แส้นี้เหมือนกับโซ่ทอง ไม่รู้ว่าใช้วิธีลับอะไร ต่อให้อยู่ในมือของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็เจ็บเมื่อถูกตามร่างกาย .
“นายคงไม่รู้สินะ” ปาฉิงคว้าแส้นี้มาแล้วพูดว่า “แส้นี้เรียกว่าแส้ปราบมาร และมันใช้สำหรับฟาดคนบาปอย่างนายโดยเฉพาะ!”
“แส้ปราบมาร?” ฉินเฉิงเมื่อได้ยินชื่อนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดใจ
แส้ที่อยู่ในมือของปาฉิงฟาดลงไปที่ตัวของฉินเฉิงไม่หยุด ไม่นาน ตัวของเขาก็เต็มไปด้วยรอยแผล
และดูเหมือนเขาจะชอบความรู้สึกที่ได้จัดการกับผู้แข็งแกร่งกว่าเขา ซึ่งมันรู้สึกเหมือนเป็นความสำเร็จ
คืนนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ปาฉิงฟาดจนเหนื่อย เขานั่งจับแส้ แล้วพูดกับฉินเฉิงว่า “รอให้ฉันพักก่อน ฉันจะจัดการนายต่อ”
ฉินเฉิงเงียบ เขาใช้จิตหยั่งรู้ที่เหลืออยู่จับไปรอบๆ
หลังจากนั้น จิตหยั่งรู้ของเขาก็เข้าไปอยู่ในส่วนลึกของคุก
มีพลังลับอยู่ทั่วทั้งเรือนจำ เมื่อพลังลับนั้นไม่ได้ป้องกันจิตหยั่งรู้ของฉินเฉิง ทำให้เขาสามารถรับรู้ไปถึงส่วนลึกของคุก
ระหว่างนั้นจิตศักสิทธิ์ของเขาเหมือนถูกพลังบางอย่างโจมตี !
ฉินเฉิงหน้าซีดทันที เขากัดฟันแน่น ทนกับความเจ็บปวด และสำรวจต่อไป
ในไม่ช้า คุกก็อยู่ในสายตาของฉินเฉิง
เขาเห็นว่ารอบๆคุก มีโซ่อยู้กว่าร้อยเส้น โซ่ทุกเส้นหนาและยาวกว่าตัวของฉินเฉิงมาก!
และมีพลังที่ถูกโซ่ดูด ซึ่งไม่รู้ว่าดูดไปที่ไหน !
คนที่ถูกมัดไว้นั้นรุงรัง มอมแมม มองไม่เห็นหน้าเลย!
แต่ถึงอย่างนั้น ฉินเฉิงกลับมีความคุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ถูก!
เสียงคร่ำครวญก่อนหน้านี้ ที่ฉินเฉินได้ยิน มันใกล้ฉินเฉิงมากขึ้น มันดูแข็งแกร่งมาก!
คนที่ถูกขังอยู่ในนั้น ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาแน่ๆ!
ฉินเฉิงพยายามสำรวจต่อไป แต่จู่ๆ ก็มีพลังมีมากีดขวางการเชื่อมต่อระหว่างทั้งสอง
จิตหยั่งรู้ของเขาถูกปิดกั้นทันที
ฉินเฉิงมีหน้าซีดเซียว ตื่นตระหนกเล็กน้อย
ไม่ใช่พลังที่ไหนที่มาปิดกั้น แต่เป็นเพราะคนที่อยู่ในคุกลึกนั้น
ความคุ้นเคยแบบนี้ เขารู้สึกได้ถึงคนๆนึงเท่านั้น
นั่นคือพ่อผู้ให้กำเนิดของเขาเอง และไม่มีใครอื่นอีก
คนที่ถูกคุมขังในส่วนลึกของคุกเป็นพ่อของเขาเหรอ?
เป็นไปไม่ได้!
ฉินเฉิงปฏิเสธคำตอบนี้อย่างรวดเร็ว
พ่อของเขาเป็นคนเก่งกาจ มีฝีมือ จะถูกคุมขังได้อย่างไร?
แต่ ฉินเฉิง รู้สึกว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงของผู้หญิง!ฉินเฉิงก็นึกถึงใครบางคน
แม่ของฉัน โจวฉิน
ฉินเฉิงเคยให้ซูวานหาคนในจิงตู แต่ก็ล้มเหลว ไม่พบสิ่งต่างๆของคนๆนี้เลย
และตอนนี้ฉินเฉิงก็อยู่ที่จิงตูมานาน กลับไม่เคยได้ยินข่าวคราวของโจวฉินเลย
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หน้าของฉินเฉิงก็ซีดทันที!
เขาตัวสั่นไปทั้งตัว ตาของเขาจ้องมองไปในคุกลึกนั้น
“แม่… แม่ของฉันถูกสมาคมศิลปะการต่อสู้จิงตูคุมขัง…” ฉินเฉิงจ้องไปที่นั้นแล้วพูดออกมา
ภายใต้การสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในของร่างกายของเขา ทำให้โซ่ทั้งหมดสั่นสะเทือน!
“นายอยากโดนแส้อีกเหรอไง?” ปาฉิงที่กำลังหลับสนิท ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากการสั่นสะเทือนของโซ่ เขาคว้าแส้และเดินไปทางฉินเฉิง
แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าของฉินเฉิง ก็ถอยกลับไปสองสามก้าวด้วยความตกใจ
ในเวลานี้ สายตาของฉินเฉิงปูดโปน ความหนาวเย็นมาปกคลุมร่างกายของเขา ราวกับเขาเป็นปีศาจ
ปาฉิงกลืนน้ำลาย เห็นได้ชัดว่าเขากลัว
“นาย…อยู่นิ่งๆนะ อย่าขยับ…ไม่งั้น…ไม่งั้นฉันจะฟาดนะ…” ปาฉิงกัดฟันพูด จากนั้นจึงรีบนอนลงบนพื้นและแกล้งทำเป็นหลับ
สติของฉินเฉิงหายไปสักพัก
“คนๆ นั้น… คือแม่ของฉันจริงๆใช่ไหม…” ในที่สุด ฉินเฉิงก็กลับมาที่ความคิดของเขาอีกครั้ง และเขาก็ใช้จิตหยั่งรู้ของเขาอีกครั้ง พยายามเข้าไปในส่วนลึกของคุก แต่กลับถูกปิดกั้นไว้
ในที่มืด
เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างเย็นชา
“ฉินเฉิงพยายามใช้พลังจิตหยั่งรู้เข้าไปตรงคุกตรงส่วนนั้น” เสียงนั้นพูดอย่างเย็นชา “ฉันคิดว่าเขารู้แล้ว”
ชางโจวขมวดคิ้วและพูดว่า “ไม่มีทางมั้งครับ?”
คนๆนั้นมองไปที่ชางโจวอย่างเย็นชาและพูดว่า “ทำไมนายถึงไม่ระวัง? ไหนพวกนายว่าปิดกั้นไว้แล้ว?”
ชางโจวกล่าวอย่างประหม่า “นายท่านก็ทราบดีว่าสถานะของนักโทษที่นี่ไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ ดังนั้นเราจึงสามารถปิดกั้นไว้รอบคุก …. แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะติดได้ทุกที่ เพราะเราไม่มีของเยอะขนาดนั้น… ”
ชางโจวพูดถูก ข้อจำกัดในการติดตั้งการปิดกั้น ต้องใช้ของลำค่าจากสวรรค์ แต่มันไม่มีอยู่แล้ว
สมาคมศิลปะการต่อสู้จิงตูพยายามรวบรวมสิ่งนี้ เพื่อที่จะใช้เป็นความลับในการปิดกั้น แต่มันก็หายากเสียเหลือเกิน
“นายท่าน ไม่ต้องกังวล ฉินเฉิงจะตายอยู่แล้ว แม้ว่าเขาจะรู้ แต่ก็ไม่มีทางคุกคามได้ ” ชางโจวโค้งคำนับ
ร่างนั้นยืนนิ่งอยู่นานและพูดอย่างช้า ๆ “ไปหาของนั้นมาเตรียมให้พร้อม หวังว่าจะไม่เกิดปัญหาอะไรอีกนะ”
“ครับ นายท่าน” ชางโจวประสานมือคำนับเขา
หลังจากนั้นเขาก็เดินไปหาฉินเฉิงด้วยท่าทางโหดเหี้ยม
ทันทีที่ประตูเปิดออก เขาก็เตะปาฉิง
“ใครให้แกนอน?” ชางโจวพูด
ปาฉิงรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาร้องไห้และพูดว่า “คุณชาง พอดีผมเหนื่อยมาก ก็เลย … ”
“ออกไป!” ชางโจวคว้าแส้มาแล้วพูดอย่างเย็นชา
หลังจากไล่ปาฉิงออกไป ชางโจวก็กัดฟันและพูดว่า “ให้ตายเถอะ นายมาอยู่ในคุกยังทำให้ฉันต้องกังวลอีกเหรอ”
ฉินเฉิงเงยหน้าขึ้น กัดฟันพูด “ในส่วนลึกของคุก คนที่ถูกขังอยู่…”
ชางโจวตกใจ ดวงตาของเขาหรี่ลง และเขาพูดขึ้นว่า “เกี่ยวอะไรกับนายด้วย?”
“ฉันเกำลังจะตาย ทำไมถึงพูดไม่ได้หล่ะ? ” ฉินเฉิงพยายามระงับความโกรธไว้
ชางโจวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นายคิดว่าเป็นใคร ก็เป็นคนนั้นแหละ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเฉิงก็ทนไม่ไหว
ภายใต้การจองจำด้วยโซ่ทองคำนี้ ตัวของเขาทำให้โซ่ทั้งหมดสั่นสะท้าน!
ร่างกายของเขาพุ่งตรงเข้าหาชางโจว!