ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่สองคนซัดกระบวนท่าใส่กันอย่างต่อเนื่อง เสียงดังราวกับการตีเหล็กก็ดังขึ้นมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันคำรามราวกับฟ้าร้องอยู่ตลอดเวลา!
ภูเขาและต้นไม้โดยรอบได้รับผลกระทบ มันราวกับลมพายุ! เสียงเหล่านี้มันก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นถูกเจาะแก้วหู หูของพวกเค้าเต็มไปด้วยเลือดราวกับถูกยิง!
ทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันมันก็เต็มไปด้วยเลือด
ทุกคนต่างก็ตะลึงกับฉากนี้ สายตาของพวกเค้าจ้องมองไปที่ร่างของทั้งสองคน มันดูราวกับว่าพวกเค้ากลัวว่าตัวเองจะพลาดรายละเอียด!
“ร่างของฉินเฉิง…ทำไมเค้าถึงได้แข็งแกร่งมากขนาดนี้?”
“ตอนนี้ตงเทียนหนานก็เทียบได้กับจอมยุทธ์ แต่เค้าก็ยังไม่สามารถทำอะไรฉินเฉิงได้เลย!”
พวกเค้าลืมเดิมพันของตัวเองไปเลยแล้วพากันมองดูฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้อย่างจริงจัง!
“ตูม!”
ฉินเฉิงซัดเข้ามาด้วยหมัด เค้าย่อลงแล้วกระแทกตงเทียนหนานด้วยร่างกายของตัวเองอย่างเรียบง่าย
ที่หน้าอกของตงเทียนหนานมันเต็มไปด้วยเลือด แต่เค้าก็ไม่ได้ถอยกลับเลย เค้าพยายามอย่างเต็มที่กับทุกหมัดที่เค้าซัดเข้าไปหาฉินเฉิง
หมัดของฉินเฉิงก็ซัดเข้าไปจนมือของเค้าถลอก ผิวหนังของเค้าถลอกฉีกออกเป็นชิ้นๆแถมซี่โครงก็หัก!
มันแตกต่างไปจากตงเทียนหนาน ฉินเฉิงกลับกล้ามากขึ้น ในขณะที่พวกเค้ากำลังต่อสู้ พลังของเค้าก็ลุกโชนราวกับเปลวเพลิง
“พัฟ!”
หลังจากซัดหมัดลูกนี้ของฉินเฉิงแล้ว ตงเทียนหนานก็กระอักเลือดออกมาจนเต็มปาก
เค้าเซจนแทบจะล้มลงไปที่พื้น
เสื้อผ้าของฉินเฉิงฉีกขาดหมด ร่างกายที่แข็งแกร่งของเค้าถูกเปิดเผย สีหน้าที่เย็นชาของเค้ามันดูราวกับพระเจ้า
“ยังอยากที่จะสู้ต่อไหม?” ฉินเฉิงกระชากเสื้อที่ฉีกขาดของเค้าออก “นายมาถึงจุดจบของการสู้แล้ว”
ตงเทียนหนานเช็ดเลือดจากมุมปากของเค้า แต่ในตอนที่เค้าพูด เลือดมันก็ไหลออกมาจากปากของเค้าอย่างต่อเนื่อง
“สู้ ไม่ต้องมาพูดมาก!” ตงเทียนหนานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเค้าก็ใช้พลังปราณสุดท้ายของชีวิตแล้วพุ่งเข้าใส่ฉินเฉิง
หลังจากนั้น ทั้งสองก็แทบจะไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลย ทุกหมัด ทุกการเตะ มันก็รุนแรงเป็นอย่างมาก!
“ตูม!”
ฉินเฉิงชกเข้าไปที่หน้าอกของตงเทียนหนานด้วยหมัดที่รุนแรง ทำใดนั้นเอง ร่างของตงเทียนหนานก็กระเด็นกลับหัวกลับหางออกไป หน้าอกของเค้ายุบลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ หลังของเค้าก็นูนขึ้นมาเพราะหมัด
ร่างของเค้าไถลไปบนพื้นไกลหลายสิบเมตร ในที่สุดก็กระแทกกับพื้นอย่างแรง
“ท่านอาจารย์!” สีหน้าของลูกศิษย์ทั้งสองของเค้าก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก พวกเค้ารีบวิ่งเข้าไปประคองตงเทียนหนานขึ้นมา
ตงเทียนหนานพยายามลุกขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เค้าก็ลุกขึ้นไม่ได้เลย
“ฮู้ววว!”
ร่างของฉินเฉิงเป็นเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ จากนั้นเค้าก็พุ่งตรงเข้ามาที่ร่างของตงเทียนหนานในทันที
ในตอนนี้มันก็ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ความแข็งแกร่งของปราณกับพลังของตงเทียนหนานก็หมดลง ร่างของเค้ากลับมาทรุดโทรมยิ่งกว่าเดิม มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เค้าจะลุกขึ้นมาสู้ต่อ
“ตงเทียนหนาน นายแพ้แล้ว” ฉินเฉิงพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
ตงเทียนหนานยิ้มแล้วพูดขึ้นมาอย่างยากลำบากว่า: “มัน… จริงเหรอเนี่ย… ฉันแพ้แกแล้ว … ”
ทันทีที่เค้าพูดออกมา ผู้ชมต่างก็โกลาหลขึ้นมาในทันที!
ตงเทียนหนาน ยอมจำนนแล้วจริงๆ! เค้าแพ้ให้กับเด็ก! มันเป็นการพ่ายแพ้ที่น่าสังเวชเป็นอย่างมาก!
แม้ว่าฉินเฉิงจะซี่โครงหักไปหลายซี่ แต่สภาพของตงเทียนหนานมันก็ดูไม่ได้เย!
“ใครต้องการฆ่าฉันกันแน่” ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วมองไปที่ตงเทียนหนาน
“ตระกูลซูเหรอ?” ฉินเฉิงถามขึ้นมา
ตงเทียนหนานส่ายหัวอย่างยากลำบากแล้วพูดว่า: “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลซู…คนที่ต้องการฆ่าแกก็คือ…เอือก!”
ก่อนที่เค้าจะพูดจบ เลือดก็ไหลออกมาเต็มปาก จากนั้นเปลวไฟก็ลุกโชนขึ้นมาบนร่างกายของเค้า!
เปลวไฟนี้มันรุนแรงมาก มันเผาไหม้จากภายในสู่ภายนอก!
หัวของตงเทียนหนานถูกไฟไหม้ในทันที พลังแห่งจิตศักดิ์สิทธิ์ของเค้ามันก็ส่งเสียงขึ้นมา!
กระบวนการนี้ใช้เวลาเพียงครึ่งวินาทีเท่านั้น จากนั้นตงเทียนหนานก็กลายเป็นศพไปในทันที
พลังแห่งจิตศักดิ์สิทธิ์ของเค้าถูกฉีกเป็นชิ้น ในที่สุดเค้าก็ตาย
ท่าทีของฉินเฉิงก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ตงเทียนหนานถูกวางยาสั่งเอาไว้! หากตงเทียนหนานคิดที่จะพูดชื่อของคนๆนั้นออกมา เค้าก็จะถูกยาสั่งจัดการในทันที!
ความระมัดระวังของฝ่ายตรงข้ามมันก็ยิ่งทำให้ฉินเฉิงสงสัยมากขึ้น
ถ้าเป็นตระกูลซู ก็น่าจะทำอย่างตรงไปตรงมา
แต่อีกฝ่ายกลับระวังตัวมาก มันยิ่งทำให้เรื่องนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
“ท่านอาจารย์!” ลูกศิษย์ของเค้าร้องตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดต่อหน้าร่างของตงเทียนหนาน
“ตงเทียนหนาน…ตายแล้ว!” ทั้งสถานที่แห่งนั้นมันก็เงียบลง พวกเค้าแทบจะไม่เชื่อผลลัพธ์ที่ออกมาเลย
ฉินเฉิงอายุแค่ยี่สิบเท่านั้น เค้าสามารถฆ่าปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ต่อไปเค้าจะไม่ยิ่งประสบความสำเร็จมากกว่านี้เหรอ?
มันไม่สามารถจินตนาการได้เลย!
“ฉินเฉิง แกต้องชดใช้ให้กับชีวิตของอาจารย์ของฉัน!” ในตอนนี้เอง ลูกศิษย์ของตงเทียนหนานก็กระโจนเข้าหาฉินเฉิง
ฉินเฉิงตบไปในอากาศแล้วก็กระโดดขึ้นไป
“พาอาจารย์ของพวกนายกลับไปที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้แล้วฝังศพของเค้าซะ” ฉินเฉิงจ้องพวกเค้าอยู่นาน จากนั้นก็พูดออกมาอย่างเย็นชา
หลังจากนั้น ฉินเฉิงก็ก้าวออกไปโดยไม่สนใจความตกใจของฝูงชนเลย
มู่รั่วก็รีบตามไปพร้อมกับนักข่าวจากสมาคมศิลปะการต่อสู้ เธอถือไมโครโฟนแล้วก็พูดไม่หยุด: “คุณฉินค่ะ คุณรู้สึกอย่างไรค่ะ? ตอนนี้คุณมาถึงขั้นที่เจ็ดแล้ว?”
ฉินเฉิงโบกมือแล้วพูดว่า: “ตอนนี้ฉันเหนื่อยมาก ฉันจะไม่ให้สัมภาษณ์อะไรในตอนนี้”
แต่กลุ่มนักข่าวก็ยังไม่ยอมแพ้ พวกเค้ายังคงไล่ตามไป
“คุณไม่เห็นว่าเค้าได้รับบาดเจ็บสาหัสเหรอค่ะ?” ซูวานขมวดคิ้ว “ฉันจะให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ฉินเฉิงหายดีแล้ว ฉันจะให้โอกาสพวกคุณเองค่ะ”
หลังจากนั้น ฉินเฉิง ซูวาน ฉูเป่ยชวนกับคนอื่นๆก็ขึ้นรถแล้วออกไป
“เป็นไงบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ซูวานก็ถามขึ้นมา
ฉินเฉิงส่ายหัวแล้วพูดว่า: “มันก็แค่การบาดเจ็บภายนอกก็เท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงมันหรอก แต่ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าใครกันที่จะฆ่าฉัน? เค้าต้องการที่จะหลบซ่อนเพื่อโจมตีฉันอย่างงั้นเหรอ?”
คำถามนี้ ใครก็ตอบไม่ได้
ฉินเฉิงอยู่ที่ปีนังตั้งแต่เค้ายังเป็นเด็ก เค้าไม่เคยไปไหนเลยด้วยซ้ำแล้วจะกลายเป็นศัตรูของคนอื่นได้ยังไงกัน?
นอกจากตระกูลซูแล้ว เค้าเองก็คิดไม่ออกเลยว่าเป็นใครกันแน่
ฉินเฉิงคิดไม่ออกแล้วก็ไม่อยากจะคิดเรื่องนี้อีกต่อไป
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ทั้งโลกศิลปะการต่อสู้ออนไลน์มันก็สั่นสะเทือนไปในทันที
ฉินเฉิงตัดหัวของตงเทียนหนานมันก็กลายเป็นพาดหัวข้าง วีดีโอของเค้าก็แพร่กระจายไปทั่วในเว็บไซต์ศิลปะการต่อสู้!
ในขณะเดียวกันตระกูลซูก็ได้รับข่าวนี้เหมือนกัน
ครั้งนี้ แม้แต่เสียวหยู่เชี้ยนก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
สีหน้าของเธอเขียวไปหมด มันเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกถึงอันตราย
“คุณครับ ไม่ต้องกังวลไป ฉินเฉิงมีพลังมากก็ต่อเมื่อเค้ายืนอยู่ตรงหน้าของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็เท่านั้น หากเจอเข้ากับจอมยุทธ์ มันก็จะต้องตายอย่างแน่นอน” พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นมา
เสียวหยู่เชี้ยนก็เหลือบมองเค้าแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “ถ้าตอนนี้ฉินเฉิงได้เป็นปรมาจารย์ขั้นสุดยอดแล้ว ฉันก้คงจะไม่คิดมาเรื่องมัน แต่ตอนนี้ฉินเฉิงมันเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสองแล้ว”
ในขอบเขตของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ มันก็มีทั้งหมดเจ็ดขั้นและนี่ก็คือสิ่งที่ทำให้ฉินเฉิงเป็นกังวล
“ถ้ามันมีเวลามากพอ การกลายเป็นเย่อชิงยุนคนต่อไป มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” เสียวหยู่เชี้ยนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
หากถึงตอนนั้น คนที่เข้าข้างฉินเฉิงมันก็คงจะมีจำนวนไม่น้อยเลย ต่อให้ตระกูลซูต้องการจะฆ่าฉินเฉิง มันก็น่าจะเป็นเรื่องยาก
“รวมคลิปทั้งหมดของมันไว้แล้วเชิญให้ผู้พิทักษ์ตระกูลซูมาดู” เสียวหยู่เชี้ยนสั่งกับพ่อบ้าน
สีหน้าของพ่อบ้านเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วเค้าก็พูดว่า: “เชิญ…ผู้พิทักษ์คนไหนครับ?”
“เรียกผู้พิทักษ์มาประชุม” เสียวหยู่เชี้ยนพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชา