ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 78 ความรู้สึกทึ่งของนายท่านซู!

รถขับเข้าไปยังเมืองเอกของมณฑลและก็มาถึงเมืองเอกของมณฑลในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

นี่เป็นครั้งที่สองที่ฉินเฉิงได้เข้ามาที่เมืองเอกของมณฑล แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกับครั้งที่แล้ว ครั้งนี้เค้าสามารถที่จะมองดูเมืองนี้ได้อย่างใกล้ชิด

“แล้วยังไงกัน นั่นมันดีกว่าไอ่เด็กนั่นของพวกนายอย่างงั้นเหรอ?” ฟางเสี่ยวเต๋อพูดขึ้นมาอย่างพอใจ

หากว่าเมืองจิงเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจทั้งหมดของปีนัง อย่างงั้นเมืองเจียงก็เป็นศูนย์กลางอย่างเป็นทางการของมณฑล

ฉินเฉิงเงียบ ยิ่งคนมากเท่าไหร่ พลังปราณโดยรอบมันก็ยิ่งน้อยลงมากเท่านั้น

แต่ข้อดีก็คือที่นี่มันมีคนที่มีฝีมืออยู่มาก วัสดุที่เอามาใช้ทำยาก็มีมากมายแล้วยังมีทรัพยากรอีกมาก ทั้งหมดนี้สามารถทำให้ฉินเฉิงสามารถปลูกฝังพลังและเพิ่มระดับขั้นได้เร็วขึ้น

“ไปหาคุณปู่ของฉันก่อนหละกัน” ซูวานก็พูดขึ้นมา

ฉินเฉิงเองก็เห็นด้วยและเมื่อเธอพูดถึงนายท่านซู ฉินเฉิงเองก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย

แม้จะมียาเม็ดนั้น อายุขัยของชายชราซูก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งปีเท่านั้น

ในตอนที่มาถึงที่สถานที่อยู่ของนายท่านซู สิ่งที่ทำให้ฉินเฉิงตกใจก็คือฟางจิ้งเหยาเองก็อยู่ที่นี่ด้วย

“พ่อ ทำไมพ่อถึงมาอยู่ที่นี่หละ?” ฟางเสี่ยวเต๋อก็กระโดดไปกระโดดมาเข้าไปหาพ่อของเธอ

ฟางจิ้งเหยาแสร้งทำเป็นโกรธแล้วพูดว่า “ปู่ซูของเธอเค้าอยู่ที่นี่นะ ไม่รู้จักมารยาทเลยหรือยังไงกัน?!!”

ฟางเสี่ยวเต๋อแลบลิ้นและรีบตะโกนทักทายคุณปู่ซู

นายท่านซูโบกมืออย่างอ่อนโยนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: “หึหึ ฉันไม่ได้เจอเธอมาสองสามปีแล้วนะเสี่ยวเต๋อ โตเป็นสาวแล้วนี่”

“เฮ้ คุณปู่ซู เสี่ยวเต๋อคิดถึงปู่ทุกวันเลยนะ!” จากนั้นฟางเสี่ยวเต๋อก็วิ่งไปหาคุณปู่ซู่ด้วยท่าทีที่ขี้เล่น

“แคร็กแคร็ก” ฟางจิ้งเหยาไอขึ้นมา “เสี่ยวเต๋อ เธอไปเดินเล่นก่อน พวกเรามีเรื่องต้องคุยกับคุณปู่ซูของเธอ”

แม้ว่าฟางเสี่ยวเต๋อจะเอาแต่ใจ แต่เธอก็รู้วิธีที่จะจัดการมันในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้

เธอตอบตกลงแล้ววิ่งไป

ทั้งสี่คนนั่งลงที่โต๊ะกลม

หลังจากไม่เจอกันนาน มันเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าซูวานเธอคิดถึงปู่ซูมาก ดังนั้นเธอจึงเอนตัวเข้าไปใกล้ปู่ซู สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่ดีใจ

“นี่มันเรื่องอะไรกัน” นายท่านซูก็ยิ้มขึ้นมาอย่างทำอะไรไม่ถูก

ซูวานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วพูดว่า: “ปู่ออกไปนานแค่ไหนแล้ว ไม่กลับมาเยี่ยมหนูบ้างเลยนะ ในสายตาของปู่ ปู่ยังมีหลายสาวอยู่ไหมเนี่ย!”

ชายชราซูอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่น เค้ากับฟางจิ้งเหยามองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่ามันมีความเห็นอกเห็นใจเล็กน้อยสำหรับความรู้สึกแบบเดียวกัน

“ฉินเฉิง ไม่ได้เจอกันแปปเดียวเอง เธอแข็งแกร่งขึ้นบ้างไหม?” นายท่านซูมองไปที่ ฉินเฉิงแล้วพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

ฉินเฉิงไม่กล้าโกหก ดังนั้นเค้าจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “ก็ดีขึ้นบ้างแล้วครับ”

“ไม่เลวเลย” นายท่านซูพยักหน้าเล็กน้อย “แต่ปี้เสี่ยวเหยาคนนี้ เค้าไม่ใช่คนธรรมดานะ เธอแน่ใจนะว่าเธอจะเอาชนะเค้าได้?”

“เต็มสิบครับ” ฉินเฉิงพูดขึ้นมาเบาๆ

ความมั่นใจในตนเองที่แรงกล้านี้เอง มันทำให้นายท่านซูอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเค้าอยู่ซักพัก

และฟางจิ้งเหยาเองก็ส่ายหัวบ่อยครั้ง นายท่านซูคุยโม้เรื่องฉินเฉิงกับเค้ามาแล้วหลายครั้ง ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย ด้วยท่าทีที่เย่อหยิ่งแบบนี้ เค้าไม่น่าจะไปไหนได้ไกล

แต่ฟางจิ้งเหยาไม่รู้ว่า แต่ไหนแต่ไรมาฉินเฉิงไม่เคยคุยโม้โอ่อวด

“ฉินเฉิง ถ้าอย่างนั้นเธอต้องปราณีปี้เสี่ยวเหยาบ้างนะ เค้าเป็นคนที่มีฝีมือมากของฉัน” ฟางจิ้งเหยามองมันเป็นเรื่องตลก

ฉินเฉิงยิ้มและไม่พูดอะไรออกมา

“นายท่านซู ถ้าอย่างนั้นคุณก็พูดคุยกันไปเถอะ ที่สำนักงานความมั่นคงมีธุระที่จะต้องจัดการ อย่างงั้นผมขอตัวก่อน” ฟางจิ้งเหยาลุกขึ้นยืนแล้วพูด

นายท่านซูพยักหน้าเล็กน้อยแล้วโบกมือเบา ๆ

ที่โต๊ะกลมในตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่สามคนเท่านั้น ซูวานอดไม่ได้ที่จะพูดกับคุณปู่ซูว่า “ซูหยู่เค้ามาหาหนูด้วย”

เมื่อพูดถึงซูหยู่ นายท่านซูที่ก่อนหน้านี้ก็มีท่าทีที่สงบและอ่อนโยนมาโดยตลอด เค้าก็แสดงท่าทีตื่นตระหนกขึ้นมา

เค้าเป็นกังวลมากแล้วพูดว่า: “ไอ่***นี่มันไม่ได้มาทำอะไรหนูใช่ไหม?”

ซูวานส่ายหัวแล้วพูดว่า “โชคดีที่ฉินเฉิงกลับมาเร็ว…”

นายท่านซูตบโต๊ะอย่างดุเดือดแล้วตะโกนว่า “ไอ้***! ไอ้***นี่!”

หลังจากพูดจบ นายท่านซูก็ไอขึ้นมาอย่างรุนแรง

ฉินเฉิงตบหลังเค้าอย่างรวดเร็วแล้วออร่าแห่งพลังวิญญาณก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเค้า

อาการไอของนายท่านซูก็หยุดลงในทันที เค้าพยักหน้าเล็กน้อยให้กับฉินเฉิงเพื่อแสดงการขอบคุณ

“วานเอ๋อ จำไว้ อย่าคิดที่จะไปเผชิญหน้ากับซูหยู่คนนี้อีก” นายท่านซูพูดด้วยความกังวล “ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเค้า เธอเป็นนัง*** แม้แต่ปู่เอง ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันเลย”

ในตอนที่เค้าพูดออกมานี้เอง นายท่านซูก็ดูเศร้าเล็กน้อย

ซูวานตอบตกลง: “คุณปู่ ปู่แค่ดูแลตัวเองก็พอ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอก”

พูดแล้ว นายท่านซูจะไม่กังวลได้ยังไงกัน?

ภายนอกตระกูลซูเป็นตระกูลใหญ่ แต่ในความเป็นจริง ตระกูลซูก็มีเหลือกันอยู่เพียงแค่สองคนก็เท่านั้น ก็คือซูวานและนายท่านซู

ถ้านายท่านซูจากไป มันยังจะมีใครเห็นหัวซูวานอีก?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นายท่านซูก็มองไปที่ฉินเฉิงโดยไม่รู้ตัว

“คุณปู่ เค้าบอกว่าปู่มีของชิ้นหนึ่งอยู่ เค้าต้องการมัน มันคืออะไรเหรอค่ะ”ซูวานถามขึ้นมา

นายท่านซูทำหน้าบึ้งแล้วโบกมือ: “หนูไม่ต้องถามหรอก บางเรื่องการรู้มากมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีหรอกนะ”

ซูวานเป็นคนที่มีเหตุผล หลังจากได้ยินสิ่งที่คุณปู่พูด เธอก็ไม่ได้ถามต่อ

“ว่านเอ๋อ ฉินเฉิง มันไม่ง่ายเลยนะที่เราจะได้มาเจอกัน เข้าไปข้างในแล้วหาไวน์ดีๆซักขวดมาจิบกันไหม” นายท่านซูก็พูดหลอกล่อซูวานขึ้นมา

ซูวานขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “สุขภาพของปู่เป็นแบบนี้ ยังจะมาดื่มไวน์อะไรกันอีก!”

“ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรหรอก หมออัจฉริยะฉินเองก็อยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ?” นายท่านซูโบกมือขึ้นมา

ฉินเฉิงพยักหน้าให้ซูวานเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร จากนั้นซูวานถึงเดินไป

คนหนึ่งคนแก่และอีกคนอายุยังน้อย พวกเค้านั่งอยู่ตรงข้ามกัน

นายท่านซูค่อยๆพูดขึ้นมาว่า “ตั้งแต่เธอได้พบกับซูหยู่ ในความคิดของเธอ เธอคิดยังไง?”

ฉินเฉิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม: “เค้าแข็งแกร่งมากกว่าที่ผมคิดครับ”

“กลัว?” นายท่านซูก็พูดติดตลกขึ้นมา

ฉินเฉิงส่ายหัวแล้วพูดว่า “ผมไม่กลัว ผมให้สัญญากับซูวานแล้วว่าผมจะพาเธอไปยังจุดสูงสุดในเมืองจิงตู ผมกับซูวานก็พนักกันไว้แล้ว”

“พนัน?” นายท่านซูก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

ฉินเฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “อีก 2 ปีผมจะไปที่เมืองจิงตู เมื่อถึงตอนนั้น ผมจะทำให้เค้าคุกเข่าต่อหน้าซูวานและขอโทษเธอทีละคำ”

นายท่านซูพูดอย่างกระตือรือร้น: “เธอ… เธอเกินไปแล้ว ฉินเฉิง เธอไม่รู้หรอกนะว่าในเมืองจิงตูมันซับซ้อนมากแค่ไหนกันและเธอเองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตระกูลซูในเมืองจิงตูมันเป็นยังไงกัน! เธอพนันกันโดยที่ไม่รู้เรื่องพวกนี้ ต่อไปมันจะทำลายตัวเธอเองนะ มันอาจจะฆ่าเธอได้เลยนะ! หรือว่าเธอจะต่อสู้กับตระกูลซูทั้งหมดนั่นด้วยตัวเองเพียงคนเดียวอย่างงั้นเหรอ!”

“ฉินเฉิงเอร้ย ฉินเฉิง ฉันมองเธอผิดไปแล้วจริงๆ!” นายท่านซูรู้สึกเจ็บใจ

แม้ว่าเค้าจะหวังเพียงว่าฉินเฉิงจะสามารถปกป้องซูวานได้และพวกเค้าจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขโดยปราศจากความอัปยศอดสู

แม้ว่าเขาจะจินตนาการเอาไว้ว่าฉินเฉิงจะกลายเป็นเหมือนเย่อชิงยุนได้ แต่มันก็น่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆก็สิบปีหรืออาจจะนานถึงยี่สิบปี หรืออาจจะต้องใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตของเค้า แต่นี่แค่สองปี?

“นายท่านซู ผมรู้ว่าคุณเป็นกังวล” ฉินเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “แต่สิ่งที่ผมพูดไปมันจะต้องเป็นจริง ผมจะทำให้ตระกูลซูมาขอร้องให้ซูวานกลับไป”

นายท่านซูรู้ว่าเค้าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมฉินเฉิงได้ ดังนั้นเค้าจึงโบกมืออย่างถอดใจ

“เอาหละ เอาหละ อย่างงั้นก็ถือซะว่าฉันมองคนผิดไป” นายท่านซูก็ถอนหายใจออกมา

หลังจากนั้น เค้าถามอย่างเป็นกันเองว่า “ครั้งก่อนตอนที่แยกกัน เธอเองก็มีพลังปราณระดับปรมาจารย์แล้ว ผ่านไปหนึ่งเดือน ความแข็งแกร่งของเธอมาถึงไหนแล้ว ขั้นที่ห้าของพลังปราณระดับปรมาจารย์?”

ฉินเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าคุณจะแบ่งระดับขั้นตามศิลปะการต่อสู้ของคุณ ผมก็น่าจะ… มาถึงระดับขั้นของเจ้าแห่งพลังปราณแล้วในตอนนี้”

เมื่อได้ยินแบบนี้ นายท่านปู่ซูก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเค้าก็ลุกขึ้นมาแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า: “เธอ…เธอบอกว่าไงนะ! เธอไม่ได้หลอกฉันใช่ไหม?”

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset