ภาพรักสีจางกลางสมุทร – ตอนที่ 119 เมา / ตอนที่ 120 ทำอะไรของพี่

ตอนที่ 119 เมา

 

 

หลายวันหลังจากโม่หันกลับมา เขาก็ยังไม่ได้พาซย่าชิงอีไปเลี้ยงอาหารมื้ออร่อยที่ไหน ไม่เพียงเท่านั้นเขากลับงานยุ่งขึ้นมากอย่างไม่รู้สาเหตุ ยุ่งจนเธอคิดว่าเขาจงใจหลีกเลี่ยงเธอ

 

 

นั่นทำให้เธอไม่พอใจและคิดว่าอาหารมื้อนี้คงได้ถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแน่

 

 

อย่างไรก็ตามเธอก็ยังมีโอกาสไปกินอาหารตามที่ต้องการเพราะจางหยางพาเธอไปเลี้ยงเพื่อฉลองที่เธอประสบความสำเร็จในการย้ายไปเรียนคณะจิตวิทยา เขายังชวนเพื่อนบางคนของเขามาเป็นพิเศษด้วย

 

 

ตอนแรกเธอไม่ได้อยากไปด้วยต้องการอยู่ห่างๆ กับเพื่อนตำรวจของจางหยาง แต่หลังจากนั้นเขาก็บอกว่าพวกเขาเป็นคนจากสำนักงานนักสืบไม่ได้พิเศษอะไร

 

 

เธอนึกเปลี่ยนใจขึ้นมาอย่างคิดว่าพวกเขาอาจจะช่วยเธอสืบเรื่องที่เกิดขึ้นที่สระว่ายน้ำวันนั้นได้ พวกเขาอาจจะสามารถหาเบาะแสที่ช่วยสืบสาวหาความจริง

 

 

เธอจึงตอบรับคำชวนจากจางหยาง

 

 

ทว่าเธอจำไม่ได้ว่าเธอกินอะไรลงไป ไม่รู้ว่าพูดอะไรหรือเจอใครได้ชัดเจนหลังจากวันนั้นเช่นกัน ความทรงจำในคืนนั้นของเธอช่างเลือนรางเหลือเกิน

 

 

สิ่งที่พอจำได้ตอนที่เธอยังไม่เมาคือตอนที่จางหยางพูดบางอย่างที่เธอจำไม่ได้กับเธอที่โต๊ะอาหาร

 

 

เธออยู่ในอาการมึนงงราวกับลอยอยู่ในทะเล รอบตัวเสียงดังไปหมดอย่างจับไม่ได้ว่าพวกเขาพูดว่าอะไร ก่อนที่ศีรษะจะสัมผัสกับบางอย่างนุ่มๆ

 

 

หลังจากนั้นภาพในหัวก็ตัดไป

 

 

เวลาผ่านไปเธอก็ได้สติขึ้น เธอตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะประตูรัวๆ ตอนตีตาม

 

 

เหตุผลที่เธอถึงจำเวลาได้เป๊ะๆ เป็นเพราะว่ามีบางคนพูดมันออกมาอย่างหงุดหงิดอยู่ข้างเธอตอนที่เธอตื่นขึ้นมาน่ะสิ

 

 

ใครมาเคาะประตูตอนตีสามแบบนี้เนี่ย!

 

 

ดูเหมือนคนคนนั้นจะลุกไปเปิดประตูพลางก่นด่าไม่หยุด เธอรู้สึกง่วงอย่างไม่น่าเชื่อจนไม่สามารถขยับตัวได้แม้จะรู้สึกตัวแล้วก็ตาม

 

 

ไม่ได้ลืมตาขึ้นและไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน มีคนตัวเล็กๆ สองคนเถียงกันอยู่ในหัวของเธอ คนหนึ่งบอกว่าให้รีบลุกขึ้นไปดูว่าตัวเองอยู่ที่ไหนกันแน่ ขณะที่อีกคนบอกให้นอนต่อและทุกอย่างจะเรียบร้อยดีหลังจากตื่นขึ้นมา

 

 

ทันใดนั้นเธอก็ถูกปลุกขึ้นมาเมื่อมีน้ำเย็นๆ สาดเข้าบนตัวก่อนที่ชัยชนะจะตกเป็นของคนตัวเล็กๆ คนใดคนหนึ่ง

 

 

แสงสว่างจ้ารอบๆ ปรากฏชัดเมื่อเธอลืมตาขึ้น เธอปิดตาลงเพื่อหลบแสงไฟที่แยงเข้าตา และยกแขนขึ้นเช็ดน้ำออกจากใบหน้าทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

 

“ตื่นแล้วเหรอ” ในที่สุดเธอก็เปิดเปลือกตาอย่างยากลำบากและเห็นโม่หันยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยสีหน้าน่ากลัว

 

 

ซย่าชิงอีงุนงงเมื่อจ้องหน้าเขาที่ท่าทางเหลือทนอย่างใกล้จะหัวเสียขึ้นเต็มทีและผู้ชายแปลกหน้าที่ยืนอยู่ข้างเขา เธอไม่รู้ว่าจางหยางหายไปไหน รู้แต่เธอกำลังนอนอยู่บนเตียงและมีผู้ชายที่ไม่เห็นหน้านอนหลับสนิทอยู่บนขาของเธอ

 

 

“หลบไป!” โม่หันกระชากร่างของชายคนนั้นออกไป

 

 

ในตอนนั้นเอง เธอรู้ตัวว่าคงทำให้ตัวเองเดือดร้อนเข้าเสียแล้ว

 

 

เธออ้าปากจะพูดแต่ก็ถูกโม่หันเอ่ยขัด

 

 

“กลับเดี๋ยวนี้!” เขาไม่แม้แต่จะให้โอกาสเธอพูด ก้าวตรงเข้ามาจับข้อมือและดึงเธอลงจากเตียง เธอเกือบจะหกล้มเพราะก้าวเดินที่ไม่มั่นคงจากแรงดึงของอีกฝ่าย อยากจะดึงมือกลับเพื่อใส่รองเท้าและเดินเอง

 

 

ทว่าเขากลับไม่ให้เวลาเธอใส่รองเท้าด้วยซ้ำ ก่อนหันหน้ามาจ้องตาเธอ “ซย่าชิงอี ถ้าเธอยังยืดยาดอยู่แบบนี้ พี่จะทำให้เธอไม่ได้กลับบ้านอีกเลย!”

 

 

คนฟังหวาดกลัวกับสายตาของเขา ถือรองเท้าอย่างระวังไว้ในมือข้างหนึ่งขณะที่อีกข้างถูกอีกฝ่ายดึงไปข้างหน้าจนรู้สึกเจ็บ

 

 

เมื่อออกมาจากห้องแล้วเธอจึงรู้ว่ากำลังอยู่ที่โรงแรม

 

 

หันมองอีกคนที่พิงกำแพงหน้าประตูห้อง เป็นจางหยางนั่นเอง

 

 

เขานอนคอเอียงสลบพร้อมใบหน้าขึ้นสี

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 120 ทำอะไรของพี่

 

 

ซย่าชิงอีอยากจะปลุกเขาขึ้นมาถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่โม่หันกลับไม่มองเขาเลย เอาแต่ดึงเธอให้เดินตามไปโดยที่ไม่หันกลับมามองขณะที่พวกเขาเดินออกไป

 

 

“ฉันเจ็บมือนะคะ” เธอเอ่ยขึ้นเบาๆ ด้านหลังเขา

 

 

เขาเงียบและยังจับข้อมือของเธอไว้แน่น

 

 

“หยุดก่อนค่ะ ฉันยังไม่ได้ใส่รองเท้าและตอนนี้ก็เจ็บเท้าด้วยค่ะ” พยายามยื้อเขาไว้ไม่ให้เดินต่อ เธอเพิ่งตื่นและรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน

 

 

อีกฝ่ายหยุดและหันมามามองเธอ และอยู่ๆ โม่หันก็ช้อนตัวอุ้มเธอในท่าเจ้าหญิง

 

 

ซย่าชิงอีร้องออกมาอย่างตกใจพลางยกมือขึ้นโอบรอบคอเขาทันที ลืมตามองใบหน้าที่ยังโกรธเกรี้ยวของเขา

 

 

“พี่ทำอะไรน่ะ!” เธอถาม

 

 

“เงียบปากไปเลย”

 

 

“ปล่อยฉันลงนะ! ฉันอยากใส่รองเท้าแล้วลงเดินเอง!” เธอเตะขาไปมาในอ้อมแขนของเขา

 

 

“ทำตัวดีๆ หน่อยสิ”

 

 

เขาวางเธอในรถบนเบาะด้านหน้าข้างคนขับ รอบข้างเงียบสงัดจนได้ยินเสียงลมที่พัดระหว่างทางกลับบ้าน ข้อมือของเธอที่ถูกเขาดึงขึ้นรอยแดง เธอนวดคลึงมันพลางพยายามนึกว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้

 

 

บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความตึงเครียดเมื่อทั้งสองเงียบใส่กันตลอดทางกลับบ้าน โม่หันโกรธในขณะที่ซย่าชิงอีกลัวอีกฝ่าย เธอจำได้ลางๆ ว่าเธอก่อเรื่องเดือดร้อนเมื่อคืนและต้องถูกเขาดุเมื่อกลับถึงบ้านอย่างแน่นอน

 

 

เป็นอย่างที่คาดไว้ ในจังหวะที่ประตูปิดลงเมื่อมาถึงบ้าน น้ำเสียงเย็นชาไร้อารมณ์ของเขาก็ดังขึ้น “พี่ให้เวลาเธออธิบายพี่มาสองนาที”

 

 

“ฉะ… ฉัน… ไม่รู้ค่ะ”

 

 

“พี่ไม่ได้อยากได้ยินคำนั้นจากปากเธอ”

 

 

“ฉันขอโทษ… ฉันไม่รู้จริงๆ นี่คะ… ฉันจำไม่ได้ แค่ออกไปกินข้าวกับจางหยางและเพื่อนของเขาเท่านั้นเอง…”

 

 

“ออกไปกินข้าวเหรอ! กินจนถึงเที่ยงคืนก็ยังไม่กลับมา! รู้หรือเปล่าว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ตีสี่แล้ว! เธอออกไปกินข้าวและลงเอยด้วยการนอนหลับในโรงแรมกับผู้ชายที่ไม่รู้จักเนี่ยนะ! เธอนี่มันแสบจริงๆ ซย่าชิงอี พี่ประเมินเธอต่ำไปสินะ!”

 

 

โม่หันก้าวเข้ามาใกล้เธอทีละนิดขณะที่เขาพูด เธอก้าวถอยหลังอย่างกลัวๆ จนพบว่าแผ่นหลังแนบกับบานประตู เธอขยับหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว

 

 

“ฉะ… ฉันไม่ได้ตั้งใจ… ฉันคิดว่าคงดื่มแอลกอฮอล์…” เธอจ้องอีกฝ่ายที่ขยับเข้ามาเรื่อยๆ จนเหลือระยะห่างระหว่างกันไม่ถึงสิบเซนติเมตร ท่าทางหวาดกลัว อธิษฐานอย่างแรงกล้าให้สามารถหายเข้าไปซ่อนในประตูได้

 

 

เขาสบตาเธอแล้วอยู่ๆ ก็เชยคางเธอขึ้น “พี่บอกเธอหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามดื่มแม้แต่หยดเดียว เธอไม่ใส่ใจคำสั่งของพี่เลยหรือไง”

 

 

เด็กสาวมองหน้าเขาขณะที่สั่นกลัว โม่หันที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ไม่เหมือนคนที่เธอเคยรู้จักมาก่อนสักนิด โม่หันที่เธอรู้จักเป็นคนใจเย็นและไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่คนที่จับคางเธออยู่ตอนนี้ดูก้าวร้าวรุนแรงเหลือเกิน

 

 

แววตาราวกับเสือที่รอขย้ำเหยื่ออยู่เงียบๆ ทำให้คนถูกมองรู้สึกราวกับจะตายได้ทุกเมื่อ

 

 

“ฉันขอโทษค่ะพี่… ฉันยอมรับผิดแล้ว… ฉันจะไม่ทำอีก” เธอกลัวเขาเข้าแล้วจริงๆ

 

 

แม้จะพูดอย่างนั้นแต่โม่หันก็ไม่ปล่อยเธอไป เขาวางมืออีกข้างที่ท้ายทอยของเธอ ดันใบหน้าให้แหงนขึ้นจนจมูกของพวกเขาสัมผัสกัน เธอไม่กล้ามองหน้าเขาขณะที่มือสั่นไปหมด

 

 

โม่หันกระซิบเสียงแผ่วเบาข้างหูพร้อมโน้มศีรษะลงมา “เธอทำอะไรผิด”

 

 

“ฉัน… จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์อีกแล้วค่ะ… จากนี้ไปจะไม่แม้แต่จะมองมันเลยค่ะ…” เธอว่าเสียงสั่น

 

 

ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ถอยกลับไป กลับดันตัวเธอให้แนบชิดกับบานประตู มือของเขาลูบคางของเธอเบาๆ “เธอทำอะไรในห้องก่อนที่พี่จะไปถึง”

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับพบว่าเธออยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสและจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ชื่อ ที่อยู่ ครอบครัวและประวัติความเป็นมาล้วนถูกซัดหายไปจากความทรงจำทั้งหมด เบาะแสเดียวที่หลงเหลืออยู่มีเพียงชื่อ โม่หัน ทนายหนุ่มจากสำนักงานกฎหมายที่ลงท้ายไว้บนใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น เขาเป็นใครและเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ทำไมถึงดูแลค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างแต่ไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง เมื่อถูกครอบงำด้วยความสงสัย เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากโรงพยาบาลแล้วออกตามหากุญแจสุดท้ายที่จะไขความลับให้กับเธอ ทว่าเมื่อตามหาตัวโม่หันจนพบ เขากลับบอกเธอว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่รู้จักคุณ” เป็นไปได้ยังไงกัน เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เธอต้องไขปริศนาเรื่องนี้และเรียกคืนความทรงจำทั้งหมดที่หายไปกลับมาให้ได้!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset