ตอนที่ 11 ความเจ็บปวดของบรรดาผู้อาวุโส 2
เมื่อนางเห็นชายชราสวมชุดของผู้อาวุโสนอกสำนัก เปาเอ๋อตะคอกกลับอย่างเย็นชา “เจ้าไปถามพวกมันเอาเองสิ ข้าบอกไว้ก่อนนะ หากเจ้าไม่อธิบายให้ข้าพอใจ เช่นนั้นยอดเขาผู้ใช้ยันต์จะไม่ต้อนรับพวกเจ้าทั้งศิษย์และผู้อาวุโสนอกสำนักอีก!”
ได้ยินคำเปาเอ๋อ เฉาหัวเผยยิ้มขื่นขมก่อนทะยานร่างในพริบตา ไปปรากฏที่ตรงหน้าเจียงชิวสุ่ยและคณะ น้ำเสียงเย็นเยือกกล่าวออก “เกิดเรื่องใดขึ้น? หากเจ้ากล้าปิดบัง เช่นนั้นข้าจะทำลายวรยุทธ์และขับไล่พวกเจ้าออกจากสำนักดาบราชัน!”
พวกเขาล้วนประหลาดใจ ทันใดนี้จึงไม่กล้าปิดบังเรื่องราว ทั้งหมดได้ถูกบอกเล่าออกมา
เมื่อทราบว่าพวกเขาติดหนี้นางมารน้อยมากกว่าสามแสนหินพลังปราณ ใบหน้าเฉาหัวกระตุก ยิ่งได้ยินว่าพวกเขาจะพาเปาเอ๋อไปด้วย เฉาหัวมองพวกเขาอย่างเย็นชืด ด้วยวัยและประสบการณ์ เหตุให้จะไม่รู้ว่าพวกเขาตั้งใจจะทำอะไร? “บอกให้นางตามไปเพราะหินพลังปราณนับแสนอย่างนั้นหรือ? พวกเจ้าคิดสังหารนางปิดปากหรือไม่ใช่? วิเศษนัก ข้าคิดอยากสังหารพวกเจ้าเสียให้หมด! ให้ข้าบอกต่อเจ้า หากไม่สามารถกราบกรานร้องขอให้นางถอนคำพูด ข้ารับประกันว่าพวกเจ้าทั้งหมดจะกลายเป็นศัตรูของทุกผู้คนแห่งสำนักนอก!”
เมื่อได้ยินเฉาหัวกล่าว บรรดาศิษย์ถึงกับหน้าซีดเผือด เจียงชิวสุ่ยประสานหมัดเคารพชายชรา “ผู้อาวุโส นางคือผู้ใดกันขอรับ?”
“มันไม่สำคัญ!” เฉาหัวตะโกน “ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนรีบไปหยิบยืมหินพลังปราณจากสหายและบรรดาผู้อาวุโสนอกสำนักเร็ว บอกผู้อาวุโสถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเจ้ากับแม่นางน้อย เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง พวกเขาจะให้หินพลังปราณกับพวกเจ้า!”
“ผู้อาวุโส จำนวนมันมากเกินไป สิ่งนี้…” เจียงชิวสุ่ยแสดงท่าทีมีปัญหา
“พวกเจ้าทุกคนอยากโดนไล่ออกจากสำนักดาบราชันหรือ?” เฉาหัวกล่าวอย่างเย็นชา
ร่างกายพวกเขาสั่นกลัวเมื่อได้ยิน บัดนี้ทราบดีแล้วว่าเรื่องราวเคร่งเครียดไม่ใช่เรื่องเล่น และไม่กล้าเอ่ยคำใดพร้อมรีบออกไปยืมหินพลังปราณ
ณ ลานประลอง หลังจากทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเปาเอ๋อและบรรดาศิษย์นอกสำนัก ความอบอุ่นซาบซึ้งไหลเข้าสู่ใจหยางเย่ เพราะเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม่นางน้อยจะเชื่อมั่นในตัวเขาถึงเพียงนี้ ทั้งยังกล้าวางเดิมพันข้างเขาถึงหลายแสนหินพลังปราณ!
“ฮึ่ม! ข้าไม่ปล่อยพวกมันไปโดยง่ายเป็นแน่ พวกมันตั้งใจจะสังหารข้าปกปิดเรื่อง!” เมื่อเปาเอ๋อนึกถึงท่าทีของบรรดาศิษย์นอกสำนัก เปาเอ๋อโกรธหนักยิ่งขึ้น ตั้งแต่เล็กจนโตนางไม่เคยถูกกลั่นแกล้งมาก่อน!
ชายชราปรากฏตัวบนลานประลองเป็นตายอีกครั้ง เขาถอนหายใจหนักเมื่อยังเห็นเปาเอ๋อโกรธอยู่ เช่นนั้นเขาจึงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เปาเอ๋อ ดังที่เห็นว่าข้าสั่งพวกมันไปตระเตรียมหินพลังปราณมาแล้ว ดังนั้นคำที่เอ่ยก่อนหน้านี้…”
เปาเอ๋อตะคอกกลับเสียงเย็น “ข้าไม่มีทางกลับคืนคำพูด ขอบอกต่อเจ้า ว่าในเมื่อพ่ายแพ้ เช่นนั้นก็ควรส่งมอบหินพลังปราณมา แต่แล้วไม่เพียงไม่คิดส่งมอบ กระทั่งคิดหลอกข้าไปสังหารอย่างเงียบงัน เหอะ ขอบอกที่ตรงนี้ เมื่อใดท่านปู่กลับมาพวกเจ้าย่อมได้เห็นดี ภายหน้า พวกเจ้าผู้อาวุโสสำนักนอกอย่าได้คิดฝันมาเยือนยอดเขายันต์ ท่านปู่ย่อมไม่ช่วยเหลือสลักอันใดให้!”
ได้ยินคำของเปาเอ๋อ รอยยิ้มเฉาหัวกลายเป็นแข็งกระด้าง เขาถึงกับสาปแช่งสิบแปดชั่วโครตของบรรดาศิษย์นอกสำนัก ไม่เพียงแต่รนหาที่ตาย แต่ยังดึงบรรดาผู้อาวุโสนอกสำนักไปมีเอี่ยว เขาพลันต้องเผยรอยยิ้มกล่าวคำเสียงเบา “เปาเอ๋อ แม่นางน้อย เรื่องนี้หาได้เกี่ยวข้องใดกับพวกเราผู้อาวุโสนอกสำนักไม่! เรื่องนี้ขออย่าได้บอกต่อท่านปู่เจ้า”
“ไม่!” เปาเอ๋อกล่าวอย่างเกลียดชัง “ข้าจะบอกท่านปู่! พวกศิษย์นอกสำนักกล้าดียังไงมากลั่นแกล้งข้า!”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เฉาหัวเองก็จนปัญญาช่วยเหลือ เพราะเขาจะกล้าทำให้แม่นางน้อยผู้นี้ขุ่นเคืองอีกได้เช่นไร?
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม เจียงชิวสุ่ยและคณะศิษย์กลับมาถึง ไม่เพียงแต่ศิษย์นอก แต่ยังมีสี่ผู้อาวุโสในชุดเขียวคลุมขาว หนึ่งในนั้นหยางเย่รู้จักดี เป็นผู้อาวุโสเชียน
เมื่อเห็นผู้อาวุโสเชียน หยางเย่รีบคำนับ ผู้อาวุโสเชียนเองก็พยักหน้าตอบ จากนั้นจึงมองไปยังเปาเอ๋อ เพราะทุกคนมาเพื่อกล่าวขอขมานางมารน้อย
พอสี่ผู้อาวุโสแห่งสำนักนอกเห็นเปาเอ๋อ ท่าทีพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย บรรดาผู้อาวุโสยิ้มให้เปาเอ๋อ จากนั้นหยิบแหวนออกมา “เปา เปาเอ๋อ มีสามแสนเก้าหมื่นหินพลังปราณในนี้ นำแหวนมิติของเจ้ามา ข้าจะส่งมอบมันให้!”
เอ่ยคำสามแสนเก้าหมื่นหินพลังปราณ ใบหน้าผู้อาวุโสกระตุกเล็กน้อย หัวใจราวถูกเชือดเฉือน ทั้งหมดนี้เป็นพวกเขาผู้อาวุโสและศิษย์สำนักนอกรวบรวมมา กล่าวได้ว่าสำนักนอกถึงกับต้องหมดตัวเพราะเดิมพันครั้งนี้
เปาเอ๋อเผยเสียงเย็นเยือกในลำคอ รับเอาแหวนจากชายชรา ก่อนจะชี้มันไปยังถุงน้อยตรงหน้าของนาง เพียงคิด แหวนพลันเกิดแสงสีเงิน ผ่านไปครู่ เปาเอ๋อจึงคิดส่งแหวนกลับคืนแก่ชายชรา แต่แล้วยามนี้เอง นางพลันนึกอะไรได้ เป็นผลให้มือหดกลับ นางส่ายแหวนในมือไปมาและกล่าว “สิ่งนี้ให้ข้าด้วย ไม่มีข้อโต้แย้งใดกระมัง?”
มือผู้อาวุโสชะงักกลางอากาศด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน เสียงหัวเราะแห้งดังตอบกลับ “ไม่มี ย่อมไม่มีปัญหาใด…” เวลาเดียวกันนี้ เขาสาปแช่งสบถในใจคำ “บัดซบ ข้าจะลงโทษพวกเจ้าจนตกตาย! แหวนมิติมีค่าถึงหนึ่งแสนเหรียญทอง! แต่กลับต้องเสียมันไปเพราะเรื่องนี้…”