ฉินเฉิงเงียบไม่พูดอะไร แสดงถึงว่าให้ฟางจิ้งเหยาพูดออกมาต่อ
ฟางจิ้งเหยาพูดออกมา “ครั้งที่แล้วตอนที่สำนักชื่อหลงออกประกาศล่าค่าหัว เขาใช้ปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ 3 คน กับ มหาเจ้าแห่งพลังปราณอีก 10 คน”
เมื่อได้ยินคำนวณของคนเหล่านี้ ฉินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
สำนักชื่อหลงมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ? แบบนี้มันจะไม่เกินไปหน่อยหรือไง!
และตอนนี้แค่ฉินเฉิงไปเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ เกรงว่าเขาก็คงจะสู้ไม่ได้!
“สำนักชื่อหลงจะประกาศรายชื่อออกมาอีกในไม่ช้า อีกเดี๋ยวฉันจะหาจากเว็บไซต์ให้นาย วันหลังนายจะได้เอาไปดูด้วยตัวเองได้” ฟางจิ้งเหยาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ถ้าหากมีโอกาสก็หนีไปได้เลย”
ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ พยักหน้าและตอบกลับไปว่า “ผมรู้แล้วครับหัวหน้าฟาง”
หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ เขาก็หันไปมองหน้าฟางเสี่ยวเต๋อและพูดออกมาว่า “เดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับไปส่งที่เมืองหลวง”
“ทำไมหละ?” ฟางเสี่ยวเต๋อพูดอย่างไม่พอใจ “กว่าฉันจะออกมาได้มันไม่ง่ายเลย เพราะงั้นฉันจะยังไม่กลับ”
“ถ้าไม่กลับเธออาจะมีอันตรายถึงชีวิต เข้าใจไหม?” ฉินเฉิงพูดออกไปด้วยเสียงต่ำ
ราวกับว่าฟางเสี่ยวเต๋อถูกท่าทางที่จริงจังของฉินเฉิงทำให้ตกใจกลัว เธอพูดออกมาว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? แล้วนายหละ? ต้องการให้คนของพ่อฉันช่วยปกป้องนายไหม….”
“ฉันมีแผนแล้ว เธอรีบกลับไปให้เร็วที่สุด” ฉินเฉิงพูดออกมา
เขามีเทคนิคการฝึกฝนของเขา วิชาลดระยะทาง ความเร็วของเขานั้นเร็วมาก ต่อให้เป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ก็ตามเขาไม่ทัน
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาของการต่อสู้ มันเป็นเวลาของการหนีเอาตัวรอด
พนักงานขายที่อยู่ข้างๆก็ได้ยินเรื่องเหล่านั้นแบบไม่ชัดเจน เขาคิดว่าสองคนนี้คงบ้าไปแล้ว
เขาจึงถามกลับมาว่า “คุณครับ ยังจะซื้ออยู่ไหม?”
“อ่า” ฉินเฉิงพยักหน้า “จากนั้นเขาก็ตามพนักงานขายไปทำเรื่องการซื้อขาย”
หลังจากนั้นไม่นาน ฟางจิ้งเหยาก็ส่งข้อมูลมาให้ทางเว็บไซต์
เว็บไซต์นี้มีชื่อว่า International Killing และผู้ใช้ในเว็บนี้เกือบทั้งหมดเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ระดับแนวหน้า ตลอดจนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากประเทศต่างๆ และมันก็เป็นความลับอย่างมาก
หัวข้อที่กล่าวถึงในเว็บไซต์ก็มีความชัดเจนอย่างยิ่งเช่นกัน บางครั้งก็จะมีประกาศล่าค่าหัวออกมาให้เห็น
สิ่งที่ถูกตรึงไว้ที่ด้านบนสุดในขณะนี้คือคำสั่งฆ่าที่ออกโดยสำนักชื่อหลง
ฉินเฉิงคลิกที่โพสต์นี้และเหลือบมอง และพบว่าคนด้านล่างเกือบทุกคนกำลังตั้งคำถามถึงตัวตนของเขา
“ฉินเฉิงคนนี้เป็นคนอย่างไง? ทำไมถึงทำให้สำนักชื่อหลงออกประกาศล่าค่าหัวออกมาได้?”
“เกรงว่าน่าจะเป็นคนที่อันตรายสุดๆแน่ๆ ไม่อย่างนั้นสำนักชื่อหลงคงไม่ให้ความสำคัญขนาดนี้”
“ไม่รู้ว่าสำนักชื่อหลงจะใช้ให้ยอดฝีมือแบบไหนไปจัดการกับเขา”
เมื่อมองไปที่คำสีเลือด ฉินเฉิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
“คุณครับ ลงชื่อที่นี่” พนักงานขายเรียกจากด้านข้าง
ฉินเฉิงวางโทรศัพท์ลงและทำธุระต่อ
หลังจากที่ใช้เวลาไปกว่าหนึ่งชั่วโมง การซื้อของเขาก็เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย
“คุณครับ ไม่ต้องพาคุณไปชมบ้านจริงๆเหรอครับ?” พนักงานขายถาม
“ไม่จำเป็น” ฉินเฉิงโบกมือและพาฟางเสี่ยวเต๋อเดินออกมา
“ตอนนี้ฉันจะไปส่งเธอที่ท่ารถ” หลังจากที่ขึ้นรถมาแล้วฉินเฉิงก็บอกกับฟางเสี่ยวเต๋อ
ถึงแม้ว่าฟางเสี่ยวเต๋อจะเป็นคนที่ซุกซน แต่เธอก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช้เวลาที่จะมาทำแบบนั้น เธอจึงตกลงอย่างง่ายๆ
หลังจากที่ส่งฟางเสี่ยวเต๋อเรียบร้อยแล้ว ฉินเฉิงก็กลับมาที่บ้านที่เขาเพิ่งซื้อใหม่ทันที
ต้องบอกเลยว่าพลังแห่งจิตวิญญาณของที่นี่ดีกว่าที่ปีนังมาก ถ้าหากอยู่ที่นี่เพื่อดูดพลังแห่งจิตวิญญาณได้ ความสามารถของเขาต้องพัฒนาไปอย่างรวดเร็วได้แน่
ในคืนนั้นฉินเฉิงนั่งไขว่ห้างในลานที่กว้างใหญ่ และวิธีการนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในใจของเขา
“ถ้าหาเราใช้เทคนิคนี้ร่วมกับวิชากลืนวิญญาณมันก็คงจะดีน่าดู” ฉินเฉิงจับคางของเขาและคิดออกมาในใจ
น่าเสียดายที่เทคนิคการกลืนกินวิญญาณนั้นเป็นวิธีการที่ต้องห้ามอยู่ แม้ว่าจะมีรูปแบบดังกล่าวอยู่ แต่ก็ถูกกำจัดโดยคนรุ่นก่อนไปนานแล้ว
วันรุ่งขึ้นสำนักชื่อหลงก็ปล่อยรายชื่อจริง!
และโพสต์นี้ถูกแสดงความคิดเห็นโดยผู้คนนับไม่ถ้วนในเวลาเพียงไม่กี่นาที!
ฉินเฉิงคลิกที่โพสต์นี้และเห็นชื่อมากกว่าสิบคนที่อยู่บนโพสต์
หนึ่งในนั้นคือหนึ่งในสิบหัวหน้าของสำนักชื่อหลง!
ความหมายของชื่อชื่อหลงก็คือสำนักที่ถูกก่อตั้งด้วยหัวหน้าสิบคน และแต่ละคนถือว่าเป็นคนที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับมังกร! พวกเขาคือปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง!
นอกจากนี้ยังมีปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้อีกหนึ่งท่าน กับนักแม่นปืนอีกสี่คน และสุดยอดของสี่มหาเจ้าแห่งพลังปราณ!
รายชื่อที่น่ากลัวและยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ต่อให้เป็นการฆ่าข้ามเขตก็ถือว่าสร้างความโกลาหลมากเลยทีเดียว!
“ฉินเฉิงคนนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมสำนักชื่อหลงถึงจริจังกับเขาขนาดนั้น?”
“ปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้สองคน ไม่ได้เห็นประการล่าค่าหัวที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มานานแล้ว”
“ดูแล้วว่าฉินเฉิงคนนี้จะต้องถูกเขียนไว้บนรายชื่อของผู้ถูกฆ่าโดยสำนักชื่อหลงเสียแล้วหละ!”
หลังจากที่ฉินเฉิงเห็นชื่อของพวกเขาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
ไม่ต้องพูดถึงปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ แค่มหาเจ้าแห่งพลังปราณ 4 คน ฉินเฉิงก็ปวดหัวแล้ว!
“สำนักชื่อหลงนี่มันบ้าไปแล้วชัดๆ….” ฉินเฉิงลูบหัวของเขา เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไงดี
และในตอนนั้นฟางจิ้งเหยาก็โทรมาหาเขาอีกครั้ง
เขาพูดออกมาด้วยความร้อนรน “ฉินเฉิง นายเห็นรายชื่อแล้วหรือยัง?”
“เห็นแล้ว” ฉินเฉิงตอบ
“คุณปู่ซูเองก็รู้เรื่องนี้แล้ว เขาสั่งให้ฉันหายอดฝีมือของสำนักงานความมั่นคงไปช่วยนาย แต่คำขอของฉันถูกปฏิเสธ” ฟางจิ้งเหยาตอบกลับมา
ฉินเฉิงพูดออกไปว่า “หัวหน้าฟาง ไม่ต้องเป็นกังวลกับผมหรอก ขอแค่คุณดูแลคุณปู่ซูให้ดีก็เพียงพอแล้ว”
ฟางจิ้งเหยาเงียบไปพักหนึ่ง จู่ๆเขาก็พูดออกมาว่า “ฉินเฉิง หนีไปเถอะ เกิดเป็นคนสามารถยืดหยุ่นได้ มันไม่ผิดหรอกที่จะวิ่งหนี”
“หนี?” ฉินเฉิงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ถ้าหากปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ต้องการที่จะฆ่าผมจริงๆ ผมจะหนีไปที่ไหนได้? ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากผมหนี คนรอบข้างจะต้องทนทุกข์ทรมานอีกมา”
ฟางจิ้งเหยาถอนหายใจ เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา
“งั้นนายคิดจะทำยังไง?” ฟางจิ้งเหยาถาม
“ฉันจะรอเขาอยู่ที่นี่” ฉินเฉิงหัวเราะและพูดออกไป
พูดจบเขาก็วางสายโทรศัพท์ทันที
หลายวันนี้เขาไม่ได้ออกไปไหนทั้งนั้น ทุกวันเขาฝึกดูดพลังแห่งจิตวิญญาณ
หลังจากที่ใช้เวลาไปกว่าสามวันเต็ม เขาก็ฝึกมันได้อย่างสมบูรณ์
เขาเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา และพึมพำออกมาว่า “ถ้าฉันรอดพ้นจากภัยพิบัตินี้ ฉันจะปรับใช้รูปแบบดูดพลังจิตวิญญาณนี้ในทุกมุมของประเทศอย่างแน่นอน”
……
ในทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุดมีเกาะเล็กๆอยู่เกาะหนึ่ง
บนเกาะเล็กๆนั้นมีชายชราและหญิงสาวคนหนึ่ง
ในตอนนั้นฝ่ามือทั้งสองข้างของชายชราประทับอยู่บนแผ่นหลังของหญิงสาว พลังของเขาไหล่ออกจากฝ่ามือของเขาเข้าไปตามร่างกายของหญิงสาว
หากคนธรรมดาได้รับพลังงานที่มหาศาลขนาดนี้ร่างกายของเขาอาจจะระเบิดไปแล้วก็ได้ แต่ร่างกายของหญิงสาวนั้นเปรียบเสมือนภาชนะพลังงานบริสุทธิ์ที่มีมาแต่กำเนิด ร่างกายของเธอไม่มีขีดจำกัด!
กระบวนการนี้ดำเนินมาตลอดทั้งเดือน และความแข็งแกร่งของหญิงสาวได้ก้าวเข้าสู่จุดสุดยอดของปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้
ความเร็วขนาดนี้ถ้ามีคนภายนอกได้รู้ โลกต้องตะลึงอย่างแน่นอน!
“เพียงพอแล้ว” ชายชราดึงมือออกจากซูวานและค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
“ที่นี่มันเป็นทะเลที่กว้างใหญ่ มีอันตรายเข้ามาไม่หยุด ถ้าหากโชคดีก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าหากโชคร้ายก็อาจจะเจอกับสัตว์ร้ายได้” ชายชรายิ้มออกมา “เธออยู่ที่นี่ฝึกวิชาของเธอไปก่อนเถอะ!”
เมื่อซูวานได้ยินอย่างนั้นก็ถามออกมาว่า “คุณจะไปไหน?”
ชายชราลูบเคราของเขาและพูดช้าๆ “ไปที่ปินโจว”