ภาพรักสีจางกลางสมุทร – ตอนที่ 143 อยากมองให้นานกว่านี้ / ตอนที่ 144 ร้านอาหารของเธอ

ตอนที่ 143 อยากมองให้นานกว่านี้

 

 

ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกคือเธอเหนื่อยเหลือเกิน

 

 

แค่คิดว่าเธอต้องออกไปจากที่นี่ในไม่ช้าก็ทำให้เธอกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แม้แต่ร่างกายยังอ่อนแรงตามไปด้วย

 

 

โม่หันคงไม่มายุ่งเกี่ยวกับเธออีกหลังจากเธอจากไป ชีวิตของเขาคงจะสบายมากขึ้นเพราะไม่ต้องคอยซื้ออาหารมาให้และเก็บกวาดสิ่งที่เธอทำยุ่งไว้หลังจากเธอประสบอุบัติเหตุ

 

 

ซย่าชิงอียังจำตอนที่มาถึงบ้านของเขาได้ เธอถามเขาว่าทำไมถึงช่วยเธอไว้

 

 

ตอนนั้นเขาตอบว่าอย่างไรนะ ดูเหมือนจะบอกว่าเขาเพียงแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อไว้เท่านั้น

 

 

เธอนอนลงบนเตียง จ้องมองเพดานท่ามกลางความมืดในเวลาราวตีหนึ่งอย่างนอนหลับไม่ลงเลยสักนิด

 

 

คืนนี้เธอคงจะไม่ได้นอนทั้งคืนแน่ เธอคิดกับตัวเองเงียบๆ

 

 

เช้าวันถัดมา โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นระหว่างที่นั่งลงกินอาหารเช้าที่โต๊ะข้างโม่หัน

 

 

เป็นสายจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก แต่เธอก็เดาได้ว่าใครเป็นคนโทรมา

 

 

เธอกดรับสาย “สวัสดีค่ะ”

 

 

[เนี่ยนเนี่ยน ฉันอยู่ด้านล่างบ้านเธอแล้ว]

 

 

“ค่ะ”

 

 

[ฉันจะขึ้นไปรับเธอนะ]

 

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันกำลังกินข้าวอยู่ เดี๋ยวฉันจะลงไปเอง” ท่าทางของเธอที่กินอาหารดูเก้ๆ กังๆ

 

 

[เนี่ยนเนี่ยน วันนี้ฉันจะพาเธอกลับไปเมือง F ดูนะ]

 

 

เธอจ้องชามข้าว “ค่ะ”

 

 

หันเลี่ยงยังมีเรื่องที่อยากจะพูดกับเธออีก แต่จู่ๆ เธอก็เอ่ยขัดขึ้น “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันวางนะคะ เราค่อยคุยต่อข้างล่างทีหลัง”

 

 

หลังจากวางสายโม่หันที่ได้ยินทุกอย่างก็ถาม “เขาได้เบอร์ของเธอมาได้ยังไง”

 

 

เธอยักไหล่และใช้ตะเกียบตักอาหารในจานเงียบๆ “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะคะ เขาอาจจะตามหามันก็ได้ มันไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้นอยู่แล้วค่ะ”

 

 

“ทำไมเธอไม่บอกว่าพี่จะไปด้วย”

 

 

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะพี่ เดี๋ยวค่อยบอกเขาตอนลงไปข้างล่างก็ได้”

 

 

ทั้งสองกินอาหารต่อ ทว่าบรรยากาศในบ้านกลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เหมือนกับมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป แต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใดกันแน่

 

 

หลังจากมื้ออาหารจบลง ซย่าชิงอีไปเปลี่ยนรองเท้าและก้มตัวลงสวมรองเท้าหน้าประตูเพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอกกับโม่หันซึ่งรออยู่ด้านนอก และคิดได้ว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์ของเธอใกล้หมด “โอ๊ะ ฉันลืมเอาที่ชาร์จสำรองมา เดี๋ยวกลับไปเอาก่อนนะคะ”

 

 

“เหลือแบตเตอรี่อยู่เท่าไร” เขาถาม

 

 

เธอมองหน้าจอโทรศัพท์ “ห้าสิบหกเปอร์เซ็นต์ค่ะ”

 

 

“ไม่ต้องไปเอาหรอก เดี๋ยวเราก็กลับมาแล้ว เธอค่อยชาร์จหลังจากกลับมาก็ได้” เขาว่าขึ้น

 

 

ความรู้สึกกังวลตีขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอจะได้กลับมาที่นี่จริงๆ ใช่ไหม

 

 

“คิดอะไรอยู่ ไปกันได้แล้ว ถ้าเราออกเร็วจะได้กลับมาเร็วๆ ”

 

 

เธอมองโม่หันและใส่มือถือลงในกระเป๋า เดินตามเขาไปและออกจากบ้านโดยที่ไม่มีที่ชาร์จสำรองติดตัว

 

 

เธอหวังว่าเธอจะได้กลับมาเร็วๆ

 

 

เมื่อพวกเขามาถึงชั้นล่าง หันเลี่ยงกำลังพิงตัวกับรถระหว่างที่เขารอ และฉีกยิ้มเป็นมิตรทันทีที่เห็นเธอ “เธอมาแล้ว”

 

 

เธอทำเพียงพยักหน้ารับ

 

 

โม่หันเอ่ย “นี่รถคุณเหรอ”

 

 

“ใช่ครับ รถของผมที่เมือง F ผมคิดว่าคงจะไม่สะดวกเท่าไรหลังจากมาส่งเนี่ยนเนี่ยนเมื่อวาน เลยไปเอารถอีกคันมาที่นี่”

 

 

โม่หันยิ้มขณะที่ซย่าชิงอีไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร เธอเปิดประตูด้านหลังรถและเข้าไปนั่งด้านใน โม่หันเอื้อมมือมาจับประตูด้านหน้าที่ที่นั่งข้างคนขับทันที

 

 

“เนี่ยนเนี่ยน มานั่งข้างหน้าสิ ฉันอยากมองหน้าเธอมากกว่านี้”

 

 

เธอสบตาหันเลี่ยงที่ยืนอยู่นอกรถและไม่ขยับไปไหน “ฉันอยากนั่งตรงนี้มากกว่าค่ะ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 144 ร้านอาหารของเธอ

 

 

มุมปากของหันเลี่ยงกระตุกขึ้นเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้น…ก็ไม่เป็นไร เรายังมีเวลาหลังจากนี้อีกมาก”

 

 

รถแล่นไปบนถนนกว้าง ริมทางหลวงเรียงรายไปด้วยต้นไม้เป็นแนว สีเขียวชอุ่มปกคลุมไปทั่วบริเวณ ระหว่างทางซย่าชิงอีจ้องออกไปนอกหน้าต่างเงียบๆ มองทิวทัศน์ด้านนอกจนกระทั่งมันกลายเป็นภาพซ้ำซากและน่าเบื่ออย่างคิดว่าจะเห็นอะไรมากกว่านี้ ด้านโม่หันไม่ได้พูดอะไรมากเช่นกัน เขาจ้องหน้าจอแล็ปท็อปของตัวเอง นิ้วมือขยับไปมาอย่างต่อเนื่องเพราะมีงานบางอย่างที่เขาต้องจัดการให้เสร็จ

 

 

“เราเข้าเขตเมือง F กันแล้ว อีกเดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว” หันเลี่ยงว่าขึ้น

 

 

“ค่ะ” เธอตอบ

 

 

“เนี่ยนเนี่ยน เธอหิวไหม เราแวะกินอาหารกันหน่อยไหม”

 

 

“ฉันไม่หิวค่ะ”

 

 

“แวะกินสักหน่อยเถอะ เรานั่งอยู่ในรถมานานแล้ว ไม่รู้จะได้กินอีกทีเมื่อไหร่” โม่หันที่นั่งอยู่ข้างหน้าเอ่ยพลางมองนาฬิกา

 

 

ซย่าชิงอียังคงเอนตัวพิงกับกระจกรถและมองไปด้านนอก “ถ้างั้นเราก็แวะหาอะไรกินกันก่อนก็ได้ค่ะ”

 

 

รถจอดที่ร้านอาหารที่ตกแต่งแบบโบราณในตัวเมือง ป้ายหน้าร้านทำจากไม้ที่ให้ความรู้สึกเก่าแก่ ประตูร้านเป็นประตูม่านพับที่ประดับตกแต่งด้วยลายดอกบัวสีแดงประณีตขนาดใหญ่ โปร่งทะลุให้เห็นคนที่พลุกพล่านด้านในอยู่รางๆ พนักงานต้อนรับสวมชุดกี่เพ้าสวยงามยืนอยู่ที่หน้าประตู

 

 

หันเลี่ยงยืนหน้าทางเข้าร้านและพูดกับเธอ “เธอจำได้หรือยัง”

 

 

“จำอะไรได้คะ”

 

 

“เธอเป็นคนเปิดร้านนี้ขึ้นมาเอง”

 

 

ได้ยินดังนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองร้านสลับกับตัวเองไปมาอย่างไม่เชื่อว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นเจ้าของร้านอาหาร “ฉันเปิดร้านนี้ขึ้นมาเองเหรอคะ”

 

 

“เข้าไปข้างในกันเถอะ ด้านในมีคนมากมายที่คิดถึงเธอ” เขาทำเพียงส่งยิ้มให้

 

 

หันเลี่ยงดึงเธอเข้าไปในร้านอาหาร เธอหันหลังกลับามองโม่หันที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมและมองป้ายร้านอย่างว่างเปล่า

 

 

ทั้งสามคนค่อยๆ เดินเข้าไปในร้าน เธอเดินตามหลังหันเลี่ยงไป ในขณะที่โม่หันยืนห่างออกไปอยู่ทางด้านขวามือของเธอ

 

 

“พี่เนี่ยนเนี่ยน!” พนักงานเก็บเงินที่เค้าน์เตอร์ตะโกนและวิ่งมาหาด้วยดวงตาเป็นประกายขณะที่ซย่าชิงอีเดินอยู่ เธอหยุดยืนข้างซย่าชิงอีและทำเพียงมองหน้าเธออย่างทำอะไรไม่ถูก

 

 

“เถ้าแก่เนี้ย! เป็นพี่จริงๆ เหรอนี่” เด็กสาวคนนั้นจ้องมองเธอ

 

 

ซย่าชิงอีนิ่งเงียบและมองสำรวจเด็กสาวตรงหน้า พยายามมองไปทั่วพลางคิดถึงเรื่องราวในอดีต

 

 

น่าเสียดายที่มันลงเอยเหมือนเดิมและเธอจำเด็กสาวคนนี้ไม่ได้

 

 

“เสียวเหม่ย พี่บอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าต้องใจเย็นๆ ตอนเจอหน้าเธอ” หันเลี่ยงพูด

 

 

“พี่หัน! นี่เถ้าแก่เนี้ยจริงๆ ใช่ไหม พี่เนี่ยนเนี่ยนกลับมาแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย” เด็กสาวคนเดิมดึงแขนเสื้อของเธอพร้อมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

 

 

“เธอกลับมาแล้วจริงๆ ไม่ต้องกังวลหรอกนะ”

 

 

เสียวเหม่ยกอดซย่าชิงอีและเริ่มร้องไห้ ทั้งน้ำมูกและน้ำตาเปื้อนบนไหล่ของซย่าชิงอี “พี่กลับมาแล้วจริงๆ พี่เนี่ยนเนี่ยน เรา…เราคิดว่าพี่ตายไปแล้วเสียอีก… มีแค่… พี่หันที่ไม่เชื่อ เขาไม่เคยเชื่อไม่ว่าเราจะพยายามบอกเขาขนาดไหนก็ตาม”

 

 

ซย่าชิงอีมุ่นคิ้วและมองไปรอบตัวอย่างทำอะไรไม่ถูก

 

 

โม่หันมองทั้งสองคนจากด้านข้างก่อนเอ่ยเสียงอ่อน “หาอะไรกินกันก่อนเถอะ”

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับพบว่าเธออยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสและจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ชื่อ ที่อยู่ ครอบครัวและประวัติความเป็นมาล้วนถูกซัดหายไปจากความทรงจำทั้งหมด เบาะแสเดียวที่หลงเหลืออยู่มีเพียงชื่อ โม่หัน ทนายหนุ่มจากสำนักงานกฎหมายที่ลงท้ายไว้บนใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น เขาเป็นใครและเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ทำไมถึงดูแลค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างแต่ไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง เมื่อถูกครอบงำด้วยความสงสัย เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากโรงพยาบาลแล้วออกตามหากุญแจสุดท้ายที่จะไขความลับให้กับเธอ ทว่าเมื่อตามหาตัวโม่หันจนพบ เขากลับบอกเธอว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่รู้จักคุณ” เป็นไปได้ยังไงกัน เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เธอต้องไขปริศนาเรื่องนี้และเรียกคืนความทรงจำทั้งหมดที่หายไปกลับมาให้ได้!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset