนำในเมืองจิงตู เขาก็ต้องเย่อหยิ่งเป็นธรรมดา!

“ไม่รู้” ฉินเฉิงตอบ “และก็ไม่อยากรู้ด้วย”

“ฉันคือคนของตระกูลซูที่มาจากจิงตู ซูอี้ซิ่ว” เขายิ้มออกมา “ฉันแบกรับความแค้นของตระกูลซูมาหลายวัน และในที่สุดมันก็มาถึงวันนี้ ของสิ่งนั้นของตระกูลซู อยู่ที่นายใช่ไหม?”

เมื่อได้ยินแบบนั้นสีหน้าของทุกคนก็ซีดไปทันที

ตระกูลซู! สำหรับสายตาของคนทั้งประเทศถือว่าเป็นตระกูลที่สุดยอด!

คิดไม่ถึงว่าตระกูลซูเองก็คนอยากได้เจ้าแห่งโอสถนี้เหมือนกัน!

“นายพูดอะไรของนาย?” ฉินเฉิงถามกลับไป

ซูอี้ซิ่วตะลึงงัน เขาพูดออกมาด้วยความโกรธ “ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน! ไม่รู้จักหรือไงว่ามารยาทของผู้ดีเป็นยังไง!”

“สอนไม่สอน….แล้วมันหนักหัวอะไรนาย?” ฉินเฉิงถามออกไปอีกครั้ง

ครั้งนี้ซูอี้ซิ่วโกรธจนแทบจะทนไม่ไหว

ตอนนี้ฉินเฉิงรู้จักวิธีจัดการกับพวกที่มาจากตระกูลดีๆแล้ว คนพวกนี้พูดจาดี ไม่มีความหยาบคายเลยสักนิด

เมื่อต้องมาเจอคำพูดแบบนี้จากปากของฉินเฉิง แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องโกรธมากๆ!

“ตอนแรกฉันก็อยากจะไว้ชีวิตนาย แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ยังไงนายก็คงต้องตาย” ซูอี้ซิ่วพูดออกมาด้วยความโกรธ เขาเป็นถึงมหาเจ้าแห่งพลังปราณขั้นที่สอง ในจิงตูเองก็มีเพียงไม่กี่คน แต่เมื่ออยู่ที่นี่เขาจะต้องเป็นคนที่เหนือกว่าคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด

“ช้าก่อนนายน้อยซู…..” ในขณะที่เซียงเหม่ยเอ๋อจะออกมาห้ามพวกเขา แต่ก็ถูกเซียงเฉิงหรุหยุดเอาไว้

เขาส่ายหน้าและพูดว่า “อย่าไปทำให้ตระกูลซูขุ่นเคืองเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นพวกเราเองก็อาจจะไม่มีที่อยู่ในแผ่นดิน”

ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูด ซูอี้ซิ่วก็ได้ปล่อยหมัดของเขาไปแล้ว!

หมัดของเขาเหมือนกับมังกรที่แข็งแกร่ง!

ฉินเฉิงไม่ได้มีท่าทางตื่นเต้นแต่อย่างใด เขาพูดออกมาว่า “ไม่เลวนิ!”

พูดจบเขาก็ปล่อยหมัดของเขาออกไปรับเอาไว้

และในตอนนั้นจู่ๆฉินเฉิงก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมาทันที!

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เรี่ยวแรงของเขาหายไปในพริบตา!

และในตอนนั้นหมัดของซูอี้ซิ่วก็กำลังเข้ามา เขาไม่สามารถหลบมันได้แล้วมีแต่ต้องจำใจรับมัน!

“ปัง” เสียงดังสนั่น ร่างของฉินเฉิงกระเด็นออกไป!

เขารู้สึกเจ็บปวดที่จุดตันเถียนของเขา และกระอักออกมาเป็นเลือด

“แม่งเอ้ย” ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา “ทำไมต้องมามีปัญหาตอนนีด้วยวะ…ดูเหมือนว่าผลกระทบนี้เกิดจากตอนที่เขาไปช่วยคุณปู่ซูเอาไว้…”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ซูอี้ซิ่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างรุนแรง “ตอนแรกฉันก็นึกว่านายจะเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงส่ง แต่พอมาเห็นด้วยตาของตัวเองวันนี้ มันก็แค่นั้น!”

เซียงเฉิงหรุเองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เหม่ยเอ๋อ นี่เหรอคนที่เธอบอกว่าเอาชนะมหาเจ้าแห่งพลังปราณได้? เห็นไหมโดนซูอี้ซิ่วต่อยแค่หมัดเดียวก็กระอักออกมาเป็นเลือด?”

สีหน้าของเซียงเหม่ยเอ๋อซีดขาว ซูอี้ซิ่วเป็นแค่มหาเจ้าแห่งพลังปราณขั้นที่สอง แม้ว่าฉินเฉิงจะไม่ทำอะไรแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอ่อนแอขนาดนี้!

“เป็นแค่เจ้าแห่งพลังปราณแต่กลับกล้ามาชิงเจ้าแห่งโอสถ?” ในตอนนั้น ปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหวงทางตะวันตกเฉียงเหนือ หวงจิงเฉิงก็ยืนขึ้น

“ไม่รู้จักกำลังของตัวเองจริงๆ เจ้าแห่งโอสถได้ให้กำเนิดจิตสำนึกจากสวรรค์แล้ว แม้ว่าพวกเราจะไม่ฆ่านาย นายจะต้องตายที่นี่อย่างแน่นอน” ปรมาจารย์แห่งทิศตะวันออกคนหนึ่งส่ายหน้าและพูดออกมา

ฉินเฉิงไม่พูดอะไร เขาเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากปากของเขา จากนั้นก็ใช้พลังปราณสัมผัสไปที่จุดตันเถียงของเขา

ความเจ็บปวดนั้นหายวับไปและหายไปอย่างไร้ร่องรอยในขณะนี้

“นี่มันทักษะอะไรกัน” ฉินเฉิงสูดหายใจเข้า สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยหน้าดู

และในตอนนั้นซูอี้ซิ่วก็จู่โจมเข้ามาอีกครั้ง

เขาหัวเราะออกมา “นายมอบสิ่งที่ตระกูลซูต้องการมาให้กับฉัน บางทีฉันอาจจะไว้ชีวิตนายก็ได้”

และในตอนที่เขาพูดปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆก็ก้าวออกมาพร้อมที่จะลงมือ

ฉินเฉิงกวาดสายตาไปมองที่พวกเขา ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้มีอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสิบคน ถ้าหากสู้กันตัวต่อตัว ฉินเฉิงไม่มีทางกลัว แต่ถ้าหากถูกลุม เขาแทบไม่มีทางชนะเลย

“นายน้อยซู” และในตอนนั้นเซียงเหม่ยเอ๋อก็เดินเข้ามา

“คุณหนูเซียง ทำไม คุณมีเรื่องอะไร?” ซูอี้ซิ่วถามออกมา “ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนพาเขามา หรือว่าตอนนี้คุณอยากจะช่วยเขาอีก?”

เซียงเหม่ยเอ๋อยิ้มออกมา “นายน้อยซูพูดอะไร เขาจะเป็นหรือตายก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน”

“เอ๋?” ซูอี้ซิ่วขมวดคิ้วขึ้นมา “คุณเป็นคนพาเขามา แถมคุณก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของซูวาน เป็นไปได้หรอที่ไม่อยากจะช่วยเขา?”

เซียงเหม่ยเอ๋อหัวเราะออกมา “สำหรับฉันแล้ว เขาก็เป็นแค่เครื่องมีอย่างหนึ่งเท่านั้น ฉันจะไปทำแบบนั้นให้ต้องไปมีเรื่องบาดหมางกับตระกูลซูทำไม?”

ซูอี้ซิ่วหัวเราะออกมาด้วยความทะนงตัว “ฮ่าฮ่าฮ่า คุณหนูเซียงก็เข้าใจดีนิ! แต่ว่า…ที่บอกว่าเขาเป็นแค่เครื่องมือนั้นหมายความว่าอย่างไง?”

เซียงเหม่ยเอ๋อหัวเราะออกมาเบาๆ พูดด้วยท่าทางที่มีเสน่ห์ “ทุกคนก็รู้ดี ว่าในตอนที่เจ้าแห่งโอสถได้ถือกำเนิดทำให้โลกวุ่นวายมากมายขนาดไหน และครั้งก่อนหน้านี้ มันก็มีอันตรายที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น”

“ทุกท่านล้วนเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ มีใครอยากจะเข้าไปตายบ้างหละ?” เซียงเหม่ยเอ๋อมองไปที่ทุกคนด้วยสายตาคู่นั้นของเธอ

ทุกคนต่างพูดกันออกมาเป็นเสียงเดียวกัน “คุณหนูเซียงพูดถูก เมื่อหลายสิบปีก่อนหน้านี้ในตอนที่เจ้าแห่งโอสถถือกำเนิด ว่ากันว่ามีปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ต้องเสียชีวิตไปถึงสามคน”

ซูอี้ซิ่วจับคางของตัวเองและครุ่นคิด “ความหมายของคุณหนูเซียงก็คือ จะใช้เขาดเป็นหนูทดลอง?”

“ใช่” เซียงเหม่ยเอ๋อพยักหน้า

ซูอี้ซิ่วจ้องไปที่ใบหน้าของเซียงเหม่ยเอ๋อเพื่อมองว่าเธอมีการแสดงออกอะไรที่ใบหน้าของเธอไหม

แต่เซียงเหม่ยเอ๋อก็สามารถควบคุมอารมณ์ของเธอไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่มีท่าทางมีพิรุจใดๆทันนั้น

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ผู้หญิงที่งดงามขนาดนี้จะไม่เชื่อได้อย่างไร” ซูอี้ซิ่วหัวเราะออกมา

เมื่อเซียงเหม่ยเอ๋อได้ยินอย่างนั้นเธอก็พูดออกมาอย่างสุภาพว่า “นายน้อยซู ฉันจะกล้าหลอกคุณได้อย่างไร!”

ซูอี้ซิ่วเหล่มองไปที่เซียงเหม่ยเอ๋อ เขาเลียริมฝีปากและพูดว่า “คุณหนูเซียงนี่เป็นผู้รอบรู้จริงๆ ถ้าหากมือโอกาส ฉันอยากจะเรียนรู้กับคุณให้มากขึ้น!”

เซียงเหม่ยเอ๋อพูดออกมาอย่างสุภาพ “บ้า!”

ซูอี้ซิ่วหัวเราะออมาทันที เขาชี้ไปที่ฉินเฉิงและพูดออกมาว่า “เอาละ เอาตามที่คุณหนูเซียงพูดแล้วกัน เจ้าหนุ่ม จะตายหรือมีชิวิตมันก็ขึ้นอยู่กับนายแล้ว!”

ฉินเฉิงเงียบ เขาเปิดรูขุมขนทั้งหมดของร่างกายและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณ

“ไปกันเถอะ เจ้าแห่งโอสถอยู่ข้างหน้า” ด้วยคำพูดของซูอี้ซิ่ว ทุกคนก็รีบวิ่งขึ้นไปด้านบน

หลังจากนั้นไม่นาน เซียงเหม่ยเอ๋อก็เดินมาที่ด้านหน้าของฉินเฉิง เธอพูดออกมาเบาๆว่า “หาโอกาสที่จะหนีไปด้วยตัวเอง เข้าใจไหม? ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถช่วยอะไรนายได้!”

ฉินเฉิงยิ้มและพูดออกมาว่า “ขอบคุณสำหรับความหวังดีของคุณหนูเซียง แต่ว่าเจ้าแห่งโอสถนี้มันมีความสำคัญกับฉันมาก ฉันคิดว่าฉันอยากจะลองสักครั้ง”

เซียงเหม่ยเอ๋อจ้องไปที่ฉินเฉิงและพูดออกมาอย่างโกรธเคือง “นายบ้าไปแล้วหรือไง? นายคิดว่านายคนเดียวจะสามารถนำเจ้าแห่งโอสถออกไปได้อย่างนั้นเหรอ?”

“โลกใบนี้ไม่มีอะไรที่คาดเดาได้” ฉินเฉิงพูดออกมา

“ได้!” เซียงเหม่ยเอ๋อโกรธเล็กน้อย “ถึงแม้ว่านายจะชิงเจ้าแห่งโอสถมาได้ แต่นายคิดว่านายจะสามารถรอดไปจากน้ำมือของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสิบคนได้อย่างนั้นเหรอ?”

“ฉันต้องรีบไปแล้ว” ฉินเฉิงพูดออกมาอย่างไม่สนใจ

เซียงเหม่ยเอ๋อวิ่งไปด้านหน้า หน้าอกของเธอสั่นขึ้นๆลงๆ เธอพูดออกมาว่า “ได้ ฉันเบื่อที่จะสนใจนายแล้ว!”

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset