ร่างของพระพุทธองค์ของผู้เฒ่าโหยวถูกทำลายลงด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว!
สีหน้าของทุกคนดูน่าเกลียดมาก และพวกเขานึกไม่ถึงว่าผู้เฒ่าโหยวจะพ่ายแพ้ให้กับคนอย่างฉินเฉิง!
เมื่อมองไปที่ผู้เฒ่าโหยวอีกครั้ง ร่างกายของเขาเหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว ราวกับมีอายุเป็นหลายร้อยปี
เขาทรุดตัวลงกับพื้นและพูดอย่างยากลำบาก “เจ้าหนุ่มน้อย…ยก…ยกโทษให้ฉัน…ไว้ชีวิตฉันได้ไหม?”
“ไว้ชีวิต?” สีหน้าของฉินเฉิงเยือกเย็น “ในตอนที่นายคิดจะลงมือกับฉัน นายก็คงจะคิดถึงผลที่จะออกมาแล้วเป็นอย่างดี”
พูดจบฉินเฉิงก็ยกมือขึ้น “ปัง!” สับศีรษะของผู้เฒ่าโหยวทันที
ในตอนนั้นทุกอย่างเงียบไปหมด ไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมาสักคน
“หนี!” ในตอนนั้นซูอี้ซิ่วที่เห็นว่าเห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายและเขาก็พร้อมที่จะวิ่งหนี!
“ควับ!”
แน่นอนว่าฉินเฉิงไม่มีทางปล่อยโอกาสให้เขาหนีไปได้อย่างแน่นอน เขาหาย ชั่วพริมตาก็มาอยู่ที่ด้านหลังของซูอี้ซิ่ว จากนั้นเขาก็เตะไปที่ซูอี้ซิ่วทันที
ฉินเฉิงคว้าศีรษะของซูอี้ซิ่วเอาไว้และยกขึ้นมาทันที
“ฉินเฉิง นายกล้าหรอ!” ซูอี้ซิ่วตะโกนออกมา “ถ้าหากนายฆ่าฉัน ตระกูลซูไม่มีทางปล่อยนายเอาไว้แน่!”
“ฉันไม่ฆ่านาย ตระกูลซูก็คงไม่มีทางปล่อยฉันไว้เหมือนกัน” ฉินเฉิงหัวเราะและพูดออกมา
ซูอี้ซิ่วรู้ดีกว่าฉินเฉิงไม่มีทางปล่อยเขา เขาจึงตะโกนออกไปกับฝูงชนว่า “ทุกท่านช่วยฉันด้วย! ขอแต่ช่วยฉันเอาไว้ได้ ตระกูลซูของฉันจะไม่มีวันลืมบุญคุณครั้งนี้เลย!”
ทุกคนต่างนิ่งสงบ ในตอนนี้ใครจะไปกล้า? ขนาดผู้เฒ่าโหยวยังพ่ายแพ้ แล้วพวกเขาจะไปทำอะไรได้?
“ต่อให้พวกนายไม่ลงมือ พวกนายคิดว่าเขาจะปล่อยพวกนายไปไหม!” ซูอี้ซิ่วกัดฟันพูดออกมา “เขาจะต้องฆ่าทุกอย่างแน่นอน!”
สีหน้าของเนี่ยเทียนและคนอื่นๆซีดขาวทันที
คำพูดของซูอี้ซิ่วนั้นมีเหตุลผล ถ้าหากฉินเฉิงฆ่าซูอี้ซิ่วหละก็ เขาก็จะต้องฆ่าทุกคนเพื่อเป็นการปิดปาก
“ถ้าอยากจะลงมือก็เชิญได้เลย” ฉินเฉิงมองไปที่ทุกคนและพูดออกมา
ทุกคนตัวสั่น ไม่มีใครกล้าที่จะออกมา!
“ฉิน…ฉินเฉิง พวกเราสำนึกผิดแล้ว!” ในตอนนั้นหวงจิงเฉิงคุกเข่าลงและพูดออกมา
“ฉันรับประกันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ตะมีกระจายออกไปเป็นอันขาด!” หวงจิงเฉิงกลัวมาก ร่างกายของเขาสั่นเพราะกลัวว่าฉินเฉิงจะไม่พอใจ
ฉินเฉิงพูดออกมาว่า “แค่นี้เหรอ??”
หวงจิงเฉิงกัดฟันและตอบกลับไปว่า “ฉันจะมอบยาวิเศษณ์ที่ตระกูลหวงของฉันรักษาเอาไว้เป็นพันๆปีให้กับนายด้วย!”
เมื่อคนอื่นเห็นแบบนั้นต่างก็คุกเข่าและพูดออกมาว่า “พวกเราเองก็ยอมรับผิดแล้ว หวังวาคุณฉินจะอภัยให้พวกเรา!”
ฉินเฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพูดออกมาว่า “ฉันเห็นแก่พวกนาย เอาเป็นว่าฉันจะไว้ชีวิตพวกนายแล้วกัน แต่ว่าฉันมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ!”
“คุณฉินว่ามาเลยครับ!” ทุกคนพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
ฉินเฉิงพูดออกมาว่า “ฉันให้เวลาทุกคนคนละหนึ่งเดือนไปหาสมุนไพรที่มีอายุมากกว่า 1000 ปีมาให้ฉัน แน่นอน ว่าถ้าพวกนายทำกับฉันอย่างไร ฉันก็จะปฏิบัติกับพวกนายอย่างนั้น! และฉันก็ไม่ได้รังเกียจถ้าจะให้ฉันเป็นคนไปเอามันเอง”
“คุณฉินวางใจ หลังจากนี้หนึ่งเดือนพวกเราจะเตรียมสมุนไพรนั่นมามอบให้ถึงมือคุณฉิน!” ทุกคนต่างตะโกนออกมา
ฉินเฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขามองกลับมาทางซูอี้ซิ่วที่อยู่ในมือเขา ยิ้มและพูดออกมาว่า “นายน้อยซู นายยังมีอะไรอยากจะพูดอีกไหม?”
ซูอี้ซิ่วกัดฟันและพูดออกมาว่า “ฉินเฉิง ถ้ากล้าฆ่าฉันอย่างนั้นเหรอ! ฉันเป็นญาติกับซูหยู่ ถ้าหากนายฆ่าฉัน เขาจะต้องแก้แค้นให้ฉันแน่!”
“แล้วมันยังไง?” ฉินเฉิงพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น จากนั้นเขาก็เอานิ้วของเขาไปจิ้มที่หัวเข่าของซูอี้ซิ่ว
“อ้า…!!” ซูอี้ซิ่วร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขารับรู้ได้ถึงจิตสังหารณ์ที่ส่งออกมาจากร่างกายของฉินเฉิง เขาจึงรีบอ้อนวอนออกมา “ฉินเฉิง ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วยเถอะ หลังจากนี้ฉันจะไม่โผล่หน้ามาให้นายเห็นอีกแล้ว…..”
ฉินเฉิงไม่ได้พูดอะไร เขาจับซูอี้ซิ่วไปกดไว้กับต้นไม่และเอนตัวถามว่า “ฉันมีคำถามจะมาถามนาย”
“นายถามมาเลย ฉันจะตอบตามความจริง!” ซูอี้ซิ่วพูดออกมาด้วยความกลัว
ฉินเฉิงเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดออกมาว่า “ของที่ตระกูลซูอยากได้ มันคืออะไรกันแน่?”
ซูอี้ซิ่วผงะ ถามจึงถามออกไปเพื่อให้แน่ใจ “นายหมายถึง….ของที่อยู่ในมือของคุณปู่ซูใช่ไหม?”
“อ่า”
ฉินเฉิงพยักหน้า
ซูอี้ซิ่วส่ายหน้า “นี่เป็นความลับของตระกูลซู ฉันเป็นสาขาย่อย ฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะรับรู้มัน…..”
“เห้อ” ฉินเฉิงพยักหน้า “งั้นนายก็ตายไปซะ!”
“อย่า!” ซูอี้ซิ่วรีบตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว “ถึงแม้ว่าฉันไม่รู้ว่าของสิ่งนั้นมันคือะไรกันแน่ แต่ฉันรู้ว่ามันเป็นของที่สำคัญกับตระกูลซูมาก!”
“บอกสิ่งที่นายรู้มาทั้งหมด” ฉินเฉิงพูดออกไป
ซูอี้ซิ่วนึกอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็พูดออกมาว่า “ฉันเคยได้ยินซูหยู่พูด เทียนจีจือเคยทำนายเอาไว้ว่าบรรพบุรุษของตระกูลซูเคยมีเทวดาลงมาเกดิ และจะทำให้ตระกูลซูก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ที่หาที่เปรียบไม่ได้!”
“และเขาก็ยังสืบทอดสายเลือดกันมารุ่นสู่รุ่น และถ้าหากของสิ่งนั้นมามันจะสามารถกระตุ้นสายเลือดของผู้วิเศษได้อีกครั้ง และจะทำให้ตระกูลซูก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน!” ซูอี้ซิ่วพูดออกมา
“สายเลือด?” ฉินเฉิงจับไปที่คางของตัวเอง “งั้นพวกเขารู้ได้อย่างไงว่าของสิ่งนั้นอยู่ในมือของคุณปู่ซู?”
ซูอี้ซิ่วส่ายหน้า “เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่! แต่ฉันก็พูดในสิ่งที่ฉันรู้ไปหมดแล้ว….”
“อ่า” ฉินเฉิงพยักหน้าเพราะรู้ว่าที่ซูอี้ซิ่วพูดมาไม่ใช่เรื่องโกหก
“งั้น…จะปล่อยฉันไปได้หรือยัง?” ซูอี้ซิ่วถามออกมา
ฉินเฉิงยิ้มออกมาทำให้เห็นฟันสีขาวๆของเขา
ยิ้มและพูดว่า “ไป? ฉันบอกไปตอนไหนว่าฉันจะปล่อยนายไป?”
สีหน้าของซูอี้ซิ่วเปลี่ยนไปทันที เขาตะโกนออกมาว่า “แกมันก็แค่ไอคนโกหก!”
ฉินเฉิงขี้เกียจจะสนใจคนอย่างเขา คนของตระกูลจูสำหรับฉินเฉิงแล้ว เขาไม่มีทางที่จะเบามือเบาเท้าแน่
เมื่อฝ่ามือของเขาวางลงบนศีรษะของซูอี้ซิ่ว วิชากลืนวิญญาณของเขาก็เริ่มทำงานทันที
ในช่วงเวลาสั้นๆ ร่างกายของซูอี้ซิ่วก็เริ่มเหี่ยวเฉา และในที่สุดเขาก็แห้งเหี่ยว ล้มลงกับพื้นและสูญเสียลมหายใจแห่งชีวิตไปอย่างสิ้นเชิง
ทุกคนที่เห็นฉากนี้ต่างตื่นตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นห้าที่เหลือของตระกูลซู
“ถึงตาพวกนายแล้ว” ฉินเฉิงหันมาทางปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นห้าสองคนนั้นและพูดออกมา
ทั้งสองคนรู้อยู่แล้วว่าฉินเฉิงไม่มีทางปล่อยพวกเขาไป เขาจึงกัดฟันและพูดออกมาว่า “ถ้าต้องมาตายแบบนี้ ขอสู้จนตัวตายเสียยังดีกว่า!”
พูดจบทั้งสองคนก็จู่ๆโจมเข้าหาฉินเฉิง
ทางด้านของฉินเฉิงไม่ได้ทำอะไรมาก แค่ต่อยออกไปเพื่อรับการโจมตีของสองคนนั้น
หมัดแรกทำให้ทั้งสองคนถอยหลังไป ส่วนหมัดที่สองและสามทำให้ทั้งสองคนกระอักเลือดออกมา กระดูกหน้าอกของพวกเขาแตกออก!
ฉินเฉิงไม่รอให้เสียเวลา เขารีบเข้าไปดูดกลืนพลังของทั้งสองคนทันที
ขั้นตอนนี้ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง
หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไปฉินเฉิงก็ถอนหายใจออกมา “พลังของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นห้าทั้งสามคน มันไม่ได้ช่วยให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นเลย….”
นี่มันก็เหมือนแม่น้ำที่ไหลลงทะเล มันไม่เกิดผลอะไรเลย
“ฉันคิดว่าการฝึกในอนาคตของฉันมันคงจะยากขึ้นเรื่อยๆ” ฉินเฉิงถอนหายใจและพูดออกมา
และในตอนนั้น จู่ๆฉินเฉิงก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหรณ์ที่พุ่งออกมา!
“ไปตายซะ!” เขาเห็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นห้าคนหนึ่งฉวยโอกาสตอนที่ฉินเฉิงเผลอเข้ามาโจมตีเขา!