ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน – ตอนที่ 75 อิจฉาริษยา + บทที่ 76 ของขวัญปีใหม่

บทที่ 75 อิจฉาริษยา

เกวียนเดินทางไปถึงเมืองโดยมีบรรยากาศวุ่นวายตลอดทาง หนิงเมิ่งเหยา และหยางเล่อเล่อลงไปจากเกวียนด้วยกัน พวกนางจูงมือเดินจากไป ไม่แม้แต่เหลียวมองสองแม่ลูก

ทั้งสองไปหาท่านป้าลั่วก่อนเป็นอันดับแรก หยางเล่อเล่อซื้อผ้าสองม้วนก่อนออกมา

“เหยาเหยา ชิ้นนี้ เจ้าคิดว่าอย่างไร” ที่ร้านเครื่องประดับ หยางเล่อเล่อหยิบปิ่นปักผมเงินขึ้นมาถามหนิงเมิ่งเหยา

หนิงเมิ่งเหยาพินิจมองแล้วส่ายศีรษะเบาๆ ปิ่นเงินชิ้นนี้ไม่เลวนักหรอก แต่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินไป

สุดท้ายหนิงเมิ่งเหยาก็ช่วยหยางเล่อเล่อเลือกปิ่นปักผมสองชิ้น เป็นเงินทั้งคู่แต่ลวดลายสวยกว่าอันแรก

หยางเล่อเล่อมองปิ่นเงินสองชิ้นในมืออย่างพึงพอใจ ก่อนจะเลือกปิ่นปักผมอีกชิ้นให้พี่สะใภ้ ปิ่นทั้งสามชิ้นรวมแล้วราคาหกตำลึง ใจหยางเล่อเล่อแทบสลาย

“เจ้าทำอะไรน่ะ” หลังจากออกมาจากร้านเครื่องประดับ หยางเล่อเล่อทำหน้าอึดอัดเหมือนนางเพิ่งสูญเสียครั้งใหญ่หลวง

“ข้าเอาไปคืนร้านดีหรือไม่” หยางเล่อเล่อค่อยๆ ถาม

หนิงเมิ่งเหยาขมวดคิ้วจนหน้าผากย่นขณะจ้องหยางเล่อเล่อ นี่เพื่อนางกำลังหยอกนางเล่นใช่หรือไม่

“แค่หกตำลึงเอง พอหลังปีใหม่ ท่านป้าลั่วก็เอาผ้าปักเจ้าไปขาย เจ้าก็จะได้เงินคืนมิใช่รึ” ‘หกตำลึงเงินไม่คุ้มค่าหรือ’

หยางเล่อเล่อเอียงศีรษะครุ่นคิดแล้วก็เห็นด้วย ความปวดใจนางหายเป็นปลิดทิ้ง นางปักปิ่นเข้าไปในผมแล้วเอาอีกชิ้นหนึ่งเสียบที่ผมของหนิงเมิ่งเหยา

“เจ้าให้ข้าทำไม”

“ทำไมข้าจะไม่ให้เจ้าล่ะ เจ้าช่วยข้าตั้งหลายครั้ง ข้าเลยซื้อปิ่นให้เจ้าเป็นของขวัญ ข้ารู้เจ้าไม่ได้ขาดแคลนปิ่นหรอก แต่ว่า…” นางคิดว่าหนิงเมิ่งเหยาไม่ชอบปิ่นแบบนี้ จึงนึกผิดหวังเล็กน้อย

“ข้าก็ไม่ได้บอกว่าไม่อยากได้เสียหน่อย เอ้า นี่เจ้า อย่าทำหน้าเช่นนั้นสิ” หนิงเมิ่งเหยาเคาะศีรษะหยางเล่อเล่อแล้วบอกไปอย่างช่วยไม่ได้

เท่านั้นหยางเล่อเล่อก็มีความสุข กลับมาแย้มยิ้มพูดคุยกับหยิงเมิ่งเหยาขณะที่พวกนางเดินไปที่อื่น

“ช่วงปีใหม่ ข้าอยากไปดูโคมดอกไม้ในเมือง เจ้าอยากไปหรือไม่” หนิงเมิ่งเหยาพลันนึกถึงที่สัญญากับชิงจู๋ขึ้นมาได้แล้วเอ่ยถามหยางเล่อเล่อที่อยู่ข้างกาย

หยางเล่อเล่อนิ่งคิดแล้วพยักหน้าตกลง “ได้สิ ข้าเองโตจนป่านนี้ ยังไม่เคยไปเห็นเลย ข้าอยากไปดูเหมือนกัน”

“ตกลง ถ้าอย่างนั้นไว้ข้าจะเรียกเจ้าแล้วกัน”

“ตกลง”

เมื่อถึงเวลากลับ หนิงเมิ่งเหยากับหยางเล่อเล่อมีของติดมือไม่น้อยกลับไปในเมืองตรงที่ที่คนจำนวนหนึ่งมารวมตัวกัน

หยางซิ่วเอ๋อร์เห็นของในมือพวกนางอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าสิ่งที่นางนึกริษยาที่สุดคือปิ่นที่เพิ่งซื้อใหม่บนผมพวกนาง

เพราะอะไรชีวิตพวกนางถึงดีกว่าของนางกัน

ต้องเห็นพวกนางหัวเราะร่าพลางพูดคุยกัน หยางซิ่วเอ๋อร์อยากจะฉีกพวกนางเป็นชิ้นๆ

แต่นางไม่อาจหาญทำเช่นนั้น นางกลัวว่าถ้าทำเช่นนั้นจะโดนหนิงเมิ่งเหยาตามล้างแค้น

บนเกวียนเทียมวัว คนที่คุ้นหน้ากันพูดคุยถึงของที่พวกตนซื้อ บ้างก็ถามหยางเล่อเล่อกับหนิงเมิ่งเหยา

คนส่วนใหญ่ต่างซื้อผ้า และของสำหรับปีใหม่

เมื่อกลับไปถึงหมู่บ้าน หนิงเมิ่งเหยาเตรียมจะลงพร้อมของที่นางซื้อมา แต่หยางซิ่วเอ๋อร์เตะของเหล่านั้นร่วงลงไปบนพื้น

หนิงเมิ่งเหยาขมวดคิ้ว ตามองข้าวของกระจัดกระจาย นอกจากนางแล้ว คนอื่นบนเกวียนต่างก็มองหยางซิ่วเอ๋อร์อย่างไม่สบอารมณ์

“ข้าถามจริงเถอะ แม่นางซิ่วเอ๋อร์ เจ้าเตะข้าวของคนอื่นตกพื้นแบบนี้ เจ้าไม่คิดจะขอโทษเลยรึ โดนเลี้ยงดูมาแบบไหนกัน”

“จริงด้วย”

“นางสมควรโดนแล้ว ทำไมต้องขอโทษ” นางหลัวพ่นคำเยาะเสียงเย็นชาแล้วตะโกนแทรก

ฝูงชนเห็นนางหลัวทำตัวเช่นนี้ก็ย่นหน้า นางหลัวกลายมาเป็นคนแบบนี้ ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี

หนิงเมิ่งเหยารู้ว่าของบนพื้นไม่ได้สกปรก นางหยิบของขึ้นมาแล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำเดียว

เมื่อหนิงเมิ่งเหยาวางตัวเช่นนี้ ความรู้สึกของชาวบ้านต่อสองแม่ลูกยิ่งแย่กว่าเก่า

“แม่นางหลัว ไม่ใช่ข้าว่าเจ้าหรอกนะ แต่หยางซิ่วเอ๋อร์ของตระกูลเจ้าถึงวัยแต่งงานแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าไม่กลัวทำตัวแบบนี้จะหาลูกเขยไม่ได้รึ”

“ทำตัวแบบนี้ ใครจะอยากได้ เขากลัวว่าแต่งนางเข้าไปแล้วจะทำให้บ้านวุ่นวายกันหมด”

“ถูกต้อง”

“หยางซิ่วเอ๋อร์ เจ้าคิดว่าทำตัวแบบนี้แล้วเหยาเหยาจะสนใจเจ้าหรือ โง่งมนัก” หยางเล่อเล่อแสยะยิ้มเหน็บแนม หญิงคนนี้จะไร้ยางอายเกินไปแล้ว เที่ยวทำตัวเช่นนี้ ทำให้ตัวนางขายขี้หน้าเองแท้ๆ

บทที่ 76 ของขวัญปีใหม่

หยางซิ่วเอ๋อร์จ้องแผ่นหลังของหยางเล่อเล่อที่กำลังเดินไปแล้วกู่ร้องลั่น “หยางเล่อเล่อ เจ้าเอาอะไรมาว่าข้าแบบนี้ ทุกอย่างที่เจ้ามีวันนี้ควรเป็นของข้า”

ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเล่อเล่อมาวุ่นวาย ทุกอย่างที่หยางเล่อเล่อมีในวันนี้ควรจะเป็นของนาง ไม่ใช่สภาพอย่างที่เป็นตอนนี้

เมื่อเห็นว่าหยางซิ่วเอ๋อร์ไม่คิดสำนึก ทั้งยังผยองกว่าเดิม นางได้แต่ส่ายศีรษะ ‘จะจัดการเด็กคนนี้อย่างไรดี’

คนทยอยเดินจากไปทีละราย แต่เรื่องที่เกิดขึ้นแพร่ไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ชื่อเสียงของสองแม่ลูกที่ไม่ได้ดีอยู่แล้วยิ่งเลวร้ายลง แต่หนิงเมิ่งเหยาไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด

เมื่อชิงเสวี่ย และคนอื่นๆ เห็นคุณหนูของพวกนางกลับมาพร้อมสีหน้าหม่นหมอง ทุกคนพากันเศร้า เหตุใดคุณหนูออกไปเพียงไม่นานแต่กลับมาอารมณ์ไม่ดีเสียแล้ว

“เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูหรือเจ้าคะ”

“ไม่มีอะไร แค่เจอคนที่ไม่สลักสำคัญอะไร”

“ในเมื่อไม่สลักสำคัญ ทำไมคุณหนูถึงอารมณ์ไม่ดีล่ะเจ้าคะ” ชิงจู๋กะพริบตาปริบๆ ใส่หนิงเมิ่งเหยา

หนิงเมิ่งเหยาพูดไม่ออกไปครู่ก่อนหัวเราะ “ข้าคิดผิดไปเอง ข้าไม่น่าโมโหไปเลยจริงๆ”

นางรีบลบเรื่องนี้ไปจากใจ

วันต่อมา หนิงเมิ่งเหยาไปที่บ้านของหยางจู้เพื่อมอบของขวัญปีใหม่ให้ นางนำบางส่วนไปให้เฉียวเทียนช่างอีกด้วย

แต่ตอนนางนำไปให้ หยางชุ่ยเห็นเข้า สีหน้าบิดเบี้ยวของหยางชุ่ยทำให้หนิงเมิ่งเหยารู้สึกอับจนหนทาง ทำไมปัญหาต้องตามนางไปทุกฝีก้าวเลยหนอ

เฉียวเทียนช่างสังเกตเห็นหยางชุ่ยจ้องมาที่พวกตน แววตาเขาแสดงความรังเกียจ “อย่าไปสนใจนางเลย”

“ข้ารู้แล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อน”

“ถ้าอย่างนั้น ระวังตัวระหว่างเดินกลับด้วย” หิมะตกตลอดสองถึงสามวันมานี้ ถนนจึงลื่น เฉียวเทียนช่างเป็นห่วงว่านางอาจจะลื่นล้มเข้า

“ข้ารู้ เจ้ากลับเข้าไปข้างในเถอะ ข้างนอกนี่หนาวเหลือเกิน” หนิงเมิ่งเหยาโบกมือให้เฉียวเทียนช่างก่อนจะเดินจากไป

เฉียวเทียนช่างมองตามแผ่นหลังของนาง ในมือถือของขวัญปีใหม่ที่หนิงเมิ่งเหยาให้ เมื่อเห็นว่าร่างของนางลับสายตาไปแล้ว เขาหันไปหมายจะกลับเข้าบ้าน

แต่หยางชุ่ยหึงหวงจนขาดสติ “พี่ใหญ่เฉียว ข้าไม่เข้าใจทำไมท่านถึงดีกับนางแพศยานั่นนักหนา!”

อารมณ์ดีในตอนแรกของเฉียวเทียนช่างหายสิ้นเพราะคำพูดของหยางชุ่ย เขามองนางด้วยสายตาเย็นยะเยือก “ถ้าข้าได้ยินเจ้าว่าร้ายนางอีกครั้ง เจ้าเชื่อไหมว่าข้าจะตัดลิ้นเจ้าเสีย”

เขาเกลียดผู้หญิงแบบหยางชุ่ย พวกนางตื๊อไม่รู้จักจบจักสิ้น ช่างน่ารำคาญหาใดเปรียบ

หมู่นี้เขาไม่ได้ขึ้นไปบนเขา แล้วหญิงผู้นี้ก็ใช้โอกาสนี้มาหาเขาทุกวัน ทำให้เขารำคาญยิ่งนัก จนเขาหมกตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ออกมาเพื่อซ่อนตัวจากนางผู้นี้

หยางชุ่ยกำหมัดแน่น และมองเฉียวเทียนช่างถือของเดินจากไป สีหน้านางน่าเกลียดนัก

“เฉียวเทียนช่าง ข้าจะทำให้ท่านเสียใจ” ชายผู้นี้เป็นของนาง คนอื่นจะมาขโมยเขาไปไม่ได้ ใครที่กล้ามาแย่งเขาไป นางจะฆ่าคนผู้นั้น

ตอนยังไม่มีหนิงเมิ่งเหยา เฉียวเทียนช่างก็ดีกับนาง ในใจนางรู้ว่าเพราะหนิงเมิ่งเหยาปรากฏตัว เฉียวเทียนช่างจึงกลายเป็นแบบนี้ไป แล้วนางจะไม่โกรธได้อย่างไร

เฉียวเทียนช่างได้ยินที่หยางชุ่ยพูดก็หยุดเท้าไว้ ใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์พลันแย้มยิ้ม หากแต่เป็นรอยยิ้มที่ชวนขนลุก

“หยางชุ่ย ข้าบอกเจ้าไว้เลยนะ ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรหนิงเมิ่งเหยา ข้าจะทำให้ทั้งตระกูลเจ้าทรมาน ข้าพูดคำไหนคำนั้น ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าก็ลองดูได้เลย”

วินาทีนั้น หยางชุ่ยรู้สึกเลือดในกายนางเย็นเฉียบ นางหลงคิดมาตลอดว่าเฉียวเทียนช่างแสดงออกไม่เก่ง แต่เขาย่อมมีความรู้สึกให้นางอยู่บ้าง บัดนี้นางเข้าใจแล้วว่าทั้งหมดล้วนเป็นตนจินตนาการไปเอง

วินาทีนั้น นางเข้าใจกระจ่างแล้วว่านางคิดเอาเองอยู่เพียงผู้เดียว

“เฉียวเทียนช่าง ท่านไม่กล้าทำแบบนั้นกับข้าหรอก”

เฉียวเทียนช่างยิ้มอย่างประชดประชัน “ข้าจะกล้าหรือไม่ ถ้าเจ้าไม่ลอง เจ้าก็คงไม่รู้หรอก”

กระทั่งเฉียวเทียนช่างปิดประตูแล้ว หยางชุ่ยก็ยังตั้งสติไม่ได้

จนนางเฉินมาเรียก นางถึงหลุดจากภวังค์ ร่างกายนางเย็นเฉียบ

เฉียวเทียนช่างนั่งบนเก้าอี้ มือเคาะโต๊ะ เขาคิดว่าตนไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไป มาโดนวอแวทุกวันเช่นนี้ไม่ใช่ทางที่เขาต้องการ

เขาอยากจะสร้างห้องสักห้อง แต่อากาศหนาว และมีหิมะตก คงจะยากเอาการ

เขาควรรอปีใหม่

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เฉียวเทียนช่างแกะดูของที่หนิงเมิ่งเหยาเอามาให้ มีเนื้อปลา และเนื้อสัตว์ชนิดอื่น กับอาหารที่นางทำเองอีกไม่น้อยเลย

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

นิยายแปลรักย้อนยุคละมุนใจ กับวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ พร้อมลุ้นรักต่างชนชั้น ‘หนิงเมิ่งเหยา’ ย้อนอดีตกลับมาในยุคจีนโบราณพร้อมกับคนรักที่กำลังจะแต่งงานกัน ทว่านางกลายเป็นเด็กกำพร้าไร้ที่พึ่งพิง ในขณะที่คนรักของนางเป็นถึงซื่อจื่อ นางคิดว่าชนชั้นคงจะไม่เป็นอุปสรรคระหว่างพวกเขา แต่นางคิดผิด… เมื่อเขามาขอให้นางไปเป็นอนุภรรยา นางจึงตัดความสัมพันธ์จอมปลอมนี่ทิ้งเสีย! แล้วหนีไปตั้งต้นชีวิตใหม่อย่างสันโดษ พร้อมหาทางเป็นผู้ร่ำรวยในหมู่บ้านเล็กๆ บนเขา กระทั่งวันหนึ่ง นางพบกับ ‘เฉียวเทียนช่าง’ พรานป่าที่นางมักจะขอซื้อสัตว์ที่เขาล่าได้อยู่เสมอ ความสนิทสนมจึงค่อยๆ ก่อให้เกิดรักครั้งใหม่ แต่…เขาจะเป็นแค่พรานป่าจริงหรือ? ไม่หรอก…นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความลับและความสัมพันธ์ของพวกเขาเท่านั้น!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset