“จบแล้ว” หลังจากที่เห็นคนกลุ่มนี้แล้ว ใบหน้าที่งดงามของครูจางก็ซีดลงทันที
“พวกนายรีบหนีไป พวกเค้าตามจินฮู่มาแล้ว!” ครูจางก็เร่งเร้าขึ้นมา
ฉินเฉิงหัวเราะแล้วก็ไม่พูดอะไรออกมา
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของฉินเฉิงก็ดังขึ้นมา
คนที่โทรเข้ามาก็คือจินฮู่ เค้าถามขึ้นมาว่า “คุณฉิน ผมมาถึงแล้วครับ คุณอยู่ที่ไหน?”
“มองไปทางทิศตะวันออก ฉันอยู่ในรถ” ฉินเฉิงก็พูดขึ้นมา
จินฮู่เหลือบมองไปรอบๆแล้วรีบเดินเข้าไปพร้อมกับกลุ่มคนพวกนี้
“จบแล้วมันจบแล้ว” ครูจางกลัวมาก เธอเคยได้ยินชื่อเสียงของจินฮู่มาก่อน
หลังจากที่จินฮู่พาคนเข้ามาแล้ว เค้าก็พยักหน้าและพูดว่า “คุณฉิน ใครรังแกน้องสาวของพวกเราครับ?”
ฉินเฉิงชี้ไปที่กลุ่มคนหนุ่มสาวที่ประตูด้วยคางของเค้าแล้วพูดว่า “คนพวกนั้นมันกำลังมองหาฉัน ในโรงเรียนมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อเสวี่ยกุ้ย เข้าไปตักเตือนเค้าซะ”
“เออใช่สิ อาจารย์ใหญ่ไล่ครูคนหนึ่งออก ฉันหวังว่าเธอจะต้องไม่ถูกไล่ออกไปจากโรงเรียนนี้” ฉินเฉิงชี้ไปที่ครูจางที่อยู่ข้างหลังเค้า
“ไป!” จินฮู่พับแขนเสื้อขึ้น เค้านำคนเดินไปหากลุ่มคนหนุ่มสาวโดยไม่พูดอะไร
คนหนุ่มสาวกลุ่มพวกนี้ดูน่าเกรงขาม หลังจากเห็นเจินฮู่แล้ว ทันใดนั้นเอง พวกเค้าก็ดูราวกับหนูที่เจอแล้ว ทุกคนต่างก็หันหน้าหนีกันไปคนละทิศคนละทาง
“พี่ฮู่ พี่มาทำไมกัน?” ชายหนุ่มก็เดินเข้ามา เค้ายิ้มแล้วถาม
จินฮู่เหลือบมองเค้าแล้วโบกมือขึ้นมา: “จัดการมันซะ!”
“ครับ!” เมื่อจินฮู่โบกมือแล้วตะโกนขึ้นมา พวกเค้าก็กระโจนเข้าใส่ในทันที
ในที่ตรงนั้นมันก็มีเสียงร้องดังขึ้นมา หลังจากนั้นไม่นาน คนหนุ่มสาวพวกนั้นทั้งหมดก็คุกเข่าลงอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน
“ฉันจะบอกพวกแกให้นะ คุกเข่าลงซะ ใครกล้าขยับ ฉันจะตัดแขนของมันซะ ไเข้าใจไหม?” จินฮู่พูดด่าทอขึ้นมา
คนหนุ่มสาวพวกนี้พูดขึ้นมาพร้อมกับจมูกและหน้าที่บวม: “รู้..รู้แล้วครับพี่ฮู่”
จินฮู่โบกมือขึ้นมาแล้วพูดว่า: “ไป ไปกับฉัน ไปเอาตัวไอ่คนที่ชื่อเสวี่ยกุ้ยมา!!”
ในตอนนี้เอง เสวี่ยกุ้ยก็กำลังคุยโม้อยู่ในห้องเรียน เค้านั่งอยู่บนโต๊ะของฉูเสี่ยวจิงแล้วหัวเราะเสียงดัง: “พวกเธอไม่รู้สินะ พี่ชายของฉูเสี่ยวจิงถูกแม่ของฉันตบตั้งสามครั้ง เค้ายังไม่กล้าพูดอะไรซักคำเลย!”
“พี่กุ้ยสุดยอดมาก!”
“พี่กุ้ย เยี่ยมยอดมากเลยนะครับ!”
“ใครกล้ายั่วยุพี่กุ้ย นั่นมันก็เท่ากับมองหาความตาย!”
ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นี้เอง ประตูมันก็ถูกเปิดออก
กลุ่มคนที่มีรอยสักก็ยืนอยู่ที่ประตู พวกเค้าตะโกนด่าทอแล้วพูดว่า: “ใครชื่อเสวี่ยกุ้ย?”
เสวี่ยกุ้ยหดคอของเค้าแล้วพูดขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆว่า: “ฉัน…ฉันชื่อเสวี่ยกุ้ย นายคือ?”
“ฉันชื่อจินฮู่” จินฮู่พูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา
เมื่อได้ยินชื่อนี้ เสวี่ยกุ้ยก็สั่นสะท้านทันทีและคนที่อยู่ในชั้นเรียนก็เงียบกันไปหมด
“ฉันได้ยินมาว่าแกรังแกน้องสาวฉัน ใช่ไหม?” จินฮู่เดินเข้ามา เค้าจับเข้าไปที่คอเสื้อ มันดูราวกับเสือที่ตะคุบไก่แล้วยกเสวี่ยกุ้ยขึ้นมา
เสวี่ยกุ้ยพูดด้วยริมฝีปากที่สั่น: “คุณ… ใครคือน้องสาวของคุณครับ?”
“นามสกุลฉู” จินฮู่ไม่รู้จักชื่อของฉูเสี่ยวจิง เค้ารู้จักเพียงแค่ลูกน้องของฉินเฉิง ฉู่เป่ยชวน
“ฉูเสี่ยวจิง?” สีหน้าของเสวี่ยกุ้ยก็ดูไม่ได้เลย ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ตกใจขึ้นมา
ฉูเสี่ยวจิงเป็นน้องสาวของจินฮู่?
“พะพะ…พี่ฮู่ พ่อผมคือเสวี่ย…”
“เสวี่ย***อะไรของแก!” จินฮู่ยกมือของเค้าขึ้นมาแล้วชี้ไปที่หน้าของเสวี่ยกุ้ยแล้วด่าว่า: “คุกเข่าลงแล้วขอโทษซะ!!”
เสวี่ยกุ้ยร้องไห้แล้วพูดว่า “พี่ฮู่ ได้โปรดยกโทษให้ผม ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นน้องสาวของพี่ … ”
“โทรหาพ่อของแกแล้วบอกว่าจินฮู่สั่งให้เค้ามาที่โรงเรียนเพื่อขอโทษ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้” จินฮู่พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
เสวี่ยกุ้ยไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของจินฮู่ เค้ารีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทรหาพ่อของตัวเอง
หลังจากนั้นไม่นาน อาจารย์ใหญ่ก็ปาดเหงื่อแล้วรีบวิ่งมา
เค้าเองก็กลัวเล็กน้อยและพูดว่า “พะพะ…พี่ฮู่ พี่มาที่นี่ได้ยังไงกัน?”
“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?” จินฮู่ตบหน้าแล้วหัวเราะขึ้นมา: “แกเองก็ไม่ใช่ย่อยหนิ ฉันได้ข่าวมาว่าแกไล่ครูจางออกอย่างงั้นเหรอ?”
อาจารย์ใหญ่หน้าซีดด้วยความตกใจ เค้าพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ: “นี่…นี่มันไม่ใช่เรื่องของผม…”
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว แกกับมันไปคุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนกับคนพวกนั้นซะ!” จินฮู่โบกมือขึ้นมาอย่างไม่อดทน
ลูกน้องของเค้าก็ลากเสวี่ยกุ้ยกับอาจารย์ใหญ่ออกไปทันที
กลุ่มนักเรียนพวกนั้นก็มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ที่ด้านหลัง
ที่ด้านนอกประตูนั่น คนพวกนั้นก็กำลังคุกเข่ากันอยู่
หลังจากนั้นไม่นาน พ่อแม่ของเสวี่ยกุ้ยก็รีบมาที่โรงเรียน
“พี่ฮู่ นี่มันเรื่องอะไรกัน…” พ่อของเสวี่ยกุ้ย เสวี่ยต๋าก็รีบถามขึ้นมา
จินฮู่เหลือบมองเค้าแล้วพูดว่า “คุกเข่าลงซะ”
เสวี่ยต๋าพูดอย่างกระอักกระอ่วมขึ้นมาว่า: “พี่ฮู่ เรามาคุยกันก่อนไหม นี่มันอะไรกัน…”
“ฉันสั่งให้แกคุกเข่าลงไง!” จินฮู่ตบหัวของเค้า
แล้วพวกลูกน้องของจินฮู่ที่อยู่ข้างหลังก็จับเค้ากดลง
เสวี่ยต๋าตัวสั่นด้วยความตกใจแล้วคุกเข่าลงไปที่พื้นอย่างเร็ว
ส่วนผู้หญิงอ้วนนั่น สีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความกลัว
“ไปกันเถอะ” ฉินเฉิงยิ้มให้กับครูจาง
ครูจางตกใจแล้วพูดว่า “คุณ…คุณเป็นใครกันแน่?”
ฉินเฉิงคิดอยู่ซักพัก จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “คนที่คนพวกนี้ไม่สามารถยั่วยุได้”
ฉินเฉิง ฉูเป่ยชวน ครูจางและคนอื่นๆก็เดินไปที่ประตู จากนั้นจินฮู่ก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและพูดว่า “คุณฉิน คุณว่าแบบนี้พอได้ไหมครับ?”
ฉินเฉิงเพิกเฉยไม่สนใจ เค้าเหลือบมองไปที่ผู้หญิงอ้วนแล้วพูดว่า “นี่คือสามีของเธออย่างงั้นเหรอ?”
ผู้หญิงอ้วนเธอไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าวันนี้เธอไปยั่วยุคนที่ตัวเองไม่ควรยั่วยุเข้าให้แล้ว เธอก็เลยรีบร้องของความเมตตาขึ้นมาว่า “ฉัน…ฉันผิดไปแล้ว ฉันมันก็แค่หมาตาบอดที่ไม่รู้เรื่องอะไร ฉันไม่ควรยั่วยุให้คุณโกรธเคือง ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย . . ”
ฉินเฉิงมองอาจารย์ใหญ่ด้วยสายตาเย็นชาแล้วพูดว่า “ที่ฉันบอกให้ครูจางไปพูดกับคุณ คุณไม่เข้าใจอย่างงั้นเหรอ?”
อาจารย์ใหญ่ก็พูดขึ้นมาอย่างขมขื่น เค้าจะไปรู้ได้ยังไงว่าคนที่ชื่อฉินเฉิงจะใหญ่โตมากขนาดนี้!
“ความเป็นธรรมขั้นพื้นฐาน คุณยังไม่มีเลย อาจารย์ใหญ่ ฉันคิดว่าคุณไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้แล้วนะ” ฉินเฉิงพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
เมื่อได้ยินแบบนี้ อาจารย์ใหญ่ก็หน้าซีดด้วยความตกใจ กว่าเค้าจะไต่เต้าจนขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าเค้าถูกไล่ออก ชีวิตที่เหลือของเค้ามันก็จะไม่เหลืออะไรเลย!
“คะคะ…คุณฉิน ผมรู้ว่าผมคิดผิด ต่อไปผมสัญญาว่าผมจำปฎิบัติต่อนักเรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน!” เค้ารีบอ้อนวอนร้องขอความเมตตา
ฉินเฉิงโบกมืออย่างใจร้อน
จินฮู่ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณฉิน ผมจะโทรหาเจ้านายของพวกเค้าให้เค้าเลือกคนใหม่เข้ามาแทน!”
“อืม” ฉินเฉิงพยักหน้า เค้าเหลือบมองไปที่คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วโบกมือขึ้นมา: “ให้พวกมันไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ อย่าให้มันส่งผลกระทบต่อการเรียนของนักเรียนหละ”
“ครับ!” จินฮู่รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เค้าเตะเสวี่ยต๋าแล้วด่าขึ้นมาว่า: “ไสหัวออกไปซะ!”
หลังจากที่ผู้คนแยกย้ายกันไปแล้ว ฉินเฉิงก็มองไปที่ครูจางแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ครูจางกลับไปที่ชั้นเรียนเถอะ”
ครูจางมึนงงเล็กน้อย หลังจากได้ยินคำพูดของฉินเฉิงแล้ว เธอก็รีบตอบตกลง: “อ๊า ค่ะ”
ในตอนนี้เอง จู่ๆโทรศัพท์ของฉินเฉิงมันก็ดังขึ้นมา
คนที่โทรเข้ามาก็คือชายที่มีแผลเป็นที่หน้า เค้าพูดในสายขึ้นมาว่า “คุณฉิน คนจากสำนักงานความมั่นคงมาที่นี่แล้วครับ”