มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) – ตอนที่ 10 : หนทางสู่ประตูทางเข้า

ตอนที่ 10 : หนทางสู่ประตูทางเข้า

 

เมื่อพนักงานสองคนนั้นเห็นวิธีทางที่มาร์คใช้ในการติดต่อสื่อสารกับพวกเขา พวกเขาจึงรีบควักโทรศัพท์ออกมา แต่ลืมไปว่าโทรศัพท์ของพวกเขาไม่ได้อยู่กับตัวเองเนื่องจากเป็นเวลาทำงานอยู่

 

เมื่อได้เห็นสภาพกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกของพวกเขา มาร์คก็เคาะกระจกและชี้ไปที่กองกระดาษที่อยู่และมือท่าเขียนปากกาลงบนโทรศัพท์ของเขา ทั้งสองคนก็เข้าใจได้ในทันทีและวิ่งดิ่งเข้าไปตรงเคาเตอร์หยิบปากกาและแผ่นกระดาษมา และพนักงานชายก็รีบเขียนมันลงไปอย่างเร่งรีบ

 

หลังจากเขียนเล่าสถานการณ์ยาวเกือบจะเป็นความเรียง ชายตัวเตี้ยรีบเอามาทาบกับกระจกและลายมือของเขาก็เกือบจะอ่านแทบไม่ออก

 

เมื่อได้สรุปสิ่งที่พนักงานเขียนออกมา พวกเขานั้นถูกบังคับให้ปิดประตูลงเนื่องจากชายอ้วนและการ์ดของเขาถือปืนและเล็งไปที่พวกเขา แถมชายอ้วนนั้นยังยุงงให้คนอื่นๆทอดทิ้งพวกพนักงานที่ต่อต้านเขาด้วย

 

“ไอคนชั่วเนรคุณ!”

 

ประโยคนี้คือบรรทัดสุดท้ายที่พนักงานชายนั้นได้เขียนลงบนกระดาษ

 

หลังจากได้อ่าน ‘ความเรียง’ ที่เขียนโดยพนักงานชายนั้น มาร์คก็พิมพ์ตอบใส่ลงบนโทรศัพท์เขาทันทีด้วยคำถามว่า

 

“มีทางอื่นที่สามารถให้เราเข้าไปข้างในได้มั้ย?”

 

“หากเป็นอีกทางเข้าทางอื่นล่ะ?” พนักงานชายตอบ

 

มาร์คหันหน้าตรงไปทางเข้าโซนขายสินค้าไอทีทางด้านฝั่งทิศตะวันตกและเขาก็ส่ายหน้า ทางเข้าตรงนั้นไกลเกินไป  มันไม่ยากที่จะเห็นจำนวนของพวกซมอบี้ที่อยู่ตรงแถวนั้น มากไปกว่านั้นซอมบี้พวกนั้นก็กำลังจะมุ่งตรงดิ่งมาทางที่พวกเขาอยู่ เสียงยิงปืนดึงดูดพวกมันมา

 

เหมือนว่าพนักงานผู้หญิงผุดความคิดอะไรได้บางอย่างเมื่อเธอหยิบปากกาจากมือของพนักงานชายออกมาและเขียนลงไปในกระดาษอีกแผ่นหนึ่ง เมื่อพนักงานชายได้อ่านสิ่งที่เธอเขียนก็ถึงกับเบิกตากว้าง

 

“ใช้ทางเดิน! ฉันว่าเข้าไปทางประตูข้างหลังของร้านค้าอื่นๆไม่น่าได้ แต่คุณสามารถเข้าจากทางเดินหนีไฟของโรงหนังได้ ”

 

เมื่อเขารับรู้ถึงความคิดของพนักงานหญิง เขาก็พยักหน้าเห็นด้วย เขาก็รู้เกี่ยวกับเส้นทางทางเดินข้างหลังที่่สามารถเชื่อมไปร้านสินค้าต่างๆและสามารถใช้เป็นทางขนส่งสินค้าโดยไม่ต้องผ่านเข้าไปทางประตูด้านหน้า นี่คือทางเลือกเดียวที่พวกเขามีอยู่ตอนนี้ แม้ว่าเส้นทางนั้นมันจะเป็นทางอ้อมที่วกวนพอสมควร

 

ตอนนี้พวกเขามีจุดมุ่งหมายและตามความเป็นจริงทางนั้นมันก็คดเคี้ยว

 

มาร์คมองไปที่ทางเข้าที่ปิดลงของโซนสินค้าไอทีด้วยสายตาที่มองไปที่กลุ่มคนที่อยู่ข้างใน จากนั้นเขาก็พิมคำบางอย่างลงไปในโทรศัพท์และโชว์ให้พนักงานสองคนนั้นดู ซึ่งทำให้สองคนนั้นถึงกับสับสนเพราะว่ามันไม่ได้ดูเป็นคำแนะนำ แต่กลับดูเหมือนเป็นคำสั่งสะมากกว่า

 

เมื่อเห็นท่าทางที่ดูสับสนลังเลของสองคนนั้น เขาก็พิมประโยคเพิ่มและโชว์ให้สองคนนั้นดูอีกครั้ง

 

“มันไม่สำคัญสำหรับฉัน แต่แค่ทำตามที่ฉันบอกเถอะถ้าพวกนายยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ”

 

ประโยคนี้ทำให้พนักงานสองคนนั้นถึงกับกลัว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไม แต่พวกเขาก็ยังเลือกที่จะทำตามที่มาร์คบอก

 

มาร์คพยักหน้าให้พวกเขาครั้งสุดท้ายเมื่อเขาก็เตรียมตัวที่จะไป เมื่อเขาหันกลับมา เขาเห็นว่าแองเจกำลังโยนถังดับเพลิงพร้อมกับเหวี่ยงไม้เบสบอลใส่พวกซอมบี้ที่ปีนขึ้นมาทางบันไดเลื่อนที่อยู่ใกล้ๆนี้ ถังดับเพลิงโดนใบหน้าของซอมบี้เต็มๆ ถังดับเพลิงกระเด็นตกออกไปด้วยแรงกระแทกและกระทบพื้นเสียงดัง ขณะเดียวกันซอมบี้ที่โดนถังดับเพลิงก็ตกลงไปทำให้พวกซอมบี้ที่อยู่ข้างหลังถูกพลัดตกลงจากบันไดเลื่อนไปด้วยเหมือนเป็นโดมิโน

 

หลังจากที่โยนถังดับเพลิงไป แองเจก็รีบวิ่งเข้ามาหาที่กลุ่มเธอโดยทันทีและถามออกไป

 

“เสร็จแล้วหรอ?”

 

“ใช่ ไปกัน”

 

มาร์คมองไปที่กลุ่มของเขาและหยักหน้าให้พวกเขา ทุกๆคนต่างตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าพวกเขาจะต้องกลับไปเผชิญพวกซอมบี้อีกครั้งหนึ่ง แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วว

 

ด้วยการแนะนำของมาร์ค กลุ่มพวกเขาก็เริ่มที่จะวิ่งอย่างรวดเร็ว เขาเริ่มกระตุ้นการสัมผัสของเขาในขณะที่เขากำลังพยายามจะรับรู้ถึงภยันอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อมองไปรอบๆ ทุกๆคนคงสังเกตุได้ว่าสถานการณ์นั้นดูแย่กว่าถ้าหากว่าพวกเขาไม่เคลื่อนไหวให้เร็วกว่านี้ พวกเขาอาจจะไม่มีเวลาเหลือที่จะทำอะไรได้เลย หากจำนวนของพวกซอมบี้เพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆในชั้นนี้

 

แต่ในมุมมองของมาร์ค การเพิ่มขึ้นของซอมบี้ก็ดูมีเหตุมีผล ก่อนหน้านั้นเขาเหนี่ยวไกลูกกระสุนฆ่าซอมบี้ไปหลายตัว ในขณะที่พวกคนที่อยู่ข้างในโซนสินค้าไอทีเสียลูกกระสุนไปอย่างใช่เหตุ และแถมยังมีเสียงตะโกนดังลั่น เสียงเคาะประตูบานเหล็กของคนที่อยู่ด้านนอกหน้าทางเข้าโซนสินค้าไอที และเสียงพวกนั้นก็เป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้ดึงดูดฝูงซอมบี้จากชั้นล่างขึ้นมายังชั้นบนนี้

ออกมาจากศูนย์กลางของห้างสรรพสินค้าแล้วพวกเขาก็เลี้ยวขวาไปมุ่งสู่ทางทิศใต้ของห้าง เป้าหมายของพวกเขาก็คือสุดทางของทิศใต้ซึ่งเป็นตำแหน่งที่โรงหนังตั้งอยู่

 

“ทำไมเธอถึงโยนถังดับเพลิงออกไป?”

 

ในขณะที่วิ่งกันอยู่มาร์คอดไม่ได้ที่จะไม่ถามออกไป

 

“เชื้อถังดับเพลิงมันหมดแล้ว ฉันก็เลยทิ้งมันลงไป”

 

แองเจตอบกลับอย่างฉับพลัน

 

เมื่อได้ยินคำตอบของเธอ มาร์คก็ได้แต่ส่ายหัว เชื้อถังดับเพลิงอาจจะหมดแต่ตัวถังของมันก็ยังสามารถเอาไปทุบหัวพวกมันได้อยู่! มาร์คมองไปที่เธอและหยิบไม้เบสบอลคืนมา

 

เธอมองดูมาร์คด้วยท่าทางสับสนในขณะที่เธอก็ยอมให้มาร์คเอาไม้เบสบอลคืนไป

 

“นำทางไปก่อนเลย ฉันจะไปจัดการพวกน่ารำคาญที่อยู่ข้างหลังนั่น จำไว้นะ! เล็งไปที่ศรีษะของพวกมัน”

 

แองเจมองไปข้างหลังกลุ่มด้วยประหลาดใจและจากนั้นเธอก็พยักหน้าตอบด้วยท่าทีจริงจัง พวกเขาอาจจะไม่ได้สังเกตุถึงความตึงเครียดและพวกซอมบี้ที่ส่งเสียงคำรามที่กำลังมาจากทุกๆทาง แต่ข้างหลังพวกเขามีซอมบี้เกือบสิบตัวที่วิ่งมาด้วยความรวดเร็วด้วยอาการบ้าคลั่งซึ่งมีใบหน้าบิดเบี้ยว

 

โชคดีที่ข้างหน้าพวกเขานั้นจำนวนพวกซอมบี้มีอยู่น้อยและพวกมันก็แสนเชื่องช้า แต่ถ้าพวกเขาปล่อยให้ซอมบี้สักตัวจากทางข้างหลังใกล้เข้ามาได้เมื่อไหร่ สถานการณ์จะต้องยุ่งยากลำบากกว่านี้แน่

 

“วิ่งต่อไปอย่าหยุด! และห้ามมองมาทางข้างหลัง!”

 

มาร์คตะโกนขณะที่เขาก็ได้เล็งปืนออกไปข้างหลัง

 

ปัง!

 

เขายิงซอมบี้ที่อยู่ใกล้ที่สุดซึ่งมันกำลังจะกระโจนพุ่งตัวใส่เขา เขาเป่าลูกกระสุนใส่หัวมันทันทีโดยไม่ลังเล ลูกกระสุนแต่ละอันนั้นมีค่ามาก และเขาต้องการที่จะประหยัดลูกกระสุนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ด้วยจำนวนของพวกซอมบี้ที่วิ่งได้อย่างรวดเร็วก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไม่ใช่ตอนนี้และในสถานการณ์แบบนี้ที่เขาจะต้องใช้มันอย่างประหยัด

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์

เรื่องย่อ เป็นเช้าอีกวันที่คล้ายจะปกติธรรมดาเหมือนในทุกๆวัน แต่ใครจะรู้ล่ะ วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ จุดกำเนิดเริ่มต้นของหายนะนั้นไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ แต่หารู้ไม่ เชื้อหายนะนั้นเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เกิดจักรวาลแห่งนี้ แต่นั่นก็แค่เกิดขึ้นบริเวณนอกบรรยากาศของโลกเพียงเท่านั้นเอง ผู้คนและสัตว์ต่างๆกลับฆ่าฟันและกินกันเอง จากนั้นค่อยๆกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดที่ใครๆต่างก็รู้จักชื่อนี้ดี ‘ซอมบี้’ ในขณะที่บางคนนั้นโชคดีได้รับพลังและทักษะความสามารถที่จะต่อสู้กับมัน ทุกๆชีวิตในตอนนี้ที่ไม่ได้ ‘กลายร่าง’ ก็เริ่มพัฒนาหาวิธีทำลายล้างและหยุดเรื่องราวทั้งหมดนี้ในขณะที่โลกทั้งใบนี้กำลังติดเชื้อโดยสารก่อการกลายพันธุ์บางอย่าง มาร์ค ชายผู้เป็นโอตาคุ เกมเมอร์ และไม่ชอบออกไปสู่โลกภายนอก กลับติดแหงกอยู่ใจกลางแห่งความหายนะซึ่งดูเหนือธรรมชาติ การใช้ความคิด ความรู้ และความสามารถที่ไม่เหมือนใครและไม่เป็นไปตามแบบแผนของสังคมของเขานั้น จะทำให้เขามีชีวิตรอดไปอีกนานแค่ไหนกับหายนะที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดซอมบี้ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ และผู้คนชั่วร้ายสารเลวในฐานะผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ในประเทศบ้านเมืองที่มีประชากรล้นเหลือแบบนี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset