หลังจากที่เสียงอันเยือกเย็นเงียบลง แสงสีทองก็มารวมตัวกันอยู่ที่ฝ่ามือของฉินเฉิง ราวกับว่านี่เป็นพลังทั้งหมดของเขาและต่อยไปที่หลังของโฉวฝูจิงเต็มๆ!
“ปึง!”
เสียงดังสนั่น แต่ฉินเฉิงกลับรู้สึกว่าฝ่ามือของเขากำลังปะทะกับแผ่นเหล็ก มือของเขารู้สึกชาไปหมด!
ในตอนนั้นร่างกายของโฉวฝูจิงมีแสงจางๆควบแน่นออกมา ปกป้องร่างกายของเขา
“ลอบโจมตี? นายคิดว่าจะฆ่าฉันได้อย่างนั้นเหรอ?” สีหน้าของโฉวฝูจิงเผยให้เห็นรอยยิ้มออกมา และม่านตาสีดำของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ฉินเฉิงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “จุดสูงสุดของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่นี่สมกับคำร่ำลือจริงๆ ขนาดรับหมัดของฉันไปเต็มๆยังไม่สะเทือนเลย…”
“สำหรับปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นความแตกต่างเพียงขั้นเดียว แต่ว่าระยะห่างของมันนั้นกว้างใหญ่เหลือเกิน ยิ่งไปกว่านั้นนายกับฉันไม่ได้ห่างกันแค่ขั้นเดียว” โฉวฝูจิงนำมือไขว้หลังและพูดออกมา
ฉินเฉิงหรี่ตาลง เขาปล่อยออร่าของเขาออกมาอีกครั้ง จู่ๆในมือของเขาก็มีดาบโบราณธรรมดาๆเล่มหนึ่งปรากฎออกมา!
ทันทีที่ดาบเล่มนี้ปรากฎออกมา ออร่าของความเก่าแก่ก็พุ่งหล่านออกมาทันที
แม้แต่โฉวฝูจิงเองยังต้องหดตาลงและจ้องมองไปที่ดาบ!
ดาบเล่มนี้ก็คือดาบทองสัมฤทธิ์ที่ฉินเฉิงได้รับมาจากที่ซีหนาน! ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าดาบเล่มนี้มีความเป็นมาอย่างไง แต่พลังของมันเป็นสิ่งที่สามารถหาได้ยาก!
“เจ้าหนุ่ม ตัวนายนี่มีของดีไม่น้อยเลย” โฉวฝูจิงยิ้มอย่างประหลาด “นี่เป็นกำไรที่คาดไม่ถึงจริงๆ”
ฉินเฉิงตอบกลับไป “อย่าเพิ่งรีบร้อน เดี๋ยวฉันจะใช้ดาบเล่มนี้ตัดหัวของนายให้ดู!”
พูดจบฉินเฉิงก็อัดพลังวิญญาณในร่างกายของเขาเข้าไปในดาบ
ทันทีที่พลังวิญญาณเข้าไป ดาบก็ส่งเสียงร้องออกมา และเกิดแสงสีแดงอ่อนปกคลุมเท่าตัวดาบ
“จิตสังหารแรงมาก!” สีหน้าของโฉวฝูจิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย และเขาก็ระมัดระวังตัวในทันใด
ด้วยจิตสังหารที่เข้มข้นทำให้เขารับรู้ได้ถึงความอันตรายจากมัน!
“ระวังดาบที่อยู่ในมือของเขาด้วย” โฉวฝูจิงตัวสั่นเล็กน้อย เขาเพิ่มพลังปราณของเขาออกมาจนถึงขีดสุดและตั้งท่าป้องกัน!
“ตายซะ!” ฉินเฉิงตะโกนออกมา ทันใดนั้นเขาก็ใช้วิชาดาบที่เขาไม่รู้จักออกมา!
ทันทีที่ดาบทองสัมฤทธิ์ถูกฟันออกไป แสงสีแดงบนตัวของมันก็ค่อยๆเข้มขึ้น!
เมื่อเห็นแบบนั้นโฉวฝูจิงก็ตะโกนเปล่งพลังออกมา เขายื่นมือออกมาด้านหน้าและสร้างโล่ขึ้นมาป้องกัน!
“ตู้มมม!”
ดาบกระแทกเข้ากับโล่ของเขาทันที ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้น!
แต่สิ่งที่โฉวฝูจิงคิดไม่ถึงคือ ท่าทางที่ไม่น่าทำอะไรได้แต่กลับทำลายโล่ของเขาโดยไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว!
“เอ๋?” สีหน้าของโฉวฝูจิงมีความสงสัยเกิดขึ้นมาเล็กน้อย และจู่ๆสิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็เกิดขึ้น! ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป!
“ไม่ได้การแล้ว เสร็จกัน!” โฉวฝูจิงมองไปที่รอบๆ
แน่นอนว่าเขาไม่เห็นว่าตอนนี้ฉินเฉิงไปอยู่ที่ไหน?
“เจ้าเด็กเหลือขอ!” ใบหน้าของโฉวฝูจิงมืดมน เขากำหมัดแน่น และความเกลียดชังอันยิ่งใหญ่ก็ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
“คุณโฉว เขาไปไหน?” ลูกน้องของเขาที่อยู่ข้างๆพูดออกมา
โฉวฝูจิงสูดลมหายใจเข้าและพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “พวกเราหลงกลมันเข้าแล้ว….”
……
ตอนนี้ฉินเฉิงกำลังหนีไปทางทิศใต้อย่างสุดกำลัง
“เจ้าพวกงี่เง่า คิดว่าฉันจะสู้กับนายจริงๆเหรอ?” ฉินเฉิงเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อพวกของโฉวฝูจิงรู้ตัว ฉินเฉิงก็วิ่งหนีไปหลายกิโลเมตรแล้ว!
พวกของโฉวฝูจิงไม่ได้อยู่ในรายชื่อของคนที่จะมาตามล่าเขา พวกเขาไม่กล้าอะไรมากมายกับฉินเฉิง พวกเขาทำได้แค่ยอมรับกับความเขลาของตนเองเท่านั้น
“คุณโฉว พวกเราต้องตามไปไหม?” ลูกน้องของโฉวฝูจิงถามออกมา
ฉินเฉิงหันหน้าไปมองเหล่าลูกน้องของเขาด้วยความเยือกเย็น และพูดออกมาว่า “ตามไปก็บ้าแล้ว! ตอนนี้การกระทำของพวกเราโจ่งแจ้งเกินไป ถ้าหากยังไม่รีบหนีออกไปด้านนอก สมาคมฤดูร้อนอาจจะส่งคนมาตามล่าพวกเรา!”
ไม่ต้องพูดถึงผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เลย ต่อให้เป็นคนที่อยู่บนจุดสูงสุดขอจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังไม่กล้าเป็นศัตรูกับพวกเขา
นอกเสียจากว่าพวกเขาก้าวไปถึงระดับปรมาจารย์ระดับหัวจิน แบบนั้นก็เพียงพอที่จะสามารถสู้ได้
“คงจะต้องหยุดแค่นี้!” โฉวฝูจิงและคนอื่นๆพูดออกมาอย่างไม่เต็มใจ
หลังจากพวกเขายืนอยู่สักพัก ในที่สุดเขาก็เดินจากไป
……
ที่โรงแรมแห่งหนึ่งฟางเสี่ยวเต๋อก็ค่อยฟื้นขึ้นมา
“เธอตื่นแล้ว?” เหล่ยหยุนถามออกมาด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น
หลังจากที่ฟางเสี่ยวเต๋อลืมตาขึ้นมา เรื่องแรงที่เธอทำก็คือตบไปที่หน้าของเหล่ยหยุน
“พวกนายมันเลวที่สุด!” ฟางเสี่ยวเต๋อสาปแช่งออกไป
สีหน้าของเหล่ยหยุนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “เธออยากตายอย่างนั้นเหรอ? เธอคิดว่าพวกฉันไม่กล้าฆ่าเธออย่างนั้นเหรอ?”
ฟางเสี่ยวเต๋อกัดฟันและพูดออกมา “ถ้ามีความสามารถขนาดนั้นก็ฆ่าฉันเลยสิ!”
“งั้นฉันจะทำให้เธอสมความปรารถนา!” พูดจบเหล่ยหยุนก็ยกมือขึ้น
“ควับ!”
ในตอนนั้นฝ่ามือที่ละเอียดอ่อนแค่ทรงพลังก็จับมาที่มือของเหล่ยหยุน
“ลงมือกับผู้หญิงแบบนี้มันคงไม่ค่อยดีมั้ง?”
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าที่บอบบางแต่ทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก
“ฉินเฉิง นายยังไม่ตาย!” สีหน้าของฟางเสี่ยวเต๋อเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะทักทายออกมา
“เห้อ น่าเสียดายที่พ่อหม้ายอย่างนายยังไม่ตาย!” ฟางเสี่ยวเต๋อพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
ฉินเฉิงกลอกตามองไปที่เธอและพูดออกมาว่า “ทำไมฉันถึงเป็นพ่อหม้าย?”
“อืม…ก็นายเคยหย้ามาแล้วครั้งหนึ่ง!” ฟางเสี่ยวเต๋อพูดออกมา
ฉินเฉิงไม่รู้จะพูดยังไง เขาจึงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ส่วนเหล่ยหยุนที่อยู่ข้างๆก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา สะบัดมือของฉินเฉิงออกและเดินออกไป
“เฮ้ย..ไม่ใช่ว่านายฆ่าพวกเขาทั้งหมดไปหรอกนะ?” ฟางเสี่ยวเต๋อที่อยู่ข้างๆถามออกมาด้วยใบหน้าที่สงสัย
และในตอนที่พวกเขากำลังคุยกัน เหรินกุ้ยอีก็เดินเข้ามา
เขาพูดออกมาด้วยความสงสัยว่า “คนเหล่านั้นคงไม่ได้ถูกจัดการด้วยฝีมือของนายไปใช่ไหม?”
ฉินเฉิงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ฉันจะไปเอาความสามารถขนาดนั้นมาจากที่ไหน”
เหรินกุ้ยอีไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น แต่ในใจของเขาก็ตกใจไม่น้อย
“กลับมาได้ก็ดีแล้ว” ในตอนนั้นหยูเหม่ยเหรินเองก็เดินเข้ามา
ในมือของเธอถือน้ำมาแก้วหนึ่ง เธอส่งน้ำให้ฉินเฉิง ยิ้มและพูดว่า “ดื่มน้ำสักหน่อย”
ฉินเฉิงรับน้ำมา เขาอดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง จากนั้นเขาก็รีบดื่มน้ำทันที
“ขอบคุณมากคุณหนูหยู” ฉินเฉิงพูด
หยูเหม่ยเหรินปิดปากของตัวเองและหัวเราะออกมา เธอสวมชุดกี่เพ้า บั้นท้ายที่อวบอ้วนของเธอถูกห่ออย่างแน่นหนาในชุดกี่เพ้า ซึ่งดูราวกับทิวทัศน์ที่สวยงาม
เซียงหรงที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย และเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่ในใจ
“นี่มันก็ดึกมากแล้ว วันนี้รีบพักผ่อนกันเถอะ” ฉินเฉิงพูดออกมา
“เสี่ยวเต๋อ รีบกลับไปที่ห้องได้แล้ว” เซียงหรงเดินเข้ามาพูดกับฟางเสี่ยวเต๋อ
ฟางเสี่ยวเต๋อมองไปที่หยูเหม่ยเหรินด้วยความระมัดระวังและพูดว่า “ฉันไม่กลับ ฉันจะนอนอยู่ที่ห้องนี้!”
สีหน้าของเซียงหรงเปลี่ยนไปทันที ตัวของเขาสั่นและพูดออกมาว่า “เธอ…เธอพูดอะไรออกมา? เธออยากจะนอนห้องเดียวกับเขาอย่างนั้นเหรอ?”
“ทำไม ไม่ได้เหรอ?” ฟางเสี่ยวเต๋อพูดออกไป “ตรงกันข้าม นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกด้วยซ้ำ!”
“อะไรนะ?! ไม่ใช่ครั้งแรก?” สีหน้าของเซียงหรงเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขากัดฟันและพูดออกมาว่า “เสี่ยวเต๋อ เธอเพิ่งจะอายุเท่าไหร่? เธอจะมานอนห้องเดียวกับผู้ชายได้อย่างไร?”
“แล้วมันไปหนักหัวอะไรนาย!” ฟางเสี่ยวเต๋อด่าออกมา
หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็เดินเข้าไปควงแขนฉินเฉิง กะพริบตาและพูดออกมาว่า “คืนนี้ให้ฉันนอนที่นี่นะ ได้ไหม….”