บทที่ 511 โชคร้ายของตระกูล
เขาก้าวไปหาหยางซู่อวิ๋นทีละก้าว นางสะดุ้งและมองเฉียวเทียนช่างอย่างระแวดระวัง “เจ้า…จะทำอะไร”
เฉียวเทียนช่างปรายตามองหยางซู่อวิ๋นแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “นับจากนี้ไป อย่าได้เข้ามาในหมู่บ้านไป๋ซานแม้แต่ก้าวเดียว นี่คือบทเรียนสำหรับเจ้า” เขาพูดพร้อมคว้าคางหยางซู่อวิ๋นไว้แล้วออกแรงประมาณหนึ่ง คางของหยางซู๋อวิ๋นก็โดนเฉียวเทียนช่างเคลื่อนจนหลุด
“อ๊ากกกกก…อ๊ากกกกก…” หยางซู่อวิ๋นร้องอย่างเจ็บปวด แววตาหวาดผวามองเฉียวเทียนช่าง ชายผู้นี้น่ากลัวยิ่งนัก
แต่ก่อน นางคิดเพียงได้อยู่กับเขา แต่พอมาคิดดูในตอนนี้ นางต้องบ้าไปแล้วแน่นอนที่อยากจะอยู่กับเขา
บัดนี้หยางซู่อวิ๋นรู้สึกเสียใจจนปวดมวนท้องอยากอาเจียน แต่นางจะทำอะไรได้
หยางซู่อวิ๋นไปหาหนิงเมิ่งเหยา นิ้วชี้คางตัวเองแล้วมองอย่างอ้อนวอน
หนิงเมิ่งเหยายักไหล่ บอกเป็นนัยว่านางทำอะไรไม่ได้
“เสียใจด้วย แต่ข้าจะไม่ยุ่งกับคนที่เทียนช่างอยากสอนบทเรียน เทียนช่าง กลับกันเถอะ” เดิมนางอยากจะไปบ้านของหยางเล่อเล่อเสียหน่อย ไม่คิดว่าจะมาเจอหญิงนางนี้เข้า ช่างโชคร้ายเสียจริง
เฉียวเทียนช่างก้มศีรษะลงมองบุตรที่ยังหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของหนิงเมิ่งเหยา “ไปกันเถอะ ซางเอ๋อร์หลับแล้ว”
หนิงเมิ่งเหยาก้มลงดูแล้วเห็นว่าเจ้าลิงน้อยนอนหลับสนิทโดยที่นางไม่ทันรู้ตัว
ทั้งสองอุ้มบุตรแล้วหันหลังให้ ไม่สนใจหยางซู่อวิ๋น หยางซู่อวิ๋นกระวนกระวาย นางรีบลุกขึ้นแล้วไล่ตามคู่สามีภรรยาไป
นางไล่ตามพวกเขาไปถึงทางเข้าบ้าน เมื่อหยางเล่อเล่อเห็นหยางซู่อวิ๋นตามหนิงเมิ่งเหยาและเฉียวเทียนช่างมา ตาของนางก็กระตุก
“หยางซู่อวิ๋น เจ้ามาทำอะไรที่นี่” หยางเล่อเล่อรู้สึกเดือดดาล
หยางซู่อวิ๋นชี้คางตัวเอง แล้วชี้ไปที่เฉียวเทียนช่าง สีหน้านางเจ็บปวดรวดร้าว
“เจ้าว่าอะไร” หยางเล่อเล่อขมวดคิ้ว หยางซู่อวิ๋นทำอะไรของนางกัน ทำไมนางจึงไม่พูด
หนิงเมิ่งเหยาอธิบายให้แทนเพราะนึกสงสาร “เทียนช่างดึงคางนางหลุด”
“เพราะอะไร” ในหัวหยางเล่อเล่อว่างเปล่า สัญชาตญาณบอกนางว่าลูกพี่ลูกน้องของนางคงทำอะไรน่ารังเกียจอีกแล้ว
หนิงเมิ่งเหยาเล่าสิ่งที่หยางซู่อวิ๋นพูดให้หยางเล่อเล่อฟัง
ดวงตาหยางเล่อเล่อกระตุกอีกครั้ง นางทำตาโตมองหยางซู่อวิ๋นอย่างไม่อยากเชื่อ สายตาเหมือนกำลังมองตัวประหลาด
มีคนโง่เง่าถึงเพียงนี้ได้อย่างไร
“หยางซู่อวิ๋น ข้าสงสัยเสียจริง ท่านลุงท่านป้ามีลูกสาวเช่นเจ้าได้อย่างไร เจ้ามันเป็นโชคร้ายของตระกูลชัดๆ” ถ้าเป็นคนอื่น หยางซู่อวิ๋นคงจะตายไปนานแล้ว นางคิดว่าตนจะส่งเสียงก่อกวนอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ หรือ นางคิดว่าตนเป็นใครกัน
หยางซู่อวิ๋นชี้คางตัวเองแล้วมองหยางเล่อเล่อด้วยแววตาอ้อนวอน นางอยากให้หยางเล่อเล่อช่วยขอร้องแทนตัวเองให้หนิงเมิ่งเหยาและคนอื่นช่วยรักษาคางให้นาง
หยางเล่อเล่อไม่อยากเห็นหน้าหยางซู่อวิ๋น นางรู้สึกโกรธทุกครั้งที่เห็นหญิงสาว
“เหยาเหยา”
หนิงเมิ่งเหยาพยักหน้าแล้วมองทางเฉียวเทียนช่าง “เทียนช่าง ลืมเรื่องนี้ไปเถอะ” ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหยางซู่อวิ๋นจริงๆ หยางเล่อเล่อจะอธิบายกับลุงของนางลำบาก
เฉียวเทียนช่างพ่นหัวเราะเสียงเย็น เขาเดินไปหาหยางซู่อวิ๋น ผู้คนได้ยินเสียงกระดูกลั่น กับเสียงหยางซู่อวิ๋นกรีดร้องเจ็บปวด
“ข้าหายแล้วหรือ ข้าพูดได้แล้ว” หยางซู่อวิ๋นแตะคางตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ นางหายได้ทั้งแบบนี้เลยหรือ มันช่างน่าเหลือเชื่อ
นางชำเลืองมองเฉียวเทียนช่าง ในแววตาฉายความรู้สึกหวาดกลัว
หยางเล่อเล่อกำลังจะเอ่ยบางอย่าง แต่หยางซู่อวิ๋นลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลแล้ววิ่งหนีออกไปสุดฝีเท้า นางวิ่งเร็วเสียจนหยางเล่อเล่อตะลึง
“พวกเจ้าสองคนไม่ใช่คนชั่วเสียหน่อย เหตุใดนางถึงกลัวพวกเจ้าเช่นนี้” หยางเล่อเล่อคิดว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติกับสมองของหยางซู่อวิ๋น มิเช่นนั้นนางจะวิ่งเร็วขนาดนั้นหรือ
หนิงเมิ่งเหยารู้สึกพอใจยิ่งนัก “เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยหยางซู่อวิ๋นจะได้ไม่กล้ามาที่นี่อีก”
หยางซู่อวิ๋นไม่กล้าเข้าใกล้เฉียวเทียนช่างอีกแล้วอย่างที่หนิงเมิ่งเหยาว่า ชายผู้นั้นน่ากลัวเกินไป เขาไม่ได้น่าชื่นชมอย่างที่ตาเห็น เขาเป็นชายที่ซ่อนตัวตนไว้หลังแต่งงาน นางไม่อยากได้คนพรรค์นี้
หนิงเมิ่งเหยาลูบไหล่เฉียวเทียนช่างอย่างพอใจ นางกล่าวอย่างจริงจัง “เทียนช่าง แบบนี้ดียิ่งนัก เป็นเช่นนี้ต่อไปดีมาก”
บทที่ 512 มาหาเจ้า
เฉียวเทียนช่างมองสตรีตรงหน้า เขาพูดไม่ออก ดวงตาเขากระตุกขณะเคาะศีรษะนาง “เจ้าพูดไร้สาระอะไร”
หนิงเมิ่งเหยาขบขัน นางพยักหน้า ท่าทางของนางยียวนยิ่งนัก
ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะขณะเดินเข้าบ้าน หลังจากกลับมากันแล้ว ก็มีชายสวมผ้าปักลายดอกอยู่ตรงทางเข้า เขามองไปยังบ้านแล้วพึมพำ “ที่นี่อย่างนั้นหรือ”
หยางเล่อเล่อตั้งใจจะไปที่บ้านบิดามารดาเพื่อเก็บผักกลับมากินที่บ้าน นางไม่นึกว่าทันทีที่ออกมาก็ได้พบกับชายท่าทางนุ่มนวลสง่างามยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าบ้านของหนิงเมิ่งเหยาด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“เจ้ามาหาเหยาเหยากับคนอื่นๆ ใช่หรือไม่” หยางเล่อเล่อเดินไปหา นางยิ้มให้ขณะมองชายตรงหน้า
ชายคนนั้นมองมาทางหยางเล่อเล่อแล้วพยักหน้า “ใช่แล้ว”
“รอประเดี๋ยว ข้าจะไปเรียกพวกเขาให้” พูดจบ นางก็เดินไปที่บ้าน
ไม่นานนักหนิงเมิ่งเหยาก็ออกมากับหยางเล่อเล่อ
หนิงเมิ่งเหยาขมวดคิ้วเมื่อเห็นชายแปลกหน้ายืนอยู่ข้างนอก
“เจ้าเป็นใครกัน” นางไม่รู้จักคนผู้นี้
ชายคนนั้นจ้องมองหนิงเมิ่งเหยา “หย่าเอ๋อร์”
หญิงตรงหน้าเขาช่างคล้ายกับหญิงในความทรงจำ แต่นางดูมีไหวพริบมากกว่า แตกต่างจากหญิงผู้นุ่มนวลในความทรงจำอย่างสิ้นเชิง
หนิงเมิ่งเหยาขมวดคิ้ว “เสียใจด้วย เจ้าจำคนผิดแล้ว”
ชายคนนั้นยิ้มแล้วส่ายศีรษะ “ไม่เลย ข้าไม่ได้จำผิด บางทีคนที่ข้าตามหาก็คือเจ้า”
หนิงเมิ่งเหยามองชายตรงหน้าอย่างสงสัย “เจ้าเป็นใคร”
“ไป๋โม่”
หนิงเมิ่งเหยาเอียงศีรษะ ประเมินชายตรงหน้าแล้วส่ายหน้า “ข้าไม่รู้จักเจ้า”
“แล้วเจ้าจะรู้จักข้า” ไป๋โม่ยิ้ม
แม้จะคล้ายกัน แต่ก็หาใช่คนเดียวกันไม่ คนผู้นั้นไม่ได้มีท่าทางแบบหนิงเมิ่งแหยา ส่วนหนิงเมิ่งเหยาเองก็ไม่ได้มีความนุ่มนวลอย่างที่คนผู้นั้นมี
หนิงเมิ่งเหยาเกลียดการคาดเดา นางขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น “เจ้ามาที่นี่ทำไมกันแน่”
“ข้ามาที่นี่เพื่อพบเจ้าโดยเฉพาะ” ไป๋โม่มีสีหน้านุ่มนวลยามมองใบหน้าของหนิงเมิ่งเหยา ถ้าดูให้ดีจะเห็นความอ่อนโยนในดวงตาเขา
หนิงเมิ่งเหยาปรายตามองไป๋โม่ “ตามข้ามา”
ไป๋โม่ตามหนิงเมิ่งเหยาเข้าไปในบ้าน
ไป๋โม่ตะลึงงันเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่คิดว่าจะมีสถานที่สวยงามเช่นนี้สร้างไว้ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก
ทันทีที่เข้ามาเขาก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ กลิ่นเหล่านั้นทำให้ไป๋โม่รู้สึกหลงใหล ดั่งว่าตนควรจะอยู่ที่นี่
หนิงเมิ่งเหยานิ่วหน้า ยืนมองอยู่ด้านข้าง นางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองจึงยืนเงียบๆ แต่นางรู้สึกว่าไม่ควรไปขัดจังหวะชายผู้นี้
หนานกงเยี่ยนประหลาดใจเมื่อเห็นไป๋โม่ “ไป๋โม่ เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
ไป๋โม่ดูประหลาดใจ “เยี่ยน ไม่เจอกันตั้งนาน”
หนิงเมิ่งเหยากะพริบตาปริบๆ นางถามด้วยความแปลกใจ “ท่านพ่อ ท่านรู้จักเขาหรือ”
“ใช่ เรารู้จักกัน เขาเคยเป็นสหายรักของแม่เจ้าและข้า” หนานกงเยี่ยนยิ้มกว้างยามคิดถึงอดีต
เขาดีใจที่ได้พบเพื่อนเก่า
“โอ้” ชายผู้นี้ดูเยาว์วัยนัก นางไม่นึกเลยว่าเขาจะเป็นคนรุ่นเดียวกับหนานกงเยี่ยน
หนานกงเยี่ยนทักทายและเชิญให้ไป๋โม่นั่งลงอย่างมีความสุขพลางถามด้วยความสงสัย
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
“ข้าเจอหย่าเอ๋อร์ แต่ไม่รู้จะนำตัวนางออกมาอย่างไร” ไป๋โม่ก้มหน้าลง แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อยจนไม่มีใครทันเห็นชั่วขณะอันแปลกประหลาดนั้น แม้แต่หนิงเมิ่งเหยาเอง
หนานกงเยี่ยนตาโต มองไป๋โม่อย่างไม่อยากเชื่อ
“ไป๋โม่ เจ้าพูดจริงหรือ”
เขาเจอตัวหย่าเอ๋อร์แล้วจริงหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เขาต้องไปนำตัวนางกลับมา
ไป๋โม่ผงกศีรษะแล้วขมวดคิ้ว เขาดูจะกำลังประสบปัญหายุ่งยาก “ข้าพูดจริง ตอนนี้หย่าเอ๋อร์อยู่ในกำมือของราชครูที่เหมียวเจียง”
หนานกงเยี่ยนประหลาดใจ “หย่าเอ๋อร์เกี่ยวอะไรกับเขา”