บทที่ 207 ถูกจับ
เสียงต่อสู้ดังชัดขึ้นจากข้างนอก ทำให้หนิงเมิ่งเหยายิ่งกังวล นางอยากจะออกไปดู แต่เกรงว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงสำหรับเฉียวเทียนช่าง ทั้งชิงซวงและชิงจู๋ยืนขนาบข้างหนิงเมิ่งเหยาเอาไว้
ชิงซวงเดือดดาล นางน่าจะเรียกผู้มีวรยุทธ์มาเพิ่มเพื่อช่วยเหลือ พวกเขาจะได้ไม่ต้องสู้กับศัตรูมากมายถึงเพียงนี้
หนิงเมิ่งเหยาลูบมือชิงซวง “พวกเราจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
สีหน้าชิงซวงพลันเปลี่ยนไป นางรีบบอก “คุณหนู กลั้นหายใจเจ้าค่ะ”
ก่อนหนิงเมิ่งเหยาจะทันถามว่าทำไม นางรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ท่านยายฉินและคนอื่นข้างกายนางพากันหมดสติไปเช่นกัน เหลือเพียงชิงซวงที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบ
แต่ก่อนนางจะได้หันไปมอง ใครบางคนซัดนางเข้าที่ท้ายทอยด้วยด้ามมีด นางสลบไป
เฉียวโม่มองยังหนิงเมิ่งเหยาที่หมดสติอยู่ตรงโต๊ะ เขาอุ้มนางขึ้นอย่างไม่มีความเห็นใจแล้วพากันหายตัวไปจากบ้านหลังน้อยของเฉียวเทียนช่าง
เมื่อเฉียวเทียนช่างและชิงเซวียนกลับมา ทั่วร่างพวกเขาเต็มไปด้วยบาดแผล ทั้งสองเห็นชิงซวงและคนอื่นล้มอยู่บนพื้น สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเมื่อมองไปไม่เห็นหนิงเมิ่งเหยา
“บัดซบ!” เฉียวเทียนช่างเอานิ้วแตะปากแล้วผิวปาก นกอินทรีโฉบจากฟ้าลงมาเกาะบนแขนเฉียวเทียนช่าง
เฉียวเทียนช่างเข้าไปในห้องหนังสือแล้วเขียนจดหมายก่อนจะฝากนกอินทรีให้นำไปส่งให้เซียวฉีเทียน เขาส่งอีกฉบับไปหาเหลยอันและคนอื่นที่เหลือ ขอให้ทั้งหมดรีบมาที่นี่ในทันที
“ชิงเซวียน เจ้าดูแลพวกเขาอยู่ที่นี่ ข้าจะไล่ตามหนิงเมิ่งเหยาไป”
“อย่าห่วงพวกข้าเลยขอรับ นายน้อย”
เฉียวเทียนช่างควบม้ามุ่งหน้าเข้าไปในเมือง แต่เฉียวเทียนอวี๋ออกไปแล้วตอนที่เขาหาโรงเตี๊ยมนั้นเจอ
หลังจากได้รับแจ้งข่าว สีหน้าเซียวฉีเทียนก็เปลี่ยนไป เขานำจดหมายของเฉียวเทียนช่างติดตัวเข้าพระราชวัง
“นำคนไปช่วยพวกเขา ต้องทำให้แน่ใจว่าหนิงเมิ่งเหยาปลอดภัย” หลังจากเซียวชวี่เฟิงอ่านจดหมาย สีหน้าเขาแปรเปลี่ยนเล็กน้อย เฉียวเจิ้งหงพยายามจะทำให้คู่สามีภรรยานี้เป็นบ้าหรืออย่างไร
ถ้าไม่มีใครเจ็บตัวก็คงไม่เป็นปัญหา แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดไป…เซียวชวี่เฟิงไม่อยากคิดว่าเฉียวเทียนช่างจะทำอะไรเข้า
“ข้าเข้าใจดี ท่านพี่ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” มีเพียงถนนสองเส้นเข้าสู่เมืองหลวง เขาส่งคนไปปิดทางได้
ในเวลาเดียวกันนั้น เหลยอันและหลินจือโยวได้รับข่าวแล้วและนำคนไปรวมกันที่บ้านของเฉียวเทียนช่าง
“นายท่าน พี่สะใภ้ถูกลักพาตัวไปได้อย่างไร” หลินจือโยวถามอย่างร้อนใจ
“พวกเขาอยากใช้นางบีบให้ข้ากลับเมืองหลวง รีบหาว่าพวกนั้นเดินไปทางทางไหน” เฉียวเทียนช่างมองไปข้างหน้าด้วยสายตาเยือกเย็น
ในเมื่ออยากจะให้ข้ากลับไปนัก เช่นนั้นข้าก็จะไป แต่อย่าคิดจะหนีพ้นโทสะของข้าพ้นเชียว!
