ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 453 มหาจอมยุทธ

 

เรื่องที่ฉินเฉิงยังไม่ตายได้แพร่ไปสู่เว็บบอร์ดศิลปะการต่อสู้

ทุกคนไม่อยากจะเชื่อ เนื่องคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ คนที่อยู่ในคลิปก็คือฉินเฉิง

ดังนั้นในสายตาของพวกเขาฉินเฉิงจะต้องถูกใครช่วยเหลือเอาไว้อย่างแน่นอน และนั่นมันก็เป็นข้อกระทู้ในเว็บบอร์ดศิลปะการต่อสู้

พริบตาเดียวก็ผ่านไปหลายวัน

คนที่เจียงโม่เหลียนส่งไปก็กลับมาที่ตำหนักเทพโอสถกันหมดแล้ว แต่โชคไม่ดีที่พวกเขาไม่ได้กระดูกกุมภีล์กลับมา

“ผู้อาวุโสฉัน ต้องขอโทษด้วย”

ฉินเฉิงยิ้มและโบกมือ “ไม่เป็นไร กระดูกกุมภีล์เป็นของที่หายาก ฉันไม่โทษพวกนายหรอก”

เจียงโม่เหลียนเงียบไม่พูดอะไร ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

“อาจารย์ เราได้สำรวจแม่น้ำทั้งสายเหนือและใต้ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เส้นขนของกระดูกกุมภีล์” ฉูเป่ยชวนถอนหายใจและพูดออกมา “อาจารย์ ถ้าหากว่าหาไม่ได้จริงๆ พวกเราเปิดรับซื้อดีไหม? ไม่ว่าจะใช้เงินสักเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร”

“ของแบบนี้ไม่สิ่งที่เงินจะซื้อได้” ฉินเฉิงส่ายหน้าและพูดออกมา

ฉูเป่ยชวนดูเป็นทุกข์อย่างยิ่งและเอาแต่เกาหัวของเขา

สามวันต่อมา

ฉินเฉิงมาถึงห้องของเจียงโม่เหลียน

เขาประสานมือแล้วพูดว่า “ท่านเจ้าสำนัก ผมจะไปจากตำหนักเทพโอสถแล้ว”

เมื่อเจียงโม่เหลียนได้ยินแบบนี้ คิ้วของเธอก็ขมวดขึ้นมาทันที

เธอลุกขึ้นมาจากเตียงและมองไปที่ฉินเฉิงอย่างเยือกเย็น “นายจะไปจากตำหนักเทพโอสถ? นายเบื่อชีวิตมานักใช่ไหม?”

ฉินเฉิงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ผมคงปล่อยให้ตำหนักเทพโอสถปกป้องผมไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกถูกไหม? ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าพลังภายในของผผมจะไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่การที่จะฆ่าผมมันก็ไม่ใช่เรื่อง่ายขนาดนั้น”

“ฉันไม่อนุญาต” เจียงโม่เหลียนพูดออกมาอย่างไม่ลังเล

“ผมต้องไปจริงๆ” ฉินเฉิงพูดออกมาด้วยใบหน้าที่แน่วแน่ “ถ้าหากผมอยู่นานไปมากกว่านี้ ตำหนักเทพโอสถจะต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องไปจัดการ”

ที่ฉินเฉิงพูดออกมาแบบนั้น ก็เพราะเขาจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

ที่จริงตั้งแต่เขารู้ว่าแม่ของเขาถูกขังอยู่ในคุก ฉินเฉิงก็ร้อนใจจนพูดอะไรออกมาไม่ถูก

เมื่อเจียงโม่เหลียนเห็นความแน่วแน่ของฉินเฉิง เธอเองก็หมดหนทางที่จะขัดขวาง

หลังจากที่ลังเลอยู่นาน เจียงโม่เหลียนก็พูดออกมาว่า “ให้ฉูเป่ยชวนไปกับนายด้วย”

ฉินเฉิงผงะ พยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้ครับ”

“จะไปเมื่อไหร่?” เจียงโม่เหลียนถาม

“พรุ่งนี้” ฉินเฉิงถอนหายใจและพูดออกมา “ไปพรุ่งนี้ครับ”

“อืม” เจียงโม่เหลียนไม่พูดอะไรมากกว่านั้น “ถ้าหากมีเรื่องอะไรก็กลับมาที่ตำหนักเทพโอสถนะ ขอแค่นายยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีใครสามารถเอานายไปจากตำหนักเทพโอสถได้แน่นอน”

ฉินเฉิงโน้มตัวด้วยความเคารพจากส่วนลุกของหัวใจ และพูดออกมาว่า “ขอบคุณสำหรับความดูแลมากครับ บุญคุณนี้ผมจะไม่มีวันลืม”

พูดจบฉินเฉิงก็เดินออกไป

วันรุ่งขึ้น ฉินเฉิงพาฉูเป่ยชวนเตรียมตัวที่จะออกเดินทางไปจากตำหนักเทพโอสถ

“อาจารย์ฉูเป่ยชวนเป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ มีเขาอยู่ข้างกาย อารมณ์ของฉินเฉิงก็ดีขึ้นไม่น้อย

ในตอนที่พวกเขากำลังจะออกเดินทาง จู่ๆหลินชิงชือก็วิ่งเข้ามา

ในมือของเธอถือถือเครื่องรางที่เป็นถุงผ้าเล็กเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าของสิ่งนี้มีออร่าที่ลึกลับซ่อนอยู่

“อย่าเข้าใจผิด นี่เป็นของที่ท่านเจ้าสำนักบอกให้ฉันเอามาให้นาย” หลินชิงชือยื่นของเธอที่อยู่ในมือของเธอให้กับฉินเฉิง

“เธอบอกว่า ของสิ่งนี้ นายจะต้องพกมันติดตัวไว้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะตอนอาบน้ำหรือตอนนอนก็ตาม” หลินชิงชือพูดออกมาเหมือนเป็นคำสั่ง

ฉินเฉิงพยักหน้า จากนั้นก็ถามกลับไปว่า  “เธอไม่มาแล้ว” หลินชิงชือตอบกลับมา

ฉินเฉิงลูบถุงเล็กๆที่อยู่ในมือและอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

ที่หน้าประตูของตำหนักเทพโอสถ ศิษย์จำนวนมากของสำนักมายืนเพื่อส่งฉินเฉิง

“ผู้อาวุโสฉิน ดูแลตัวเองดีๆนะ!” ทุกคนต่างตะโกนออกมา

ฉินเฉิงประสานมือและพูดออกไปว่า “ขอบคุณทุกท่านมาก ฉันกลับมาเมื่อไหร่ พวกเรามารำลึกถึงอดีตกัน”

หลังจากที่ออกมาจากตำหนักเทพโอสถแล้ว ฉูเป่ยชวนก็ถามออกมาว่า “อาจารย์ พวกเราจะไปที่ไหนกัน?”

“ฉันเองก็ไม่รู้” ฉินเฉิงตอบกลับมา “ค่อยๆดูตามสถานการณ์ไปแล้วกัน”

……

ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ภูเขาคุนหลุน

เป็นดินแดนที่ประชากรเบาบางมาก พูดได้ว่าแทบจะไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่

และที่นี่มีแท่นบูชาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ว่ากันว่าเป็นที่บูชาของจอมยุทธที่มีความสามารถคนหนึ่ง

จอมยุทธที่มีความสามารถคนนี้ไม่มีชื่อเสียง แต่ทุกคนมักจะเรียกเขาว่าเทพเจ้าแห่งศิลปะการต่อสู้

วันที่ 24 กรกฎาคม ของทุกปี ทุกคนจะมาที่นี่เพื่อบูชาแท่นบูชา และขอพรให้ตนเองได้ก้าวข้ามระดับที่ตนเองเป็นอยู่

“เทพเจ้าแห่งศิลปะการต่อสู้ มันมีอยู่จริงไหมนะ?” คนที่อยู่ตีนเขาพูดออกมา

“หุบปาก! ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องมา ถ้าหากนายดูถูกเทพเจ้า ทั้งชีวิตนี้นายก็คงไม่สามารถก้าวข้ามระดับของตัวเองในตอนนี้ไปได้!” มีคนตะโกนด่าออกมา

ฝูงชนเดินไปข้างหน้าทีละน้อย เมื่อดูจากท่าทางของพวกเขา ทุกคนล้วนแต่ให้เชื่อในความเชื่อเรื่องนี้มาก

“คุณชายเฉียว คุณมาแล้ว?” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนออกมา แต่ทุกคนก็ต่างหันมามอง

จากนั้นก็เห็นเฉียวเซิงค่อยๆเดินขึ้นมากับสาวใช้ของเขา

ในมือของเขาถือพัดที่ดูสง่างามและเต็มไปด้วยพลัง

เฉียวเซิงยิ้มและพูดออกมาว่า “สำหรับเทพเจ้าแห่งศิลปะการต่อสู้ หัวใจของฉันเต็มไปด้วยความเคารพเสมอ ขอแค่ฉันว่าง ฉันจะมาสักการะทุกปี”

“สมแล้วที่เขาคุณชายเฉียวได้เป็นจงหยวนคนแรก+” มีคนพูดออกมา

ที่จริง เฉียวเซิงเพิ่งจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก

เหตุผลที่เฉียวเซิงมาสัการะนั้นไม่ใช่เหตุผลเหมือนอย่างที่เขาพูด “สักการะด้วยความเคารพ” แต่เหตุผลที่เขามาที่นี่ก็คือ หลังจากที่เขาต่อสู้กับฉินเฉิง เขาก็รับรู้ได้ถึงความอ่อนแอในตัวของเขา และเขาก็มาเจอกับสถานที่แห่งนี้โดยบังเอิญ

หลังจากนั้นเฉียวเซิงก็เดินเข้าไปที่หน้าแท่นบูชา เขาอยู่ตรงหน้าแท่นหิน คุกเข้าและสักการะอย่างเคร่งขรึม

“อาจารย์ ด้านหน้าเป็นแท่นบูชาเทพเจ้าแห่งศิลปะการต่อสู้” ฉูเป่ยชวนชี้ไปที่ภูเขาคุนหลุน

ฉินเฉิงมองดูภูเขาคุนหลุนที่สูงตระหง่านและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ภูเขาคุนหลุน สถานที่ที่เต็มไปด้วยตำนาน”

ฉินเฉิงเคยเห็นภูเขาลูกนี้ในนิยายมาก่อน ดังนั้นในใจของเขาจึงมีความปรารถนาอยู่ไม่น้อย

“เทพเจ้าแห่งศิลปะการต่อสู้ มันคือการมีอยู่ของอะไรกันแน่?” ฉินเฉิงถามออกมา

ฉูเป่ยชวนตอบกลับไปว่า “เทพเจ้าแห่งศิลปะการต่อสู้นั้นมีอยู่จริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้ หลายคนบอกว่ามันเป็นเพียงสถานที่ที่ทำให้คนมีกำลัง ไม่ได้มีเทพเจ้าแห่งศิลปะการต่อสู้อยู่จริง แต่แน่นอนก็มีคนบอกว่ามีอยู่จริงๆ และมันก็เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉินเฉิงเองก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว

เขาค่อนข้างที่จะเชื่อ

เช่นเดียวกับคนยากจนจำนวนมาทกี่มาสักการะ พวกเขาไม่มีอะไรมากนอกจากมาสร้างกำลังใจ

“งั้นแท่นบูชามีรูปร่างอย่างไง?” ฉินเฉิงเดินไปถามไป

ฉูเป่ยชวนตอบกลับมาว่า “มันเป็นเพียงประติมากรรมขนาดใหญ่ แต่ไม่มีใบหน้า อาจเป็นเพื่อความสะดวกของทุกคนที่จะจินตนาการ”

ฉินเฉิงพยักหน้า ยอ้มและพูดออกมาว่า “มีเหตุผลๆ”

ในระหว่างที่ทั้งสองคนคุยกัน พวกเขาก็เดินเข้ามาใกล้ภูเขาคุนหลุนมากขึ้นเรื่อยๆ

“อาจารย์ พวกเราต้องปลอมตัวไหม?” เมื่อฉูเป่ยชวนเห็นคนที่อยู่ตรงแท่นบูชา มันมีจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

ฉินเฉิงส่ายหน้าและพูดออกมาว่า “ไม่จำเป็น ถ้าหากปลอมตัว มันก็ไม่ต่างอะไรกับการหลบซ่อนอยู่ในตำหนักเทพโอสถ”

ที่เขาออกมาครั้งนี้เพราะเขาต้องการยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง

อย่างแรกคือเขาต้องการดูว่าตนเองมีศักยภาพทางด้านร่างกายมากแค่ไหน อย่างที่สองก็คือเขาต้องการที่จะพัฒนาตัวเองโดยผ่านประสบการณ์ของความตาย

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset