ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 73 ฉันตบแกแล้วจะทำไม

ฉินเฉิงยิ้มและพูดว่า “ก็ประมาณนั้น”

ฟางจิ้งเหมาก็อดหัวเราะไม่ได้ เค้าตบไปที่ไหล่ของฉินเฉิงแล้วพูดว่า “เธอรู้ไหมว่าเจ้าแห่งพลังปราณนี่ มันเป็นยังไงกัน? มันคือการมีอยู่ที่มักจะถูกตระกูลใหญ่ทาบทาม”

ฉินเฉิงไม่ได้พูดอะไร จากการเปรียบเทียบ เจ้าแห่งพลังปราณคือระยะของการฝึกฝนพลังปราณ เจ้าแห่งพลังปราณมันก็คือระยะเวลาในการสร้างรากฐานของพลัง

ในตอนนี้ฉินเฉิง ก็ยังไม่ถึงระยะของการสร้างฐานรากเลย

อย่างไรก็ตาม ศิลปะการต่อสู้มันก็เป็นการปลูกฝังความแข็งแกร่งภายในและ ฉินเฉิงเองก็ฝึกฝนความแข็งแกร่งพวกนี้ผ่านทางจิตวิญญาณ ในขั้นเดียวกัน มันก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย

ยิ่งไปกว่านั้น มรดกของฉินเฉิงเองก็ยังเทียบไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้เลย

หลังจากที่เข้าใจแล้ว ฉินเฉิงก็ได้เรียนรู้ว่าเหนือกว่าระดับขั้นของพลังปราณระดับปรมาจารย์ มันยังมีเจ้าแห่งพลังปราณและพวกเค้าก็ล้วนเป็นคนในตำนาน ต่อให้พลิกเมืองพลิกมณฑลตามหา มันก็ไม่มีทางหาเจอได้เลย อย่างนั้นเอง ฟางจิ้งเหยาก็เลยไม่ได้พูดถึง

หลังจากงานเลี้ยงสิ้นสุดลง หลิงหยางก็เดินเข้ามาอีกครั้ง

เค้าพูดอย่างสุภาพมาก: “พี่ฉินครับ ถ้าอาทิตย์หน้าพี่ไปที่เมืองเอกในมณฑลใ อย่าลืมติดต่อผมมานะ ผมจะเลี้ยงข้าวคุณเอง”

“ได้สิ!” ฉินเฉิงตอบตกลงอย่างจริงใจ

ในตอนที่เดินไปถึงที่ประตูทางออก ปี้เสี่ยวเหยาก็วิ่งตามมา

เค้าพูดออกมาอย่างความเคารพว่า: “คุณฉิน เราไปหาที่คุยกันหน่อยไหม?”

ซูวานขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “นายคิดจะทำอะไรของนายอีก?”

ปี้เสี่ยวเหยา ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณหนูซู อย่าเข้าใจผมผิด ฉันแค่อยากจะคุยกับเค้า”

“ไม่เป็นไรหรอก” ฉินเฉิงยิ้ม

เมื่อซูวานเห็นแบบนี้ เธอก็ไม่พูดอะไรอีก

หลังจากเดินไปกับปี้เสี่ยวเหยา ท่าทีของปี้เสี่ยวเหยาก็เปลี่ยนไปในทันที

เค้าพูดด้วยสีหน้าเย็นชา: “อย่าคิดว่าเรื่องของตระกูลตี๋แกจะเก็บซ่อนเอาไว้ได้นะ ทุกคนต่างก็รู้ดี”

“นายมาก็เพื่อจะพูดเรื่องนี้อย่างงั้นเหรอ?” ฉินเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมา

“เรื่องนี้?” ปี้เสี่ยวเหยาถอนหายใจออกมาเบาๆ “ฉันอยากจะจัดการกับแก ยังจะต้องมาพูดเรื่องนี้อะไรอีก? แค่ฆ่าแกในสังเวียงได้มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว”

ฉินเฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “อย่างงั้นก็มารอดู”

“แกนี่ชอบซ่อนตัวอยู่หลังกระโปรงผู้หญิงอย่างงั้นเหรอ” ดูเหมือนว่าปี้เสี่ยวเหยาจะไม่พอใจตระกูลซู

ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกันว่า: “ฉันเองก็อยากจะจัดการกับแก ยังจะต้องมาหลบอยู่หลังกระโปรงผู้หญิงอย่างงั้นเหรอ? นี่มันก็น่าจะพอที่จะฆ่าแกบนสังเวียนได้แล้ว”

ปี้เสี่ยวเหยา หรี่ตาแล้วพูดว่า “ได้ อย่างงั้นก็ลองดู!”

ฉินเฉิง หยุดพูดเรื่องไร้สาระกับเขา เค้าหันหลังแล้วเดินขึ้นรถไป

ทันทีที่ประตูรถเปิดออก ฉินเฉิงก็เห็นว่าฟางเสี่ยวเต๋อก็อยู่บนรถนั่นด้วย

เธอพิงซูวานด้วยพร้อมกับหน้าอ้อนๆของเธอ

“ทำไมเธอยังไม่ไปอีก?” ฉินเฉิงก็ถามขึ้นมา

“ฉันอยากจะเที่ยวในปีนังอีกซักสองสามวัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่จะได้เจอกับพี่วานเอ๋อ!” ฟางเสี่ยวเต๋อพูดอย่างประชดประชัน

ฉินเฉิงก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เค้าทำได้เพียงแค่ไปขับรถเอง

“พี่วานเอ๋อ ทำไมไม่หาพ่อบ้านล่ะ” หลังจากกลับถึงบ้าน ฟางเสี่ยวเต๋อก็ถามขึ้นมา

“นายนี่มันจริงๆเลยนะ หรือว่านายจะให้พี่วานเอ๋อทำความสะอาดบ้านด้วยตัวเองอย่างงั้นเหรอ?”

“ผู้ชายอะไรกัน ใช้ให้พี่วานเอ๋อทำอาหารอย่างงั้นเหรอ?”

ฉินเฉิงอธิบายอย่างช่วยไม่ได้ว่า: “ฉันทำอาหาร ส่วนเรื่องทำความสะอาดก็มีคนมาทำความสะอาดทุกวัน”

“นี่มันก็ไม่ได้ต่างอะไรเลย” ฟางเสี่ยวเต๋อพูดขึ้นมา เธอทำปากมุ่ย “พี่ว่านเอ๋อ พี่พาฉันออกไปเที่ยวหน่อยสิ? ฉันไม่เคยมาที่ปีนังมาก่อนเลย!”

“นี่มันก็ดึงมากแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไป โอเคไหม?” ซูวานเอามือลูบหัวเธอแล้วพูดออกมา

“ได้สิ ถ้าอย่างงั้นก็ตอบตกลงละนะ!” ฟางเสี่ยวเต๋อพยักหน้าอย่างจริงจัง

ฉินเฉิงคิดในใจ: พรุ่งนี้ต้องออกไปเป็นเพื่อนฟางเสี่ยวเต๋ออีก ฉันควรที่จะได้ไปปรุงแต่งยาบ่มเพาะจิตวิญญาณ

เช้าวันรุ่งขึ้น ฟางเสี่ยวเต๋อก็ลากซูวานตื่นแต่เช้า

หลังจากจัดเก็บอะไรเสร็จแล้ว ทั้งสามคนก็ขับรถออกจากชุมชนหลงไห่

สถานที่โปรดของผู้หญิงก็คือห้างสรรพสินค้า แม้แต่ฟางเสี่ยวเต๋อเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

ดังนั้น สถานที่ๆเธอเลือกไปก็คือห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปีนัง: ห้างสรรพสินค้าเล่อเจีย

“โอ้ ห้างนี้มันค่อนข้างเก่าไปแล้วนะ” ฟางเสี่ยวเต๋อบ่นขึ้นมาในทันทีที่เข้าประตูห้างไป

ถึงอย่างนั้น ฟางเสี่ยวเต๋อก็ยังคงซื้อของมากมายทั้งถุงใบใหญ่และใบเล็ก

ฉินเฉิงก็กลายมาเป็นคนที่ต้องถือของพวกนี้

ตลอดทั้งเช้าที่เดินชอปปิ้ง เสื้อผ้าในมือของฉินจุนก็มีราคาอย่างน้อยหลายแสนหยวน

“เฮอะ ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว” ในตอนเที่ยง ฟางเสี่ยวเต๋อก็บิดเอวของเธอ

“ฉันเหนื่อยมากกว่า” ฉินเฉิงพูดอย่างช่วยไม่ได้

ฟางเสี่ยวเต๋อจ้องมาที่เค้าและพูดว่า “ชายร่างใหญ่ นายถือกระเป๋าแค่ไม่กี่ใบเอง ทำไมถึงบ่นเหนื่อย?”

ในตอนที่ฉินเฉิงจะพูดออกมานี้เอง จู่ๆก็เห็นคนที่เดินเข้าประตูมา

เค้าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นน้องสาวของหลินฉิงเฉิง หลินชิงชือ

ในตอนนี้ก็มีชายรูปหล่อสูงยืนอยู่ข้างๆเธอ ชายคนนั้นก็โอบเอวของเธอ ท่าทีของพวกเค้าดูสนิทสนม

“อย่างงั้น… ไปกินข้าวเย็นกันไหม?” ฉินเฉิงไม่ต้องการให้ฟางเสี่ยวเต๋อเข้าไปเจอเธอ ดังนั้นเค้าก็เลยรบเร้าขึ้นมา

“จะรีบร้อนอะไรกัน!” ฟางเสี่ยวเต๋อจ้องไปที่ฉินเฉิง “ฉันยังเที่ยวไม่พอเลยนะ!”

“ยังเที่ยวไม่พอ อย่างงั้นตอนบ่ายก็ค่อยกลับมาสิ!” ฉินเฉิงคว้าแขนของฟางเสี่ยวเต๋อ เค้าหันหน้าแล้วเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม

“ฉินเฉิง?” ในตอนนี้เอง เสียงของหลินชิงชือก็ดังขึ้นมาจากที่ด้านหลังของเค้า

จู่ๆ ฉินเฉิงก็รู้สึกว่านี่มันเป็นเรื่องใหญ่มาก เค้ากลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปจริงๆๆ

“เธอเป็นใครกัน” ฟางเสี่ยวเต๋อก็ถามขึ้นมา เธอมองหลินชิงชืออย่างระมัดระวัง

หลินชิงชือเหลือบมองไปที่ฟางเสี่ยวเต๋อแล้วพูดว่า “ฉินเฉิง ยัยผู้หญิงคนนี้มาจากไหนอีกแล้ว?”

“ยัยเด็กนี่?” ฟางเสี่ยวเต๋อก็แสดงท่าทีของเธอออกมา “คุแกสิยัยเด็กบ้า ฉันสิพ่อแก!”

“พัฟ!”

เมื่อได้ยินคำด่าที่หยาบคายของฟางเสี่ยวเต๋อ ฉินเฉิงก็แทบจะหัวเราะออกมา

“สาวน้อย ทำไมเธอถึงได้เป็นแบบนี้?” หลินชิงชือพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ

“ชิงซือ นี่ใครกัน?” ในตอนนี้เอง ชายตัวสูงที่อยู่ข้างๆเธอก็ถามขึ้นมา

หลินชิงชือก็มองไปที่ฉินเฉิงแล้งพูดว่า “นี่คืออดีตพี่เขยของฉัน ฉินเฉิง”

“พี่เขย?” แววตาของฟางเสี่ยวเต๋อก็เป็นประกายขึ้นมา “โอ้ เธอคือหลินชิงซือใช่ไหม ฉันเองก็หาเธออยู่พอดีเลย!”

“เธอตามหาฉันทำไม?” หลินชิงซือพูดอย่างไม่พอใจ

“ทำอะไรเหรอ? ตบแกหนะสิ!” หลังจากที่พูดตบ ฟางเสี่ยวเต๋อก็ตบเธอ

หลินชิงชือตบหน้าเธอ เธอก็กรีดร้องออกมา “แกทำบ้าอะไรของแกหนะ?”

เด็กชายร่างสูงที่อยู่ข้างๆก็เธอคว้าข้อมือของฟางเสี่ยวเต๋อแล้วล็อคมือของเธอเอาไว้

“สาวน้อย ตบคนอื่นมันไม่ดีเลยนะ” ชายคนนั้นก็ดูถูกแต่แววตาของเค้าก็มองไปที่หน้าอกของฟางเสี่ยวเต๋อโดยไม่รู้ตัว

ฟางเสี่ยวเต๋อก็พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า: “แกอยาจะตายอย่างงั้นเหรอ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”

“ปล่อยเธอไปเหรอ? นั่นมันก็ไม่ได้” ชายคนนั้นก็พูดออกมาว่า “แล้วถ้าเธอจะตบแฟนฉันอีกหละ”

ฉินเฉิงขมวดคิ้วและพูดว่า “ปล่อยเธอเร็วเข้า”

ชายคนนั้นก็มองไปที่ฉินเฉิงและพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ฉินเฉิงใช่ไหม ฉันเคยได้ยินชื่อนายมาก่อน นายเองก็เก่งหนิ แต่น่าเสียดายที่นายจะไม่สามารถเอาชนะฉันได้”

“ทำอะไรแกไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?” เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉินเฉิงก็หัวเราะขึ้นมา

หลังจากนั้นเค้าก็ตบหน้าของชายคนนั้นจนหมุนเป็นวงกลม 720 องศาก่อนที่จะยืนนิ่ง

“ฉันตบแกแล้วจะทำไม?” ฉินเฉิงกล่าวอย่างสนใจ

ชายคนนั้นก็พูดอย่างโมโหขึ้นมาว่า “แกตายแน่ ฉันเป็นคนของฟางจิ้งเหยาจากสำนักงานความมั่นคง! ถ้าแกกล้าตบฉัน ฉันจับแกแน่!”

“คนของฟางจิ้งเหยา?” ฉินเฉิงก็ตกตะลึง เค้ามองไปที่ฟางเสี่ยวเต๋อแล้วพูดว่า “เค้าเป็นคนของพ่อเธออย่างงั้นเหรอ?”

“ใช่ก็แย่ละ!” ฟางเสี่ยวเต๋อลูบแขนของเธอ “พ่อฉันจะไปรู้จักมันได้ยังไงกัน”

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset