หลังตกอยู่ในห้วงนิทราเป็นเวลานาน เมื่อเด็กสาวตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เริ่มรู้สึกหิว
เธอนึกย้อนไปตั้งแต่เริ่มฟื้นขึ้นมา อาหารไม่เคยเติมเต็มท้องเธอเลย มีเพียงตอนที่โม่หันพาเธอไปเลี้ยงข้าวครั้งเดียวเท่านั้น โชคร้ายที่เธอมีเหตุต้องรีบไปทำแผลตรงหน้าท้องที่โรงพยาบาล
สถานที่น่าสะพรึงกลัวที่เธอไม่อยากกลับไปอีกแล้ว
เธอเดินเท้าเปล่า สวมเสื้อแขนยาวของชายหนุ่มเพียงคนเดียวที่เธอรู้จัก มันยาวเสียจนคลุมไปถึงมือและกางเกง เธอเลยต้องพับขากางเกงจนเผยให้เห็นข้อเท้าเล็กอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็เดินไปตามพื้นไม้สีน้ำตาลอมแดงในบ้านของเขา
เธอมุ่งหน้ามาที่ตู้เย็นเป็นที่แรก ทว่าเป็นแบบที่คาดไว้ พอเปิดประตูตู้เย็นออกมา เธอก็พบว่าไม่มีอะไรที่เธอสามารถกินได้เลย
ในตู้เย็นมีเพียงน้ำเปล่าและเบียร์ ความว่างเปล่าทำให้เธอรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ตู้เย็นของคนปกติแน่ๆ
เขาไม่เคยหิวเลยหรือไงนะ เด็กสาวรู้สึกมีความหวังขึ้นมาเมื่อดึงชั้นช่องแช่แข็งด้านล่าง ในที่สุดเธอก็พบเกี๊ยวแช่แข็งอยู่เต็มถุง เด็กสาวรู้สึกยินดีอยู่ในใจ ในที่สุดก็เจอของที่ตู้เย็นควรมีสักที
ตอนนี้การทำให้ตัวเองอิ่มท้องเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เธอเอาถุงเกี๊ยวออกมา ต้มน้ำและเทเกี๊ยวแช่แข็งลงไป
ขณะที่อยู่ในครัว เธอเห็นว่าทั้งเครื่องครัวและชุดจานชามดูเหมือนจะไม่ได้ถูกใช้งานมานานแล้ว เธอมุ่นคิ้วหนัก ห้องครัวของเขาดูผิดปกติที่สุดในบ้านนี้แล้ว! หลังจากต้มเกี๊ยวเสร็จ เธอก็ยกชามมาวางไว้ก่อนนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว ยกขาขึ้นขัดสมาธิและลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างมีความสุข
ชั่วครู่เดียวก็ได้ยินเสียงดังมาจากนอกประตู เป็นโม่หันนั่นเอง
เมื่อเขาก้าวเข้ามาในตัวบ้าน เขาก็ชะงักไปเมื่อเห็นเด็กสาวกำลังสวาปามอาหารตรงหน้าอย่างหิวโหยที่โต๊ะกินข้าว กางเกงขายาวถูกพับให้ขึ้นสูงเหมือนเด็กที่แอบเอาเสื้อผ้าของผู้ใหญ่มาใส่ เขารู้สึกผิดในใจกับภาพตรงหน้าในทันที เขาไม่เคยให้ใครสวมเสื้อผ้าของเขาอย่างนี้มาก่อน
เขาวางเอกสารในมือลง เปลี่ยนไปใส่รองเท้าเดินในบ้าน ก่อนเอ่ยถามเธอขึ้น “คุณตื่นตั้งแต่ตอนไหนครับ”
“เมื่อสักครู่นี้เองค่ะ พอดีฉันหิวน่ะ” เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ตอบด้วยเสียงอู้อี้อย่างกำลังเคี้ยวเกี๊ยวในปากอยู่
โม่หันก้าวตรงมาที่โต๊ะ มองเกี๊ยวที่อยู่ในชาม ขมวดคิ้วก่อนถามเสียงหนัก “คุณไปเอาเกี๊ยวพวกนี้มาจากไหนกันครับ”
เธอคิดว่าเขากำลังตำหนิที่ไปหยิบอาหารของเขามากินโดยไม่ได้ขอก่อน “ในตู้เย็นค่ะ”
เขาหันเดินเข้าไปในห้องครัว เมื่อเห็นถุงเกี๊ยวแช่แข็งที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งบนโต๊ะ หยิบมันขึ้นมาและพลิกดูวันหมดอายุก่อนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วมองอีกฝ่ายที่ยังคงกินไม่หยุด “คุณได้ดูวันหมดอายุก่อนเอาออกมากินหรือเปล่าครับ”
เธอนิ่งไป ชะงักมือที่กำลังตักอาหารเข้าปาก “ทำไมเหรอคะ”
เขาหยิบถุงเกี๊ยวชูขึ้นมา “มันหมดอายุไปตั้งแต่ครึ่งปีก่อนแล้วนะครับ ผมลืมเอาไปทิ้ง”
ชายหนุ่มที่เห็นเธอยังคงมองชามเกี๊ยวตาละห้อยไม่เลิกเข้ามายกชามออกไป “ไม่ต้องกินแล้วครับ เดี๋ยวผมพาคุณออกไปกินข้างนอก”
คนฟังตอบกลับมาเสียงอ่อน “แต่ตอนนี้ฉันหิวมากเลย ให้ฉันกินให้หมดก่อนไม่ได้เหรอคะ”
สีหน้าของโม่หันเปลี่ยนไปขณะที่กล่าวเสียงดุ “มันหมดอายุแล้วครับ! อดทนหน่อย ผมจะพาคุณไปหาอะไรกิน หลังกินเสร็จเราค่อยมาคุยเรื่องสำคัญกัน”
เธอรู้สึกได้เลยว่าเขาหมายความอย่างที่พูดจริงๆ ดังนั้นในตอนนี้เธอจึงเลือกที่จะสงบปากสงบคำและตามเขาออกไปกินข้าวข้างนอกแต่โดยดีก่อนที่เขาจะโมโหจนไล่เธอออกจากบ้าน
หลังจากเติมเต็มความหิวโหยด้วยมื้ออาหารจนอิ่มท้อง เธอก็เอนตัวนอนพักสายตาในรถของอีกฝ่าย วันนี้เป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุดตั้งแต่ที่ฟื้นขึ้นมาแล้ว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา โม่หันที่กำลังจดจ่อกับการขับรถไปเงียบๆ หันมามองเด็กสาวตัวเล็กที่นั่งด้านข้างเป็นครั้งคราว เธออยู่ในชุดของเขา สวมทับด้วยเสื้อคลุมอีกชั้นเพราะพวกเขาออกมากินข้าวข้างนอก เมื่อมองเสื้อผ้าของเขาทั้งหมดที่เธอสวมอยู่ก็ทำให้เจ้าของตัวจริงรู้สึกแปลกๆ ในใจเล็กน้อย