บทที่ 439 ถ้าบุกเข้ามาเราจะไม่ปรานี
สีหน้าชิงเซวียนถมึงทึง เขาไม่ประทับใจท่าทีของเซียวอี้หลิน
รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของคนที่สู้โดยออมมือไว้ พวกเขามองเซียวอี้หลินด้วยรอยยิ้ม “ลงมือ”
การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้เป็นเพียงการลองฝีมือ บัดนี้เป็นการเอาจริงแล้ว การจู่โจมของพวกเขาซับซ้อนจนเซียวอี้หลินพลาดท่าหลายครั้ง
ความรู้สึกเจ็บแปลบข้างหลังทำให้เซียวอี้หลินต้องขมวดคิ้ว เขาหันไปแล้วเหวี่ยงฝ่ามือซัดพลังภายในใส่คนที่อยู่ตรงหน้า
ในจังหวะเดียวกันนั้น องครักษ์ที่พุ่งเข้าใส่เซียวอี้หลินจากข้างหลังปล่อยหมัดเข้าที่หลังของเซียวอี้หลินตรงจุดเดียวกัน
หมัดหนนี้หนักกว่าหนก่อน เซียวอี้หลินเซจนเกือบจะล้มลงกับพื้น
เซียวอี้หลินตกใจ ก่อนหน้านี้เขายังรับมือได้สูสี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นจะยั้งมือเอาไว้
สองหมัดจะปะทะกับหลายมือเช่นนี้เป็นเรื่องยากนัก และเซียวอี้หลินก็เสียเปรียบอย่างรวดเร็ว
ชิงเซวียนดูเซียวอี้หลินเสียกระบวนท่าอย่างน่าหดหู่ มุมปากเขายกยิ้มเย็น “เซียวอ๋อง ถ้าท่านต้องการ เราก็พร้อมสู้ต่อไป แต่ท่านควรรู้ไว้ว่าจวนของแม่ทัพใหญ่ไม่ใช่ที่ที่จะให้บุกเข้าไปกันได้ง่ายๆ”
เซียวอี้หลินเช็ดเลือดตรงมุมปาก จากนั้นก็มองชิงเซวียน “ข้าอยากขอพบเฉียวเทียนช่างและหนิงเมิ่งเหยา”
“นายหญิงต้องการพักผ่อนหลังจากที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บ ท่านแม่ทัพกล่าวว่าจะไม่พบใครแม้แต่คนเดียว” โกหกกันซึ่งๆ หน้าเรียกว่าอย่างไร เพราะนั่นคือสิ่งที่ชิงเซวียนกำลังทำอยู่ เขาทำเรื่องที่เกิดขึ้นให้กลายเป็นเรื่องใหญ่
สีหน้าเซียวอี้หลินเปลี่ยนไป “เป็นไปไม่ได้” ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหนิงเมิ่งเหยาเลย นี่เป็นแค่ข้ออ้าง
“ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้หรือ รึจวนตระกูลเซียวทำกันเช่นนี้ ข้าได้รู้อะไรมากขึ้นจริงๆ ส่งเซียวอ๋องกลับไป” ชิงเซวียนกล่าวอย่างเย็นชา
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมท่านแม่ทัพและนายหญิงของเขาต้องทนคนพวกนี้
“เจ้าก็เป็นเพียงองครักษ์ เจ้าไม่มีอำนาจจะมาไล่ข้า”
“เช่นนั้นข้ามีอำนาจหรือไม่” เฉียวเทียนช่างเดินออกมาจากข้างหลัง เขามองเซียวอี้หลินด้วยสีหน้าถมึงทึง
“ข้าเพียงมาที่นี่เพื่อบอกท่านว่าข้าหักแขนขาเซียวจื่อเซวียนแล้ว”
“แล้วเรื่องนั้นเกี่ยวอะไรกับเรา” เฉียวเทียนช่างมองเยาะเย้ยเซียวอี้หลิน คิดว่าหลังจากหักแขนขาเซียวจื่อเซวียนแล้วจะให้ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือ นั่นเป็นเพียงความคิดเพ้อฝันเท่านั้น
สีหน้าเซียวอี้หลินเปลี่ยนไป เขาขมวดคิ้วมองเฉียวเทียนช่าง “ท่านหมายความเช่นไร”
“ข้าหมายความว่าอะไรรึ เซียวอ๋อง นับจากนี้ไป ท่านอย่าได้มาจวนแม่ทัพอีกเลย”
“ข้าต้องการพบนาง” เซียวอี้หลินข่มอารมณ์โกรธไว้แล้วจ้องมองเฉียวเทียนช่าง
ทุกคนเข้าใจว่าเขาพูดถึงใคร
เฉียวเทียนช่างมองเซียวอี้หลินด้วยรอยยิ้ม “เซียวอ๋อง ท่านขอพบเหยาเหยาในฐานะอะไร”
“ข้าเป็นลุงของนาง”
“ลุงหรือ” เฉียวเทียนช่างหัวเราะกับคำตอบของเซียวอี้หลิน
เขาปรายตามองเซียวอี้หลินแล้วพูดอย่างสุขุม “ท่านเป็นลุงของเหยาเหยาก็เพียงเพราะท่านเรียกตัวเองเป็นลุงของนางหรือ ถ้าท่านเป็นลุงของนาง ทำไมจึงเอาแต่สร้างปัญหาให้หลานสาวเล่า”
“ทั้งหมดเป็นเพียงอุบัติเหตุ” เซียวอี้หลินนิ่วหน้า
“อุบัติเหตุหรือ ที่ลูกเราตายเป็นเพียงอุบัติเหตุหรือ ลูกของเราจะจากไปหรือไม่ ถ้าท่านไม่ส่งองครักษ์ลับจากจวนของท่านมา ครั้งนี้ ถ้าท่านไม่ได้เห็นชอบด้วย จะมีคนมาก่อกวนห้องส่วนตัวที่ท่านใช้คุยกับเหยาเหยาหรือ เซียวอี้หลิน อุบัติเหตุพวกนี้มีมากครั้งไปแล้ว” เฉียวเทียนช่างมองเซียวอี้หลินอย่างเย็นชา ใบหน้าของเขาน่าเกลียดน่ากลัว
สีหน้าเซียวอี้หลินเองก็น่าเกลียดไม่แพ้กัน ในอดีตเป็นความผิดของเขาก็จริงอยู่ แต่เรื่องครั้งนี้ เขาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วยเลย
“ข้าไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องครั้งนี้แม้แต่น้อย” เซียวอี้หลินขมวดคิ้วพลางอธิบาย
“นั่นเป็นเรื่องในตระกูลท่าน ไม่เกี่ยวอะไรกับจวนแม่ทัพของข้า ชิงเซวียน ส่งเซียวอ๋องกลับ ถ้าครั้งหน้ายังมีใครบุกเข้ามาในจวนแม่ทัพใหญ่แห่งนี้อีก ฆ่าเสีย…อย่าได้คิด…ปรานี”
“ขอรับ ท่านแม่ทัพ”
ถ้าพวกเขาต้องการชีวิตของเซียวอี้หลินจริง ในวันนี้พวกเขามีโอกาสมากมายแต่ต้องอดทนยั้งมือไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะชายคนนี้เป็นลุงของเซียวฉีเทียนและเซียวชวี่เฟิง เป็นเรื่องน่าเสียดาย บางคนดูไม่ได้สนใจเรื่องนั้นสักเท่าไร ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วจะให้พวกเขาทนปรานีต่อไปได้อย่างไร
สีหน้าเซียวอี้หลินดำทะมึนดั่งถ่าน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทุกอย่างจึงกลายเป็นเช่นนี้
“แม่ทัพเฉียว ท่านไม่ควรโอหังเกินไปนัก”
“โอหังหรือ พูดถึงโอหัง จะมีใครเล่าเทียบเทียมเซียวอ๋องได้ บุกเข้าบ้านผู้อื่นแล้วยังกล่าวโทษพวกเขา เซียวอ๋อง ท่านกำลังป้ายสีผู้บริสุทธิ์อยู่หรือ”
บทที่ 440 บทลงโทษร้ายแรง
ชิงเซวียนและคนอื่นพากันหัวเราะเยาะ “ท่านแม่ทัพ ในเมื่อใครบางคนหาว่าพวกเราโอหัง เช่นนั้นเราก็ไปทำลายจวนตระกูลเซียวและแสดงให้เขาเห็นว่าคนโอหังแท้จริงเป็นเช่นไร”
“นั่นมันสิ่งที่คนเถื่อนจะทำกัน นายหญิงของเจ้าจัดการเรียบร้อยแล้ว” เฉียวเทียนช่างพูดโต้งๆ
สีหน้าเซียวอี้หลินเปลี่ยนไปเพราะประโยคนั้น เขามองข้ามเฉียวเทียนช่างได้ แต่ไม่อาจทำเช่นนั้นกับหนิงเมิ่งเหยาได้
“ส่งเซียวอ๋องกลับไป” เฉียวเทียนช่างเดินจากไป ตอนที่เขาหันไปอีกทาง สายตาเขายิ่งเย็นชา เขาให้เซียวอี้หลินรู้ว่านี่คือ ‘ไม่ใช่ไม่ล้างแค้น แต่ยังไม่ถึงเวลา’
“เซียวอ๋อง โปรดไปเสียเถิด ถ้าท่านไม่อยากทำให้ตัวเองขายหน้าไปมากกว่านี้” ชิงเซวียนไขว้แขน ตามองเซียวอี้หลินด้วยสีหน้าดุร้าย
เซียวอี้หลินชำเลืองมองชิงเซวียนและขมวดคิ้วแน่น จากนั้นก็หันไปอีกทางแล้วเดินจากไป
เมื่อเซียวอี้หลินเดินจากไป ก็มีชาวบ้านจำนวนมากมาออตรงทางเข้า ทุกคนทำหน้าแปลกๆ เมื่อเห็นเขาเดินออกมา
มีคนพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเซียวอ๋องบุกเข้าจวนแม่ทัพใหญ่ พวกเขาก็ไม่เชื่อจึงมาดูด้วยตาว่าจริงหรือไม่
พวกเขานึกไม่ชอบใจเซียวอี้หลิน ยามผู้อื่นไม่อยากพบหน้า เขาก็ตรงดิ่งเข้าไปทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บเพียงเพื่อจะรุกล้ำเข้าไป นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือ เขาทำตัวเป็นอันธพาลเกินไปแล้ว
แต่พอเห็นว่าเซียวอี้หลินก็บาดเจ็บหนัก ผู้คนก็พากันคาดเดาไปต่างๆ นานา แต่โดยรวมแล้วล้วนเห็นด้วยว่าไม่ควรดูหมิ่นเกียรติของจวนแม่ทัพใหญ่ ท่านอ๋องปฏิบัติกับจวนแม่ทัพเช่นนี้ได้หรือ เขาทำเกินไปแล้วจริงๆ
เซียวอี้หลินแสร้งไม่ได้ยินเสียงพวกชาวบ้าน
ทว่าวันถัดมา ก็มีคนกล่าวหาเซียวอ๋องในราชสำนัก
“ฝ่าบาท เซียวอ๋องนั้นยโสโอหังเกินไป เขาหยุดภรรยาของท่านแม่ทัพใหญ่ไว้ในขณะที่นางกำลังซื้อของอยู่เมื่อวันก่อน จากนั้นภรรยาของท่านแม่ทัพใหญ่ก็ตกเป็นเป้าลอบสังหารในห้องส่วนตัว นักฆ่าพวกนั้นเป็นองครักษ์ลับของจวนตระกูลเซียว เซียวอ๋องไม่กระทำใดๆ เลยเมื่อเผชิญหน้ากับเหล่านักฆ่า ซึ่งไม่อาจกล่าวโทษอะไรได้ แต่เมื่อภรรยาของท่านแม่ทัพต้องการพักผ่อนเพราะอาการบาดเจ็บที่ได้รับ และแม่ทัพเฉียวเองก็ไม่พึงต้อนรับแขก เซียวอ๋องกลับทำร้ายคนของพวกเขาแล้วบุกเข้าไป กระทำเช่นนี้สมเหตุสมผลแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“หัวหน้าผู้ตรวจการพูดถูกต้อง แม่ทัพเฉียวมีผลงานรับใช้กองทัพโดดเด่น เขาจะปล่อยให้ผู้อื่นเหยียดหยามเขาเช่นนี้ได้อย่างไร เซียวอ๋องใช้อำนาจข่มเหงกันเกินไปแล้ว”
“ถูกต้องแล้ว เซียวอ๋อง เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านมีเรื่องบาดหมางกับแม่ทัพเฉียวและภรรยาของเขา ถ้าข้าจำไม่ผิด แม่ทัพเฉียวและภรรยาเสียบุตรไปคนหนึ่งเพราะองครักษ์ลับที่ท่านส่งออกไป หรือท่านคิดจะฆ่าเด็กอายุเพียงหกเดือนในครรภ์อีกคน”
สองคนสุดท้ายที่กล่าวเป็นผู้นำทางการทหาร พวกเขาชื่นชมเฉียวเทียนช่างอย่างมาก บัดนี้มีคนมาดูหมิ่นชายผู้นั้น ถ้าพวกเขาสามารถทนได้ก็แปลกแล้ว
“ใช่แล้ว กระหม่อมขอให้ฝ่าบาทโปรดลงโทษสถานหนักด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“กระหม่อมขอให้ฝ่าบาทโปรดลงโทษสถานหนักด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ทุกคนคุกเข่าลงกับพื้น สีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียดขณะมองเซียวอี้หลิน
เซียวชวี่เฟิงเองก็เดือดดาล เรื่องหนก่อนเพิ่งสงบลง จวนตระกูลเซียวก็สร้างปัญหาใหม่อีกแล้ว
“ท่านลุง ท่านลืมบทเรียนจากครั้งก่อนไปแล้วหรือ”
หน้าเซียวอี้หลินบิดเบี้ยว พวกผู้น้อยเหล่านี้มีสิทธิ์อะไรมาชี้หน้ากล่าวโทษเขา
พอเห็นสีหน้าน่าเกลียดของเซียวอี้หลิน เซียวชวี่เฟิงก็เข้าใจว่าเขาคิดอะไรอยู่
“ท่านลุง มิใช่ว่าท่านควรให้คำอธิบายแก่แม่ทัพเฉียวและภรรยาของเขาหรือ” เซียวชวี่เฟิงมองเซียวอี้หลินอย่างเย็นชา ใบหน้าเขาน่ากลัวยิ่งนัก
เซียวอี้หลินยืนขึ้นแล้วมองเซียวชวี่เฟิง “กระหม่อมไม่เห็นว่าตนได้กระทำผิดอันใด ถึงต้องอธิบายพ่ะย่ะค่ะ”
เฉียวเทียนช่างที่ยืนอยู่ข้างหน้าผู้นำทางการทหารหรี่ตาลง รอยยิ้มกระหายเลือดปรากฏตรงมุมปาก “ในเมื่อเซียวอ๋องกล่าวเช่นนั้น หากเกิดเรื่องขึ้นกับจวนของเซียวอ๋องหลังจากนี้ ท่านก็อย่ากล่าวโทษแม่ทัพคนนี้ว่าโหดร้ายเลย ”
“ท่านกำลังขู่ข้าหรือ” เซียวอี้หลินมองเฉียวเทียนช่างแล้วตวาด
เฉียวเทียนช่างมองเซียวอี้หลินแต่ไม่พูดอะไร เขาประหลาดใจกับท่าทีอีกฝ่ายจากใจจริง
เสนาบดีมีความคิดว่าเซียวอี้หลินยโสโอหังเกินไป เขาทำร้ายผู้อื่นและยังบอกว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด
“ข้ารับใช้ของแม่ทัพเฉียวจู่โจมกระหม่อมเช่นกัน เช่นนั้นแม่ทัพเฉียวต้องอธิบายสิ่งใดกับกระหม่อมหรือไม่” ไม่เพียงไม่ขอโทษเฉียวเทียนช่างและภรรยา แต่เซียวอี้หลินถึงขั้นโทษเฉียวเทียนช่างแทน
เมื่อเห็นเซียวอี้หลินประพฤติตัวเช่นนี้ ผู้คนก็พากันสงสัยว่าเขาเสียสติไปแล้วหรือเปล่า ถ้าสติของเขาไม่ผิดเพี้ยนไปแล้ว เขาจะพูดจาเช่นนี้หรือ
เฉียวเทียนช่างหัวเราะ เสียงหัวเราะช่างน่ากลัวยิ่งนัก “เช่นนั้นขอให้ข้าถามทุกคนที่อยู่ที่นี่ ถ้ามีคนบุกเข้าจวนของพวกท่าน พวกท่านจะทำเช่นไร”
“จัดการคนผู้นั้น”
“ถูกต้อง”