บทที่ 341 ทำอะไรไม่ได้
หลิงหลัวมองหนิงเมิ่งเหยาที่มีท่าทีไม่แยแส เขารู้สึกไม่พอใจ “เหยาเอ๋อร์ การอยู่กับเขาเพียงแค่ปีสองปีมันเทียบกับช่วงเวลาที่พวกเราเคยใช้ร่วมกันได้หรือ”
หนิงเมิ่งเหยาเอียงคอแล้วมองเฉียวเทียนช่าง ใบหน้าของนางเปี่ยมไปด้วยความสุข “จะว่าไปพอข้าได้อยู่กับเขา ข้าก็แทบหลงลืมวันเวลา วันคืนอาจจะผ่านไปสั้นๆ เพียงแค่ไม่กี่ปี แต่ข้ารู้สึกราวกับว่ามันผ่านมานานเหลือเกิน หลิงหลัว เจ้าเข้าใจความรู้สึกนั้นหรือเปล่า”
ในอดีตนางไม่เคยรู้สึกเช่นนั้นมาก่อน แต่ตอนนี้นางกลับสัมผัสมันได้อย่างชัดเจน บางทีนี่อาจจะเป็นรักแท้กระมัง และนี่คือสิ่งที่ชีวิตต้องการจริงๆ
เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้น นางดูเหมือนจะไม่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปตามกระแสเวลาแต่อย่างใด แม้จะมีหลายสิ่งแปรเปลี่ยนไปตามธรรมชาติก็ตาม
หลิงหลัวมองหนิงเมิ่งเหยา “เหยาเอ๋อร์ เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าเขาคือคนที่เจ้ารักอย่างสุดหัวใจ”
“ใช่ เขาคือคนที่ข้ารักที่สุด หลิงหลัว เวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันจบลงไปตั้งนานแล้ว เจ้าก็มีชีวิตของเจ้าและข้าก็มีชีวิตของข้า ใช่ว่าเพราะเจ้าต้องการเช่นนั้น แล้วเราจะสามารถกลับไปยังช่วงเวลานั้นได้” มันไม่มีทางเป็นไปได้ แม้จะเป็นไปได้ แต่นางก็คงไม่เต็มใจทำเช่นนั้นแน่
“มันเป็นไปได้หากเจ้าต้องการ หากเจ้าบอกมาคำเดียว ข้าสามารถหย่ากับเซียวจื่อเซวียนได้ ตราบใดที่เจ้าคิดจะทำ เจ้าก็สามารถหย่ากับเฉียวเทียนช่างได้ พวกเรายังสามารถอยู่ด้วยเหมือนเมื่อก่อนได้ มันมีอะไรไม่ดีหรือ” หลิงหลัวรีบพูดอย่างกระตือรือร้นพลางมองหน้าหนิงเมิ่งเหยา
แต่หนิงเมิ่งเหยากลับมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “หลิงหลัว เจ้ากำลังล้อข้าเล่นหรือ”
เฉียวเทียนช่างมีสีหน้าน่าเกลียดน่ากลัว กล้าบอกให้เหยาเหยาหย่ากับเขา หลิงหลัวช่างรนหาที่ตายนัก
หากไม่ใช่เพราะหนิงเมิ่งเหยาจับมือเขาเอาไว้และพยายามปลอบให้เขาสงบลงแล้วล่ะก็ เขาคงซัดเจ้านี่จนกระเด็นไปแล้ว
“ข้าเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นในสายตาของเจ้าหรือ”
“ใช่แล้ว ทุกสิ่งเกี่ยวกับเจ้ามันเป็นเรื่องล้อเล่น เทียนช่างเป็นคนดีมาก ดีขนาดที่ข้าไม่สามารถทิ้งเขาได้ลง เจ้าอยากให้ข้าหย่ากับเขาแล้วไปอยู่กับเจ้า เจ้าคิดว่าตัวเองจะมอบความสุขให้กับข้าได้มากกว่าเขาหรือ” หนิงเมิ่งเหยามองหลิงหลัว ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแดกดัน
หลิงหลัวมองหนิงเมิ่งเหยา “ทุกสิ่งที่เขาทำได้ ข้าเองก็ทำได้เช่นกัน”
“จริงหรือ เขาสามารถทิ้งฐานะและอำนาจของตัวเองเพื่อข้าได้เชียวนะ เจ้าทำได้หรือ เขายังล้างมือให้ข้าได้ มิหนำซ้ำยังต้มน้ำแกงให้ข้ากินได้ด้วย เจ้าทำได้หรือ” ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น หลิงหลัวไม่มีทางเอาอะไรไปสู้เฉียวเทียนช่างได้เลย
หลิงหลัวมีสีหน้าบึ้งตึง หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในยุคนี้มาเป็นเวลานาน เขาคุ้นชินกับตำแหน่งที่สูงศักดิ์ของตนเสียแล้ว แล้วเขาจะทิ้งมันไปได้อย่างไร ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเข้าครัว มันเป็นไปไม่ได้เลย
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหลิงหลัว หนิงเมิ่งเหยาก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มของนางเต็มไปด้วยความรื่นเริงใจ
“หลิงหลัว เจ้ารู้ไหมว่าข้าชอบทานอะไร เจ้าเคยรู้หรือเปล่าว่าของที่ข้าชอบคือสิ่งใด เจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับข้าสักอย่างเสียด้วยซ้ำ แล้ววันนี้เจ้ายังจะมาที่นี่เพื่อขอให้ข้าไปอยู่กับเจ้าอีก แค่เพียงเพราะข้าสามารถยกระดับฐานะของเจ้าให้สูงขึ้นได้”
เพียงแค่สิ่งที่นางมีในมือนั้นก็สามารถทำให้คนอื่นอิจฉาตาร้อนได้ นางรู้ดีว่าหลิงหลัวคงมีความคิดเช่นนั้นอยู่ในหัว แต่นางทนมามากเกินพอแล้ว
“เจ้า…”
“หลิงหลัว อย่าบอกข้าเลยว่าเจ้ารักข้ามากเพียงใด เจ้ารักตัวเองมากกว่านั้น หากข้ายังเป็นเพียงเด็กกำพร้าธรรมดา เจ้าจะยอมเลิกกับองค์หญิงจากจวนตระกูลเซียวแล้วมาอยู่กับข้าหรือ ไม่หรอก เจ้าไม่ทำเช่นนั้นแน่ เพราะเจ้าได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของยุคนี้ไปอย่างสมบูรณ์แล้ว” หนิงเมิ่งเหยามองหลิงหลัวด้วยสายตายากที่จะอ่านได้
ในอดีตนั้นหลิงหลัวเป็นคู่ครองที่ดีที่สุดในสายตาของนาง ทว่าหลังจากได้พบกับเฉียวเทียนช่าง นางก็ตระหนักได้ว่าความคิดเหล่านั้นมันช่างโง่เง่านัก
คนเห็นแก่ตัวเช่นนี้จะสามารถเป็นคู่ครองที่ดีได้อย่างไร
หลิงหลัวยืนขึ้นก่อนมองหนิงเมิ่งเหยาที่กำลังมองเขาอย่างใจเย็น “ข้าจะไม่มีวันยอมแพ้ เจ้าเป็นของข้าได้แค่คนเดียวเท่านั้น” หลิงหลัวมองหนิงเมิ่งเหยาและพูดเน้นทีละคำ
หนิงเมิ่งเหยายิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร ทว่าเฉียวเทียนช่างที่อยู่ข้างกายกลับไม่สามารถยั้งตัวเองไว้ได้อีกต่อไป ในชั่วพริบตา เขาปล่อยหมัดพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของหลิงหลัว หลิงหลัวตั้งตัวไม่ทันและกระเด็นออกไป
เฉียวเทียนช่างลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและมองหลิงหลัวที่ร่วงลงกับพื้น “หลิงหลัว ใครกันที่ทำให้เจ้ากล้ามาพูดจาเช่นนั้นที่จวนของข้ากันหรือ เหยาเหยาเป็นภรรยาของข้า ทั้งตอนนี้และในอนาคตด้วยเช่นกัน เจ้าปล่อยมือจากนางไปเอง แล้วตอนนี้เจ้าอยากจะกลับมางั้นรึ คิดหรือว่ามันจะง่ายดายปานนั้น”
บทที่ 342 จะอัดท่านทุกครั้งที่ท่านมา
ในตอนที่นางไม่ได้มีฐานะสูงสู่งอะไร เจ้านี่ทิ้งเหยาเหยาไปแต่บัดนี้ สถานะอันแท้จริงของเหยาเหยานั้นแตกต่างกับตอนนั้นลิบลับ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมาที่นี่เพื่อเรียกร้องให้นางกลับไปอยู่ด้วยกันอีกครั้ง มันคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน
หลิงหลัวยืนขึ้นแล้วเช็ดเลือดตรงมุมปากของตน “เฉียวเทียนช่าง เจ้าหยุดนางไม่ได้หรอก เมื่อใดที่นางต้องการ นางก็จะกลับมาอยู่กับข้า”
สายตาของหนิงเมิงเหยาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา สายตาของนางเต็มไปด้วยจิตสังหารเมื่อมองหลิงหลัว “หลิงหลัว ถ้าเจ้ากล้าทำลายชีวิตข้า ก็อย่ามากล่าวโทษว่าข้าทำอะไรเกินควรเสียล่ะ อย่าคิดว่าข้าพูดเล่นหากข้าบอกว่าจะจัดการกับเจ้าและฆ่าเจ้าทิ้งเสีย”
“เจ้า…”
“หลิงหลัว มีหลายสิ่งหลายอย่างนักที่ไม่อาจหวนกลับไปเป็นดังเดิมได้ ดังนั้นเจ้าควรหยุดความคิดเช่นนั้นไว้เสีย อย่าบังคับให้ข้าต้องไร้เมตตาต่อเจ้าเลย” หนิงเมิ่งเหยาขัดคำพูดของหลิงหลัว นางไม่ต้องการที่จะฟังคำพูดของเขาอีกต่อไป
หลิงหลัวมองหนิงเมิ่งเหยาเหมือนไม่อยากจะเชื่อ นางกลายเป็นคนเช่นนี้ไปตั้งแต่เมื่อใดกัน
“ชิงเซวียน ส่งแขก”
“ซื่อจื่อแห่งจวนหลิง เชิญขอรับ” ชิงเซวียนเดินนำออกไป ยามที่มองหลิงหลัว เขาไม่ปิดบังความรู้สึกขยะแขยงเลยแม้แต่น้อย
คนพรรค์นี้น่ะหรือยังกล้ามาเทียบชั้นกับนายน้อยของพวกเขา เขาประเมินความสามารถของตนเองสูงเกินไปนัก
หลิงหลัวนิ่วหน้าเมื่อเห็นชิงเซวียนแสดงท่าทางเช่นนั้น เขารู้สึกว่าข้ารับใช้พวกนี้ล้วนแต่มีอคติกับตนกันทั้งนั้น
“เจ้า…”
“ซื่อจื่อแห่งจวนหลิง คุณหนูมิได้เป็นของของท่าน ดังนั้นโปรดอย่ารบกวนชีวิตของนางเลยขอรับ มิเช่นนั้นพวกเราจะอัดท่านทุกครั้งที่ท่านมา” ดูเหมือนเขาจะต้องเตรียมองครักษ์สักสองสามคนไว้กันไม่ให้แมลงวันพรรค์นี้บินมาที่นี่ทุกวันเสียแล้ว
หลิงหลัวมองชิงเซวียนอย่างเย็นชา ข้ารับใช้ธรรมดาๆ ผู้นี้กล้าดีเสียจริงจึงกล้าเอ่ยกับเขาเช่นนี้ เขาหรี่ตาลง สุดท้ายจึงเดินจากไปอย่างเงียบๆ
ความเกลียดชังเกิดขึ้นภายในหัวใจของเขา หากเขาได้หนิงเมิ่งเหยามาไว้ในมือ เขาก็จะสามารถจัดการคนพวกนี้ได้ตามใจเหมือนกันใช่หรือเปล่า
เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะทำให้พวกมันได้ลิ้มรสกับจุดจบอันแสนน่าเวทนาเอง
หนิงเมิ่งเหยามองร่างหลิงหลัวที่ลับตาไป แล้วนางก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น “เทียนช่าง อย่าโกรธไปเลย”
“ข้าอยากจะฆ่าเขานัก” เฉียวเทียนช่างกัดฟันกรอด
ตราบใดที่หลิงหลัวยังไม่ตาย เขาก็คงจะยังไม่เลิกมากวนใจหนิงเมิ่งเหยา
นางเอื้อมมือไปกอดรอบเอวของเฉียวเทียนช่างแน่น แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขาพร้อมรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า “อย่าโกรธไปเลย คนเช่นเขาไม่มีค่าพอให้มือของเจ้าต้องแปดเปื้อนหรอก อีกอย่างในไม่ช้าคนทั้งจวนตระกูลหลิงก็จะได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปแล้ว”
เฉียวเทียนช่างก้มหน้าลงมองหญิงสาวในอ้อมแขนของตน “เจ้าได้ข่าวมาเพิ่มหรือ”
“หลิงอ๋องกับหนานกงเยว่กำลังสบคบคิดกันวางแผนจะขโมยราชโองการลับจากเมืองหลิง ราชโองการลับนั้นเกี่ยวพันกับเมืองเซียวทั้งเมือง และจากข่าวที่ข้าได้มา ตอนนี้ราชโองการลับที่ว่านั้นมันอยู่ในจวนตระกูลเซียว” เพราะเรื่องนี้นางจึงปล่อยเขาไปง่ายๆ
หนิงเมิ่งเหยากำลังรอให้หนานกงเยว่เดินเข้ามาในกับดักที่นางวางไว้
เฉียวเทียนช่างขมวดคิ้ว เขารู้เรื่องราชโองการลับอยู่แล้ว เซียวชวี่เฟิงเองก็อยากจะเอามันกลับคืนมาจากจวนตระกูลเซียว แต่ยังหาโอกาสลงมือไม่ได้เสียที บางทีเวลานี้อาจจะเป็นโอกาสอันดีในการไปชิงมันกลับมา
“เจ้าแน่ใจหรือ”
“แน่นอน หลิงอ๋องเป็นคนทะเยอทะยานยิ่งนัก เจ้าควรรู้เรื่องนี้เอาไว้ด้วย บัดนี้ด้วยความช่วยเหลือจากหนานกงเยว่ ข้าเกรงว่าเขาคงแอบมีความคิดที่จะก่อกบฏอยู่ในหัว และตราบใดที่เขายังมีความคิดเช่นนั้นอยู่ พวกเขาจะต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อชิงราชโองการลับมาไว้ในมือแน่ และเพื่อการนั้น พวกมันต้องเริ่มจากเซียวจื่อเซวียน” อย่างไรเสียเซียวจื่อเซวียนก็เป็นคนจากจวนตระกูลเซียว
หากเซียวจื่อเซวียนร่วมมือด้วย เวลานั้นจวนตระกูลเซียวคงจะได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
แม้ผู้คนในจวนจะไม่ถูกตัดหัวประหารชีวิตทั้งหมด แต่ผู้ที่จะต้องถูกประหารก็คงมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
เฉียวเทียนช่างพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ข้าบอกเรื่องนี้กับชวี่เฟิงไปแล้ว แต่เรื่องจะทำอย่างไรนั้น ข้ายังต้องหารือกับเขาก่อน ราชโองการลับอันนั้นไม่ควรจะตกไปอยู่ในมือพวกมัน”
หนิงเมิ่งเหยาพยักหน้าบ้าง “เช่นนั้นก็จัดการเลย ถ้าหากเจ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรให้บอกข้าก็แล้วกัน ข้าจะไปหาท่านพ่อแล้วคุยกับท่านเสียหน่อย”
“ตกลง”
เฉียวเทียนช่างคุยกับหนิงเมิ่งเหยาต่ออีกครู่ใหญ่ก่อนเดินทางออกจากจวนแม่ทัพ
เซียวชวี่เฟิงที่กำลังยุ่งอยู่รู้สึกแปลกใจเมื่อได้รู้ถึงการมาเยือนของเฉียวเทียนช่าง
เขาส่งคนออกไปเชิญเฉียวเทียนช่างเข้ามา
“ลมอะไรหอบเจ้ามาล่ะนี่”
“เหยาเหยาได้ข่าวว่าหลิงอ๋องร่วมมือกับหนานกงเยว่ พวกมันหมายตาราชโองการลับที่อยู่ในจวนตระกูลเซียว ดังนั้นขอให้เจ้าเตรียมใจเอาไว้ด้วย” ตราบใดที่พวกเขาวางแผนล่วงหน้าไว้อย่างรัดกุม ราชโองการลับนั้นจะไม่มีทางไปสู่มือของพวกมันได้
เซียวชวี่เฟิงพยักหน้า “ข้าได้ข่าวเรื่องนี้เช่นกัน และตอนนี้กำลังเตรียมการอยู่ แต่ข้าไม่แน่ใจว่าเซียวจื่อเซวียนจะช่วยหลิงหลัวกับพวกหรือไม่”
Related