สถานที่ที่พวกเขามาถึงคือบาร์
ตอนแรกลูเธอร์ค่อนข้างอาย แต่กริยาที่ไม่ดีของเค้าก็เริ่มจางลง
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเฟรย์ถึงพาพวกเขามาที่นี่
‘ที่นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับขุนนางหรือคนชนชั้นสูง…’
นี่คือสถานที่ที่เหล่าทหารรับจ้างที่มีปากและพฤติกรรมที่หยาบคายใช้บริหาร
แต่เฟรย์เปิดประตูโดยไม่ลังเลใด ๆ
ในทันใดนั้นกลิ่นของยาสูบและเบียร์ก็แพร่กระจายไปทั่ว
ยักษ์หัวโล้นหลังเคาน์เตอร์ซึ่งเป็นเจ้าของดูเหมือนจะจำเฟรย์ได้ทันที
เขาสังเกตเห็นเฟรย์อยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะหัวเราะดังๆออกมาราวกับว่าเขาเต็มไปด้วยความสุข
หลังจากคุยกับเจ้าของไม่นานเฟรย์ก็กลับมาที่กลุ่ม
“ พวกเขาจะเตรียมอาหารให้ระหว่างที่พวกเราอาบน้ำ”
“ อาฉันเข้าใจแล้ว”
ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอมีโอกาสสักที่ เธอต้องการทำความสะอาดตัวเองในทันที
แม้จะไม่ได้แสดงบนใบหน้าแต่โซเนียและลูเธอร์ก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเฟรย์ในการอาบน้ำ
ทันทีที่พวกเขาเปิดประตูใบหน้าของทุกคนในบาร์ก็เปลียนไป
มีห้องน้ำชั้นบนเนื่องจากดูเหมือนว่าบาร์จะทำหน้าที่เป็นโรงแรมขนาดเล็กด้วย
พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีน้ำอุ่นเตรียมไว้ให้พวกเขาชำระร่างกายได้สบายขึ้น
ไม่นานโซเนียก็กลับไปที่ชั้นหนึ่งหลังจากอาบน้ำเสร็จ แต่เธอพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะ
‘เขานั่งที่นี่โดยบังเอิญหรือเปล่า?’
โซเนียหรี่ตามองชายคนนั้น
ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้นมีหน้าตาที่หล่อเหลามาก โซเนียเคยเห็นผู้ชายที่หล่อเหลามากมายในอาณาจักรลัวโนเบิลแต่ผู้ชายคนนี้ดูมีเสน่ห์มากกว่า
สิ่งที่เธอสังเกตเห็นเป็นพิเศษคือผมสีเทายาวเล็กน้อยของเขาที่มัดไว้ข้างหลังและดวงตาที่ลึกล้ำของเขา
จุดตำหนิเพียงอย่างเดียวคือเขาผอมเกินไป แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร …
‘หืม?’
โซเนียเอียงศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ รูปร่างหน้าตาของผู้ชายนั้นดูคล้ายกับคนๆหนึงมาก
ความผอมผมเทานัยตาลึก
“ ทำไมไม่นั่งล่ะ?”
ในขณะที่เธอได้ยินเสียงเธอก็ตระหนักได้
อย่างไรก็ตามสีหน้าสับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“ …เฟรย์?”
* * *
“มีอะไรบางอย่างผิดปกติไปหรือ?”
“ มะ ไม่ คุณดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากวันก่อน…”
“ ฉันดูแก่ขึ้นเล็กน้อยหลังจากไม่ได้ดูแลตัวเองมาสักพัก”
เฟรย์หัวเราะและโซเนียหน้าแดงขณะบ่นในใจ
‘นั่นไม่ใช่สักหน่อย’
เธอไม่สามารถแม้แต่จะเปรียบเทียบเขาในปัจจุบันกับรูปลักษณ์ที่เหมือนขอทานที่เขาเคยมีมาก่อนได้
เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอที่โซเนียรู้สึกเสียวแปลบในอก
“ ใช่เสื้อผ้าของคุณดูดี”
โซเนียซึ่งไม่คุ้นเคยกับการพูดจายกย่องผู้อื่นได้หันหน้าหนีขณะที่เธอพูดแบบนั้น
สิ่งที่เขาสวมใส่ในขณะนั้นคือชุดเครื่องแบบของสถาบันเวสต์โร้ดของเขาซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ดูดีแทนที่จะใช้งานได้จริง
มันเข้ากันได้ดีกับรูปลักษณ์ปัจจุบันของเฟรย์แม้ว่าเขาจะดูดีขึ้นกว่านี้อีกหากมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกนิด
“ ฉันไม่มีเสื้อผ้าอื่นใส่เลย ชุดเกราะของฉันต้องล้างเพราะมันสกปรกมาก”
“ ใช่”
“ คุณจะยืนอยู่ต่อหรือ? อาหารจะมาในเร็วๆ นี้แล้ว”
“ คะ..ค่ะฉันจะนั่งลง”
‘จะพูดติดอ่างอีกกี่ครั้งยัยงี่เง่า!’
โซเนียดุตัวเองในขณะที่เธอรีบนั่ง
เธอรู้สึกประหม่า
การได้เห็นใบหน้าเฉยเมยของเฟรย์ดูเหมือนจะทำให้เธอรู้สึกแย่ลงไปอีก
โซเนียรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมที่เป็นเธอคนเดียวที่ต้องอับอาย เมื่อคิดอย่างรวดเร็วเธอก็พยายามหาหัวข้อมาคุย
“ เวทย์มนต์ของคุณวิเศษมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นพ่อมดที่น่าทึ่งเช่นคุณ”
“ มันก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย”
ในขณะที่เขาพูดสิ่งนี้ใบหน้าของเฟรย์ก็ไม่ได้แสดงอาการดีใจ
นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่านี่คือสิ่งที่เขาคิดจริงๆ ระดับความสามารถในปัจจุบันของเขาไม่ได้มายมากอะไรเลย
เมื่อเขานึกถึงคนที่เขาต้องเผชิญในอนาคตพลังในปัจจุบันของเขาก็เหมือนกับว่าเขาถือกริชขนาดเล็กเท่าก้อนกรวดในมือ
อย่างไรก็ตามโซเนียรู้สึกชื่นชมมากยิ่งขึ้นเมื่อเธอเห็นความอ่อนน้อมถ่อมตนของเขา
‘เขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพวกพ่อมดทุกคนที่ฉันเคยพบมาก่อน’
สิ่งที่พวกเขารู้คือการโอ้อวด
เกี่ยวกับว่าพวกเขาสามารถพัฒนาเวทมนตร์ได้ดีเพียงใดหรือพวกเขามีการวิจัยที่ดีกว่า หรือว่าพวกเขาเป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรกในหอคอย …
ในการต่อสู้ พวกเขาเป็นเพียงเด็กเล็กๆกลุ่มหนึ่งที่รู้วิธีร่ายคาถาเท่านั่น
พวกเขาไม่มีเวลาร่ายเวทย์ให้เสร็จก่อนที่โซเนียจะชักดาบของเธอและปิดระยะห่างระหว่างพวกเขาแล้วกดมันเข้ากับคอพวกเค้าเลย
ทำไมพวกเขาถึงอยากดวลกันทั้งๆที่ไร้ความสามารถ?
“ แล้วคุณจะไปที่ไหนต่อ?”
เสียงของเฟรย์ทำให้เธอหลุดออกจากความคิด
“ ฉันรู้ว่าคุณกำลังมุ่งหน้าไปที่คัสต์เคา แต่ฉันอยากรู้เกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของคุณ แน่นอนคุณไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้”
‘เขาเป็นห่วงฉันหรือเปล่า?’
รู้สึกเหมือนว่าเขาได้หยิบยกหัวข้อขึ้นมาเมื่อบทสนทนาหยุดลงโซเนียจึงคิดในแง่ดี
เธอตอบโดยไม่ปิดบังอะไร
“ ฉันจะไปที่ตระกูลจุน”
“ …ตระกูลจุน?”
เฟรย์เลิกคิ้ว
ด้วยเหตุผลบางอย่างโซเนียรู้สึกภาคภูมิใจที่ในที่สุดเธอก็สามารถพูดคุยผู้ชายคนนี้ได้
“ คุณจะไปทำอะไรที่นั่น?”
“ นั่น…คือมีข้อเสนอในการแต่งงาน”
เธอไม่รู้ว่าทำไมใบหน้าของเธอจึงกลายเป็นสีแดงและเสียงของเธอก็แตกเล็กน้อย
เฟรย์ไม่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมของโซเนีย
“ อ่าใช่แล้ว ลูกสาวของตระกูลอควาริดจะกลายมาเป็นคู่หมั้นของเพเรียน คนๆนั่นก็คือคุณนี้เอง”
“ฮะ? คุณรู้ได้อย่างไร?”
“ ฉันได้ยินมาจากเพเรียนนะ”
“ คุณคุ้นเคยกับเพเรียนไหม?”
ลูเธอร์ลงมาหลังจากอาบน้ำเสร็จและขัดจังหวะการสนทนา
เฟรย์ทำได้เพียงแค่ยิ้มออกมาขณะที่โซเนียมองไปด้วยความลำบากใจ
“ ผมขอโทษที่ขัดจังหวะการสนทนาของพวกคุณ”
“ไม่เป็นไร นั่งลงเถอะแล้วคุยด้วยกันสิ”
“ ผมต้องขอโทษอีกครั้ง แต่ผมนั่งร่วมกับคุณไม่ได้ ผมแน่ใจว่าคุณคงจะเข้าใจ”
ลูเธอร์และสาวใช้คนเดียวที่เหลือยืนอยู่ข้างหลังโซเนีย
ลูเธอร์และโซเนียมีความสัมพันธ์คลายกับพ่อลูกก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีระเบียบปฏิบัติที่เข้มงวดในความสัมพันธ์แบบนาย – บ่าวที่ไม่อาจละเลยได้
นี่เป็นเรืองในตระกูลของพวกเขาดังนั้นเฟรย์จึงไม่เข้าไปยุ่ง เขาเพียงแค่จิบน้ำก่อนที่จะตอบคำถามก่อนหน้านี้ของลูเธอร์
“ เพเรียนเป็นเพื่อนของฉัน”
“อ่า.. ตระกูลของคุณทั้งสองเป็นตระกูลพ่อมดที่มีชื่อเสียงในจักรวรรดิ คุณเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กหรือเปล่า?”
“ ฉันพบเขาครั้งแรกบนเรือข้ามฟากไปยังเมืองหลวง มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ฉันชื่นชมตัวตนของเขาและเราก็กลายเป็นเพื่อนกัน “
“ฉันเข้าใจละ…”
ลูเธอร์รู้สึกโล่งใจ
วิธีที่ดีในการบอกลักษณะของคนๆ หนึ่งคือการมองไปที่เพื่อนที่เขาคบหา
และจากสิ่งที่เขาได้เห็นเกี่ยวกับเฟรย์ลูเธอร์เชื่อว่าเขาเป็นคนที่มีนิสัยดี
ถ้าชายหนุ่มอย่างเฟรย์สามารถยอมรับเขาเป็นเพื่อนสนิทนั่นก็หมายความว่าเขาก็เป็นคนที่ดีจริงๆ
ไม่นานอาหารก็มาถึง
เนื้อกวางกับเครื่องเทศที่ชวนน้ำลายสอ สลัดผักสดและซุปเนื้อแกะ
ลูเธอร์ชื่นชมคุณภาพของอาหาร
ในที่สุดไส้กรอกก็วางอยู่ตรงหน้าเฟรย์
เฟรย์เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเจ้าของและเจ้าของก็จ้องมองกลับก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะดังลั่น
โซเนียและลูเธอร์ทำได้เพียงเฝ้าดูการโต้ตอบของพวกเขาด้วยความสับสน