“ขอรับ”
หลังจากทั้งสองออกไป เฉียวเทียนช่างกำหมัด เหยาเหยา ขอให้เจ้าปลอดภัย
หนิงเมิ่งเหยาค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นรถม้าที่โยกไปมา แต่นางไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เลย นางอ่อนล้า ไม่มีแรงแม้แต่จะยกมือขึ้นได้
“ตื่นแล้วรึ…” เสียงคุ้นหูและแปร่งในทีดังถึงหูนาง
หนิงเมิ่งเหยาหันศีรษะไป เฉียวเทียนอวี๋นั่นเอง “ทำไมเจ้าจึงอยากลักพาตัวข้า”
“เจ้าเป็นคนฉลาด เจ้าน่าจะรู้เหตุผลดี เจ้าไม่คู่ควรกับเฉียวเทียนช่าง เราลักพาตัวเจ้ามาเพื่อที่เขาจะได้กลับไปที่เมืองหลวง” ยายังตกค้างในตัวหนิงเมิ่งเหยาเล็กน้อย เฉียวเทียนอวี๋จึงไม่กังวลว่านางจะทำอะไรเข้า
หนิงเมิ่งเหยาปรายตามองเฉียวเทียนอวี๋แวบหนึ่งแล้วหลับตาลง คิดหาทางเอาตัวรอด
ระหว่างทางไปยังเมืองหลวง เซียวจื่อเซวียนที่จดจ่อกับหนิงเมิ่งเหยามาตลอดแสยะปากยิ้มอยู่กับตัวเอง สวรรค์เข้าข้างข้าแล้ว
นางเขียนจดหมายแล้วส่งไปหาใครบางคนที่จวนตระกูลเซียว
เซียวอี้หลินได้รับจดหมายจากบุตรสาว แล้วก็ถอนหายใจกับสิ่งที่เขียนบนจดหมายอย่างอับจนหนทาง
หนึ่งวันก่อนหนิงเมิ่งเหยามาถึงเมืองหลวง มีคนจิตอาฆาตมาดร้ายจำนวนมากขวางทางอยู่
สีหน้าเฉียวโม่และคณะเดินทางของเขาแย่ลง พวกเขาเริ่มเผชิญหน้ากับศัตรู หนิงเมิ่งเหยารู้สึกแปลกพิกล คนพวกนี้เป็นใครแล้วเหตุใดจึงมากันมากขนาดนี้
ในขณะที่นางคิดสงสัย เฉียวเทียนอวี๋พุ่งเข้าไปร่วมการต่อสู้ ไม่นานนัก ม้าก็ส่งเสียงร้องดังลั่นแล้วเริ่มเร่งฝีเท้า
รถม้าสั่นไหวแรงจนหนิงเมิ่งเหยาขมวดคิ้ว ร่างของนางยังอ่อนแรง นางจึงไม่อาจช่วยอะไรตัวเองได้
บทที่ 208 ช้าไปหนึ่งก้าว
หนิงเมิ่งเหยาตอบสนองตามสัญชาตญาณ นางเหยียดมืออันอ่อนแรงไปคว้ามุมหน้าต่างรถม้าไว้ แม้จะต้องกระเสือกกระสนพยุงตัวเองไว้ในรถม้า สุดท้ายนางก็โดนเหวี่ยงไปด้านข้าง หลังกระแทกกับผนังรถม้า
หนิงเมิ่งเหยาย่นหน้าจากความเจ็บปวด นางพลันนึกถึงยาที่ชิงซวงเตรียมเอาไว้ให้
หญิงสาวเค้นแรงเอื้อมไปตรงคอแล้วดึงเอากล่องขนาดเล็กออกมา
รถม้าดูจะวิ่งไปเจอหินก้อนใหญ่เข้า ทำให้รถสั่นอีกครั้ง กล่องในมือหนิงเมิ่งเหยาหล่น ยากลิ้งหลุดออกมา
หนิงเมิ่งเหยายืดตัวไปคว้ายา นางต้องหาทางเอาตัวรอดให้จงได้ แต่ทุกอย่างไม่เป็นใจเอาเสียเลย
ดูราวกับว่ารถม้าจงใจสร้างอุปสรรคให้นาง เมื่อนางเกือบได้ยามาแล้ว รถม้าก็โยกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ยากลิ้งออกไปอีก
เมื่อเฉียวเทียนอวี๋เห็นรถม้าวิ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง เขาชักสังหรณ์ไม่ดี แต่ตอนเขาอยากจะปลีกตัวจากการต่อสู้ไปช่วยคนข้างในนั้น ตัวเขาก็โดนคนชุดดำจับเอาไว้
ในขณะนั้นเอง เขารู้ได้ทันทีว่าเป้าหมายของเหล่าคนชุดดำคือหนิงเมิ่งเหยา พวกเขาต้องการฆ่าหนิงเมิ่งเหยา ถ้าหนิงเมิ่งเหยาตายขณะอยู่ในการจับกุมของเขา เฉียวเทียนช่างจะต้องมาตามล่าพวกเขาแน่นอน ไม่ว่าพวกเขาจะเกี่ยวข้องกับการตายของหนิงเมิ่งเหยาหรือไม่
จังหวะที่เฉียวเทียนอวี๋เข้าใจกระจ่าง รถม้าวิ่งชนต้นไม้ข้างถนน เห็นเช่นนั้น ในใจเขามีเพียงความคิดเดียวก้องอยู่ พวกเขาจบสิ้นแล้ว
รถม้ากระแทกกับต้นไม้แล้วแตกกระจาย หนิงเมิ่งเหยาที่อยู่ข้างในถูกโยนออกไป หลังนางกระแทกเข้ากับลำต้นไม้
หนิงเมิ่งเหยารับรู้เพียงความเจ็บปวด ความรู้สึกนั้นทิ่มแทงใส่นาง
นางเผลอยกมือแตะท้องตัวเอง ใบหน้าซีดเผือด เม็ดเหงื่อไหลอาบหน้าผาก
หนิงเมิ่งเหยาค่อยๆ ได้กลิ่นเลือด นางตื่นตระหนก หญิงสาวรู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างกำลังจะจากนางไป
บาดแผลตรงหลังของนางไม่เจ็บปวดเท่าตรงส่วนลำตัว หนิงเมิ่งเหยามีสีหน้าย่ำแย่ และเลือดก็แผ่ซึมเปรอะชุดนางเป็นสีแดงฉานช้าๆ
ไกลออกไป เฉียวเทียนอวี๋รู้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเซียวฉีเทียนเร่งร้อนมายังจุดที่เกิดเหตุ เขาเห็นหนิงเมิ่งเหยาตัวซีดเซียวนอนอยู่ใต้ต้นไม้ ชุดเปื้อนเลือด
“ไปดูนาง” โชคยังดีว่าในบรรดาคนที่ติดตามเซียวฉีเทียน บางรายมีทักษะการแพทย์ติดตัว หาไม่แล้วสถานการณ์อาจยุ่งยากกว่านี้
พวกเขารีบตรงไปหาหนิงเมิ่งเหยาแล้วตรวจสอบชีพจรของนาง สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไปในทันใด “ฝ่าบาท เราต้องส่งนางไปเมืองหลวงโดยเร็ว”
“เกิดอะไรขึ้น”
“คุณหนูท่านนี้แท้งพ่ะย่ะค่ะ”
ดวงตาเซียวฉีเทียนเบิกกว้าง เขาถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว ไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน “เจ้ามั่นใจหรือ เจ้าตรวจนางดีแล้วรึ”
“พ่ะย่ะค่ะ นางตั้งครรภ์ได้ประมาณหนึ่งเดือน แต่ตอนนี้…”
ไม่ต้องรอจนจบประโยค เซียวฉีเทียนก็เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร “พยายามหยุดเลือดนางก่อน แล้วพานางกลับไปที่วังหลวงทันที อีกอย่าง อย่าให้ใครตรงนี้หลุดรอดไปได้ จับพวกมันมาให้หมดแล้วพากลับไปกับเรา”
บัดนี้หนิงเมิ่งเหยาไม่ได้สติ ถ้านางรู้ว่าบุตรของนางจากไปแล้ว ใครเล่าจะรู้ว่านางจะทำอย่างไร เฉียวเทียนช่างก็เช่นกัน
ตั้งแต่เขาแต่งงานกับหนิงเมิ่งเหยา เขาเปรยไว้หลายต่อหลายครั้งว่าอยากจะมีบุตร เขาพูดไว้ว่าครอบครัวจะสมบูรณ์แบบถ้ามีเด็กอยู่ด้วย
บัดนี้เด็กคนนั้นจากไปแล้วเพราะคนพวกนี้ เซียวฉีเทียนไม่ต้องเสียเวลาคิดว่าตระกูลเฉียวและคนพวกนี้จะมีชะตากรรมเช่นใดรออยู่
เขาจะต้องไม่ปล่อยให้คนพวกนี้หนีไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาไม่มีทางอธิบายกับเฉียวเทียนช่างได้
เขามาช้าไปแล้วก้าวหนึ่ง ถ้ามาถึงเร็วกว่านี้ สถานการณ์อาจไม่กลายมาเป็นเช่นตอนนี้
องครักษ์ลับของเซียวฉีเทียนโจมตีเหล่าชายชุดดำ คนชุดดำพวกนั้นที่เข้าต่อสู้ต่างล้มลงไปอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้ที่รู้ตัวว่าไม่อาจสู้เซียวฉีเทียนได้ก็ต่างดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย