มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The …
บทที่ 107 ริก (2)
“ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน?”
นอซด็อกตัวสั่นโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้น
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปิดปาก
ริกิชักดาบออกมา
จากนั้นมีบางอย่างแปลกๆก็เกิดขึ้น
ความกลัวเกาะกุมจิตใจของนอซด็อกขณะที่เขาจ้องมองไปที่ดาบเรียบง่ายไร้การปรุงแต่งนี้
เขาประหลาดใจกับข้อเท็จจริงนี้
ฉันกําลังกลัวเหรอ? ฉันคนนี่นี้นะ?”
มันเป็นไปไม่ได้
ด้วยการควบคุมพลังแห่งความตายของเขา ความกลัวจึงเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีมากกว่าเดมิก็อดคนอื่น ๆ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความทรงจําเกี่ยวกับความรู้สึกนี้แต่เขาก็รู้ดีกว่าใครๆว่าจะควบคุมและกระตุ้นความกลัวได้อย่างไร
ลอร์ดเป็นเพียงคนเดียวที่ทําให้เขารู้สึกเช่นนั้นได้
เขาเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น
จนกระทั่งริกชักดาบออกมาความคิดของเขาได้เปลี่ยนไป
ริกิชักดาบออกมาอย่างช้าๆและราบรื่น
นอซด็อกไม่แม้แต่จะกล้าขยับ
ไม่เขาขยับไม่ได้
ประสบการณ์ที่เขาได้รับในช่วงหลายปีเตือนเขาว่าการเคลื่อนไหวในขณะนั้นจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ก็คงไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย
อันดับแรกเขาควรสังเกต
พวกเขาทุกคนรู้เกี่ยวกับพลังของริกิ
พลังแห่งดาบ
ตั้งแต่วินาทีที่ดาบเข้ามาในมือของเขาแม้ว่ามันจะเป็นดาบเก่าสนิมที่ที่อแค่ไหนมันก็จะกลายเป็นดาบที่สามารถตัดทุกๆอย่างขาดได้ง่ายๆ
นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขารู้เกี่ยวกับพลังของริกิ
แต่นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขารู้จริงๆหรือ?
[ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน]
คําพูดเหล่านี้ถูกกล่าวอย่างมั่นใจ
ริกิมองลงไปที่ดาบของเขา
[ดาบที่ปราศจากความเชื่อมั่นมันก็ไม่ต่างไปจากเศษซากของโลหะ]
เขาสามารถได้ยินเสียงของชายคนหนึ่งในหูของเขาอย่างชัดเจนเหมือนเมื่อ 4,000 ปีก่อน
เขาอยากจะถามตัวเอง
ยังไม่มีความเชื่อมั่นในตัวฉันอีกหรือ?
ฉันแค่แกว่งแท่นโลหะหรือเปล่า?
เขาสงสัย
ถ้าหากชายคนนั้นได้เห็นดาบของเขาในตอนนี้เขาจะคิดอย่างไร?
ทุกอย่างเริ่มต้นจากคําถามเดียว
[นายรู้สึกพึงพอใจแล้วหรือยัง?]
“ฉันไม่รู้”
แม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู้
[นายเคยเสี่ยงชีวิตขณะถือดาบหรือไม่?]
แน่นอนเขายังไม่เคย
เพราะเขานั้นแข็งแกร่งเกินไป
ริกิรู้ว่ามีเพียงคนเดียวที่แข็งแกร่งกว่าเขาและเขาไม่เคยมีเหตุผลที่จะต่อสู้กับเขา
แต่ถ้าเขาต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้สี่คนในเวลาเดียวกันเขาอาจจะต้องเอาชีวิตเข้าแลก
[และเมื่อเวลานั้นมาถึง นายก็จะรู้สึกถึงบางอย่าง]
“ใช่”
ริกิพึมพําเบาๆและเหวี่ยงดาบของเขา
ดาบของ
อนจะหายไปและกลายเป็นแสงสีขาววาบ
คนที่ยืนอยู่ใกล้ริกิที่สุดคืออัคนี แต่ริกิไม่ได้เล็งมาที่เขา
ร่างกายของอัคนีทําจากเปลวไฟที่ไม่สามารถแยกออกได้
ในแง่ของการฟื้นฟูเขาเป็นคนที่ฟื้นฟูได้ดีที่สุดในบรรดาเดมิก็อดทั้งหมด
แต่ริกิยังคงสามารถฟันเขาได้ด้วยดาบและยังสามารถฟาดฟันได้อย่างรุนแรง แม้ความเสียหายจะไม่มากเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ
ด้วยเหตุนี้รกิจึงเลือกที่จะกําหนดเป้าหมายไปที่นอซด็อกแทน
เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
นอซด็อกรู้เรื่องนี้
ในขณะที่เขามีพลังแห่งความตายเทคนิคการป้องกันของนอซด็อกนั้นดีที่สุดและเขารู้ว่าเขาจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีของริกิได้ด้วยสิ่งนั้น
“ดังนั้น
พลังแห่งความตายปะทุออกมาจากมือขวาของเขา
มันคงเป็นเรื่องตลกร้ายสําหรับคนที่รู้ว่าพวกเขามีพลังป้องกันที่อ่อนแอเพียงใด เฝ้าดูและรอให้ความตายมาพรากพวกเขาไป
ทองและเงินในห้องกลายเป็นสีม่วงและละลายอย่างรวดเร็ว
แซ่บ!
พลังแห่งความตายถูกปลดปล่อยออกมาเป็นพลังงาน
ความเร็วของมันเทียบเท่ากับดาบของริกิ
“แกจะทําลายมันได้ไหมริกิ… ?!”
นอซด็อกถามคําถามนี้ภายในใจ
คําตอบของริกิคือได้
แตก
[กั่วก!]
ไหล่ขวาของนอซด็อกพังยับเยินในขณะที่เขาส่งเสียงกรีดร้อ งด้วยความเจ็บปวดอย่างมากที่ไม่เคยรู้สึกมานานหลายศตวรรษ
[เขาหยุดพลังแห่งความตายของฉันได้อย่างไร?]
ก่อนที่พลังงานแห่งความตายของเขาจะเข้ามาถึงตัวของริกิมันได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ริกเปิดเผยกริชในมือซ้ายของเขา
นอซดอกไม่รู้ตัวเพราะมันอยู่ในจุดบอดของเขา
[บะใบมีดขนาดเล็กเช่นนี้สามารถปิดกั้นพลังของฉันได้หรือ?…]
“ ขนาดไม่ได้สําคัญ ขอเพียงแต่มันอยู่ในรูปแบบของดาบ”
[ไม่จริง…]
ความโกรธฉายออกมาจากดวงตาของนอซด็อก
เขามองไปรอบ ๆ
สถานที่แห่งนี้มีขนาดเล็ก
เล็กเกินไป
เขาไม่สามารถแม่แต่ยืดตัวได้
แล้วเขาจะทําอย่างไร?
เห็นได้ชัด
เขาจะต้องทําให้มันใหญ่ขึ้น
ร่างกายของนอซดอกเริ่มเติบโตขึ้น
เรย์รินพูดอย่างรีบร้อน
“ นอซด็อก! ถ้านายปลดปล่อยพลังของนายที่นี่…”
[หุบปาก!]
“นายพูดว่าอะไรนะ?”
คําพูดของนอซด็อกทําให้การแสดงออกของเรย์รินแข็งกระด้าง
นี่เป็นเพราะเดมิก็อดแทบไม่เคยใช้คําที่รุนแรงเช่นนี้ต่อกัน
นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่านอซด็อกเริ่มไม่มีสติอีกต่อไป
* เชอะ ”
เรย์รินตัดสินใจปล่อยให้มันผ่านไปตอนนี้
จากนั้นเธอหันไปหาอัคนีที่ค่อนข้างสงบแล้วพูด
“ ฉันจะปกป้องเหล่าอัครสาวกเอง ส่วนอัคนี้นายกับอนันตารีบไปช่วยนอซด็อกเถอะ”
” ช่วย?”
อัคนีทําสีหน้าไม่สบายใจ
พวกเขาเป็นอะไร?
พวกเขาเป็นถึงเดมิก็อดนะ!
สิ่งมีชีวิตที่เอาชนะมังกรและได้รับการยกย่องว่าแข็งแกร่งที่สุด
พวกเขาไม่มีใครเทียบได้ในทวีป
ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงหยิ่งยโสอย่างไม่น่าเชื่อ
แน่นอนพวกเขาไม่เคยต่อสู้กับเผ่าของตัวเอง
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีทางเลือกในขณะนี้
* เข้าใจแล้ว”
หลังจากได้รับการพยักหน้าของอัคนี เรย์รินก็หายไปจากจุดของเธอ
ริกิเห็นแบบนี้ก็เข้าใจว่าเธอไปเพื่อพาอัครสาวกไปยังที่ปลอดภัย
เขายังคงกดดันนอซด็อกด้วยความสามารถในเพลงดาบของเขา
ลองคิดดูสิ
เขาไม่ได้ใช้ร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขาด้วยซ้ํา
มีโอกาสสูงที่เขาจะใช้มันในการต่อสู้ครั้งนี้
“นี่เป็นสถานการณ์ที่ยากลําบาก”
อัคนี้วิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็น
เขาเป็นเจ้าแห่งเปลวเพลิง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขามีบุคลิกที่ใจร้อน
แต่เขาเป็นคนที่มีตรรกะมากที่สุดเป็นอันดับสองในบรรดาอะโพคาลิปส์รองจากริกิ
นั่นคือเหตุผลที่เขาสามารถเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันและปัญหาที่พวกเขาเผชิญได้อย่างรวดเร็ว
สิ่งที่คาดไม่ถึงที่สุดสําหรับเขาคือความจริงที่ว่าริกิแข็งแกร่งกว่าอะโพคาลิปส์อื่นๆ มาก
เมื่อพูดถึงพลังศักดิ์สิทธิ์เขามั่นใจว่าริกเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากลอร์ด
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถพูดได้ว่าเขาแข็งแกร่งพอที่จะปราบปรามอะโพคาลิปส์ทั้งสี่ที่รวมตัวกันที่นี่ได้หรือไม่
อนันตา อัคนี เรย์ริน นอซด็อก
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นหนึ่งในเดมิก็อดที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีอยู่
อย่างไรก็ตามไม่มีวี่แววว่าพวกเขาจะสรุปสถานการณ์นี้ได้อย่างง่ายดาย
นอซด็อกแผ่พลังแห่งความตายครอบคลุมอนันตาและตัวเขาเอง
แม้ว่าเรย์รินจะไม่อยู่ที่นั่น แต่พวกเขาก็ควรจะทําให้ริกิคุกเข่าลงได้
เก๊ก
แขนซ้ายของนอซด็อกได้รับบาดเจ็บ
ริกิใช้ดาบของเขาในการควบคุมการต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์แบบแม้ว่าใบมีดจะมีขนาดเท่าเล็บมือเท่านั้นเมื่อเทียบกับร่างกายที่ใหญ่โตของนอซด็อก
“นี่มันไม่ดี
พลังแห่งความตายของนอซด็อกอาจมีความสามารถในการทําให้คู่ต่อสู้ตายได้ และเขาก็สามารถชุบชีวิตกับคนตายได้ในทํานองเดียวกัน
อันเดธที่เขาปลุกนั้นแข็งแกร่งกว่าอันเดธปกติหลายสิบเท่า
นี่เป็นเรื่องธรรมดาเนื่องจากแม้แต่อันเดธของโอดินที่ซึ่งใช้เป็นเหยื่อล่อก็ยังแข็งแกร่งมาก
แต่นอซด็อกก็ยังไม่ได้อัญเชิญอันเดธใด ๆ
เหตุผลนั้นง่ายมาก
มันไร้ค่า
แม้ว่าเขาจะเรียกลูกกระจ๊อกหลายร้อยหรือหลายพันตัวพวกมันก็ไม่สามารถขัดขวางริกิได้แม้เพียงวินาทีเดียว
“ไม่หรอก พวกมันไม่ได้เป็นลูกกระจ๊อก”
แม้แต่อันเดธที่อ่อนแอที่สุดในหมู่อันเดธของนอซด็อกก็สามารถสังหารหมู่มอนสเตอร์คลาส A ได้
อย่างไรก็ตามแม้แต่อันเดธเหล่านี้ก็ไม่สามารถต้านทานการเนื้อนจากดาบของริกิได้แม้แต่ครั้งเดียว
“แต่ทําไมริกิถึงแสดงความแข็งแกร่งในรูปแบบนั้นได้ล่ะ?”
สําหรับเดมิก็อดเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะต้องออกแรงมากขึ้นเมื่อพวกเขามีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
อย่างไรก็ตามริกิยังคงรักษาร่างมนุษย์ของเขา
” ไม่มีทาง
นี่คือร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาหรือ?
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็มีโอกาสที่พวกนอซด็อกจะชนะการต่อสู้ครั้งนี้
เสียงแตก
ลูกบอลแห่งเปลวไฟพุ่งออกจากมือของอัคนี
มันดูเหมือนลูกไฟธรรมดาในแวบแรก แต่ความร้อนที่กักเก็บไว้นั้นน่ากลัวมาก
ริกเหลือบมองเขาก่อนที่จะหยุดการโจมตีของเขาชวขณะเพื่อเหวี่ยงดาบไปที่เปลวไฟของอัคนี
“ ฉันคิดไว้แล้วเชียว”
“ นายคิดอะไรอัคนี้”
อนันตาซึ่งยืนอยู่ข้างๆเอ่ยถาม
อัคนีหรี่ตาลงขณะที่เขามองไปที่ริกิ
“ ไม่แปลกเหรอ? ริกิสามารถเอาชนะเราได้แม้ในร่างมนุษย์ถ้าเขาสู้ด้วยร่างศักดิ์สิทธิ์การต่อสู้ครั้งนี้จะง่ายกว่ามากสําหรับเขาแต่ทําไมเขาถึงไม่ทําล่ะ?”
“ อืม…เป็นเพราะเขาไม่รีบร้อนหรือเปล่า”
“ ไม่หรอก ลอร์ดจะกลับมาเร็วๆนี้ ดังนั้นริกิจึงต้องยุติการต่อสู้นี้ก่อนหน้านั้น เขาไม่มีเวลาให้ใจเย็น”
“ แล้ว ?
การจ้องมองของอัคนี้ถูกล็อคไว้ที่ริกิ
การแสดงออกที่จริงจังการใช้ดาบที่เชี่ยวชาญและร่างกายของเขาที่เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์เปรียบได้กับร่างศักดิ์สิทธิ์
“ นั่นคือร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของริกิ”
“อะไรนะ?”
“ นายจะเข้าใจถ้านายจําได้ว่าเขามีพลังของดาบ สําหรับริกการเข้าสู่ร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขาไม่ได้หมายความว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นแต่มันกลับกลายเป็นภาระ”
อนัตตาพยักหน้า
เมื่อพวกเขาเข้าสู่ร่างศักดิ์สิทธิ์พวกเขาจะมีขนาดใหญ่ขึ้น
สําหรับอะโพคาลิปส์ในขณะที่ร่างศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไม่ได้ใหญ่เท่ากับอัคนีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดแต่ก็ยังใหญ่กว่าเดมิกอดทั่วๆไป
และสําหรับริกิที่ใช้ดาบนั้นถือเป็นข้อเสีย
“ อาจจะเป็นเวลาไม่กี่พันปีที่ผ่านมา ริกิได้ฝึกฝนตัวเองเพื่อให้สามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งออกมาในร่างนั้นได้เต็ม
“ คุคุค ใช่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเรามีมาตรการรับมือที่ชัดเจน อย่างที่นายพูดเขายังสามารถใช้อํานาจได้เต็มที่ในร่างนั้นได้”
“ มีอยู่อย่างหนึ่ง ถ้าเขาอยู่ในสภาพนั้นความทนทานของเขาก็ไม่น่าจะเกินกว่ามนุษย์ธรรมดามากนัก”
แน่นอนนอซด็อกเองก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามริกนั้นเคลื่อนที่เร็วเกินไปและเขาไม่สามารถสร้างความเสียหายได้
อัคนีเองก็ไม่มั่นใจเช่นกันว่าเขาจะไล่ตามความเร็วของริกิได้ไหม
แต่เขามีทางออก
อ้ากกกกก!
เสาไฟลุกขึ้นจากร่างของอัคนีและยิ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าทําให้อนั้นตาต้องถอยห่างออกไปเพื่อไม่ให้ถูกไฟไหม้
ในร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขา อัคนีมองลงไปที่อนันตาและพูดว่า
[นายก็ควรเข้าสู่ร่างศักดิ์สิทธิ์ของนายด้วย
“ทําไม?”
เพราะฉันวางแผนที่จะเพิ่มอุณหภูมิของสถานที่นี้
ความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและรอยยิ้มตามปกติของอนนตาก็หายไปจากใบหน้าของเขา
อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com
“ ในระดับใด”
[เกินขีดจํากัดของร่างกายมนุษย์]
“เขาโกรธ
เฟรย์มั่นใจ
ลอร์ดโกรธมากกว่ากว่า 4,000 ปีก่อนเมื่อเขาขังลูคัสไว้ในอเวจี
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นห่วงเป็นใยริกิมากแค่ไหน
นอกจากนี้ยังเป็นหลักฐานว่าการทรยศของริกิได้สร้างความเจ็บปวดให้กับเขามากกว่าการตายของเหล่าเดมิก็อด
[ฉันจะไม่ฆ่าแกเพราะนั่นมันง่ายไป มันจะไม่ช่วยบรรเทาความโกรธของฉันเลย นายได้ทําสิ่งที่นายไม่ควรทํา ฉันจะให้นายชดใช้มัน]
กุ้ง
เฟรย์รู้สึกว่าพื้นที่รอบตัวเขาถูกปิดผนึก
เฟรย์ถอนหายใจ
เขาไม่สามารถเอาชนะลอร์ดได้แม้ว่าเขาจะรีดพลังออกมาเต็มที่ในขณะนั้นก็ตาม
เขาจะไม่สามารถต่อกรได้
เช่นเดียวกับที่เฟรย์กําลังจะรวบรวมมานาของเขา
“เดี๋ยว!”
รอยแยกปรากฏขึ้นในพื้นที่เยือกแข็งและมีคนก้าวออกมาจากที่นั่น
เป็นผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
ผู้หญิงคนนี้มีร่างกายที่เย้ายวนและผมสีม่วงสว่างแต่เฟรย์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนว่าเธอนั้นดูเหมือนใคร
ลอร์ดหันมาหาเธอ
(ไอริสเธอมาทําอะไรที่นี่?]