“นายมันบ้าไปแล้ว!” ฟานยุนทรุดตัวลงกับพื้นทันที กว่าเธอจะได้ชีวิตกลับคืนมามันไม่ง่ายเลย แต่ทำไมต้องมาเจอคนโง่ๆแบบนี้ด้วย!
ฉินเฉิงค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ยิ้มและพูดออกมา “คนของสำนักชื่อหลง ในเมื่อมาแล้วก็ไม่ต้องกลับไปหรอก”
“นายรู้ไหมว่าสำนักชื่อหลงของพวกเรายิ่งใหญ่ขนาดไหน? ฉันจะบอกนายให้ ฉัน….”
“พอแล้ว หวังซูคนนั้นบอกกับฉันมาแล้วรอบหนึ่ง” ฉินเฉิงโบกมือขัดคำพูดของอู่หาว
สีหน้าของอู่หาวเปลี่ยนไปเล็กน้อย และพูดออกมาด้วยความโกรธว่า “นายเป็นคนฆ่าหวังซูอย่างนั้นเหรอ?!”
“อืม ฉันเอาเห็ดหลินจือมาจากเขาด้วยหละ ถ้าหากนายก็มีเหมือนกัน งั้นส่งมันมาให้ฉันหน่อยสิ” ฉินเฉิงตอบกลับไป
เมื่อได้ยินแบบนี้สีหน้าของอู่หาวก็เต็มไปด้วยความโกรธ
“นี่แก สำนักชื่อหลงของฉันไม่เคยได้รับความอับอายเช่นนี้มาก่อน!” อู่หาวพูดออกมาด้วยความโกรธ ท้องทั้งห้องสั่นไหวแม้แต่ผิวน้ำของทะเลสาบก็มีการสั่นสะเทือน
เขาใช้พลังของเขาอย่างเต็มที่ในทันที ความเร็วนั้นมันช่างว่องไวเสียเหลือเกิน ในตอนที่เขายกมือขึ้นก็เกิดลมพัดขึ้นมาทันที!
ฉินเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย พลังของอู่หาวนั้นแข็งแกร่งมาก และอาจกล่าวได้ว่าเขาได้พบกับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุด
ดังนั้นฉินเฉิงจึงไม่กล้าละเลย พลังวิญญาณจากจุดตันเถียนของเขาค่อยๆไหลเวียน และในที่สุดก็ไหลไปทั่วทั้งร่างกาย ห่อหุ้มทุกเซลล์และทุกตารางนิ้วของเนื้อและเลือด
“เอ๋?” เมื่อเห็นแสงสีเขียวจางๆบนร่างกายของฉินเฉิง อู่หาวก็แสดงอาการที่เคร่งขรึมออกมาอย่างชัดเจน
เขาตะโกนและปล่อยหมัดออกมาพร้อมกัน
ฉินเฉิงกระโดดขึ้นไปบนอากาศและไปอยู่ด้านหลังของเขาในชั่วพริบตา
“ทำไมถึงช้าขนาดนี้” ฉินเฉิงพูดออกมาอย่างเยือกเย็น
“เอ๋?” สีหน้าของอู่หาวเปลี่ยนไปทันที เขารีบหันกลับมา แต่มันก็สายเกินไปแล้ว หมัดของฉินเฉิงเข้าไปที่เอวของเขาแล้ว
ทันใดนั้นอู่หาวก็รู้สึกได้ทันทีว่าอวัยวะภายในของเขาเสียหาย เขาเดินโซเซเกือบจะชนกับกำแพง
“คาดไม่ถึง?” ดวงตาของฉินเฉิงเป็นประกาย และจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาก็ระเบิดขึ้นในทันใด
อู่หาวดูกังวลเล็กน้อย เขามองออกไปนอกหน้าต่างหลายครั้งและขมวดคิ้วอยู่บ่อยๆ
“เจ้าหนุ่มมาตัดสินกันได้แล้ว”อจากนั้นอู่หาวก็พ่นลมหายใจออกมา เขาค่อยๆยกมือทั้งสองข้างของเขาขึ้นมาอย่างช้า จากนั้นเขาก็ปล่อยแก๊สขุ่นๆออกมาจากปากของเขา
จากนั้นมันก็มีแสงจางๆปรากฎขึ้นบนมือของเขา
“เอ๋? นี่มันอะไรกัน?” ฉินเฉิงตกใจเล็กน้อย ความสามารถแบบนี้เขาเพิ่งจะเคยเห็นมันครั้งแรก
อู่หาวหัวเราะออกมาดังลั่น “เจ้าหนุ่ม นี่เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงพลังงานภายใน! ฉันส่งพลังงานภายในทั้งหมดไปที่มือของฉัน และหมัดที่ปล่อยออกไปจะมีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ! ความสามารถแบบนี้นายเคยเห็นมาก่อนไหม?”
“พลังภายใน?” ฉินเฉิงขมวดคิ้ว “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง….”
เมื่อเสียงของเขาเงียบลง แสงสีเขียวก็ค่อยๆปกคลุมรอบๆตัวของฉินเฉิง มันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนมีขนาดเท่ากับโต๊ะอาหาร!
อู่หาวอ้าปากค้าง อดไม่ได้ที่จะสบถออกมา “อะไรของมึงเนี่ย นี่มัน…บ้าบออะไรกัน?”
ฉินเฉิงพูดออกไปอย่างมั่นใจ “แน่นอน…ถ้าหากพลังงานภายในสามารถทำแบบนั้นได้ มันก็เป็นเรื่องปกติที่พลังของฉันจะทำแบบเดียวกันได้”
อู่หาวตื่นตระหนกในทันที เรื่องที่จะสามารถใช้พลังงานภายในแบบนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องงายเลย และในตอนที่เขาใช้พลังนี้มันก็ทำให้คนจำนวนไม่น้อยต้องล่าถอยไป
แต่เจ้าฉินเฉิงคนนี้…มันจะเกินไปไหม!
“ลงมือเถอะ เดี๋ยวจะไม่มีโอกาสเอานะ” ฉินเฉิงหันไปทางอู่หาว ยิ้มและพูดออกมา
ในตอนนั้นอู่หาวไม่คิดอะไรอีกแล้ว เขากลอกตาและหันไปทางหน้าต่างเตรียมที่จะหนี
ฉินเฉิงชกหมัดออกไปด้านหน้า ออร่าสีเขียวในมือของเขาพุ่งออกไปกระทบกับหลังของอู่หาวในพริบตา
“ตู้ม!
อู่หาวส่งเสียงร้องออกมา หลังของเขาโค้งงอแบบผิดรูปราวกับว่าถูกรถบรรทุกคันใหญ่เข้าชน กระดูกและอวัยวะภายในของเขาแหลก!
“แบบนี้ก็โอเคนะ!” ฉินเฉิงคิดอยู่ในใจ กระบวนท่านี้ไม่ได้มีอยู่ในบันทึกที่พ่อของเขาเขียนเอาไว้ให้! แบบนี้ก็แสดงว่าเขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาใหม่?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ฉินเฉิงก้อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
อู่หาวนอนลงอยู่กับพื้นด้วยอาการสาหัส หลังของเขาแหลก เส้นประสาทของเขาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และขาของเขาชาไปหมด
แม้ว่าฉินเฉิงจะไม่ฆ่าเขาแล้วในตอนนี้ แต่ชีวิตที่เหลือของเขาก็คงทำได้แค่นอนอยู่บนเตียง
“ขอบคุณที่ชี้แนะ” ฉินเฉิงเดินเข้ามาหาเขาและพูดออกมาอย่างจริงจัง
อู่หาวกัดฟันแน่น พูดออกมาด้วยความไม่พอใจ “นาย…นายเป็นใครกันแน่! ยังเป็นเด็กอยู่ที่แท้ๆแต่ทำไมถึงได้มีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้…”
ฉินเฉิงยิ้มและตอบกลับไปว่า “ถ้าฉันบอกว่า..ฉันคือพระเจ้า นายจะเชื่อไหม?”
อู่หาวหัวเราะอย่างน่าสังเวช และเขาก็ถอนหายใจ “สำนักชื่อหลง….นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้พบกับความรุนแรงขนาดนี้ ฮ่าฮ่า…ลงมือเสียเถอะ!”
“นายนี่มันลูกผู้ชายตัวจริง น่าเสียดาย” ฉินเฉิงถอนหายใจออกมา เขายกมือขึ้นไปบนอาการ จากนั้นก็ฟันลงมา ราวกับวัตถุชิ้นใหญ่ๆตกลงมาจากท้องฟ้า มันตรงมาที่ร่างกายของอู่หาว
อู่หาวจบชีวิตลงทันที
“เห้อ ก่อเรื่องอีกแล้ว” ฉินเฉิงถอนหายใจออกมาจากในใจ
จากนั้นเขาก็เดินไปด้านหน้าของเจ้าสำนักฟานและพูดออกมาว่า “เป็นไงบ้าง ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?”
เจ้าสำนักฟานยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ฉันแก่แล้ว ไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน กระดูกของฉันน่าจะหักไปสองสามชิ้น”
ฉินเฉิงกวาดสายตามองไปที่เขา เป็นอย่างที่คิดซี่โครงของเขาหัก อีกนิดเดียวก็เกือบจะไปทำความเสียหายให้กับไตและม้าม
“ไปโรงพยาบาลกันเถอะ” ฉินเฉิงพูดออกมา
พลังที่เขาใช้ออกไปเมื่อกี้มันกินพลังของเขาไปมากจริงๆ ดังนั้นเขาจึงไม่มีพลังเพียงพอที่จะรักษาให้กับเจ้าสำนักฟาน
เจ้าสำนักฟานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “เจ้าหนุ่มคนเมื่อกี้ มาจากที่ไหนกันแน่….”
“ไปพยุงพ่อของเธอสิ” ฉินเฉิงหันไปมองฟานยุนและพูดออกมา
ฟานยุนที่ยืนทิ่งอยู่เพิ่งจะรู้สึกตัว เธอรีบพยักหน้า ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
ในระหว่างทาง ฉินเฉิงพูดกับเจ้าสำนักฟานว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ขอให้คุณเก็บเอาไว้เป็นความลับ”
เจ้าสำนักฟานยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ความลับ? มันยังจะเก็บไว้เป็นความลับได้อีกเหรอ?
เรื่องนี้มันอาจจะเงียบเอาไว้ไม่ได้จริงๆ
เนื่องจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้มันรุนแรงเกินไป
หลังจากที่พาเจ้าสำนักฟานมาส่งถึงโรงพยาบาลแล้ว ฉินเฉิงก็เตรียมตัวที่จะกลับ
และในตอนนั้นจู่ๆฟานยุนก็ตะโกนเรียกเขาออกมา
เธอพูดออกมาอย่างระมัดระวัง “ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจผิด นาย…นายคงไม่ว่าอะไรฉันใช่ไหม?”
“ว่าอะไรเธอ?” ฉินเฉิงยิ้มออกมา “ในสายตาของฉัน เธอมันก็เป็นแค่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก พูดอะไรฉันเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว!”
ฟานยุนผงะ ใบหน้าแดงขึ้นด้วยความโกรธ
ฉินเฉิงโบกมือและเดินต่อไป
“ไอเจ้าบ้า!” เมื่อเห็นเงาหลังที่จากไปของฉินเฉิง ฟานยุนก็อดไม่ได้ที่จะกระทืบเท้าและพูดออกมา
วันรุ่งขึ้นก็มีข่าวใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง
ฉินเฉิงนั่งอยู่บนโซฟา กินผลไม้พร้อมกับดูข่าวไปด้วย
จากข้อมูลที่ข่าวแสดงออกมาให้เห็นไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนทำสิ่งนี้ ดังนั้นในฐานะของ “ฮีโร่” ยังคงถูกเก็บเอาไว้
“นี่มันอะไรกัน มันจะเกินไปแล้วไหม?” ในตอนนั้นซูวานเดินถือโทรศัพท์เข้ามา
เธอกำลังดูคลิปในโทรศัพท์ และคลิปนั้นก็เป็นคลิปที่ฉินเฉิงกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำ
ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ วีดีโอคลิปนี้เกรงว่าคงจะสร้างความลำบากให้เขาไม่น้อยในอนาคต…