ในตอนนี้ ประธานชาก็ห้อมล้อมไปด้วยเจ้าแห่งพลังปราณหลายคน เค้าดูสง่างามมาก
“ไม่น่าแปลกเลยที่มันเป็นตะวันตกเฉียงใต้” ฉินเฉิงก็พูดขึ้นมาเบาๆแล้วเดินไปเข้าไปหาประธานชา
ก่อนจากไป เค้าหันกลับมาแล้วพูดกับเซินอี้เมิ้งว่า: “เธอยังเวอร์จิ้นอยู่หรือเปล่า?”
เซินอี้หมิงผงะ เธอก็หน้าแดงขึ้นมาในทันทีแล้วพูดขึ้นมาอย่างโกรธเคือง: “นายหยาบคายมาก! นายพูดเรื่องบ้าอะไรของนาย!”
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆเธอ เค้าก็ถึงกับพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า “นี่นายหมายความว่ายังไง ต่อให้คุณหนูของฉันเธอยังยังซิงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายไม่ทราบ?”
ฉินเฉิงเพิกเฉย เค้าพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า: “ถ้าคุณยังซิงอยู่ เธอก็ไม่ควรไปหาอาจารย์คนนั้นแล้วก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมืองซวนหมิงเลย นี่คือคำแนะนำของฉันที่ให้เธอ”
“แกรู้อะไรมา” ชายหนุ่มก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
ฉินเฉิงไม่พูดอะไรอีก เค้ากับเซินอี้เมิ้งก็แค่บังเอิญมาเจอกันก็เท่านั้น มันก็ถือว่าไม่สนิทอะไรมาก
การที่จะเตือนเธอมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ส่วนเธอจะฟังมันหรือเปล่า มันเป็นเรื่องของเธอ
ในตอนนี้เอง ประธานชาก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป ฉินเฉิงรีบโบกมือในทันที เค้าโบกรถแท็กซี่และชี้ไปที่รถข้างหน้าของเค้าแล้วพูดว่า “ขับตามไป”
คนขับแท็กซี่เหยียบคันเร่งและไล่ตามเค้าไปในทันที
“คุณฉิน คนๆนั้นเค้าติดหนี้คุณอยู่เหรอครับ?” ในรถเฝิงกงก็ถามขึ้นมา
ฉินเฉิงหลับตาลงเล็กน้อย เค้าไม่พูดอะไร
เมื่อเฟิงกงเห็นแบบนี้ เค้าก็ไม่กล้าถามอะไรอีก
รถของประธานชาขับมาถึงสถานที่ประมูลหยก ในฐานะแขกรับเชิญ เค้าก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
และตำแหน่งของเค้าก็เป็นตำแหน่งที่พิเศษมาก พ่อค้าหยกจำนวนมากก็รีบเข้ามาทักทายเค้ากันทีละคน
“งานประมูลหยก?” เมื่อฉินเฉิงมองไปที่ป้าย เค้าก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา
“มาทำอะไรกัน?” เมื่อฉินเฉิงกับเฟิงกงเดินมาถึงที่ประตู รปภ ก็เข้ามาขวางพวกเค้าไว้
เฝิงกงก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา: “พวกเรามาที่นี่เพื่อซื้อของ”
รปภ ก็เหลือบมองไปที่เฝิงกงตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า มันดูราวกับว่าเค้ารู้สึกว่าเสื้อผ้าของเฝิงกงมันไม่ธรรมดาเลย ดังนั้นเค้าก็เลยพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ไปตรวจสอบทรัพย์สินก่อน”
ฉินเฉิงเดินตาม รปภ ไปที่หน่วยตรวจสอบทรัพย์สิน
เค้าดึงบัตรธนาคารออกมาแล้วยื่นให้พนักงานตรวจสอบทรัพย์สิน
คนตรวจทรัพย์สินก็ขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วพูดว่า: “สถานที่ของเรามีข้อบังคับ ว่าคนที่เข้าร่วมจะต้องมีทรัพย์สินสุทธิอย่างน้อย ร้อยล้านหยวน อาจรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ รถยนตร์และ…”
“เงินในบัตรธนาคารนี้ก็มากพอแล้ว” ฉินเฉิงก็พูดขัดจังหวะการพูดของเธอขึ้นมา
เมื่อได้แบบนี้ แววตาของผู้ทรัพย์สินก็เป็นประกายขึ้นมา
หลังจากที่เธอเสียบบัตรธนาคารเข้าไปในเครื่องPOS เธอก็ถึงกับตาค้าง
“คุณ… คุณผู้ชาย การตรวจสอบทรัพย์สินเสร็จเรียบร้อยแล้ว นี่บัตรธนาคารของคุณ โปรดเก็บไว้” ผู้ตรวจทรัพย์สินก็ยื่นบัตรธนาคารคืนให้กับฉินเฉิงด้วยท่าทีที่เคารพ จากนั้นเธอก็ส่งบัตรคิวให้กับฉินเฉิง
ฉินเฉิงก็ถามขึ้นมาว่า: “ข้างในมีเงินเท่าไหร่?”
ผู้ตรวจทรัพย์สินก็พูดขึ้นมาอย่างกระอักกระอ่วมว่า: “ยอดเงินของคุณผู้ชายใกล้จะถึงหนึ่งพันล้านแล้ว…”
“มากขนาดนี้เลยเหรอ” ฉินเฉิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เค้าไม่เคยใช้บัตรธนาคารนี้มาก่อนเลย แม้แต่ฉินเฉิงเองก็ยังไม่รู้เลยว่าข้างในบัตรนี่มันมีเงินอยู่เท่าไหร่กัน
ประโยคที่เค้าพูดออกมามันก็ยิ่งทำให้ผู้ตรวจทรัพย์สินยิ่งตกใจมากยิ่งขึ้น
ชายหนุ่มคนนี้เค้าไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเค้ามีทรัพย์สินอยู่เท่าไหร่ นี่มันคงจะไม่ได้หมายความว่าทรัพย์สินทั้งหมดของเค้ามันจะไม่ยิ่งมากไปกว่านี้อย่างงั้นเหรอ?
ในความคิดของผู้ตรวจสอบทรัพย์สิน ฉินเฉิงเค้าจะต้องเป็นลูกคนรวยที่รวยมากที่สุดอย่างแน่นอน!
“คุณผู้ชายค่ะ ฉันจะเปลี่ยนบัตรคิวให้คุณค่ะ!” เมื่อคิดได้แบบนี้แล้ว เธอก็เอาบัตรกลับมาแล้วเปลี่ยนบัตรคิวของฉินเฉิงให้เค้าไปอยู่ที่ตำแหน่งหน้าสุด
หลังจากได้รับบัตรคิวแล้ว ฉินเฉิงก็เดินเข้าสู่การประมูล
ที่แถวหน้าของการประมูล ประธานชาก็กำลังพูดคุยอย่างคึกคักกับนักธุรกิจหลายคน
และบอดี้การ์ดหลายคนของเค้าก็ยืนอยู่ข้างหลังเค้า
“วันนี้ มันมีดาบสัมฤทธิ์ที่หลอมขึ้นมาจากหิน ว่ากันว่ามันมาจากช่วงสุดท้ายของราชวงศ์ฉิน ฉันสนใจดาบเล่มนี้มาก” ประธานชาก็หัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย
นักธุรกิจที่อยู่ข้างๆก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ท่านประธานชา ว่ากันว่าดาบเล่มนี้สามารถเปลี่ยนดวงชะตาของคนได้นะครับ ราคาเริ่มประมูลของมันเกือบจะร้อยล้านหยวนเลยนะครับ”
ประธานชาหัวเราะและพูดว่า “แล้วยังไง เงินร้อยล้านหยวนมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับฉันเลย”
น้ำเสียงเรียบๆ แต่มันเต็มไปด้วยความทะนงตน มันทำให้นักธุรกิจที่อยู่รายรอบเค้าต่างก็เคารพเค้ายิ่งขึ้นไปอีก
ในตอนที่พวกเค้ากำลังคุยกันนี้เอง ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินไปที่ด้านข้างของประธานชา
“ขอเปลี่ยนที่กับคุณ” ฉินเฉิงมอบบัตรคิวให้กับนักธุรกิจที่นั่งอยู่ถัดจากประธานชา
นักธุรกิจคนนี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วพูดด้วยความไม่พอใจอย่างสุดขีดว่า “แกเป็นใคร อายุก็ยังน้อย น้ำเสียงเย่อหยิ่งนักนะ! แกไม่เห็นเหรอว่าฉันกำลังคุยกันท่านประธานชาอยู่!”
ฉินเฉิงไม่พูดอะไร เฝิงกงที่อยู่ข้างๆก็จับคอเสื้อของเค้าแล้วโยนเค้าออกไป
“แกกำลังรนหาที่ตายอย่างงั้นเหรอ!” บอดี้การ์ดข้างเค้าก็ก้าวไปข้างหน้าในทันที ท่าทีของพวกเค้าดูพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อ
“ไม่ต้องไว้หน้ากันแล้วมั้ง” ในตอนนี้เอง เฝิงกงก็ถ่มน้ำลายออกมา จากนั้นพลังปราณภายในร่ายกายของเค้ามันก็ระเบิดออกมาในทันที!
“เจ้าแห่งพลังปราณ!” หลังจากสัมผัสได้ถึงออร่าที่น่าสะพรึงกลัวจากร่างของเฝิงกง บอดี้การ์ดหลายคนก็หยุดนิ่งไปในทันที
เฝิงกงถอนลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา เค้ามองไปที่ฉินเฉิง โค้งคำนับแล้วพูดว่า “คุณฉิน เชิญนั่งครับ”
ฉินเฉิงนั่งลงข้างประธานชาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านประธานชา เราได้มาเจอกันอีกแล้วนะ”
สีหน้าของประธานชาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เค้าสูดลมหายใจเข้าแล้วพูดว่า “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
“ดูเหมือนว่านายจะเป็นหนี้ฉันนะ ประธานชาคงจะไม่ได้ลืมไปแล้วใช่ไหม?” ฉินเฉิงเหล่มองแล้วพูดขึ้นมา
ประธานชาหัวเราะแล้วพูดว่า: “ไอ่เจ้าเด็กน้อย แกกล้ามากเลยนะ เพราะหินโง่ๆสองสามตันนั่น แกก็กล้าที่จะบุกมาในทิศตะวันตกเฉียงใต้เพียงลำพังอย่างงั้นเหรอ? ทำไมกันนะ? เพื่อเงิน ก็ไม่เสียดายชีวิตแล้วอย่างงั้นเหรอ?”
ฉินเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พูดออกมาแบบนี้แล้ว ประธานชาคิดจะชักดาบอย่างงั้นเหรอ?”
“หึหึ ฉันไม่เคยพูดอะไรเลย” ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม น้ำเสียงของประธานชาดูค่อนข้างที่จะเย่อหยิง
ฉินเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “บังเอิญจริง ไม่มีใครในโลกนี้ที่เบี้ยวหนี้ฉันได้”
ในตอนที่อยู่ที่เมืองปีนัง ประธานชาก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุฉินเฉิงเลย แต่ตอนนี้เค้าอยู่ในเมืองยุน! เค้าก็ดูราวกับสิงโตที่สง่างามและไม่มีวันพ่ายแพ้ต่อเสือ!
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่รู้เลยว่าในช่วยหลายปีที่ผ่านมา ประธานชาก็มีเส้นสายมากขึ้นและในตอนนี้ก็มีปรมาจารย์ที่ยอดเยี่ยมอยู่ห้อมล้อมพวกเค้า!
“ยังไงก็มาแล้ว อย่างงั้นก็อยู่ต่อซะหน่อยสิ” ประธานชาก็สูดลมหายใจเขา จากนั้นเค้าก็เลิกที่จะสนใจฉินเฉิง
ฉินเฉิงเองก็ไม่อยากที่จะพูดเรื่องไร้สาระด้วย เค้าเอนตัวลงบนที่นั่งและหลับตาลงเล็กน้อย
“คุณฉิน จะให้ผมฆ่ามันเลยไหม” สีหน้าของเฝิงกงดูค่อนข้างจริงจัง เค้าก็กระซิบที่ข้างหูของฉินเฉิง
ฉินเฉิงโบกมือขึ้นมาเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ไม่ต้องรีบหรอก ฉันกำลังสนใจการประมูลครั้งนี้พอดีเลย”
เฝิงกงก็หยุดพูด เค้ายืนอยู่ข้างๆอย่างนิ่งๆ
“ท่านประธานชา ชายคนนี้เค้าดูเหมือนจะเป็นมหาเจ้าแห่งพลังปราณ” ในตอนนี้เอง บอดี้การ์ดของประธานชาก็กระซิบที่ข้างหูของเค้า
ประธานชาก็พูดขึ้นมาเบาๆว่า : “ไม่น่าแปลกที่มันจะมั่นใจมากขนาดนี้ มันไม่สำคัญอะไรหรอก มันก็แค่มหาเจ้าแห่งพลังปราณก็เท่านั้น มันทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”
หลังจากพูดแล้ว เค้าก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งข้อความ:
“คุณหยาน ฉันอยากจะขอให้คุณฆ่ามหาเจ้าแห่งพลังปราณซักหน่อย ราคาคุณก็บอกมาได้เลย”
อีกฝ่ายก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า: ร้อยล้านดอลลาร์
เปลือกตาของประธานชาก็กระตุกขึ้นมา คนเดียวมีค่าร้อยล้านดอลลาร์ นี่มันกล้าพูดออกมาแบบนี้เหรอ!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้แล้ว เค้าก็มองไปที่ฉินเฉิงด้วยความโกรธจัดแล้วพูดเบาๆขึ้นมาว่า: “ทั้งหมดมันเป็นเพราะไอ่เด็กนี่ มันทำให้ฉันต้องเสียเงินกว่าร้อยล้านดอลล่า! เงินพวกนี้ ฉันจะต้องเอาคืนจากแก!”