ทันทีที่เปิดประตูออกไป ฉินเฉิงก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
ในห้องอาหารไม่ได้มีหนานหวางอยู่แค่คนเดียว แต่ด้านในยังมีคนอื่นๆนั่งอยู่ด้วยอีกเจ็ดแปดคน
และคนที่อยู่ด้านในนั้นพลังของพวกเขาอยู่ในระดับสูงสุดของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ และยังมีขั้นจอมยุทธอยู่ในนั้นด้วย!
“หนานหวาง ฉันขอตัวก่อนนะ” หลังจากที่หร่วนหยูกล่าวทักทาย เขาก็เดินออกไปและปิดประตูทันที
ร่างกายของหนานหวางนั้นดูแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะข้อมือของเขาจะยิ่งดูแข็งแกร่งมากส่วนอื่นๆ
เห็นได้ชัดเจนว่าที่ข้อมือนั้นแข็งแกร่งกว่าส่วนอื่นๆก็น่าจะเป็นเพราะใช้เป็นอาวุธ
“นายคือฉินเฉิง?” หนานหวางเอ่ยปากถามออกมา สายตาของเขามองที่ร่างของฉินเฉิง
ฉินเฉิงก็ไม่ได้สนใจอะไร นั่งลงและพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา “ใครจ้างนายมาฆ่าฉัน?”
หนานหวางหรี่ตาลง อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายมาถึงระดับนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ธรรมดาจริงๆ”
ฉินเฉิงไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด เขานั่งลงตรงหน้าของฉินเฉิงและพูดออกมาว่า “จิงตูเป็นคนสั่งมาอย่างนั้นเหรอ?”
“พูดต่อสิ” หนานหวางพูดออกมา
“ตระกูลซู?” ฉินเฉิงเดา
หนานหวางสบถออกมา “ดูแล้วนายน่าจะรู้ตัว”
ฉินเฉิงขดริมฝีปากของเขาและกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าซูหยู่จะกลัวฉันเสียแล้ว ถึงได้เลือกใช้วิธีนี้”
“นายรู้จักกับนายน้อยซูหยู่?” หนานหวางขมวดคิ้วและถามออกมา
คราวนี้เป็นคราวที่ฉินเฉิงตกใจ เขาถามออกไปด้วยความสงสัยว่า “หรือว่าซูหยู่ไม่ได้เป็นคนสั่งให้นายทำ? งั้นก็คงจะเป็นเสียวหยู่เชี้ยนใช่ไหม?”
“นายรู้จักคุณผู้หญิงเสียวหยู่เชี้ยน” สีหน้าของหนานหวางมืดมนไปมากกว่าเดิม
ฉินเฉิงจับคางของเขาแล้วครุ่นคิด พูดออกมาว่า “ถ้าไม่ใช่พวกเขา แล้วจะเป็นใคร?”
คราวที่แล้วมีคนสั่งให้ตงเทียนหนานฆ่าฉินเฉิง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าคนนั้นเป็นใคร
เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะจ้างให้หนานหวางมาฆ่าตนเองอีกครั้ง? อำนาจของพวกเขาไม่ธรรมดเลย
“กินข้าวเถอะ” หนานหวางหมุนโต๊ะอาหาร “นี่คืออาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาะหนานโจว และครั้งนี้ก็เตรียมเอาไว้เพื่อนายโดยเฉพาะ กินเถอะ!”
ฉินเฉิงส่ายหน้าและพูดออกมาว่า “จะตายอยู่แล้วจะมากินลงได้อย่างไร”
“ฉันไม่มีอะไรข้องใจกับนาย” หนานหวางพูดออกมา “ดังนั้นนายกินอาหารก่อนแล้วค่อยไป”
“ไม่กิน” ฉินเฉิงดื้อดึง เขามองไปที่ซูวานแล้วพูดออกมาว่า “วานเอ๋อ คุณลองชิมสิ ครั้งนี้ออกมาพักผ่อนไม่ได้พักผ่อนเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้เลย ก่อนที่จะไปจากที่นี่ เธอก็ลองชิมอาหารชั้นเลิศของเกาะหนานโจวนี้หน่อยแล้วกัน”
“ฉันเองก็ไม่กิน” ซูวานยิ้มและพูดออกมา
หนานหวางถอนหายใจ เขาค่อยๆยืนขึ้นและพูดว่า “ฉินเฉิง ฉันต้องขอขอบคุณนายมากที่ช่วยทุกคนบนเรือ ถ้าพูดกันจริงๆครั้งนี้ฉันเป็นหนี้บุญคุณนายแล้วครั้งหนึ่ง”
“แต่น่าเสียดายมีคำสั่งของคนบางคนที่ฉันไม่สามารถขัดได้ ดังนั้นฉันจึงทำได้เพียงต้องฆ่านายเท่านั้น” เมื่อหนานหวางพูดจบเขาก็โบกมือ และคนที่อยู่รอบๆของฉินเฉิงก็ลุกขึ้นยืน
“ลงมือเถอะ” หนานหวางพูดออกมา
และในตอนนั้นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หลายคนก็โจมตีเข้ามาทันที!
ฉินเฉิงไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด ร่างกายของเขาก็สั่นทันที และความโกรธก็ระเบิดออกมาโดยตรง และแรงระเบิดนั้นก็ทำให้ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นกระเด็นออกไปทันที!
ไม่มีคู่ต่อสู้ระดับเดียวกัน
ยิ่งไปกว่านั้นพลังของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ต่างกับฉินเฉิงมาก พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินเฉิง
“เก่งไม่เลว” มีแสงเปล่งออกมาจากดวงตาของหนานหวาง จากนั้นเขาก็ค่อยๆยืนขึ้น พลังของจอมยุทธก็ถูกปลดปล่อยออกมา!
“แต่ว่าน่าเสียดาย ที่วันนี้นายจะต้องมาตายอยู่ที่นี่” หนานหวางตะโกนออกมา จากนั้นเขาก็โจมตีเข้าไปที่ฉินเฉิงทันที!
เป็นอย่างที่ฉินเฉิงคิด แขนทั้งสองข้างของเขากลายเป็นอาวุธไปแล้ว!
นั่นมันไม่เหมือนกับหัมด แต่มันเหมือนกับดาวตกที่กำลังพุ่งลงมามากกว่า!
ฉินเฉิงหลบไปด้านข้างทันที มือทั้งสองข้างของหนานหวางกระแทกเข้าไปกับพื้นอย่างรุนแรง!
“เกรงว่าหมัดของเขาคงจะแข็งแกร่งไม่แพ้ร่างกายของฉันเลย!” ฉินเฉิงตกใจเล็กน้อย “ดูแล้วคงผ่านการฝึกฝนมาไม่น้อย!”
และในระหว่างที่เขากำลังใช้ความคิด หนานหวางก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง พลังที่น่าสะพรึงกลัวของเขากระแทกเข้าไปกับกำแพงที่อยู่ข้างๆจนแตก!
“ตู้มมม!”
ครั้งนี้ฉินเฉิงต่อยกลับไป
หมัดของฉินเฉิงกระแทกเข้ากับข้อมือของหนานหวาง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันเหมือนกับเอาเข็มไปทิ่มแผ่นเหล็ก!
“แตร่ง!” เสียงดังสนั่น หนานหวางรู้สึกชาที่ข้อมือ และแขนของเขาก็แกว่งออกไปด้านข้าง
“เป็นหมัดที่แข็งไม่เบา!” หนานหวางพูดออกมาด้วยความสงสัย
“นายเองก็เหมือนกัน” ฉินเฉิงพูดออกไปในแนวชมเชย
หนานหวางหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ไม่น่าหละตระกูลซูถึงอยากจะฆ่านาย ถ้าหากนายยังอยู่ ในอนาคตคงต้องเป็นตัวปัญหาของตระกูลซูอย่างแน่นอน! เข้ามา!”
พูดจบทั้งสองคนก็ต่อสู้โดยใช้ร่างกายที่แข็งแกร่ง พลังที่น่าสะพรึงกลัวทำให้ห้องห้องนี้เกือบจะพัง
พวกเขาต่อสู้กันอย่างรวดเร็ว เกิดเสียงดังขึ้นในอากาศหลายครั้ง มันยากมากที่จะมองว่าพวกเขากำลังต่อสู้กันอย่างไร!
“เป็นแค่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แต่กลับสามารถต่อกรกับจอมยุทธได้ ฉันนี่นับถือนายจริงๆ!” หนานหวางพูดออกมาจากใจ
ฉินเฉิงตอบกลับไปว่า “ดูท่านายคงยังไม่ได้เอาจริง ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาย!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ยิ่งสู้หนานหวางยิ่งมีความสุข ตั้งแต่เขาเข้ามารับตำแหน่งนี้ เขาก็ไม่ได้ต่อสู้มานายหลายปีแล้ว!
เมื่อมาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ใช่ร่างกายเหมือนกัน นี่ก็ทำให้หนานหวางรู้สึกตื่นตัวไม่น้อย!
“หยุดนะ!”
และในตอนนั้น คุณชายหวังและเหล่าลูกหลานของเมืองจิงตูก็เดินเข้ามา
“หนานหวาง พวกนายกำลังทำอะไรอยู่?” คุณชายหวังขมวดคิ้วและถามออกไป
หนานหวางหยุดมือทันที เขาพูดออกมาว่า “คุณชายหวัง มีคนสั่งให้ฉันฆ่าเขา ฉันจำเป็นต้องทำจริงๆ”
“ใครสั่ง?” ตอนนี้ไม่ใช่แค่คุณชายหวังคนเดียวเท่านั้นที่ไม่พอใจ คนอื่นๆก็รู้สึกแบบเดียวกัน
พวกเข้าชี้มาที่หนานหวางและต่อว่าออกมา
ที่พวกเขาพูดออกมาแบบนี้ไม่ได้เป็นเพราะว่าพวกเขาอยากจะช่วยฉินเฉิงออกมาจากใจ แต่เป็นเพราะว่าพวกเขากลัวฉินเฉิงจะต้องตายและไม่มีใครรักษาให้พวกเขา
“หนานหวาง นายหยุดเดี๋ยวนี้นะ นายจะเอายังไง? ฉินเฉิงเขายังต้องรักษาพวกเรา” คุณชายหวังพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
“นี่มัน….” ในตอนนั้นหนานหวางรู้สึกลำบากใจมาก
ต่อให้เป็นตระกูลซู แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเหล่าตระกูลที่มีอำนาจมากมายขนาดนี้พวกเขาเองก็คงต้องหยุด แต่นี่ เขาเป็นแค่หนานหวาง
“นายไม่จำเป็นต้องกังวล” คุณชายหวังโบกมือและพูดออกมา “ใครเป็นคนใช้ให้นายลงมือ? บอกฉันมา ฉันจะโทรไปถามเขาเดี๋ยวนี้”
หนานหวางรีบเดินเข้ามาหาคุณชายหวังและพูดออกมาว่า “คนของตระกูลซู”
จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้กับคุณชายหวังฟัง
หลังจากที่คุณชายหวังได้ยินแบบนั้นเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“ตระกูลซู? ไม่น่าใช่ ด้วยนิสัยของซูหยู่ เขาจะมาเห็นฉินเฉิงอยู่ในสายตาได้อย่างไร? และคนแบบเขาจะมาทำเรื่องสกปรกแบบนี้เหรอ?” คุณชายหวังพูดออกมา
หลังจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปหาซูหยู่
ไม่นานอีกฝ่ายก็รับโทรศัพท์
ซูหยู่ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “มีอะไร?”
คุณชายหวังหัวเราะออกมา “ซูหยู่ ดูท่าแล้วนายคงจะกลัวจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่านายจะสั่งให้หนานหวางมาจัดการกับฉินเฉิง? ทำไม กลัวแพ้ต่อหน้าคนอื่นหรือไง?”
ซูหยู่ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที แล้พูดออกมาด้วยเสียงที่โกรธ “นายพูดอะไรของนาย? ฉันไปทำเรื่องแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ถึงมันจะไม่ใช่นาย แต่ก็เป็นคนของตระกูลซูที่เป็นคนออกคำสั่ง” คุณชายหวังพูดออกมา “นายเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ”
ซูหยู่เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาว่า “นายเอาโทรศัพท์ให้หนานหวางที”