บทที่ 145 เจ้ามาทำอะไรที่นี่
พอเฉียวเทียนช่างออกเดินทางไป หนิงเมิ่งเหยารู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย พักหลังมานี้ทั้งสองใช้เวลาด้วยกันแทบตลอดราวกับตัวเขาทากาวติดไว้กับนาง ตอนนี้เขากลับหายหน้าไปไม่อยู่ใกล้ๆ นางพลันรู้สึกเหมือนมีอะไรหายไป
นางมองเส้นด้ายและเข็มในมือ หนิงเมิ่งเหยาส่ายศีรษะพลางยิ้มขื่น ความเคยชินช่างน่ากลัวเสียจริง
ด้ายในมือนางเคยใช้วัดตัวเฉียวเทียนช่างก่อนเขาจะไป นางจะได้เย็บเสื้อให้เขาได้ เพียงคิดถึงดวงตานางก็สดใส พัดให้ความรู้สึกหม่นหมองในใจหายไป
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่มีวันกลับมาเสียเมื่อไร ทำไมนางถึงรู้สึกใจไม่สงบ ดั่งว่าเขาจะไม่กลับมาอีกแล้วกัน
นางถอนหายใจ จากนั้นก็จัดการเย็บชิ้นผ้าในมือต่อ ชิงเสวี่ยและคนอื่นมองหนิงเมิ่งเหยาแล้วพากันแอบยิ้ม
ตั้งแต่พวกนางมาถึง คุณหนูของพวกนางไม่ได้แตะเข็มเย็บผ้าเลย แต่บัดนี้นางกำลังเย็บเสื้อให้เฉียวเทียนช่าง ทำให้พวกนางนึกประหลาดใจ
หลังจากเฉียวเทียนช่างไป หนิงเมิ่งเหยาไปดูโรงงานและบ่อปลาทุกวัน นางยังคงเย็บเสื้อให้เฉียวเทียนช่างขณะนั่งในสวน ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน นางก็เย็บเสร็จไปสองชิ้น
ขณะใช้กรรไกรตัดด้ายออกจากเสื้อ หนิงเมิ่งเหยามองยังเสื้อผ้าในมือ ปากนางมียิ้มละไม รู้สึกพอใจเสื้อผ้าที่ตนเย็บขึ้นมา
“หนิงเมิ่งเหยา นางจิ้งจอก ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”
หนิงเมิ่งเหยาหยุดมือแล้วหันไปทางต้นเสียง แล้วนางก็เห็นหยางชุ่ยตรงประตู ดวงตานางหรี่หยีเล็กน้อย
ใบหน้านางตอนโกรธนี่เหลือเชื่อจริงๆ หนิงเมิ่งเหยาคิดกับตัวเอง
หนิงเมิ่งเหยาวางชิ้นผ้าลงบนม้านั่งข้างๆ แล้วโบกมือไล่ให้ชิงเซวียนกับคนอื่นหลบไป จากนั้นจึงมองหยางชุ่ยแล้วเอ่ยถาม “ช่วยบอกข้าได้หรือไม่ว่าเจ้ามาทำอะไรที่นี่”
หยางชุ่ยจ้องหญิงสาวตรงหน้า หญิงผู้นี้งดงามนัก จนหยางชุ่ยรู้สึกว่าพวกนางมาจากคนละโลก
นางยังรู้สึกต่ำต้อยน่าเวทนาเมื่ออยู่ต่อหน้าหนิงเมิ่งเหยาอีกด้วย
“หนิงเมิ่งเหยา เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงกล้ารับหมั้นพี่ใหญ่เฉียว เจ้ามีอะไรดีกว่าข้ากัน” หยางชุ่ยถามอย่างคลุ้มคลั่งเสียงพูดลอดจากไรฟันที่บดเข้าหากัน
หนิงเมิ่งเหยาเชยคางหยางชุ่ยขึ้นด้วยมือเดียว แล้วมองหญิงผู้โกรธเกรี้ยว ส่วนใบหน้านางแสดงความรำคาญอย่างไม่ปิดบัง “สมเป็นตระกูลเดียวกัน หยางชุ่ย เจ้า ท่านแม่ของเจ้า และพี่รองของเจ้าก็ด้วย พวกเจ้าทั้งหมดล้วนไม่มียางอาย’
“เจ้าไม่มีสิทธิ์พูดจาเช่นนั้นถึงท่านแม่และท่านพี่ของข้า!” ใบหน้าหยางชุ่ยบิดเบี้ยวถึงขั้นอัปลักษณ์พอได้ยินที่หนิงเมิ่งเหยากล่าว
“โอ้ ข้ารู้สึกว่าพูดถึงตระกูลเจ้าไปก็เสียเวลาเปล่า ดังนั้นเจ้าบอกมาดีกว่าว่าเจ้ามาที่นี่ทำไม” หนิงเมิ่งเหยาพูดด้วยความหงุดหงิดรำคาญใจ
น้อยคนนักที่จะทำให้นางนึกรำคาญได้ แต่ทำไมคนตระกูลนี้ถึงช่างน่ารำคาญนัก
บัดนี้นางมมีความสัมพันธ์อันดีกับคนในหมู่บ้าน แม้จะยังมีบางเรื่องที่คนบางกลุ่มไม่ชอบใจในตัวนาง แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรกับนาง ไม่เหมือนหยางชุ่ยและตระกูลของเจ้าหล่อน
“หนิงเมิ่งเหยา ข้าเตือนให้เจ้าไปให้พ้นจากพี่ใหญ่เฉียวเลยนะ เขาเป็นของข้า และของข้าคนเดียว!” หยางชุ่ยกรีดร้องเหมือนหญิงวิกลจริต
หนิงเมิ่งเหยากล่าวเสียงดัง “ตระกูลนี้ช่างเหลือเกินจริงๆ เจ้ากับท่านแม่ของเจ้าเหมือนกันไม่มีผิด ดูเหมือนที่เขาว่าบุพการีย่อมเลี้ยงบุตรให้โตมาเป็นเหมือนตนจะเป็นเรื่องจริง”
วันข้างหน้า ถ้าบุตรของนางมีนิสัยเช่นนี้ นางจะโกรธยิ่งนัก
หยางชุ่ยรู้ว่าเฉียวเทียนช่างขอหนิงเมิ่งเหยาหมั้นหลังจากเทศกาลแข่งเรือมังกร ในตอนแรกนางไม่เชื่อข่าวนี้เลย นางคิดว่าพี่ใหญ่ของนางโกหก นางจึงรีบกลับมาบ้าน
ทว่าพอนางกลับมาถึง ก็สังเกตเห็นคนในหมู่บ้านมองนางแปลกๆ และแอบพูดถึงนางลับหลัง
นางยังได้ยินจากพวกผู้หญิงในหมู่บ้านว่าเฉียวเทียนช่างเอาใจใส่หนิงเมิ่งเหยาเพียงใด และให้ของขวัญหมั้นหมายแก่นางมากขนาดไหน
ตอนนางฟังคำพูดพวกนั้น หยางชุ่ยโกรธจนเส้นสติขาดสะบั้น ทุกสิ่งเหล่านั้นควรเป็นของนาง เหตุใดสุดท้ายหนิงเมิ่งเหยาจึงเป็นฝ่ายโชคดีนักหนา นางยอมรับไม่ได้
ฉะนั้น เมื่อนางได้รับการยืนยันจากนางเฉิน นางจึงรีบมาถามหนิงเมิ่งเหยา แต่ในสายตาของหนิงเมิ่งเหยาแล้ว นางเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่ง หนิงเมิ่งเหยาไม่สนแม้แต่จะสบตานางด้วยซ้ำ หยางชุ่ยไม่เคยอับอายเช่นนี้มาก่อน
บทที่ 146 หยางชุ่ยจอมพยาบาท
หยางชุ่ยมองใบหน้าจิ้มลิ้มของหนิงเมิ่งเหยาประหนึ่งอยากจะทำลายใบหน้านี้ทิ้ง หรือฆ่าเจ้าของใบหน้านี้ให้ตาย ในใจนางผุดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา ถ้าหน้าหนิงเมิ่งเหยาโดนทำลาย พี่ใหญ่เฉียวจะยังชอบนางอยู่หรือไม่ บางทีเขาอาจจะเห็นข้าดีกว่านาง แล้วชอบข้าแทนก็ได้
เมื่อนางคิดภาพเฉียวเทียนช่างหลับนอนกับหนิงเมิ่งเหยา โทสะในอกนางยิ่งแผดเผา
เขาให้ของกับหนิงเมิ่งเหยาไปตั้งมากตั้งมาย จะดีเพียงใดถ้าเขามอบสิ่งเหล่านั้นให้ข้าบ้าง ข้าจะได้มีชีวิตสุขสบายเสียที
พอคิดได้เช่นนั้น หยางชุ่ยยิ่งรังเกียจรูปร่างหน้าตาสวยงามของหนิงเมิ่งเหยาเป็นที่สุด นางอยากจะทำลายรูปโฉมหญิงสาวผู้นี้
สายตาโจ่งแจ้งของหยางชุ่ยทำให้หนิงเมิ่งเหยาต้องหรี่ตามอง นางผู้นี้คิดจะทำร้ายหน้าข้าด้วยทางใดทางหนึ่งสินะ
“หยางชุ่ย ถ้าเจ้าไม่มีอะไรแล้ว ก็ไปเสียเถอะ” หนิงเมิ่งเหยาสั่ง
หยางชุ่ยเมินคำพูดของหนิงเมิ่งเหยา แล้วพุ่งเข้ามาคว้ากรรไกรจากตะกร้าเย็บปักถักร้อย จากนั้นก็พยายามจะกรีดหน้าหนิงเมิ่งเหยา
ชิงเซวียนปราดเข้ามาคว้ากรรไกร ทว่าในจังหวะที่เขากำลังจะคว้าถึง มีหินปามาโดนข้อมือหยางชุ่ย
เสียงร้องดังลั่น “อ๊า…”
หนิงเมิ่งเหยามองไปทางนั้น หินนั่นโดนหญิงจากในหมู่บ้านปามา นางเดินมาพร้อมตะกร้าในมือ และได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเกือบทั้งหมด ส่วนเสียงร้องเมื่อครู่…
ชิงเซวียนรีบพุ่งไปเอาตัวบังหนิงเมิ่งเหยาแล้วหยุดการกระทำของหยางชุ่ยที่พยายามทำร้ายนาง เขาเตะนางกระเด็น
“คุณหนู ต่อไปท่านไม่ควรไปยุ่งกับคนพวกนี้นะขอรับ” ชิงเซวียนขมวดคิ้ว นี่ช่างอันตรายนัก แม้เขารู้จะว่าคุณหนูคงรับมือเองได้ไม่มีปัญหา แต่ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อครู่น่าตกใจสำหรับทุกคนยิ่งนัก
หนิงเมิ่งเหยาผงกศีรษะพร้อมยิ้ม “ข้ารู้แล้ว ถึงข้าไม่ได้คิดว่าจะเกิดอะไรเช่นนี้ขึ้นก็ตาม”
อันที่จริง ตั้งแต่เห็นสายตาของหยางชุ่ย นางก็รู้ว่าหยางชุ่ยจะทำเรื่องพรรค์นี้ นางยังเห็นร่างที่ยืนอยู่ข้างนอกพอดีด้วย จึงไม่ได้ขยับหลบเมื่อหยางชุ่ยเข้ามาทำร้าย
ในสายตาคนนอกย่อมเห็นว่านางโดนจู่โจม โดยหยางชุ่ยเป็นคนกระทำ และหนิงเมิ่งเหยาตกเป็นเหยื่อ
หญิงนางนั้นรีบเดินเข้ามาข้างในพร้อมตะกร้าในมือ นางปราดมองตัวหนิงเมิ่งเหยา แล้วก็โล่งใจเมื่อเห็นว่าไม่มีตรงใดได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงมองหยางชุ่ย “หยางชุ่ย เจ้าจิตใจโหดร้ายถึงขั้นจะทำให้นางเสียโฉมเชียวหรือ ถ้าเจ้าไม่ระวัง เจ้าอาจจะพลั้งมือฆ่านางไปแล้ว”
โชคดีนักที่หญิงนางนี้ปรากฏตัวแล้วมาช่วยไว้ได้ทัน หรือไม่แล้วอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้
หมู่บ้านไป๋ซานมีสตรีนิสัยร้ายกาจเช่นนี้อยู่ด้วยนับว่าไม่ใช่เรื่องดีเลย หญิงนางนั้นมองหนิงเมิ่งเหยาด้วยสีหน้าจริงจัง “เมิ่งเหยา เจ้าควรไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านถึงเรื่องในวันนี้”
การกระทำของหยางชุ่ยวันนี้บ้าระห่ำยิ่งนัก นางควรได้รับบทเรียน ถ้าตอนนี้นางทำเรื่องแบบนี้ ต่อไปในอนาคตนางจะไม่ฆ่าใครตายเพราะคนนั้นมาต่อล้อต่อเถียงกับนางเอาหรือ
คิดเช่นนั้น หญิงนางนั้นก็ตัวสั่น
“ข้าทราบแล้ว ท่านป้าหลี่” หนิงเมิ่งเหยายิ้มเอียงอาย ถ้านางวางตัวเช่นนี้ คนอื่นจะมองอย่างไรก็ย่อมสงสารหนิงเมิ่งเหยา
ท่านป้าหลี่ตบบ่าหนิงเมิ่งเหยา “ข้ารู้นะว่าเจ้าจิตใจดี แต่เจ้าไม่ควรใจดีกับคนแบบนี้เกินไป ไม่อย่างนั้นแล้ว สุดท้ายจะเป็นเจ้าเองที่ต้องทนทุกข์”
ใครบ้างไม่รู้ว่าหยางชุ่ยชอบเฉียวเทียนช่าง นางคงรีบมาที่นี่วันนี้เพราะได้ยินเรื่องงานหมั้นแน่นอน นางต้องเชื่อว่าถ้านางทำลายรูปโฉมของหนิงเมิ่งเหยาได้ เฉียวเทียนช่างจะหันมาสนใจตนแทน ที่นางไม่รู้คือ สิ่งที่นางทำรังแต่จะลากให้ตัวนางเองเจอปัญหาหนักกว่าเดิม
แววตาหนิงเมิ่งเหยามีประกายตื่นเต้นแวบผ่าน นางคิดกับตัวเอง ‘มีคนในหมู่บ้านที่เห็นว่าข้านิสัยดีอยู่ด้วย’
แม้นางจะให้โอกาสพวกเขาได้ทำงานมีเงิน สุดท้ายนางก็เป็นคนที่รับกำไรส่วนใหญ่ไป ซึ่งพูดตามตรงแล้วถือเป็นผลประโยชน์ร่วมสำหรับนาง ทว่าในสายตาคนอื่น พวกเขาไม่กล่าวโทษนาง แต่กลับมองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่นางทำให้พวกเขา
พวกเขาทำเงินได้จากบ้านตัวเอง มีเวลาพักช่วงปลายสัปดาห์ และตัวงานก็ง่ายดาย ตอนนี้ยังมีใครที่มีชีวิตอัตคัดอีกหรือ
ผู้คนมีเงินเหลือ และพวกเขาก็มีกำลังซื้อเนื้อบ่อยขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งยังซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ลูกๆ
ทุกคนต่างนึกขอบคุณความดีของหนิงเมิ่งเหยา จึงไม่มีใครยอมปล่อยให้สาวชาวบ้านแบบหยางชุ่ยมาทำร้ายความสุขของหนิงเมิ่งเหยาในตอนนี้เป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นแล้ว นางอาจนึกแค้นหมู่บ้านขึ้นมาก็เป็นได้
ท่านป้าหลี่วางตะกร้าใส่ผักที่เก็บมาจากบ้านของนางเองลงบนโต๊ะ แล้วก็บอกลาหนิงเมิ่งเหยาก่อนจะจากไป
“เจ้าจงใจทำเช่นนี้!” หยางชุ่ยโทษนาง