บทที่ 507 พวกเราไม่ใช่คนเถื่อน
เมื่อหยางซู่อวิ๋นเห็นว่าหยางเล่อเล่อกำลังจะจากไปจริงๆ นางก็กรีดร้องขึ้นมา
“หยางเล่อเล่อ หยุดเดี๋ยวนี้ เจ้าจะทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้ นางคนสารเลว”
ถ้อยคำพร่ำบ่นของหยางซู่อวิ๋นทำให้สีหน้าเหลยอันเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาจะทนให้คนอื่นมาด่าว่าภรรยาเขาเฉยๆ ได้อย่างไรเล่า
“เล่อเอ๋อร์ เข้าไปข้างในแล้วชมฉากนี้กันเถิด” เหลยอันเปลี่ยนใจขึ้นมาทันใด เขาลากหยางเล่อเล่อเข้าไปข้างใน
สุนัขตัวใหญ่ที่ล้อมหยางซู่อวิ๋นไว้ดูจะไม่เห็นพวกเขา และปล่อยให้ทั้งสองเข้าไปในขณะที่พวกมันยังล้อมหยางซู่อวิ๋นต่อไป
ตอนนี้ฟางช่วยชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของหยางซู่อวิ๋นได้หายไปแล้ว นางไม่มีทางจะได้ไปจากตรงนี้ต่อให้ต้องการเพียงใด
เฉียวเทียนช่างมองยังเหลยอัน “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
“เรากำลังเพลิดเพลินกันอยู่ในบ้านดีๆ ก็ได้ยินเสียงหนวกหูเลยออกมาดู ไม่คิดเลยว่าหญิงผู้นี้จะไม่รู้ว่าสิ่งใดดีสำหรับนาง” เหลยอันหยิบผลไม้แช่อิ่มบนโต๊ะมาโยนใส่ปากแล้วเล่าอย่างไม่ใส่ใจ
หยางเล่อเล่อรู้สึกหงุดหงิด นางชำเลืองมองไปข้างนอก แววตาโกรธเคือง “นางพยายามจะทำอะไรกัน” มีลูกพี่ลูกน้องเช่นนี้ นางรู้สึกไม่มีหน้าจะมาพบหนิงเมิ่งเหยา
หนิงเมิ่งเหยากำลังเล่นของเล่นกับเจ้าลิงน้อย เมื่อเห็นใบหน้าโกรธเกรี้ยวของหยางเล่อเล่อ นางก็ยิ้มให้แล้วพูดว่า “นางละโมบ พยายามจะเอาของที่ไม่ใช่ของนาง”
“ใช่ คนพรรค์นั้นต้องโดนสั่งสอนเสียบ้าง” เฉียวเทียนช่างที่อยู่ข้างนางเสริม
หนานกงเยี่ยนทำเสียงไม่พอใจ “เราน่าจะโยนนางไปก้นเหว”
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตากระตุก โยนคนลงเหว จะได้ป้อนนางให้สัตว์ขย้ำหรือ
อวี้เฟิงพยักหน้า “ท่านลุงพูดถูก ถ้านางไม่รู้ว่าอะไรดีสำหรับนาง ทำเช่นนี้ก็ไม่เลว”
หนิงเมิ่งเหยาขมวดคิ้ว ดูแล้วนางคงเป็นคนเดียวที่ยังเป็นผู้เป็นคนอยู่
“พวากเราไม่ใช่คนเถื่อน เจ้าช่วยเลิกทำตัวป่าเถื่อนใช้ความรุนแรงได้หรือไม่” หนิงเมิ่งเหยาถอนหายใจพลางสั่งสอนอวี้เฟิง
หยางเล่อเล่อตากระตุก นี่เหยาเหยาล้อเล่นอยู่ใช่หรือไม่
เสียงกรีดร้องดังมาจากข้างนอกเป็นระยะ กระทั่งหยางเล่อเล่อยังได้ยิน ท่าทางหยางซู่อวิ๋นใกล้จะเสียสติเพราะสุนัขพวกนั้น
ขณะที่หยางเล่อเล่อกำลังคิดอยู่ หยางซู่อวิ๋นก็กำลังมองพวกสุนัขตรงหน้า สีหน้าหวาดผวา
นางอยากจะเข้าไปข้างในแต่ไม่กล้าขยับ จะไปจากที่นี่ยังทำไม่ได้
นางทำได้เพียงยืนอย่างหวาดกลัว
นางเฉิงออกมาตามหาหยางซู่อวิ๋นแต่หาตัวนางไม่เจอ จนมาถึงบ้านหนิงเมิ่งเหยา นางเพิ่งมาถึงประตูทางเข้าบ้าน ก็เห็นหยางซู่อวิ๋นยืนอยู่ตรงนั้น มีสุนัขสี่ถึงห้าตัวขวางทางอยู่ นางเฉิงก็เดือดดาลขึ้นมาทันใด
นางมาที่นี่จริงๆ ด้วย
“หยางซู่อวิ๋น เจ้า…เจ้านี่มันเหลือเกิน ถ้าเช่นนี้ ต่อไปอย่าได้เสนอหน้ากลับมา พี่ใหญ่ สะใภ้ใหญ่ กลับกันเถอะ” ผู้เฒ่าหยางกล่าวด้วยโทสะ
นางเฉิงมองบุตรสาวด้วยความผิดหวัง พวกนางคงไม่โกรธถึงเพียงนี้ถ้านางกลับบ้านโดยดี แต่นางก็ไม่ยอมกลับ ทั้งยังวิ่งมาถึงที่นี่ หาเรื่องให้พวกนางเสียหน้าแท้ๆ
“ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย”
คนตระกูลหยางปรายตามองหยางซู่อวิ๋น แล้วพากันส่ายศีรษะด้วยความผิดหวัง หญิงสาวแสนดีในอดีตกลายเป็นคนเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
“ไปกันเสียทีเถอะ” ผู้เฒ่าอาวุโสหยางกล่าวอย่างเคืองโกรธเมื่อเห็นพี่ใหญ่หยางและคนอื่นยังไม่เริ่มเดิน
พี่ใหญ่หยางมองหยางซู่อวิ๋นแล้วส่ายศีรษะ เขาหันหลังให้นางแล้วเดินจากไป ดูเหมือนไม่อยากยุ่งกับหยางซู่อวิ๋นอีกต่อไป
หยางซู่อวิ๋นมองบิดามารดาเดินจากไปอย่างหวาดกลัว สายตานางมีความไม่พอใจ “ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย”
ข้างใน หยางเล่อเล่อได้ยินเสียงด้านนอก นางอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ “หรือท่านพ่อท่านแม่ของข้าก็มาที่นี่ด้วย”
บทที่ 508 ไม่อาจอยู่ร่วมกับคนเช่นเจ้า
ในท้ายที่สุด หนิงเมิ่งเหยาก็รักษาหน้าให้ตระกูลของหยางเล่อเล่อไว้ และมอบหนทางรอดให้หยางซู่อวิ๋น
ทว่าหนิงเมิ่งเหยาหารู้ไม่ว่า สิ่งที่นางทำกลับทำให้หยางซู่อวิ๋นคิดว่าเฉียวเทียนช่างเป็นคนช่วยนาง
เมื่อสุนัขที่ล้อมตัวนางไว้ไปแล้ว หน้านางผุดรอยยิ้มอิ่มเอมใจ คิดว่าเฉียวเทียนช่างเห็นค่านาง
เมื่อนางเชื่อเช่นนั้น หยางซู่อวิ๋นก็ยิ้มเอียงอาย ดั่งว่ามองเห็นภาพวันที่ตนได้เป็นภรรยาของเฉียวเทียนช่าง
หยางซู่อวิ๋นรีบเดินเข้าไปข้างใน แต่นางก้าวเข้าไปได้ไม่กี่ก้าวก็โดนหญิงสาวรูปโฉมงดงามมาขวางทาง
นางมองหญิงนางนั้นที่มายืนขวางตน หยางซู่อวิ๋นย่นหัวคิ้วเข้าหากัน “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร กล้ามาขวางทางข้าได้อย่างไร”
ชิงซวงมองหยางซู่อวิ๋นอย่างชิงชัง “เจ้ามาจากไหนก็กลับไปทางนั้นเสีย มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าทำตัวหยาบคาย”
“พี่ใหญ่เฉียวรู้หรือไม่ว่าเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวถูกเขาลงโทษหรือ” ตอนแรกหยางซู่อวิ๋นนึกกลัวสายตาของชิงซวง แต่พอนึกได้ว่าเฉียวเทียนช่างช่วยนางไว้ นางจึงมั่นใจมากขึ้น
ชิงซวงทำตาโต มองหยางซู่อวิ๋นไม่ต่างกับมองคนโง่ แล้วยิ้มเหยียดหยาม “นายน้อยน่ะหรือจะลงโทษข้าเพราะเจ้า เจ้ายังไม่ตื่นหรืออย่างไรกัน” นางผู้นี้กำลังเดินละเมอหรือ
สีหน้าหยางซู่อวิ๋นเปลี่ยนไป นางโต้ตอบอย่างโกรธเกรี้ยว “เห็นๆ กันอยู่ว่าพี่ใหญ่เฉียวเพิ่งช่วยข้าไว้”
ชิงซวงกลั้นหัวเราะไม่อยู่ นางมองหยางซู่อวิ๋นด้วยความสงสัย “เจ้าหมาน้อยพวกนั้น คุณหนูของเราเป็นคนเรียกกลับต่างหาก นายท่านไม่ได้ทำอะไรเลย”
“เจ้าพูดจาเพ้อเจ้อ” หน้าหยางซู่อวิ๋นแดงด้วยความโกรธ กล้ามาหลอกนางได้อย่างไร
ชิงซวงมองหยางซู่อวิ๋นนิ่ง นางยิ้มแล้วพูด “เจ้าจะไปหรือไม่”
“ข้าต้องการพบพี่ใหญ่เฉียว หลบไปเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้น ข้าจะขอให้พี่ใหญ่เฉียวลงโทษเจ้า” หยางซู่อวิ๋นเดือดดาล
ชิงซวงกุมขมับอย่างอับจนคำพูด “เห็นที ข้าควรจะต้องโยนเจ้าออกไปเลย จะได้ไม่เสียเวลา”
พึมพำเสร็จ ชิงซวงก็เดินไปยืนข้างหยางซู่อวิ๋น แล้ววางมือลงบนไหล่พลันผลักนางออกไปโดยตรง แรงที่นางใช้ไร้ความปรานีและเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เมื่อผลักนางออกไป ชิงซวงก็บรรจงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมือของตนเหมือนเพิ่งจับสิ่งสกปรกมา
“นางข้ารับใช้ชั้นต่ำ…”
เสียงฝ่ามือกระทบแก้มดังขัดคำพูดของหยางซู่อวิ๋น
แก้มนางเปลี่ยนสีเพราะถูกตบอย่างแรง
ชิงซวงสะบัดมือ ขมวดคิ้ว “ผิวหน้าเจ้าหนานัก”
“เจ้า…”
“แม่นาง อย่าได้คิดว่าเจ้าจะมาส่งเสียงร้องไม่เลิกราเพียงเพราะคุณหนูของเราเมตตาเจ้าเชียว ถ้าเจ้าทำให้เรารำคาญใจมากเข้า ข้าจะปล่อยให้เจ้าตายก่อนได้รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยซ้ำ เจ้าจะลองดูก็ได้ถ้าไม่เชื่อคำพูดข้า” นางมีวิธีมากมายสำหรับใช้สังหารผู้อื่น บางรายตายอย่างไม่ทราบสาเหตุด้วยมือของนาง ช่างง่ายดายนัก
หยางซู่อวิ๋นตัวสั่นเพราะสายตาของชิงซวง นางกัดฟันกรอด “ข้า…ข้า….เจ้า…ถ้าเจ้าฆ่าใคร เจ้าจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต”
“ถ้าเจ้าสนใจ ข้าทำให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริงได้นะ” ความเฉยชาของชิงซวงทำให้หยางซู่อวิ๋นหวาดกลัว นางมองไปทางบ้านหลังนั้น ในนั้นว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่ชายที่นางกำลังคะนึงหา
หยางซู่อวิ๋นมองชิงซวงอย่างเดือดดาล แต่ทำได้เพียงหันหลังแล้วเดินจากไป
เมื่อหยางซู่อวิ๋นไปถึงบ้านของหยางเล่อเล่อ ประตูก็ปิดตอนที่นางกำลังจะเข้าไป เสียงหยางเล่อเล่อแว่วมาจากข้างใน “เรือนของเราเล็กนัก ต้อนรับแขกใหญ่คับฟ้าเช่นเจ้าไม่ได้หรอก”
“ข้ามาที่นี่เพื่อมาหาท่านพ่อท่านแม่ของข้า” สีหน้าหยางซู่อวิ๋นเปลี่ยนจากเขียวเป็นขาว นางรู้สึกเคียดแค้นตระกูลหยางอี้นัก วันใดที่นางประสบความสำเร็จ นางจะทำให้พวกเขาได้ลิ้มรสกับความสิ้นหวัง
“ท่านลุงและท่านป้ากลับไปนานแล้ว”
ดวงตาหยางซู่อวิ๋นเบิกกว้าง หมายความว่าอย่างไร พวกเขากลับไปแล้ว พวกเขาไม่รอนางหรือ
หยางซู่อวิ๋นเดินจากไปพร้อมความรู้สึกโกรธ นางมุ่งหน้ากลับไปยังหมู่บ้านตระกูลหยาง สีหน้านางดุร้ายจนเด็กๆ ที่อยู่ข้างถนนร้องไห้ด้วยความกลัว