มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The Gr…
บทที่ 119 องค์หญิงที่ 3 (3)
มีคนหล่นลงมาจากเพดาน
เป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าซ่อนอยู่หลังหน้ากาก
เธอสวมชุดออกงานกลางคืนแบบรัดรูปทําให้บอกถึงเพศได้ง่าย
หน้ากากของเธอปกปิดใบหน้าเพียงครึ่งเดียวและปล่อยให้หน้าผากของเธอเผยผมสีดําสนิท และมัดไว้ข้างหลัง
โดยรวมแล้วเธอให้ความรู้สึกที่เย็นชามาก
“ คุณเป็นบอดี้การ์ดของเธอเหรอ?”
“ใช่ถูกต้อง”
รอยยิ้มปลอมๆ ไม่เคยได้ผลกับผู้ชายคนนี้ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องเสียเวลาทําเช่นนั้น
การแสดงออกของฟิโอเร่เปลี่ยนไป เมื่อเธอคิดวิธีที่จะดําเนินการสนทนานี้
“ฉันเกลียดที่จะยอมรับมัน
เธอต้องยอมรับมัน
การต่อสู้ครั้งนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเธอ
เธอพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบ
“ การใช้แอสซาซินเป็นผู้คุ้มกัน ช่างเป็นเรื่องที่น่าประหลาดแค่ไหน”
“ เวโรนิกาไม่ใช่แอสซาซิน”
ฟิโอเร่ปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
มันคงไม่ดีสําหรับเธอถ้าเขาใช้ข้อเท็จจริงนั้นกดดันเธอเข้าไปอีก
เฟรย์พยักหน้าขณะที่เขาพูด
“ขอโทษด้วย เธอสวมหน้ากากเปลี่ยนเสียง ใส่บอดี้สูทหนังเสือดาวสีดําและมีมีดเก้าเล่ม ฉันจึงเข้าใจผิด”
ฟิโอเร่กดขมับของเธอ
เป็นนิสัยที่เธอพัฒนาขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีภาระทางจิตใจ
“..เธอไม่รู้สึกชื่นชมอีกต่อไป
ในที่สุดเธอก็พยักหน้าพยายามลดการสูญเสียของเธอ
“คุณพูดถูกแล้ว เวโรนิกาเป็นแอสซาซิน”
แม้ว่าเธอจะยอมรับแต่เธอก็รู้ว่าเธอจะไม่ได้รับปฏิกิริยาจากเฟรย์มากนัก
เมื่อถึงจุดนั้นฟิโอเร่รู้สึกว่าเธออาจได้รับปฏิกิริยาจากกําแพงอิฐมากกว่าเฟรย์เสียอีก
เธอรู้สึกเหนื่อย
เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเธอจะรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้ หลังจากที่ทําสงครามจิตวิทยากับคนๆนี้เพียงไม่กี่นาที
เฟรย์พูดถูก
เวโรนิกาผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเธอเป็นแอสซาซิน
ในความเป็นจริงเธอเป็นหนึ่งในมือสังหารที่มีฝีมือมากที่สุดในทวีป
สีหน้าของเวโรนิกาเย็นชา
เธอจ้องมองเฟรย์ด้วยสายตาที่เย็นชาอย่างเหลือเชื่อ ความภาคภูมิใจของเธอถูกทําลายจากชายคนนี้อย่างรุนแรง
“ ทําไมคุณไม่พูดสิ่งที่คุณจะทําก่อนหน้านี้ล่ะอีกทีละ” (เวโรนิกา)
ดวงตาของเธอแทบจะลุกเป็นไฟ
ฟิโอเร่รู้สึกว่าปฏิกิริยาของเธอผิดปกติและพยายามหยุดเธออย่างรวดเร็ว แต่การตอบสนองของเฟรย์นั้นเร็วกว่า
“ ฉันพูดอะไรก่อนหน้านี้? อาใช่แล้วฉันบอกว่าฉันฆ่าคุณดีไหม?”
“ ฮ่าวิซาร์ดสังหารนักฆ่า เรื่องไร้สาระแบบนั้นจะออกมาจากปากของวิซาร์ดที่คิดว่าตัวเองสูงส่งเกินไปเท่านั้นแหละ”
จากนั้นเธอก็ชักมีดสั้นและจ้องไปที่เฟรย์
แต่เฟรย์สายหัวใส่เธอ
“ คุณกําลังคุกคามอาร์คเมจระดับสูงจริงๆหรือ? คุณไม่มีพลังพอหรอก เก็บกริชของคุณได้แล้ว”
เสียงดัง
ดวงตาของฟิโอเร่เบิกกว้าง
ความชุลมุนเล็กน้อยเกิดขึ้น แต่สายตาของเธอไม่สามารถตามได้ทัน
เธอมองไปที่ใบหน้าของเวโรนิกา
เวโรนิกาก้มหน้าลงพร้อมกับสีหน้าเศร้าๆบนใบหน้าของเธอ
กริชในมือของเธอก็หายไปด้วย
ในทางกลับกันเฟรย์ยังคงไม่แสดงออกและกริชก็ลอยอยู่ตรงหน้าที่เปลือกตาของเขา
“ คราวนี้ฉันจะปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปเพราะเห็นแก่องค์หญิง”
“ อย่าพูดพล่าม…”
“ เวโรนิก้าพอได้แล้ว!”
ฟิโอเร่พูดด้วยน้ําเสียงเย็นชาและเมื่อเธอเห็นการจ้องมองที่ดุร้ายของเธอเวโรนิกาก็สะดุ้งและก้มหัวลง
“ดิฉันขอโทษคะ”
“ ครั้งนี้ฉันจะยกโทษให้คุณ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกมันจะมีผลตามมา”
“ ดิฉันจะจําไว้คะ”
เวโรนิกาถอยหลังไปสองสามก้าว ฟิโอเร่ถอนหายใจข้างในก่อนจะมองเฟรย์อีกครั้ง
“ ได้โปรดยกโทษให้กับความหยาบคายของฉัน”
ความจริงใจในน้ําเสียงของเธอนั้นชัดเจน
ผลกระทบที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้ชัดเจน
หมายความว่าเจ้าหญิงไม่ได้ตั้งใจที่จะปฏิบัติต่อผู้ชายคนนี้เหมือนลูกชายคนที่สามของครอบครัวเบลคอีกต่อไป แต่เปรียบเสมือนเป็น “อาร์คเมจชั้นยอด”
เฟรย์จับมือเขา
“ไม่เป็นไร ยังไงก็ตาม…คุณวางแผนที่จะให้เธออยู่ฟังด้วยหรือเปล่า”
“ ด้วยสถานะของฉันในฐานะเจ้าหญิงองค์ที่สาม ทําให้การประชุมส่วนตัวเป็นเรื่องยากโดยไม่มีผู้พิทักษ์”
หากเธอต้องการรักษาสถานะของเธอในฐานะเจ้าหญิงมีบางอย่างที่เธอต้องทํา
ไม่มีทางที่สิ่งที่กล่าวถึงในที่นี้จะรั่วไหลออกไป
ยิ่งไปกว่านั้นทักษะของเวโรนิกาไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเขา
เฟรย์พยักหน้า
การต่อสู้แห่งสติปัญญาที่น่าเบื่อได้สิ้นสุดลงอย่างแท้จริงและตอนนี้จะเป็นการพูดคุยถึงหัวข้อที่สําคัญอย่างแท้จริง
“ ถ้าอย่างนั้นฉันจะพูดโดยไม่ลังเล คุณรู้แผนของเรตามากแค่ไหน”
แม้ว่าเขาจะพูดชื่อดัชเชส(ตําแหน่งเมียของดยุก) แต่การแสดงออกของเฟรย์ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
มันดูเหมือนว่าเขาไม่ได้พูดถึงแม่ที่ให้กําเนิดเขาเลย
การเตรียมการของฉันยังไม่เพียงพอ
ฟิโอเร่กัดริมฝีปากของเธอ
เธอควรจะทําการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเฟรย์
อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเขามากนักเพราะเขาได้รับการปฏิบัติเหมือนชายคนหนึ่งที่ครอบครัวของเขาทอดทิ้งและอยู่ในสถาบันการศึกษาเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ
หลังจากที่เขาได้สัมผัสกับเซอร์เคิลการเคลื่อนไหวของเขาก็ยิ่งลึกลับมากขึ้น
ฟิโอเร่ตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์
เธอสูญเสียในตอนแรกไปแล้วอย่างน้อยเธอก็ต้องพิสูจน์คุณค่าของเธอ เธอไม่อาจปล่อยให้อีกฝ่ายคิดว่าเธอนั้นไร้ความสามารถ
นั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
“ เรตาต้องการพาฉันเข้าสู่ตระกูลเบลคเพื่อแยกฉันออกจากราชวงศ์…และ
ฟิโอเร่ลังเลขณะที่เธอสงสัยว่าควรจะพูดต่อหรือไม่
มันช่วยไม่ได้ เนื่องจากข้อมูลที่เธอกําลังจะพูดนั้นยังไม่ได้รับการยืนยัน
“แต่
เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ
เธอเห็นมั่นในสายตาของเฟรย์
เขาไม่ได้กระตุ้นเธอเขาแค่สังเกตเธออย่างเงียบๆ
แต่ฟิโอเร่สามารถบอกได้ว่าความตั้งใจที่แท้จริงของเขาคืออะไร
“เขากําลังทดสอบคุณค่าของฉัน”
เธอมองว่าเป็นเช่นนั้น
นานแค่ไหนแล้วที่ผู้คนเริ่มมองเธอแบบนั้น?
ไม่ใช่แค่พรที่ได้เกิดมาในราชวงศ์อิมพีเรียล
หากคุณลดการป้องกันของคุณลงเพียงเล็กน้อย หรือหากคุณแสดงข้อบกพร่องคุณจะถูกกลืนกินโดยไม่ลังเล
หลังจากนั้นก็เห็นได้ชัด
คุณจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือเหมือนหุ่นเชิดเพื่อช่วยพี่น้องของคุณ
ชีวิตที่น่าสังเวชจริงๆ
เพื่อที่จะไม่ได้สัมผัสกับชีวิตเช่นนั้นฟิโอเร่ได้เรียนรู้วิธีการใช้ชีวิต
เธอใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่มีอยู่ เพียงเพื่อความอยู่รอด
เหล่าเซอร์เคิลและเหล่าเดมิก็อดก็เป็นเครื่องมือที่ฟิโอเร่ใช้เช่นกัน
พวกเขาทดสอบและตั้งคําถามกับคุณค่าของเธอเสมอ
และฟิโอเร่เองก็รู้
ช่วงเวลาที่เธอไม่ได้ทําตามความคาดหวังเธอจะสูญเสียชื่อเสียงและอิทธิพลของเธอไป ท้ายที่สุดยังมีสมาชิกหลายคนในราชวงศ์จักรพรรดิที่สามารถให้พวกเขาใช้ประโยชน์ได้อยู่
เธอไม่ต้องการที่จะลงเอยเช่นนั้นฟิโอเร่จึงคิดอย่างหนักว่าจะทําอย่างไร และในที่สุดเธอก็พบทางรอด
เธอประสบความสําเร็จในการแสดงคุณค่าของเธอต่อทั้งสองฝ่าย
“ฉันเคยพิสูจน์แล้วว่าฉันมีค่าต่อพวกเดมิก็อดด้วยซ้ํา
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอก็ไม่ได้แตกต่างจากพวกเขามากนัก
ฟิโอเร่จึงเข้มแข็งขึ้นและอ้าปากพูด
“ พวกเขาต้องการบางอย่างจากฉัน”
“ โห”
เฟรย์แสดงความชื่นชมอย่างเงียบๆ
แววตาของเขาเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรก
ความสนใจที่สั่นไหวสามารถมองเห็นได้
“ ทําไมคุณถึงคิดอย่างนั้น”
เธอไม่ควรพลาดโอกาสนี้
ฟิโอเรเลียริมฝีปากและอธิบายต่อ
“ ครอบครัวเบลคมักจะซื้อวัสดุวิเศษโลหะหายากและเครื่องมือวิเศษจากฉัน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การซื้อของพวกเขาเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า”
สามเท่า
นั่นไม่ใช่ตัวเลขธรรมดาๆ
ท้ายที่สุดแล้วสิ่งของทั้งหมดที่ฟิโอเร่กล่าวถึงนั้นค่อนข้างแพง
แม้ว่าครอบครัวจะซื้อเพิ่มสองเท่าก็ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจํานวนมาก อย่าว่าแต่สามเท่าเลย
จํานวนดังกล่าวจะเป็นภาระอย่างแน่นอนแม้กระทั่งสําหรับครอบครัวเบลค
“ พวกเขาหาข้ออ้างว่าพวกเขาใช้มันเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์เวทมนตร์ แต่ฉันไม่เชื่ออย่างนั้นได้เต็มที่”
“ทําไม?”
“ เนื่องจากมีไอเทมเช่นเหล็กดําและสมุนไพรที่ไม่จําเป็นสําหรัวิทยาศาสตร์เวทมนตร์ปนอยู่ด้วย”
“ แท่งเหล็กดําสามารถใช้ในการเล่นแร่แปรธาตุได้ และยิ่งครอบครัวไหนมีสมุนไพรในสต็อกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี โดยเฉพาะกับครอบครัวใหญ่” (เฟรย์)
เขากําลังโต้เถียง แต่เขาไม่ได้พูดร้ายกับเธอ
แต่ดูเหมือนว่าเขาต้องการดูว่าเธอจะตอบสนองอย่างไร เขาดูพอใจเล็กน้อยในขณะนั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เฟรย์เปิดเผยอารมณ์ให้กับเธอ
“ ?”
ในขณะนั้นฟิโอเร่อดไม่ได้ที่จะเห็นภาพอาจารย์ของเธอที่ฉายอยู่บนร่างของเขา
ไม่
ไม่มีทาง
จากบรรดาพ่อมดทั้งหมดที่เธอรู้จักอาจารย์ของเธอเป็นคนที่น่าทึ่งที่สุด
เธอยอมรับได้ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ก็ไม่มีทางเทียบได้กับอาจารย์ของเธออย่างแน่นอน
ฟิโอเร่สงบสติอารมณ์และพูดว่า
“ จํานวนมันมากเกินไป ไม่ว่าพวกเขาจะเอาไปทําอะไรพวกเขาจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเหล็กดําเกือบต้นได้ในเวลาอันสั้น แม้แต่สมุนไพรก็ขึ้นสั่งเพิ่มมาหลายร้อยกิโลกรัม จํานวนที่พวกเขาซื้อนั้นสูงเกินมาตรฐานแม้ว่าเราจะรวมสมาชิกทั้งหมดในครอบครัวเบลคและคนรับใช้ของพวกเขาแล้วก็ตาม”
“ และพวกเขาไม่จําเป็นต้องซื้อมันจากราชวงศ์เลย สิ่งของเหล่านั้นหาได้ยากมากและตระกูลเบลดก็น่าจะมีซัพพลายเออร์ของตัวเองอย่างแน่นอน”
เพื่อซ่อนความตึงเครียดที่เธอรู้สึกไว้ข้างในฟิโอเร่ได้เปิดเผยข้อมูลชิ้นสุดท้าย
“ เลือดของโทรล โสมปาอายุ 10 ปี ฮาร์กอน มรกตและหินเลือด ฉันว่ามีบางอย่างในนั้นเป็นการล่อ แต่ฉันมั่นใจว่ามีบางอย่างที่ดัชเชสต้องการที่จะได้มาอยู่ในนั้น”
เฟรย์หรี่ตาลง
เธอเก็บบันทึกการทําธุรกรรมของเธอกับครอบครัวเบลดไว้อย่างใกล้ชิดซึ่งทําให้เธอสามารถประเมินขนาดของครอบครัวได้อย่างคร่าวๆ
จากนั้นเธอก็วิเคราะห์ข้อมูลนี้โดยไม่ให้รายละเอียดมากจนเกินไปก่อนที่จะได้ข้อสรุป
อย่างน้อยที่สุดในด้านการคํานวณในใจและการใช้เหตุผล ฟิโอเร่อาจได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในผู้ที่เก่งที่สุดในทวีป
หากขาดแม้แต่แง่มุมเดียวเธอก็คงไม่สามารถสร้างผลลัพธ์แบบเดียวกับที่เธอเคยมีมาได้
เฟรย์พยักหน้า
“ยอดเยี่ยมในบรรดาวัสดุทั้งห้าที่องค์หญิงกล่าวถึง ไอเทมที่เรตาตั้งเป้าไว้นั้นมีอยู่ในรายการจริงๆ”
“ อ่า….ขอบคุณ”
ฟิโอเร่ตอบในขณะที่หน้าแดงโดยไม่รู้ตัว
ในขณะนั้นเธอรู้สึกถึงความสําเร็จและความภาคภูมิใจจากการตอบคําถามของเขาได้สําเร็จ
แต่เวโรนิกาซึ่งยืนอยู่ข้างๆเธอดูฉากนี้ด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“ไอ้หมอนี่มันใครวะ?”
โดยปรกติฟิโอเร่เจ้าหญิงองค์ที่สามจะเป็นคนที่สร้างความอับอายให้กับเหล่าชายชราผู้ที่เชื่อว่าพวกเขามีประสบการณ์และเก่งในทางการเมือง
อย่างน้อยเวโรนิกาก็ไม่เคยเห็นเธอแพ้ศึกชิงไหวพริบ
ไม่
พูดตามตรงเธอนึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
กระนั้นชายคนนี้ก่อนหน้าเธอก็ปฏิบัติต่อฟิโอเร่เหมือนกับเด็ก และยกย่องเธอเหมือนเขาเป็นหัวหน้า
แต่สิ่งที่ทําให้เธอตกใจอย่างแท้จริงคือการตอบสนองของฟิโอเร่
ทําไมเธอถึงแสดงความภาคภูมิใจและมีความสุขเหมือนกับที่ได้รับคําชมจากอาจารย์ของเธอ
เป็นเวลาเกือบสิบปีแล้วที่เวโรนิกายืนอยู่ข้างฟิโอเร่และเธอไม่เคยเห็นฟิโอเร่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน
“ ดัชเชสต้องการวัสดุใดในห้าชิ้นนี้”
“ ก่อนจะตอบฉันขอถามองค์หญิงก่อนได้ไหม”
“ได้สิกรุณาถามมาเลย”
“ คุณจะทําตัวเป็นกลางต่อไปหรือไม่”
ในขณะนั้นการแสดงออกของฟิโอเร่ก็แข็งกระด้างและใบหน้าที่แดงก่ําของเธอก็กลับมาเย็นชา
“ มันไม่ใช่เรื่องของคุณ”
“ ผมรู้ถึงความหยาบคายของผม แต่ผมขอถามตรงๆว่า คุณคิดว่าจะเป็นกลางได้นานแค่ไหน?”
“ คุณหมายถึงอะไร”
“ เดมิก็อดจะเข้ายึดครองทวีปในอีกไม่ช้า”
“ฮะ?”
ดวงตาของฟิโอเร่เบิกกว้างเมื่อเธอได้ยินคําพูดที่ไร้สาระนั้น
ปฏิกิริยาของเวโรนิกาก็ไม่แตกต่างกันมากนัก
แต่เฟรย์ไม่ได้พูดคําเหล่านี้โดยไม่มีเหตุผล
“ ฉันบอกคุณล่วงหน้า นี่ไม่ใช่การคาดเดาหรือการมโน ในอีกหนึ่งปีอย่างน้อยที่สุดและอย่างช้าที่สุดสองปี พวกเขาจะเริ่มลงมืออย่างจริงจังเพื่อเข้าควบคุมทวีป “
“แต่…ทําไมเพิ่งมาทําเอาตอนนี้? พวกเขานิ่งเฉยมาหลายพันปี…”
“ เป็นเวลานานแล้ว เพียงพอแล้วที่เราอาจลืมธรรมชาติของพวกเขา แต่อย่าหลงเชื่อ พวกเขาสามารถทําได้ทุกเมื่อที่พวกเขาต้องการ”
แม้ว่าเขาจะพูดแบบนี้ แต่เธอก็ไม่เชื่อคําพูดของเขาง่ายๆ
นี่คือสิ่งที่การแสดงออกของฟิโอเร่ได้บอกเขา
แต่มันไม่สําคัญ
ไม่มีสิ่งใดที่เขาสามารถพูดเพื่อโน้มน้าวเธอได้
เฟรย์พูดโดยไม่ลังเล
“ และก่อนที่มันจะเกิดขึ้นองค์หญิงอาจจะสิ้นพระชนม์
ความเงียบกลบในห้องครู่หนึ่งแล้วเวโรนิก้าก็พูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
“ คุณไม่รู้ว่าคุณกําลังพูด…”
“เธอรู้แน่นอน!”
ในฐานะองครักษ์เห็นได้ชัดว่าเธอภักดีต่อข้อกล่าวหาของฟิโอเร่มาก เมื่อต้องเผชิญกับคําพูดเช่นนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะแสดงความโกรธเมื่อได้ยินคนพูดถึงการตายของเจ้านายเธออย่างเปิดเผย
แต่ฟิโอเร่ยังคงสงบนิ่งราวกับว่าพวกเขาไม่ได้พูดถึงชีวิตของเธอ
“ ฉันถามได้ไหมว่าทําไม”
“ เพื่อตอบคําถามก่อนหน้าของคุณสิ่งที่เรตาต้องการคือฮาร์กอนและคนเดียวในราชวงศ์อิมพีเรียลที่สามารถจัดหาให้พวกเขาได้ก็คือคุณ”
“ อ่าถูกต้อง ฉันเป็นคนเดียวในราชวงศ์อิมพีเรียลที่รู้วิธีหาฮาร์กอน แต่นั่นมันไม่ใช่โลหะที่มีประโยชน์มากนัก”
ฟิโอเร่เอียงศีรษะเล็กน้อยและหลับตาดูเหมือนพยายามจัดระเบียบความคิดของเธอ
“ พวกเขาต้องการหยุดฉัน เพื่อค้นหาที่มาของฮาร์กอนหรือที่ตั้งของมัน นั่นคือสิ่งที่คุณพยายามจะพูดใช่ไหม?”
“ใช่และถ้าตารางงานของพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลง มันอาจจะเกิดขึ้นแล้ว”
ถ้าริกิไม่ได้สร้างบาดแผลให้กับเหล่าอะโพคาลิปส์ถึงขั้นที่ลอร์ดและเรย์รินต้องยุ่งเพื่อรักษาพวกเขามันก็เกือบจะเกิดขึ้นแล้ว
ท้ายที่สุดถ้าพวกเขาสามารถผลิตอิลูมิเนียมได้เป็นจํานวนมาก พวกเขาก็จะสามารถใช่พลังได้โดยไม่ต้องยับยั้งชั่งใจ
ถ้าเป็นเรย์รินเธอจะสามารถกําจัดเมือง เคาซิมโฟนี ได้ด้วยตัวเอง
“ เรตาตัดสินให้คุณเป็นคนเป็นกลางก็จริง แต่ฉันคิดต่างออกไป ชีวิตขององค์หญิงตกอยู่ในอันตราย หากคุณก้าวผิดไปแม้แต่ก้าวเดียวคุณจะตกหน้าผาโดยที่คุณมองไม่เห็นพื้นดิน”
ฟิโอเร่กัดริมฝีปากของเธอเพราะเขาไม่ได้พูดอะไรผิดเลย
เป็นความจริงที่เธอถูกบังคับให้เสียงด้วยชีวิตของเธอหลายสิบครั้งก่อนหน้านี้ และหากเธอทําผิดแม้แต่ครั้งเดียว เธอคงจะไม่ได้มานั่งอยู่ที่นี้ในขณะนี้
เธอพูดด้วยน้ําเสียงที่ไม่สบายใจเล็กน้อย
“ คุณกําลังจะแนะนําให้ฉันเข้าร่วมกับเหล่าเซอร์เคิลหรือ?”
“ ไม่ พวกเขาไม่สามารถปกป้องคุณได้”
“ แล้ว…”
* ไม่ใช่เซอร์เคิล เข้าร่วมกับผมแทน”
เฟรย์มองเข้าไปในดวงตาที่สั่นระริกของฟิโอเร่
“ ผมจะเป็นโล่ให้คุณเอง”