ในตอนที่ฉินจุนเข้าสู่ระยะสร้างฐานรากของพลังปราณได้แล้วนี้เอง พลังปราณของเค้ามันก็แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง การแสดงออกของเค้ามันดูไม่ออกเลยว่าเค้าคิดอะไรอยู่ ท่าทีของเค้ามันดูเฉยเมยมากขึ้น
เค้าทำราวกับว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเค้าไม่ใช่ปรมาจารย์พลังเวท แต่เป็นดอกไม้และต้นไม้ข้างถนนก็เท่านั้น
“คะ…คุณฉิน…” เมื่อชายที่มีแผลเป็นที่หน้าเห็นว่าคุณฉินตื่นขึ้นมาแล้ว เค้าก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เกือบไปแล้ว เค้าดึงมือออกมาอย่างยากลำบาก
ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาของเค้ามันเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
แค่มอง มันก็ทำให้ทุกคนตะลึง!
ในวินาทีต่อมานี้เอง ร่างของฉินเฉิงก็หายไปในทันที เค้าเข้ามาถึงตรงหน้าของชายที่มีแผลเป็นที่หน้าในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตา
“คุณฉิน ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว…” ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็เปิดปากพูดขึ้นมา มันมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
ฉินเฉิงวางมือลงบนไหล่ของเค้าแล้วพูดเบาๆว่า: “พักผ่อนให้เต็มที่ เดี๋ยวฉันจะพานายกลับบ้านเอง”
“ผม…ผมอาจจะตายอยู่ที่นี่…” ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็ยิ้มอย่างขมขื่น มันทำให้คนรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
“นายไม่ตายหรอก” ฉินเฉิงกล่าวอย่างเย็นชา
เค้ายกมือขึ้นแล้ววางลงบนบาดแผลของชายที่มีแผลเป็นที่หน้า พลังปราณมันก็ผ่านเข้าไปที่ร่างของชายที่มีแผลเป็นที่หน้า มันปิดผนึกบาดแผลแล้วหยุดการไหลของเลือด
ทันใดนั้นเอง คำว่า”วิธีการแห่งสรวงสวรรค์”มันก็แวบขึ้นมาในใจของเค้า วิธีการที่ฉินเฉิงใช้ มันก็ได้ช่วยชีวิตของชายที่มีแผลเป็นที่หน้าเอาไว้ชั่วคราว
“ฮ่าฮ่า ฉินเฉิง ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินแกต่ำไปจริงๆสินะ” ที่ไม่ไกลออกไป อาจารย์เถียนก็กล่าวด้วยรอยยิ้มเบาๆว่า “ต้องบอกเลยว่าแกนี่เป็นพ่อมดแห่งศิลปะการต่อสู้จริงๆเลย”
ฉินเฉิงลุกขึ้นช้าๆ เค้ามองไปที่อาจารย์เถียนแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “ใครใช้ให้แกมาที่นี่?”
“มันสำคัญอย่างงั้นเหรอ?” อาจารย์เถียนพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
“สำคัญสิ” ฉินเฉิงพยักหน้า “มันจะได้ทำให้ฉันหาทางแก้แค้นได้ง่ายขึ้นไง”
“ฮ่าฮ่า ปากกล้าจริงๆ!” อาจารย์เถียนอดหัวเราะไม่ได้ “แกคิดว่าแกจะรอดชีวิตออกไปได้อย่างงั้นเหรอ? ฉันจัดการล้อมที่นี่เอาไว้แล้ว ด้วยสิ่งนี้ แกจะไม่มีวันสู้ฉันได้เลย!”
“ปรมาจารย์พลังเวท?” ฉินเฉิงหรี่ตาลงแล้วกวาดตามองไปทางอาจารย์เถียน
เส้นเลือดในร่างกายของเค้ามันก็ดำมืดมากขึ้น มันเห็นได้อย่างชัดเลยว่าเป็นการฝึกฝนเวทมนตร์บางอย่าง
“ตั้งแต่ที่ฉันรู้มา แกจะยอมหรือว่าจะเจ็บตัว” อาจารย์เถียนยิ้มเบาๆ “ฉันเตรียมการเอาไว้แล้ว สิ่งที่เรียกว่าศิลปะการต่อสู้มันไม่มีทางที่จะเอาชนะพลังเวทได้หรอก
“โอ้?” ฉินเฉิงเลิกคิ้วขึ้นมา “ใครบอกแกว่าฉันเรียนศิลปะการต่อสู้?”
“หรือว่าแกไม่สามารถบ่มเพาะพลังทวีคูณได้?” ปรมาจารย์เถียนพึมพำเบาๆ “ฉันอยู่มาหลายปีแล้ว ฉันเห็นปรมาจารย์มานับไม่ถ้วน มันมีแค่ไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่ทำได้ หรือว่าแกจะเป็นหนึ่งในสิบคนนั้น?”
ฉินเฉิงส่ายหัวและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูเสียใจเล็กน้อย: “แกน่าจะหาข่าวมาให้ชัดนะ … เวทมนต์ของแก ในความคิดของฉันมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากของเล่นเด็กเลย”
ใช่แล้ว เวทมนต์พวกนี้ของเค้า มันจะไปเทียบกับความสามารถของฉินเฉิงได้ยังไงกัน?
“ปากกล้าดีจริงๆ!” อาจารย์เถียนตะโกนออกมา จากนั้นร่างของเค้ามันก็หายไปในทันที! มันดูราวกับภาพลวงตา!
“วิธีการแบบนี้ ฉันเองก็ทำได้” เสียงมันก็ดังขึ้นมาจากที่ข้างหลังหูของฉินเฉิง
ฉินเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เค้ายกเท้าขึ้นมาแล้วเตะไปที่พื้นโดยไม่หันหลังกลับมาเลยด้วยซ้ำ
ทันใดนั้นเอง ตำแหน่งทั้งแปดมันก็ระเบิดออกแล้วโถดินที่พวกเค้าฝังไว้ มันก็พุ่งขึ้นไปในอากาศทันที!
สีหน้าของอาจารย์เถียนเปลี่ยนไป ทันใดนั้นเค้าก็พูดออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆว่า: “มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน? ของพวกนี้มันไม่ได้อยู่ที่ใต้เท้าของแกเลยด้วยซ้ำ!”
“เพร้ง!”
ในตอนที่เค้าพูดออกมานี้เอง โถดินทั้งแปดใบ มันก็แตกออกเป็นชิ้นๆ! แล้วเครื่องรางที่เค้าฝังไว้โดยเผาแล้วกลายเป็นขี้เถ้าลอยไปในอากาศ!
“ผ้ายันต์?” ฉินเฉิงเยาะเย้ย “กลอุบายง่ายๆแบบนี้ ฉันจะต้องใช้ความพยายามด้วยเหรอ?”
สีหน้าของอาจารย์เถียนก็ดูไม่ได้เลย เค้าสามารถที่จะรู้ตำแหน่งของหม้อพวกนี้ได้ในทันที จากนั้นก็ทำลายมัน วิธีการของเค้ามันยิ่งไปกว่าพวกปรมจารย์ศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงเสียอีก!
แบบนี้เอง พวกคนที่อยู่ที่ด้านหลังของฉินเฉิง พวกเค้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเลยด้วยซ้ำ!
“วิ่ง!”
อาจารย์เถียนก็ตะโกนขึ้นมาในใจ จากนั้นเค้าก็ก้าวขาที่แก่ชราของเค้าแล้วถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
ฉินเฉิงไม่แม้แต่ที่จะขยับเลยด้วยซ้ำ เค้าต้องมองดูอย่างเฉยชา
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ฉินเฉิงก็ยกมือขึ้นแล้วก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย ทันใดนั้นเอง อาจารย์เถียนก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่หน้าผากของเค้า มันเจ็บปวดมากราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดออก!
“อ๊ะ!!!” เค้าจับไปที่หัวของตัวเอง ทันใดนั้นเค้าก็คุกเข่าลงกับพื้นแล้วดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง
“อาจารย์เถียน!” สีหน้าของลูกศิษย์อาจารย์เถียนก็ดูไม่ได้เลย พวกเค้าเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี
ฉินเฉิงก้าวออกไปไม่กี่ก้าวแล้วเค้าก็มาอยู่ที่ตรงหน้าของอาจารย์เถียน
“ใครใช้แกมา” ฉินเฉิงก้มลงแล้วถาม
อาจารย์เถียนจับหัวของเค้าแล้วพูดออกมาด้วยความเจ็บปวดว่า: “แก….แกปล่อยฉันไปซะ แล้วฉันจะยกสิ่งที่ฉันเรียนมาตลอดทั้งชีวิตให้แก!!”
“สิ่งที่แกเรียนรู้มาตลอดทั้งชีวิต?” ฉินเฉิงเยาะเย้ยขึ้นมา “ของพวกนั้น ฉันไม่สนใจมันหรอก”
“ฉัน…ฉันมีเงินหลายพันล้านหยวน! ตราบใดที่แกปล่อยฉันไป ฉันจะยกทั้งหมดนั่นให้แกเอง!” อาจารย์เถียนก็ตะโกนออกมา
“ฉันคิดว่ามันไม่จำเป็น” ฉินเฉิงพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ในเมื่อแกมาที่นี่แล้ว อย่างงั้นก็อย่าคิดที่จะได้กลับออกไปอีก”
“ไม่ ไม่!” อาจารย์เถียนตื่นตระหนก “แกฆ่าฉันไม่ได้นะ ฉันเป็นหนึ่งในคนขอ
สามสำนักใหญ่พลังเวทตะวันตกเฉียงใต้ ถ้าแกฆ่าฉัน พวกเค้าจะไม่ยอมปล่อยแกไปอย่างแน่นอน!”
“สามสำนักใหญ่พลังเวทตะวันตกเฉียงใต้? สำนักอะไรกัน?” ฉินเฉิงก็บ่นขึ้นมา “ช่างมันเถอะ มันแค่ก็ต้องกวาดล้างพวกอันตรายแบบแก”
หลังจากที่พูดจบ ฉินเฉิงก็ยกเท้าขึ้นแล้วเหยียบลงไปที่หัวของอาจารย์เถียน
ด้วยเสียง”ป๊อป”ที่ดังขึ้นมา อาจารย์เถียนก็เสียชีวิตไปในทันที
“แย่แล้ว รีบหนี!” ในเวลาเดียวกันนี้เอง สีหน้าของคนพวกนั้นก็เปลี่ยนไป เค้าหันหลังแล้วต้องการที่จะวิ่งหนี
“พวกแกจะไปไหน?” แต่ทันทีที่พวกเค้าหันกลับมา พวกเค้าก็ตกใจเมื่อพบว่า ฉินเฉิงมายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเค้าแล้ว!
“คะ…คุณฉิน มันไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย…” คนเหล่านี้พูดออกมาด้วยความตกใจ
ฉินเฉิงพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า: “ฉันบอกแล้วไงว่า มาแล้วก็อย่าคิดว่าจะได้กลับไป”
หลังจากพูดจบ ฉินเฉิงก็ตบออกไปทันที ทันใดนั้นเอง หัวของคนพวกนี้มันก็หลุดออกไปในทันที
เมื่อเห็นฉากนองเลือดนี้ ฉินเฉิงกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
มันเหมือนกับว่ามดสองสามตัวถูกเหยียบย่ำจนตาย เค้าไม่สนใจเลย
“นี่คือพลังของระยะสร้างพลังปราณฐานรากอย่างงั้นเหรอ?” ฉินเฉิงรู้สึกถึงพลังวิญญาณที่พุ่งพล่านในร่างกายของเค้าแล้วที่มุมปากของเค้ามันก็ปรากฎรอยยิ้มขึ้นมา
แม้แต่ฉินเฉิงเองก็คิดไม่ถึงเลยว่ายาบ่มเพาะจิตวิญญาณนี่มันจะทำให้เค้าก้าวผ่านไปยังขั้นตอนการสร้างฐานรากพลังปราณได้!
“ถ้าฉันบังเอิญเจอกับสองผู้อาวุโสตระกูลซูนั่น ฉันน่าจะสามารถฆ่าพวกเค้าทั้งสองได้ในทันที” ฉินเฉิงคิดกับตัวเอง
จากนั้นเค้าก็เดินไปที่ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าอย่างเร็ว
ในตอนนี้เอง ชายที่มีแผลเป็นที่หน้าก็หมดสติไปแล้ว แต่โชคดีที่ฉินจุน ผนึกบาดแผลเอาไว้ชั่วคราวและช่วยชีวิตเค้าไว้
เมื่อมองไปที่บาดแผลบนร่างของชายที่มีแผลเป็นที่หน้า ฉินเฉิงก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
“อาการบาดเจ็บนี้ แม้แต่ฉันเอง เกรงว่ามันน่าจะต้องใช้เวลานาน” ฉินเฉิงก็พูดเสียงเบาขึ้นมา
เค้ามองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “น่าเสียดายที่พวกแกยั่วโมโหผิดคน”