เลือดออกมาเต็มปากของชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้า เขาลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก
“คุณตง ฉันไม่อยากมีเรื่องกับคุณ คุณ…”
“โครม!”
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้ายังพูดไม่ทันจบตงเทียนหนานก็ฟาดมือออกมาอีกครั้ง
“คิดว่าเป็นปรมาจารย์แล้วหรือไง? ก็งั้นๆ” ตงเทียนหนานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าลุกขึ้นจากพื้นเป็นครั้งที่สาม คราวนี้เขาเริ่มเซแล้ว ทำได้เพียงเอามือจับกำแพงไว้
“ยังยืนขึ้นได้อีกเหรอ?” ตงเทียนหนานประหลาดใจเล็กน้อย มุมปากยิ้มขึ้น และเขาก็ยกมือขึ้นอีกครั้ง
ด้วยฝ่ามือนี้ มือของเขาควบสายลมไว้
“ฉันอยากรู้นักแกจะแข็งแกร่งขนาดไหน” เสียงตงเทียนหนานดังขึ้นจากนั้นฝ่ามือของเขาผลักไปข้างหน้าอย่างดุเดือด!
“ตู้ม!”
เสียงระเบิดดังสนั่น กำแพงพังยับเยิน!
“สมน้ำหน้า!” ลูกศิษย์ของตงเทียนหนานพูดขึ้น
ตงเทียนหนานไม่พูดอะไร วางมือลง และมองดูฝุ่นควันนั้น
“ตงเทียนหนาน ถ้าจะมาฆ่าฉันก็บอกดีๆ ไม่เห็นต้องเอาชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้ามาเป็นข้ออ้าง?”
น้ำเสียงที่เย็นชาดังขึ้น ฉินเฉิงเดินออกมาจากกลุ่มควันนั้น!
ฉินเฉิงเปล่งประกายราวทองคำ กำหมัดแน่น มีฝุ่นฟุ้งรอบตัวเขา และกำลังพุ่งเข้ามาหาตงเทียนหนาน!
ตงเทียนหนานถอนหายใจ ยกมือขึ้นเพื่อเตรียมรับมือ
เกิดเสียงดังขึ้นอีก พื้นดินใต้เท้าของตงเทียนหนานแยกออกราวกับใยแมงมุม!
ลูกศิษย์ทั้งสามคนของเขาถูกพลังจนอาเจียนเป็นเลือด แรงอันน่าสะพรึงกลัวทำให้พวกเขาคุกเข่าลงกับพื้นทันที!
เมื่อฝุ่นหายไปฉินเฉิงก็มายืนตรงหน้าของตงเทียนหนาน
“ถ้าบ้านฉันพัง นายจะจ่ายไหม?” ฉินเฉิงถามอย่างเย็นชา
ตงเทียนหนานยิ้มเบา ๆ และพูดว่า “จะตายอบู่แล้ว ยังจะห่วงบ้านอีก?”
ลูกศิษย์ของตงเทียนหนานพยายามลุกขึ้นจากพื้น
“ฉินเฉิง นายมีสิทธิอะไรมาเทียบกับอาจารย์ของฉัน? ”
“หึหึ สวะที่ตระกูลตงทิ้งไปแล้ว ยังเอามาเป็นของตัวเอง ช่างไร้ยางอายจริงๆ!”
“โครม!”
ฉินเฉิงฟาดมือออกไป ทั้งสองคนจึงลอยออกไป
ตงเทียนหนานหรี่ตาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กล้าทำร้ายลูกศิษย์ของฉัน เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง?”
หลังจากพูดจบตงเทียนหนานก็ยกมือขึ้นอีกครั้ง!
ฝ่ามือของเขาก็ควบรวมผืนฟ้ากับแผ่นดิน!
ฉินเฉิงไม่รอช้ารีบปล่อยหมัดใส่เขาทันที!
“ตู้ม!”
แผ่นดินใต้ฝ่าเท้าของฉินเฉิงเหมือนถูกกดไปสองสามจุดอย่างรวดเร็ว!
มีเสียงดัง “เปราะ” ที่ร่างกายของเขา ไหล่ของเขาดูเหมือนจะถูกภูเขาทับไว้ กระดูกเหมือนจะหลุดออก!
ฉินเฉิงตะโกนอย่างโกรธจัด เขาปล่อยไปสามหมัดถึงจัดการได้
“ปรมาจารย์ขั้นสุดยอด?” ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
เหนือปรมาจารย์ยังมีปรมาจารย์อีก
จนถึงตอนนี้ตงเทียนหนานถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉินเฉิงเคยเห็น
“มีความสามารถแค่นี้เหรอ?” ตงเทียนหนานพูดอย่างเย็นชา “นายจัดการกับตระกูลหูและตระกูลเฝิงได้ ก็เลยคิดว่าจะจัดการกับคนทั้งโลกได้เหรอ”
“ฉันไม่เห็นด้วยกับคุณตง”
ขณะนั้นเองซูวานได้เดินออกจากบ้านที่แทบจะพังทลายลง
เธอพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “ฉินเฉิงเพิ่งเข้ามาในวงการนี้ไม่นานไม่ถึงปีด้วซ้ำ แล้วคุณตงหล่ะ?”
ตงเทียนหนานหรี่ตาและพูดว่า “เต้าว่ากันว่าคุณซูสวยดุจเทพธิดา วันนี้ได้เจอตัวจริง เป็นดั่งที่เค้าว่าไว้จริงๆ”
ฉินเฉิงขมวดคิ้วและพูดว่า “ซูวาน ออกมาทำไม กลับเข้าไปเร็ว!”
อย่างไรก็ตาม ซูวานไม่สนใจฉินเฉิง เธอหัวเราะเบา ๆ : “คุณตงยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลย”
ตงเทียนหนาน สูดหายใจเข้าและพูดว่า “ให้เวลาเขาอีกสิบปี เขาอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ฉันไม่เขอคู่ต่อสู้ที่ฝีมือทัดเทียมมาเป็นสิบๆปีแล้ว”
ซูวานกระพริบตาและพูดว่า “คุณตง คุณอยู่ที่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุดมากี่ปีแล้ว?”
ใบหน้าของตงเทียนหนานเย็นชาและเขาพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “คุณซูคารมดี แต่พูดไรไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี”
“แต่ฉันคิดว่าคุณทำไม่ได้” ฉินเฉิงสีหน้าเย็นชา
แม้ว่าระดับของฉินเฉิงจะอยู่ต่ำกว่าตงเทียนหนาน แต่ในมือเขามีดาบทองสัมฤทธิ์ ก็อาจจะชนะตงเทียนหนานได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ลองมาดูสิ จะหลบหลังผู้หญิงทำไม” ตงเทียนหนานเยาะเย้ย
ฉินเฉิงกำลังจะพูด แต่ซูวานส่ายหัวและพูดว่า “คุณตง คุณบอกให้เวลา10ปี ฉินเฉิงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณใช่ไหม”
“ไม่หรือไม่ใช่แล้วมันจะทำไม” ตงเทียนหนานรู้ว่าพูดกับซูวานไปก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากคุยกับซูวาน
ซูวานยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องถึง10ปีหรอก ขอแค่ 3 วัน ฉินเฉิงก็อยู่เหนือคุณ คุณเชื่อไหม?”
“3 วัน?” ตง เทียนหนานอดหัวเราะไม่ได้ “คุณซู คุณแค่อยากเลื่อนเวลา สามวันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง? คุณอาจจะหาคนมาช่วยก็ได้?”
“คุณซู ฉันอยากจะแนะนำ คุณเป็นคนที่มีเกียรติ อย่าพูดจามั่วซั่วไปวันๆนะ !” ตงเทียนหนานพูดอย่างเย็นชา
ซูวานไม่ได้โกรธ เธอยิ้มออกมา
เธอหัวเราะเบาๆ “เป็นเพราะคุณดงกลัวหรือเปล่า? คุณไม่เคยเห็นใครที่ใช้เวลาเพียงสามสันหล่ะสิ?”
“ไร้สาระ!” ตงเทียนหนานโกรธจัด “ทำไมฉันต้องกลัวด้วย!”
“สามวันก็สามวัน!” ตงเทียนหนานถอนหายใจ “งั้นฉันจะใช้โอกาสนี้ เชิญทุกคนมาเป็นพยานว่าจะจัดการเจ้าหยิ่งหยองนี่อย่างไร!”
“ตามนั้น” ซูวานยิ้มเบา ๆ “ฉันหวังว่าคุณตงจะไม่หนีไปไหน”
“เหอะ!” ตงเทียนหนานรู้ว่าเขาไม่สามารถโต้ตอบอะไรกับซูวานได้ ขึงได้แต่ถอนหายใจและเดินกลับไป
หลังจากที่ตงเทียนหนานเดินจากไป ฉินเฉิงก็ยิ้มอย่างขมขื่น “สามวัน…ไม่ไวไปหน่อยเหรอ…”
“ไม่ต้องห่วง” ซูวานลูบผมของฉินเฉิง “สามวันก็พอ”
ฉินเฉิงถอนหายใจ คงต้องพึ่งพาเทคนิคที่สืบทอดจากพ่อเท่านั้น
ในตอนกลางคืน ฉินเฉิงกำลังพิจารณาจิตแห่งมังกร และพยายามทำความเข้าใจเทคนิคที่ลึกซึ้ง
ขณะนั้นเองซูวานก็เดินเข้ามาอย่างเงียบๆ
ฉินเฉิงลืมตาขึ้นมาทันที เขามองไปที่ซูวาน และพูดออกมาว่า “ฉันเชื่อว่าฉันทำได้”
“ฉันก็เชื่อว่านายทำได้” ซูวานพูดต่อว่า “ฉันเอาของขวัญมาให้”
“ของขวัญ?” ฉินเฉิงมองไปที่ซูวาน
ซูวานพลิกมือของเธอ ดอกบัวหิมะก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฉินเฉิง