แม้ว่าผู้อาวุโสซูจะเป็นเพียงคนธรรมดา แต่เขาแข็งแกร่งและทรงพลังอย่างยิ่ง!
แม้แต่ชางโจวและคนอื่นๆยังเป็นรองอยู่มาก!
คำพูดที่ดูสงสัยของเขาไม่มีใครกล้าตอบ
ไม่นาน หยานหยุนบอกผู้อาวุโสซูว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้อาวุโสซูไม่รู้เรื่องการต่อสู้ เขาจึงไม่รู้ว่าสิ่งที่หยานหยุนพูดจริงหรือไม่
ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ผู้จัดการข้างๆเขา
ผู้จัดการเดินไปข้างหน้า จับไปที่ชีพจรของฉินเฉิง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้จัดการยืนขึ้นแล้วพูดว่า “วิชากายบงกช? เป็นวิชาที่จะทำลายพื้นฐาน”
ผู้อาวุโสซูขมวดคิ้วและพูดว่า “ที่เขาพูดมันจริงหรือเปล่า?”
ผู้จัดการพยักหน้าและกล่าวว่า “น่าจะจริง เมื่อวิชาการบงกฎออกฤทธิ์ ร่างกายก็จะขาดสมดุล แม้ว่าจะเป็นผู้พิทักษ์อาวุโสที่เป็นถึงจอมยุทธระดับหก ก็อาจถูกทำให้เหมือนกับเด็กสิบขวบไม่มีผิด”
หลังจากพูดแบบนี้ ผู้จัดการก็เหลือบมองหยานหยุน
เพียวแค่สายตาคู่นี้มองมา หยานหยุนก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า!
หัวใจของเขายิ่งวิตก
ทำไมสายตาของผู้จัดการดูแปลกจัง? มันหมายความว่าอะไร?
“ดีๆ ฮ่าๆๆ!” ผู้อาวุโสซูอดหัวเราะไม่ได้ “ในที่สุด ไอ้เวรนี่ก็ต้องตาย! รีบฆ่ามันซะ!”
“คงจะไม่ได้” ชางโจวรีบแย้ง “สมาคมศิลปะการต่อสู้จิงตูต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ที่ฉันพูดไป หวังว่าผู้อาวุโสซูจะเข้าใจ”
ดวงตาของผู้อาวุโสซูดูเซ็ง แต่เขาไม่สามารถพูดอะไรได้
ตระกูลซูเป็นตระกูลชั้นยอดในจิงตูก็จริง แม้ว่าจะไม่กลัวใคร แต่บางอย่างต้องทำตามระเบียบ
“ชางโจว ภายในสามวัน ฉันหวังว่าจะได้เห็นข่าวการตายของเขา” ผู้อาวุโสซูพูดอย่างเย็นชา “นอกจากนี้ ฉันจะส่งคนของฉันไปจับตาดูเขาด้วย”
“ไม่มีปัญหา ผู้อาวุโสซู ไม่ต้องห่วง” ชางโจวรีบตอบกับ
จากนั้นเขาก็โบกมือและตะโกนว่า: “เร็วเข้า เอาเขากลับไป!”
“ครับ!”
มีคนเดินเข้ามาเอาตัวฉินเฉิงขึ้นรถไป
หลังจากนั้นผู้อาวุโสซูก็มองไปที่หยานหยุนด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “นายอยากได้อะไร?”
หยานหยุน สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ฉันรับใช้ตระกูลซูมายี่สิบปีแล้ว และฉันช่วยตระกูลซูจัดการกับศัตรูมากนักต่อนัก ฉันก็หวังเพียงแค่ว่าตระกูลซูจะมอบตำแหน่งที่เหมาะสมกับฉันก็เท่านั้น”
ผู้อาวุโสซููหัวเราะและพูดว่า: “เอาล่ะ! ตั้งแต่วันนี้นายจะเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของตระกูลซู ฉันจะมอบบ้านในเขตตระกูลซูให้นาย”
“ขอบคุณ ผู้อาวุโสซูู!” หยานหยุนคุกเข่าและกล่าวด้วยความเคารพ
ผู้อาวุโสซูไม่ได้อยู่ที่นานนัก เมื่อเข้าไปแล้ว ผู้อาวุโสซูเหลือบมองที่ผู้จัดการและพูดว่า “ช่วยฉันตรวจสอบหยานหยุนด้วย ฉันอยากรู้ว่าหลังจากออกไปจากตระกูลซูแล้ว เขาไปที่ไหน และเจอใครมาบ้าง”
ผู้จัดการก้มตัว และกล่าวว่า “ผู้อาวุโสซู หยานหยุนเป็นคนที่น่าเชื่อถือที่สุดคนหนึ่งของนายน้อยซู ทำให้ให้ตระกูลซูมากว่า20ปี ”
ผู้อาวุโสซูพูดต่อ “นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องระมัดระวัง! เขาทำเพื่อตระกูลซู แต่กลับถูกไล่ออก ใครจะไปรู้ว่าเขาอาจจะมีความขุ่นเคืองในใจ อาจจะกลับมาแก้แค้นตระกูลซูก็ได้? ทำในที่ฉันพูดแล้วกัน”
“ครับ ท่าน”
ณ สมาคมศิลปะการต่อสู้จิงตู ฉินเฉิงก็ถูกจับอยู่ที่ึคุกนั้นตามที่ตั้งใจไว้
ทันทีที่เข้าไปในคุก ก็มีเสียงซุบซิบกัน
คนที่ถูกคุมขังมีเป็นสิบคน ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนร้ายที่สมาคมจับไว้
ไม่เพียงแค่นั้น ความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้สุดยอด
“นี่ใครกัน? ทำไมเขาถึงถูกจับได้ตั้งแต่ยังหนุ่มขนาดนี้?” มีใครบางคนถามขึ้นท่ามกลางความมืด
“ฉินเฉิงไง ว่ากันว่าฆ่าสมาชิกของสมาคมศิลปะการต่อสู้ไปหลายสิบคน เลยถูกจับตัวมา”
“ฮ่าๆ เป็นแบบอย่างที่สุดยอดจริงๆ สังหารอย่างมีฝีมือ!”
“ดูสิ จะถูกจองจำตลอดชีวิตหรือเปล่า?” มีใครบางคนกล่าวออกมา
เมื่อฉินเฉิงเข้ามา ก็ถูกพาตัวเข้าไปอีกที่หนึ่ง
เมื่อเห็นดังนั้นทุกคนก็ถอนหายใจ
ที่นั้นคือที่คุมตัวนักโทษประหาร! และไม่มีใครถูกขังที่นั่นมานานกว่าสิบปี!
“พวกเขามาแล้ว” ชางโจวโยนฉินเฉิงไว้ใต้ฝ่าเท้าของเขา และชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเขาก็พูดขึ้นมา
ชายคนนั้นมีผิวเข้ม หัวล้าน สักลายมังกร
เขาประสานมือและพูดว่า “ทราบครับ”
หลังจากนั้น ชายคนนี้เปล่งวาจา ก็มีแสงสีสองแปดดวงปรากฏขึ้นในคุกแห่งนี้!
แสงสีทองราวกับมังกร พุ่งเข้าใส่ไปตามตัวของฉินเฉิง8จุด ได้แก่แขน2ข้าง ขา2ข่่าง คอ หัว เอว และหน้าอก!
หลังจากที่แสงสีทองพุ่งออกมา ก็ปรากฏตามตำแหน่ง
มันคือโซ่ตรวนแปดเส้น! พวกเขาก็อยู่ประจำตำแหน่งนั้นๆ!
ทั้งแปดซ่อนอยู่ในความมืด และไม่สามารถมองเห็นมันได้!
“อามิตตาพุทธ” ชายหัวล้านกล่าว ก่อนที่เข้าสู่ความมืดอีกครั้ิง
เมื่อเห็นฉินเฉิงที่มีสภาพเหมือนหมา ชางโจวก็หัวเราะออกมา
“เจ้าหนุ่ม นี่คงเป็นจุดจบของอำนาจสินะ” ชางโจวกล่าวอย่างเย็นชา
“อา!!!”
ขณะนั้นเอง ในส่วนลึกที่สุดของคุก ก็มีเสียงร้องออกมา!
เสียงที่ปรากฏตอนนี้ ปลุกฉินเฉิงขึ้นมา!
เขาลืมตาขึ้นมา หัวใจของเขาก็เต้นแรง ฉินเฉิงรู้สึกราวกับว่ามีเข็มมาแทงเขานับหมื่น!
“คุณชาง ไม่…ไม่ดีแล้ว!” ในขณะนั้น มีคนวิ่งเข้ามา
ชางโจวขมวดคิ้วและพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“ตราประทับที่อยู่ในส่วนลึกคุก…ดูเหมือนมันจะขยับ…” สมาชิกพูดด้วยริมฝีปากสั่นเทา
สีหน้าของชางโจวเปลี่ยนไปทันที และเขาก็รีบพูดว่า “รีบไปเชิญท่านประธานมา!”
“ท่านประธานทั้งแปดมาถึงแล้ว” สมาชิกกล่าวอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินดังนี้ ชางโจวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาเหลือบไปที่ฉินเฉิงแล้วพูดว่า “นายตื่นแล้วเหรอ?”
ฉินเฉิงมองไปที่ชางโจวอย่างเย็นชาและหัวเราะ “เจ้าหมาแก่ชางโจว ดูหน้าแกแล้ว น่าจะอยู่อีกไม่กี่วัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชางโจวก็หรี่ตาลง และก็ยกฝ่ามือขึ้น ฟาดไปที่หน้าของฉินเฉิง !
“อยู่ที่แล้วยังกล้าที่จะปากดี?” ชางโจวถอนหายใจ แล้วพูดต่อ “ฉินเฉิง ตอนนี้ฉันยังมีบางอย่างที่ต้องไปทำ ฉันจะปล่อยนายไปก่อน เมื่อฉันทำงานสร็จ ฉันจะมาจัดการกับแกเอง !”
หลังจากพูดคำเหล่านี้ ชางโจวก็รีบออกไปจากคุก
ฉินเฉิงมองไปที่โซ่ที่ผูกติดอยู่กับร่างกายของเขา แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
โซ่นี้ เหมือนจะมีอะไรบางอย่างนะ