ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน – ตอนที่ 465 เดินทางสู่ป่าหลังภูเขา + บทที่ 466 เลือกบ้าน

บทที่ 465 เดินทางสู่ป่าหลังภูเขา

นี่เป็นครั้งแรกที่หนิงเมิ่งเหยาเห็นเฉียวเทียนช่างทำตัวเหมือนเด็ก จึงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “เฉียวเทียนช่าง เจ้าน่าจะให้คนอื่นเห็นท่าทางเจ้าตอนนี้บ้างนะ”

“ท่าทางแบบไหน”

“เก็บกดทางเพศ” บนหน้าเขาไม่ได้มีคำสี่พยางค์นี้เขียนอยู่หรอกหรือ

เฉียวเทียนช่างกลอกตาใส่ภรรยาของตน “เหยาเอ๋อร์ ตั้งแต่เจ้าท้อง ข้าแตะต้องเจ้าไปกี่ครั้งกันเล่า จะไม่ให้ข้าเก็บกดได้อย่างไร”

ตอนที่พวกเขายังไม่มีลูก เขาผ่านแต่ละวันไปด้วยค่ำคืนอันเร่าร้อนกับนาง แต่ในตอนนี้ เขาทำได้แค่กอด จูบ และแตะเนื้อต้องตัวเท่านั้น เมื่อไหร่วันคืนอันแสนอึดอัดนี้จะจบลงเสียที

หนิงเมิ่งเหยารู้สึกหงุดหงิด แต่นางก็ยังรู้สึกขำในเวลาเดียวกันเมื่อเห็นว่าเขาอึดอัดมากขนาดไหน โตขนาดนี้แล้วแต่กลับยังคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเช่นนั้นอยู่อีก

นางยันตัวขึ้นแล้วยื่นหน้าเข้าไปหาใบหน้าของเฉียวเทียนช่าง ริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกัน “ตอนนี้เจ้าพอใจหรือยัง”

“เหยาเอ๋อร์ อย่าแกล้งข้าสิ” เฉียวเทียนช่างกัดฟันขณะมองภรรยาของตน ในเวลาแบบนี้นางยังจะแกล้งเขาอีก หญิงผู้นี้ต้องตั้งใจทำเช่นนี้แน่

หนิงเมิ่งเหยามองเฉียวเทียนช่างด้วยท่าทางสงสัย นางเพียงแค่นึกอยากจูบเขาเท่านั้น เหตุใดมันจึงกลายเป็นการกลั่นแกล้งไปได้ล่ะ

แต่นางก็เข้าใจได้ในทันทีเมื่อเห็นดวงตาหม่นๆ กับเสียงอันแหบพร่าของเขา “ข้าจะนอนล่ะ” หนิงเมิ่งเหยาหน้าขึ้นสีและรู้สึกอายขึ้นมาจริงๆ

เฉียวเทียนช่างถอนหายใจ ทำไมภรรยาของเขาจึงทำตัวเช่นนี้กัน

เขายื่นมือไปบีบแก้มนางเป็นการลงโทษ

เช้าวันถัดมา หนิงเมิ่งเหยาตื่นขึ้นมาก่อน นางเอื้อมมือไปปลุกชายที่นอนอยู่ข้างตน “ตื่นได้แล้ว ข้าอยากขึ้นไปที่ป่าหลังภูเขา”

อันที่จริงเฉียวเทียนช่างตื่นแล้ว เขาเพียงแต่ต้องการให้นางได้พักผ่อนต่ออีกสักหน่อย ทว่าใครจะรู้ล่ะว่านางจะตื่นเช้าขนาดนี้แล้วยังแกล้งเขาตั้งแต่เช้าอีกด้วย

เขาหมุนตัวกลับมาทับร่างของนาง “เจ้าแกล้งข้าตั้งแต่เช้าอีกแล้ว เจ้าไม่ปล่อยให้ข้าสบายเลยหรือ”

หนิงเมิ่งเหยามองเฉียวเทียนช่างแล้วแสดงสีหน้าไร้เดียงสาออกมา

“เอาล่ะ ลุกขึ้นได้แล้ว” เฉียวเทียนช่างยอมแพ้ต่อโชคชะตาของตัวเองและลุกขึ้นจากเตียง เขาสวมชุดของตนก่อนนำชุดของหนิงเมิ่งเหยามาให้

หนิงเมิ่งเหยาลุกจากเตียงไปล้างตัว พวกเขาทานอาหารเช้ากันอย่างง่ายๆ ก่อนจะหยิบตะกร้าแล้วมุ่งตรงไปยังป่าที่อยู่ด้านหลังของภูเขา ตอนแรกท่านยายฉินไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่ในไม่ช้าก็โดนเฉียวเทียนช่างเกลี้ยกล่อมจนใจอ่อน นางวางใจเมื่อเขาบอกว่าเขากับหนิงเมิ่งเหยาแค่จะขึ้นไปเดินดูแถวๆ ตีนเขาเท่านั้น ไม่ได้ปีนขึ้นไปข้างบนแต่อย่างใด

หนิงเมิ่งเหยาก้มหน้าลงอย่างหดหู่ “ท่านยายฉินเข้มงวดมาก”

“เจ้าท้องตั้งเจ็ดเดือนแล้ว จะไม่ให้นางเข้มงวดได้อย่างไรเล่า” หากไม่ใช่เพราะหนิงเมิ่งเหยานึกอยากมาเดินเที่ยวจริงๆ เขาก็ไม่คิดที่จะพานางมาแน่

หากเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่เสียใจในสิ่งที่ทำลงไปหรือ

หนิงเมิ่งเหยายื่นมือไปจับจมูกเขา “แต่เจ้าสัญญาแล้วว่าจะพาข้ามา”

“ก็จริง ตอนนี้เราเลยมุ่งหน้าขึ้นเขากันอยู่นี่ไง” เฉียวเทียนช่างขำ เขาส่ายหน้าไปมา

นางรู้สึกโล่งใจหลังจากได้ยินว่าเฉียวเทียนช่างไม่ได้คิดจะพานางกลับไปส่ง ตราบใดที่เขาไม่พานางกลับ จะไปไหนก็ได้ทั้งนั้น

เฉียวเทียนช่างประคองหนิงเมิ่งเหยาตลอดการเดินทาง และยังคอยตัดพุ่มไม้ที่ขึ้นขวางทางให้ด้วย

ตรงบริเวณตีนเขามีธารน้ำเล็กๆ อยู่ ทิวทัศน์บริเวณนั้นค่อนข้างสวยงามเอาการ เฉียวเทียนช่างจึงพานางไปที่นั่น

หนิงเมิ่งเหยาไม่ได้คิดจะไปเดินเล่นบนภูเขาจริงๆ นางจึงไม่รู้สึกโกรธเขาแต่อย่างใดและเริ่มเดินดูรอบๆ ลำธารแทน

นางสังเกตเห็นบางสิ่งที่อยู่ในลำธารได้อย่างรวดเร็ว พวกมันคือหอยขม

“เทียนช่าง เจ้าช่วยเก็บหอยขมพวกนั้นขึ้นมาให้ข้าหน่อยได้หรือไม่” หนิงเมิ่งเหยามองเฉียวเทียนช่างด้วยสายตารบเร้า ทำให้เฉียวเทียนช่างต้องพยักหน้ารับ

แม้จะเก็บหอยขมขึ้นมาจนเต็มตะกร้า แต่ดูเหมือนว่านางยังไม่คิดจะสั่งให้เขาหยุด หากไม่ใช่เพราะตะกร้ามันเต็มไปแล้ว เขาอาจจะต้องโกยหอยพวกนั้นต่อไปเรื่อยๆ ก็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นเฉียวเทียนช่างก็กลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่

“เจ้าชอบมันขนาดนั้นเลยหรือ”

“มันอร่อยออกนะ”

“อะไรที่อยู่ในมือเจ้าก็อร่อยทั้งนั้น” เฉียวเทียนช่างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดีระหว่างพูดเช่นนั้น “แต่เจ้าต้องสอนท่านยายฉินทำกับข้าวบ้างล่ะ”

“ไม่มีปัญหา”

ทั้งสองอยู่ที่ป่าด้านหลังของภูเขากันอีกครู่ใหญ่ เฉียวเทียนช่างเด็ดดอกไม้ข้างลำธารขึ้นมาทำเป็นมงกุฏอันงดงามให้กับหนิงเมิ่งเหยา เขาสวมมันลงบนศรีษะของนางก่อนจะเดินทางกลับ

นางยกมือขึ้นจับมงกุฏดอกไม้บนศรีษะของตน “ข้ากำลังจะเป็นแม่คนนะ พอมาสวมมงกุฏดอกไม้เช่นนี้แล้วรู้สึกแปลกชะมัด”

“มีอะไรน่าแปลกกัน สวยงามมาก” เฉียวเทียนช่างกลั้นหัวเราะเอาไว้แทบไม่อยู่เมื่อเห็นหนิงเมิ่งเหยามีท่าทางประหม่า แต่นางช่างงดงามจริงๆ

บทที่ 466 เลือกบ้าน

เมื่อทั้งสองกลับมาถึงบ้าน ทุกคนล้วนแต่กลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่เมื่อพวกเขาเห็นมงกุฏดอกไม้บนศรีษะของหนิงเมิ่งเหยา พวกเขาต่างบอกว่ามันดูน่ารักสมกับนาง ทำเอาหนิงเมิ่งเหยาถึงกับเขินขึ้นมา

พวกเขากลับมาได้หลายวันแล้ว ตลอดช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ หนิงเมิ่งเหยาจะเดินเล่นในสวนทุกวัน หรือไม่ก็โผล่หน้าไปดูงานที่โรงงานบ้าง ทว่าในไม่ช้าเหลยอันก็กลับมา ทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น ภาพที่เห็นทำเอาตาของหนิงเมิ่งเหยาถึงกับกระตุก

นางมองเหลยอันด้วยความรังเกียจ “เจ้าตรงกลับมาเลยหรือ”

เหลยอันพยักหน้า “ขอรับ”

เขาเกรงว่าถ้าตนมาช้าเกินไปแล้วจะได้ยินข่าวว่าหยางเล่อเล่อหมั้นหมายกับใครเข้าเสียก่อน หลังจากจัดการเรื่องในสนามรบจนเสร็จเรียบร้อย เขาจึงตรงดิ่งมาที่นี่ทันทีโดยไม่แม้แต่จะรอหลินจือโยวเลยสักนิด

หนิงเมิ่งเหยาพลันรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นเหลยอันแสดงท่าทางเช่นนั้น “เจ้ากลัวว่าจะมีคนแย่งเล่อเล่อไปหรือ”

“ขอรับ”

หนิงเมิ่งเหยามองเหลยอันแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี “เอาล่ะ ไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วพักผ่อนซะ เล่อเล่อน่าจะกลับมาในสองวันนี้ เมื่อถึงตอนนั้นแล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กัน” ตอนนี้พวกนางทำอะไรไม่ได้ เพราะถึงเหลยอันจะกลับมาแล้ว แต่เล่อเล่อนั้นยังไม่กลับ

เหลยอันยกมือขึ้นลูบจมูกตัวเอง แล้วจึงยิ้มออกมาอย่างขลาดๆ “ข้าทราบแล้วขอรับ”

ชิงเสวี่ยเดินนำทางพาเหลยอันตรงไปยังบ้านทางด้านหลังเพื่อพักผ่อน

หนิงเมิ่งเหยาส่ายหน้าอย่างจนใจ “พวกลุงหยางต่างก็พากันกลุ้มใจกลัวว่าเล่อเล่อจะไม่ได้แต่งงาน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ว่ามีคนพร้อมจะสู่ขอแล้วหรอกหรือ” เขาถึงกับตรงมาที่นี่เพื่อขอเล่อเล่อแต่งงานเลยทีเดียว

เฉียวเทียนช่างมองหนิงเมิ่งเหยาอย่างขบขัน “เหลยอันเป็นเด็กกำพร้า เจ้านั่นมักจะบอกกับข้าเสมอว่าอยากมีครอบครัวเป็นของตัวเองบ้าง ตอนนี้ขามีหยางเล่อเล่อแล้ว คงจะเลิกอิจฉาพวกเราเสียที”

เขารู้ว่าเหลยอันมักจะมองเขาด้วยสายตาอิจฉา จากนั้นก็จะจมอยู่กับความเหงา เห็นได้ชัดว่าเขาอยากจะมีครอบครัวมากแค่ไหน

“ถ้าเขาไม่อยากสร้างบ้านแยกไปอยู่ในหมู่บ้าน เช่นนั้นก็ให้เขาเลือกเอาสักหลังจากในบ้านพวกเราก็ได้นะ” เฉียวเทียนช่างสร้างบ้านหลังใหญ่ ภายในบริเวณบ้านมีเรือนอยู่แปดถึงเก้าหลังด้วยกัน หากมีคนอยู่ด้วยกันเยอะๆ คงจะครึกครื้นน่าดู

“เอาล่ะ เมื่อถึงเวลานั้นก็ปล่อยให้พวกเขาอยู่อย่างมีความสุขเถอะ” เขาไตร่ตรองเรื่องนี้เอาไว้แล้วตั้งแต่ตอนเริ่มสร้างบ้านหลังนี้ เป็นไปได้ว่าพวกอวี้เฟิงอาจจะมาเยี่ยม ดังนั้น จึงสร้างบ้านขึ้นหลายหลังด้วยกัน ดูเหมือนว่าเขาจะวางแผนการล่วงหน้าเอาไว้ถูกแล้ว

“อืม ก็จริง แต่พวกเราบังคับให้ใครมาอยู่ด้วยไม่ได้หรอกนะ” หนิงเมิ่งเหยายิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

ใครจะรู้เล่าว่าเซียวฉีเทียนจะพามู่เสวี่ยมาเยี่ยมหลังจากเหลยอันกลับมาได้ไม่นาน

เซียวฉีเทียนถึงกับอึ้งเมื่อเห็นบ้านที่สร้างขึ้นใหม่

“เทียนช่าง เจ้าแบ่งบ้านสักหลังในนี้ให้ข้าหน่อยสิ ต่อไปถ้าข้ากับมู่เสวี่ยมีเวลาจะได้มาเยี่ยมเจ้าได้” ที่แห่งนี้ไม่ได้พิเศษอะไรมากมายนัก แต่หลังจากถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้มากมายและต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศที่นี่นั้นราวกับสวรรค์บนดินเลยทีเดียว

“เอาสิ มีบ้านอยู่หลายหลัง เจ้าไปเลือกเองก็แล้วกัน” เฉียวเทียนช่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก

ทว่าหนิงเมิ่งเหยาที่อยู่ข้างๆ กลับถอนหายใจออกมา “ดูท่าว่าเราคงต้องสร้างเรือนเพิ่มอีกสักสองหลังแล้วล่ะ”

หนิงเมิ่งเหยาคิดว่าพ่อแม่ของนางอาจจะอยู่ที่นี่ในอนาคต แล้วยังมีเฟิงซั่ว อวี้เฟิงกับภรรยา มู่เฉินกับภรรยา เซียวชวี่เฟิงก็ท่าทางจะอยากได้สักหลังเช่นกัน แล้วยังมีคนอื่นอีก… ดูเหมือนที่มีอยู่ตอนนี้จะน้อยเกินไป

เฉียวเทียนช่างครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า “ไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที ตอนนี้ไม่ต้องรีบคุยก็ได้” เขาต้องขยายบ้านต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นพวกลูกๆ ของเขาจะอาศัยอยู่ตรงไหนกันล่ะ

เซียวฉีเทียนมองเรือนสองสามหลัง คิ้วของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย

“เทียนช่าง ดูเหมือนว่าบ้านที่เจ้าสร้างจะไม่เลวทีเดียว”

“จากนี้พวกข้าจะอยู่ที่นี่” ดังนั้นพวกเขาจึงต้องสร้างบ้านให้น่าอยู่อยู่แล้ว

หัวใจของหนิงเมิ่งเหยาเต็มไปด้วยความสุข เฉียวเทียนช่างเตรียมทั้งหมดนี้ไว้ให้นาง

“เหยาเอ๋อร์ ตอนเจ้าคลอดลูก พวกท่านพี่เหมยจะมาหรือไม่” มู่เสวี่ยมองหนิงเมิ่งเหยาแล้วเอ่ยถามเบาๆ

“พวกเขาบอกว่าจะมา” เด็กคนนี้เป็นลูกคนแรกในกลุ่มของพวกเขา คนพวกนั้นล้วนให้ความสนใจยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ในอนาคตพวกเขาจะต้องเอ็นดูเด็กคนนี้มากแน่ๆ

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

Status: Ongoing Author:
นิยายแปลรักย้อนยุคละมุนใจ กับวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ พร้อมลุ้นรักต่างชนชั้น ‘หนิงเมิ่งเหยา’ ย้อนอดีตกลับมาในยุคจีนโบราณพร้อมกับคนรักที่กำลังจะแต่งงานกัน ทว่านางกลายเป็นเด็กกำพร้าไร้ที่พึ่งพิง ในขณะที่คนรักของนางเป็นถึงซื่อจื่อ นางคิดว่าชนชั้นคงจะไม่เป็นอุปสรรคระหว่างพวกเขา แต่นางคิดผิด… เมื่อเขามาขอให้นางไปเป็นอนุภรรยา นางจึงตัดความสัมพันธ์จอมปลอมนี่ทิ้งเสีย! แล้วหนีไปตั้งต้นชีวิตใหม่อย่างสันโดษ พร้อมหาทางเป็นผู้ร่ำรวยในหมู่บ้านเล็กๆ บนเขา กระทั่งวันหนึ่ง นางพบกับ ‘เฉียวเทียนช่าง’ พรานป่าที่นางมักจะขอซื้อสัตว์ที่เขาล่าได้อยู่เสมอ ความสนิทสนมจึงค่อยๆ ก่อให้เกิดรักครั้งใหม่ แต่…เขาจะเป็นแค่พรานป่าจริงหรือ? ไม่หรอก…นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความลับและความสัมพันธ์ของพวกเขาเท่านั้น!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset