หลินชิงเฉิงที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากที่เธอวางสาย เธอก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ไอ้โง่มันก็ยังโง่อยู่วันยังค่ำ ฉันจะหลอกมันให้ได้!”
ด้านนอก มีเพียงหลินชิงเฉิงยืนอยู่คนเดียว หยูฉงชือก็ไม่ได้อยู่ด้วย
ในฐานะผู้อาวุโสแห่งตำหนักเทพโอสถ เธอจึงไม่กล้ายุ่ง
ไม่นาน สองพี่น้องตระกูลหงก็เดินเข้ามา
พวกเขามองไปที่หลินชิงเฉิง และพูดว่า “คุณหลิน ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เดี๋ยวก่อน แปปนึง” หลินชิงเฉิงกล่าวอย่างพอใจ “พี่ชายทั้งสอง ฉันเกลียดฉินเฉิงมาก พอถึงเวลานั้นอยากจะรบกวนพี่ทั้งสองจัดการหักขาเขาและให้เขาคุกเข่าต่อหน้าฉันที!”
“ไม่มีปัญหา” หงอีหัวเราะ “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณหลิน”
ในขณะนั้นเอง ฉินเฉิงอยู่ที่ตำหนังเทพโอสถ ก็ได้ยินอย่างชัดเจน
เขาหรี่ตาและพูดว่า “ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจเช่นเคย… หักขาก็เป็นวิธีไม่เลวเลย…”
“เอาดาบให้ฉันหน่อย” ฉินเฉิงลุกขึ้นและมองไปที่ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้า
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้ารีบหยิบดาบทองสัมฤทธิ์ออกจากกล่องที่เขาถืออยู่ และส่งให้ฉินเฉิง
ฉินเฉิงเอามือถูไปที่ดาบนั้นแล้วเดินออกไป
หลินชิงซือกำลังรออยู่ตรงด้านหน้าของตำหนักเทพโอสถ
เธอมาแอบมองไปตามร่องประตู สายตาของเธอดูเป็นกังวลเล็กน้อย
เมื่อฉินเฉิงเดินไปที่ประตูพร้อมกับดาบทองในมือ หลินชิงซือก็รีบวิ่งเข้ามา
เธอขวางฉินเฉิงไว้และพูดว่า “ทำไมนายไม่จบไม่สิ้นสักที? น้องสาวของฉันบอกให้นายออกไปจากที่นี่? นายฟังแล้วเข้าหูซ่ายทะลุหูขวาหรือไง”
ยิ่งเพิ่มความประหลาดใจให้ฉินเฉิงมากขึ้น ตอนนี้หลินชิงซือพยายามจะช่วยตน ดูมีความจริงใจมาก
“แต่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอนะ?” ฉินเฉิงขมวดคิ้ว
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบันทึกเกี่ยวกับกายหยางบริสุทธิ์ ร่างกายนี้เป็นเหมือนหยกที่ยังไม่ได้เจียระไน ง่ายต่อการปนเปื้อน และง่ายต่อการใส่ลวดลาย
การแสดงออกของหลินชิงซือเป็นเพราะเธอมีลักษณะพิเศษนั้น
“รีบกลับไปเถอะ!” หลินชิงซีพูดต่อ
ฉินเฉิงยิ้มและพูดว่า “พี่สาวของเธอบอกว่ามีของขวัญ ที่จะให้ฉันดู”
“ของขวัญอะไร นายเชื่ออย่างนั้นจริงๆเหรอ!” หลินชิงซีกระทืบเท้าด้วยความโกรธ
แต่ฉินเฉิงไม่ได้สนใจเลย เขาผลักประตูตำหนักเทพโอสถและก้าวเข้าไป
หลินชิงซือกลัวว่าหลินชิงเฉิงจะเห็นเข้า เธอจึงรีบซ่อนตัว
หลินชิงเฉิงยืนอยู่คนเดียวภายใต้แสงจันทร์
เมื่อเธอเห็นฉินเฉิง สายตาบางอย่างก็ปรากฏ
“ของอะไร เอามาให้ฉันสิ” ฉินเฉิงถือดาบอยู่พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลินชิงเฉิงกัดฟันและพูดว่า “ฮ่าๆ แกนี่มันหลอกง่ายจริงๆ ยาอะไรนะเหรอ? มันไม่หรอก ฉันจะบอกแกว่า วันนี้จะเป็นวันตายของแก!”
ทันทีที่พูดจบ หงอีกับหงเอ้อก็ปรากฏตัวขึ้น
พวกเขาปิดเส้นทางของฉินเฉิง และเตรียมพร้อมที่จะลงมือฆ่า
“พี่ทั้งสอง หักขาเขาสะ!” หลินชิงเฉิงกัดฟันพูด
ฉินเฉิงถอนหายใจ “หลินชิงเฉิง เธอจะไม่มีโอกาสขอโทษฉันอีก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ขอโทษแกน่ะเหรอ? ฝันไปเถอะ! อีกเดี๋ยวแกจะต้องมาคุกเข่าขอความเมตตาจากฉัน! ” หลินชิงเฉิงกัดฟันพูด
หลังจากนั้นเธอก็ถอยออกไป และในขณะเดียวกันหงอีกับหงเอ้อก็เดินตรงเข้ามา
“นายคือฉินเฉิงเหรอ?” หงอีพูดพร้อมหรี่ตาลง “ฉันจะให้โอกาสนาย หักขาตัวเองสะ อย่าให้เราลงมือเองเลย”
“ขาหักตัวเองเหรอ?” ฉินเฉิงเยาะเย้ย “จะเชื่อสวะอย่างนายสองคนไปทำไมกัน?”
“โอหังเสียจริง!” หงอีตะโกนอย่างโกรธจัด!
“เลิกพูดไร้สาระกับเขา ลงมือได้แล้ว!” หลินชิงเฉิงตะโกนเสียงดัง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หงอีก็เหยียบไปที่พื้น! ทันใดนั้น ออร่าสีน้ำตาลแดงก็ประกายบนร่างกายของเขา เขาเหยียบซ้ำไปที่พื้นหลายจุด!
นี่คือวรยุทธ์ลับของตระกูลหง วรยุทธรุ้งสีทอง! สถานที่แห่งนี้สามารถเพิ่มความแข็งของร่างกายได้อย่างมาก เทียบได้กับระดับปรมาจารย์เลย!
นอกจากนี้ ทั้งสองยังได้ยาพิเศษที่ทำให้ทั้งสองเกือบจะอยู่ยงคงกระพัน!
“ตายซะเถอะ!” หงอีตะโกนอย่างโกรธจัด เขาลอยตัวกลางอากาศ เข้ามาหาฉินเฉิงในชั่วพริบตา!
ความแข็งแกร่งของเขาอยู่เหนือฉินเฉิง ฉินเฉิงไม่รอช้า เขาถอยไปสองสามก้าว ร่างของเขาลอยขึ้นไปในอากาศ และดาบในมือของเขาฟันลงไป!
ออร่าดาบเปร่งประกายเป็นสีแดง และแทงทะลุเข้าไปที่ร่างของหงอีอย่างดุเดือด!
ด้วยเสียง “แกร๊ก” ของดาบที่ถูกทำลาย เหลือเพียงรอยคราบขาวบนร่างกายของเขา!
“ฮ่าฮ่าฮ่า ความแข็งแกร่งมีเพียงเท่านี้เหรอ?” หงอีอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นและหัวเราะ “นายทำอะไรฉันไม่ได้หรอก!”
ฉินเฉิงหรี่ตาและพูดว่า “ไม่เลว ต้านทานความแข็งแกร่งหนึ่งในสามของฉันได้ แข็งแกร่งพอๆกัน”
“ความแข็งแกร่งหนึ่งในสาม? ฮ่าฮ่าฮ่า ขี้โมจริงๆ!” หงอีเยาะเย้ย “ฉันว่าดาบเล่มนี้จะทำให้พลังงานภายในร่างกายของนายสูญเสียไปหมดแล้วมั้ง?”
ในเวลาเดียวกัน หงเอ้อ ก้าวออกมาและพูดอย่างเย็นชา “พี่ใหญ่ ที่นี่คือตำหนักเทพโอสถ เราต้องรีบจัดการแล้ว ”
“ได้” หงอีพยักหน้า ทั้งสองก็เข้าหาฉินเฉิงอีกครั้ง
หมัดที่เหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ มีพลังทำลายล้างให้คนตาย พวกเขาใช้ตัวเองเป็นอาวุธ ร่างกายของพวกเขาหมือนดวงอาทิตย์ หากสัมผัสจะเจ็บตัว!
ฉินเฉิงมองดูการโจมดีจากทางซ้ายและขวา
“ตุ้บ”
มีเสียงดังอีกครั้ง ร่างของฉินเฉิงลอยขึ้น และลอยไปไกลหลายเซนติเมตร
“สุดยอด!” หลินชิงเฉิงตะโกนอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นแบบนี้
หงอี หัวเราะเยาะ “หมัดนี้ สามารถจัดการกับชีวิตเขาได้”
“จริงเหรอ?” อย่างไรก็ตามฉินเฉิงก็พูดมาจากด้านหลังของเขา
“รนหาที่ตาย!” หงอีโกรธใช้แขนที่อาวุธของเขา เหวี่ยงไปหาฉินเฉิงอย่างดุเดือด!
“ฉับ!”
ด้วยเสียงที่คมชัด แขนของหงอีถูกตัดขาดทันที!
“โอ๊ย!!!” หงอีจับแขนขวาของเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ดาบเล่มนี้คมมาก ตัดเหล็กเหมือนตัดโคลน แม้แต่เหล็กแข็งแกร่งก็ตัดได้ ไม่ต้องพูดถึงนาย” ฉินเฉิงกล่าวด้วยใบหน้าที่เย็นชา
ใบหน้าของหงเอ้อค่อยๆ เคร่งขรึม และเขาพูดอย่างเย็นชาว่า “นายเป็นปรมาจารย์ที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่าไปกว่าเราสองคน จะมาสู้กับเราได้ไง”
ฉินเฉิงส่ายหัวและกล่าวว่า “นอกจากระดับแล้ว อาวุธและเทคนิคยังเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการต่อสู้ด้วย”
“แขนของฉัน…” หงอีกัดฟันด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
“ไม่ต้องตกใจ เภสัชกรของตำหนักเทพโอสถจะต่อแขนให้นาย” หงเอ๋อกล่าว
“ใช่ ฉันเกือบลืมไปเลย” หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ฉินเฉิงพยักหน้า เขายกเท้าขึ้นและเหยียบแขนนี้อย่างแรง
“แกรก” แขนนี้ถูกเหยียบ เนื้อและกระดูกก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย