พี่ปินกับหลี่ฉีตกใจ เจ้าหนุ่มบ้านนอกคนนี้ที่แท้ก็เป็นพี่ใหญ่ของจี้เซียง?
“แม่งเอ้ย ฉันจะฆ่าแก!” จี้เซียงทำอะไรไม่ได้ เขาไม่กล้าที่จะทำร้ายฉินเฉิง เขาจึงหันไปลงกับพี่ปินแทน
“พี่เซียง ผมไม่รู้ว่าเขาคือพี่ใหญ่ของพี่! อย่าทำร้ายผมเลย….” พี่ปินนำมือมากุมไว้บนหัวเราขอโทษออกมาไม่หยุด
“ถ้าจะโทษก็ต้องโทษผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นคนพาผมมาที่นี่!” ในตอนนั้นจู่ๆพี่ปินก็คิดอะไรขึ้นมาได้ และรีบชี้ไปทางหลี่ฉี
หลี่ฉีอยู่ในอาการที่ตื่นตระหนกทันที เธอไม่คิดอะไรทั้งนั้น วิ่งเข้ามาคุกเข่าตรงหน้าฉินเฉิง
“พี่ใหญ่ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ ให้ฉันทำอะไรฉันก็ยอม…” หลี่ฉีเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์ เธอชอบใช้จิตวิทยากับผู้ชาย
เธอจงใจเปิดสายเสื้อในของเธอเพื่อโชว์ให้เห็นถึงหน้าอกที่อวบแน่น คิดว่าจะสามารถดึงดูดฉินเฉิงได้
แต่น่าเสียดายที่เธอไม่รู้ว่าฉินเฉิงเกลียดการกระทำแบบนี้ที่สุด และการกระทำของเธอทำให้ฉินเฉิงไม่ชอบใจเอาเป็นอย่างมาก
“ฉันไม่อยากเห็นคนคนนี้อีกแล้ว” ฉินเฉิงขมวดคิ้วและพูดออกมา
จี้เซียงรีบพยักหน้าทันที “พี่ใหญ่ ฉันรู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไง!”
หลี่ฉีตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนสี เธอหันไปมองหลิวหยาง ร้องอ้อนวอนออกมา “หลิวหยาง ได้โปรดช่วยฉันด้วย ขอร้องหละ หลังจากนี้ฉันจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังนายทุกอย่าง ได้โปรดช่วยฉันด้วย….”
หลิวหยางยิ้มออกมา แวบแรกดวงตาของเขาแสดงถึงความสงสาร แต่มันก็เป็นเพียงแต่แวบเดียวเท่านั้น
เขาพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “ฉันตาบอกไปแล้วหนึ่งครั้งที่เคยชอบผู้หญิงอย่างเธอ”
ไม่นานหลี่ฉีก็ถูกคนลากออกไป ส่วนทางด้านของพี่ปินและลูกพี่ลูกน้องของเขาก็มีรถโรงพยาบาลมารับออกไป
“พี่ใหญ่” จี้เซียงเดินเข้ามา และพูดออกมาว่า “พี่ไปที่โต๊ะของฉันไหม? เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง!”
“ดี กำลังมีเรื่องอยากจะถามนายอยู่พอดี” ฉินเฉิงพยักหน้า
เขาพาหลิวหยางตามจี้เซียงมาด้วย จากนั้นก็เดินมาถึงที่นั่งของจี้เซียง
จี้เซียงนั่งอยู่ตรงที่นั่ง VIP ถือเป็นที่ที่ดีที่สุดของบาร์นี้เลยก็ว่าได้
“ขอแนะนำให้พวกนายรู้จัก นี่คือพี่ใหญ่ของฉันเอง ฉินเฉิง!” จี้เซียงผายมือและพูดออกมา
เมื่อกลุ่มเพื่อนของเขาได้ยินก็รีบทักทายออกมาด้วยความเคารพ “สวัสดีครับพี่ใหญ่!”
ฉินเฉิงโบกมือ ขมวดคิ้วและพูดว่า “ทำไมคนเยอะจัง”
จี้เซียงผงะ จากนั้นก็รีบพูดออกมาว่า “งั้นพวกนายรีบออกไปก่อน ฉันมีเรื่องต้องคุณกับพี่ใหญ่ของฉัน!”
หลังจากกลุ่มเพื่อนของเขาออกไปหมดแล้ว จี้เซียงก็รินเหล้าให้กับฉินเฉิง ยิ้มออกมาและพูดว่า “พี่ใหญ่ พี่มีเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ?”
ฉินเฉิงมองไปที่เขาและพูดออกมาว่า “ฉันต้องการสมุนไพรคุณภาพดี ฉันสามารถหามันได้จากที่ไหน?”
“สมุนไพรคุณภาพดี?” จี้เซียงตะลึงงัน จากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “ของพวกนี้เป็นของหายาก แต่ว่าฉันเคยได้ยินพี่ปี้พูดออกมา ว่าของเหล่านี้จะมีอยู่ที่บ้านของพวกยอดฝีมือ…”
ฉินเฉิงขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้หลายคนตระหนักดีถึงประโยชน์ของยาสมุนไพร หากเป็นเช่นนี้เกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้น
“แล้วนอกจากนั้นหละ?” ฉินเฉิงถาม
จี้เซียงจับไปที่จมูกของเขาและคิดอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายเขาก็ปรบมือหนึ่งครั้งและพูดออกมา “พี่ใหญ่ พี่รู้จักเมืองหยางไหม?”
“ฉันรู้จัก เป็นที่อยู่ของพวกยอดฝีมือที่มีชื่อเสียง ว่ากันว่าทุกปีสำนักงานความมั่นคงจะเลือกคนที่มีพรสวรรค์มาจากนั่น” หลิวหยางที่อยู่ข้างๆพูดออกมา
“ใช่!” จี้เซียงพยักหน้า “ไม่ใช่เพียงเท่านั้น เมืองหยางยังเป็นที่ที่มียอดฝีมือไปรวมตัวกันมากที่สุด! และที่มีชื่อเสียงสุดก็คือตระกูลหูแห่งเมืองหยาง!”
“ตระกูลหู?” ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็โบกมือให้จี้เซียงอธิบายออกมาต่อ
จี้เซียงอธิบายออกมาว่า “ว่ากันว่าตระกูลหูเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้ที่สืบทอดมานานกว่าสามร้อยปี ศิลปะการต่อสู้มีภูมิหลังที่เข้มข้นและได้รับการฝึกฝนมานับไม่ถ้วน! และเพื่อดึงดูดผู้คนให้ไปเข้าร่วมกับพวกเขา ว่ากันว่าพวกเขาจะจัดการแข่งขันขึ้นทุกปี รางวัลสำหรับคนเป็นแชมป์ก็คือวัสดุทางการแพทย์”
“ฉันเคยได้ยินชื่อของตระกูลหูมาก่อน คล้ายกับตระกูลต่งทางตะวันตก แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือตงเทียนหนานคือคนของตระกูลตง ดังนั้นพวกเขาจึงมีพื้นหลังที่สู้กับตระกูลหูไม่ได้” หลิวหยางพยักหน้าพร้อมกับพูดออกมา
“ตงเทียนหนาน?” เมื่อได้ยินแบบนั้น ทำไม่รู้ว่าทำไมฉินเฉิงนึกถึงถึงชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้า
จี้เซียงหัวเราะออกมา “พี่ใหญ่ พี่แข็งแกร่งขนาดนี้ ยังไงก็ไปลองดูได้!”
ฉินเฉิงพยักหน้าและถามออกมาว่า “งั้นการแข่งขันจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่?”
“นี่…ฉันเองก็ไม่รู้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะถามให้พี่นะ” จี้เซียงพูด
ฉินเฉิงพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น
การสนทนาง่ายๆนี้ทำให้ได้รับรู้อะไรหลายๆอย่าง ความสัมพันธ์ในเมืองหลวงกับต่างจังหวัดมันซับซ้อนมาก มีหลายตระกูลที่โผล่ขึ้นมาในลำธารที่ไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีใครกล้าเรียกตัวเองว่าที่หนึ่ง
ขนาดคุณปู่ซูเองยังทำไม่ได้
ตระกูลของจี้เซียงเรียกได้ว่าเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งและน่ายำเกรงในเมืองหลวง แต่ก็ยังมีอีกหลายตระกูลที่พวกเขาไม่สามารถเข้าไปยุ่งด้วยได้
ตัวอย่างเช่นตระกูลฟาง พวกเขาอาจทะได้แค่กดหัวของตระกูลจี้เอาไว้ได้เท่านั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายตระกูลที่แกร่งกว่าพวกเขา
โชคดีที่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฉินเฉิงมากนัก ดังนั้นเขาไม่ได้จึงไม่สนใจ
เมื่อฉันออกจากบาร์ ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
เวลาเที่ยงคืนในเมืองหลวงยังคงคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณทางเข้าบาร์ที่มีสาวสวยมากมายมารวมตัวกัน
“ต้องขอโทษด้วย วันนี้ฉันทำเรื่องน่าอายกับคุณเสียได้” ที่หน้าประตู หลิวหยางยืนสูบบุหรี่และพูดออกมา
ฉินเฉิงเงียบไม่ได้พูดอะไร
“มันเป็นเรื่องน่าอายไหมที่ถูกผู้หญิงทำให้ขายหน้า?” หลิวหยางถามออกมา
ฉินเฉิงมองไปที่เขา พูดออกมาว่า “เมื่อก่อนฉันน่าสมเพชกว่านายอีก”
เมื่อพูดจบฉินเฉิงก็เดินไปข้างหน้า
ขณะที่เขากำลังจะขึ้นรถ ทันใดนั้นมีหญิงสาวผมยาวในชุดสีแดงเดินเข้ามา
เธอมีรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์มาก โดยมีกลิ่นหอมจางๆบนร่างกายของเธอ ซึ่งทำให้ผู้คนหลงไหล
“คนหล่อ คุณดูสง่างามมากเมื่ออยู่ในบาร์ตอนนั้น” เธอยื่นนิ้วออกมาและจิ้มไปที่หน้าอกของฉินเฉิง
ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และกลิ่นหอมมีเสน่ห์มากจนยากจะต้านทาน
“เธอสวยมากเลย…” หลิวหยางจ้องมาที่ผู้หญิงคนนี้จนตาค้าง น้ำลายของเขาเกือบจะไหลออกมา
หญิงสาวชุดแดงพูดอย่างแผ่วเบา “จริงเหรอ? แต่ทำไมดูเหมือนว่าคนหล่อคนนี้จะไม่ค่อยสนใจฉันเลย?”
ฉินเฉิงขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น ผู้หญิงคนนี้จะต้องมีปัญหาอะไรแน่นอน
“คนหล่อ ช่วยฉันหาที่พักสักหน่อยได้ไหม?” ร่างกายของหญิงสาวเกือบแนบชิดกับร่างกายของฉินเฉิง กลิ่นน้ำหอมก็พุ่งทะลักออกมา
ฉินเฉิงครุ่นคิดสักครู่แล้วพยักหน้าและกล่าวว่า “ได้สิ”
หญิงสาวดีใจและพูดอย่างตื่นเต้น “ขอบคุณมากพี่ชาย! งั้นพวกเราไปกันเถอะ!”
ในตอนนั้นจิตใจของหลิวหยางไม่ได้อยู่กับการขับรถ สายตาของเขาจ้องไปที่หญิงสาวคนนั้นอย่างตลอดเวลา
ไม่มีทางเลือก ฉินเฉิงจึงต้องมาขับรถเอง
หลังจากขับรถมาจอดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ฉินเฉิงก็เปิดห้องสองห้อง ห้องหนึ่งให้หลิวหยาง ส่วนอีกห้องก็เปิดให้ตัวเอง
“ฉันอยากนอนกับเธอ….” หลังจากที่มาถึงประตูห้อง หลิวหยางก็ขับมือของหญิงสาวไว้อย่างแน่นและพูดออกมาด้วยความปรารถนา
“ไม่ได้ เธอเป็นของฉัน” ฉินเฉิงยกมือขึ้นและจับไปที่ลำคอของหลิวหยาง จากนั้นหลิวหยางก็ล้มลงทันที
เมื่อหญิงคนนั้นเห็นฉากที่เกิดขึ้น เธอก็รู้สึกภูมิใจและสายตาของเธอก็มีความชั่วร้ายแสดงออกมาให้เห็นเล็กน้อย
หลังจากที่จัดการพาหลิวหยางไปที่ห้องเรียบร้อยแล้ว ฉินเฉิงก็พาผู้หญิงคนนี้กลับมาที่ห้อง
“พี่ชาย ไปอาบน้ำกันก่อนไหม?” หญิงสาวใช้เรือนร่างของเธอถูไปที่ร่างกายของฉินเฉิง ดวงตาของเธอน่าหลงใหลราวกับจิ้งจอก
และในตอนนั้นสีหน้าของฉินเฉิงก็เยือกเย็นขึ้นมาทันที
เขาพูดออกมาอย่างเฉยเมยว่า “อย่าเอาลูกเล่นที่ลึกลับและชั่วร้ายแบบนี้ออกมาให้เห็นอีก!”