ตอนที่ 20 : แข่งขันกับความดิ้นรน
ซอมบี้ส่วนใหญ่นั้นได้วิ่งพื่อที่จะไล่ล่ามาร์ค เหมยโดนแองเจจับไว้อย่างแน่น ในขณะที่เธอนั้นได้มองดูเหตุการณ์ผ่านข้างในประตู เมื่อแองเจได้ปิดประตูลงทั้งๆที่มาร์คยังคงอยู่ข้างนอกนั่นกับฝูงซอมบี้นั่น เหมยก็ได้พุ่งตัวเข้าไปจะเปิดประตูอีกครั้งทันทีเพื่อให้มาร์คได้เข้ามาข้างใน แต่โชคดีที่แองเจนั้นสามารถจัดการดึงเธอไว้ได้ทัน เธอพยายามดิ้นต่อการจับดึงของแองเจ แต่จากนั้น..
มาร์ควิ่งผ่านประตูไปและตะโกนออกมาว่า
“ซ่อน! ไปรอผมที่ดาดฟ้า!” เขาบอก
จากนั้นเหมยจึงได้หยุดดิ้นและไปซ่อนตามที่มาร์คบอกอย่างเชื่อฟัง ถึงอย่างนั้นสายตาของเธอก็ยังคงมองไปที่มาร์คจากข้างประตูจนกระทั่งเธอไม่สามารถมองเห็นเขาได้แล้ว
คนอื่นๆก็ได้รู้สึกผิดในขณะที่พวกเขากำลังพยายามซ่อนตัวอยู่ข้างหลังประตู ยกเว้นแองเจ พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากปกป้องตัวเองให้ปลอดภัยเพราะมีบางคนอุตส่าห์ยอมที่จะเสียสละวิ่งล่อซอมบี้เพื่อให้พวกเขานั้นได้ปลอดภัย พวกเขาต่างก็รู้สึกอ่อนแอ
หลังจากที่เหมยได้ใจเย็นลงแล้วแองเจก็ได้ปล่อยตัวเธอ และตัวเธอเองก็รู้สึกแย่เช่นกันกับสิ่งที่มาร์คสั่งให้ทำเพื่อที่จะให้เขาไปหลอกล่อซอมบี้ อีกใจของเธอก็คิดว่าถ้าหากมาร์คไม่ทำเช่นนั้น ทุกๆคนก็อาจจะไม่มีใครรอด
แองเจได้ตั้งสติและสงบจิตสงบใจ และมองไปรอบๆ จากนั้นเธอเห็นบันได้ที่มาร์คบอก เธอก็ได้บอกทุกคนให้ปีนขึ้นไปอย่างเงียบๆ
พนักงานชายเป็นคนนำขึ้นไปก่อนและมีแองเจอยู่หลังสุดของกลุ่ม พวกเขาได้ปีนบันไดขึ้นไป ทั้งเหมยและแม่เด็กก็ได้ปีนขึ้นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากร่างกายที่ยังไม่แข็งแรงสมบูณณ์ได้ปกติเหมือนเดิม พนักงานชายก็ได้อุ้มเด็กขึ้นไปกับเขาด้วย เนื่องจากช่วยให้แม่เด็กลดภาระในการปีนบันไดขึ้นไป
ในขณะที่พวกเขากำลังปีนบันได้อยู่นั้น ทุกๆคนต่างก็รู้กฏกันอยู่แก่ใจแต่ไม่ได้พูดออกมา
“อย่า มอง ลง ไป เด็ด ขาด!”
ประโยคนี้ดังก้องอยู่ภายในใจของทุกคน
มันมีเหตุผลอยู่ที่คำพวกนั้นถึงได้เข้าไปอยู่ในใจของพวกเขาเมื่อต้องปีนบันไดขึ้นไปบนดาดฟ้าซึ่งหากนับจากบนพื้นก็มีความยาวถึงประมาณถึงสามชั้นได้
อย่างไหนจะดีกว่ากันนะ? ระหวางตกลงไปตายที่ความสูงขนาดนี้กับถูกพวกฝูงซอมบี้กัดกิน? แน่นอนว่าไม่มีใครอยากรู้หรอก
หลังจากผ่านไปได้หลายนาที ในที่สุดพวกเขาก็ได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยซึ่งคือดาดฟ้าของห้าง แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกยินดีหรือมีความสุข เมื่อมาร์คคนที่ทำให้พวกเขามาถึงจุดนี้กลับไม่ได้มาด้วยกันกับพวกเขา
พวกเขาจำสิ่งที่มาร์คตะโกนออกมาเมื่อวิ่งผ่านประตูไปก่อนหน้านี้ได้ และพวกเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะรอมาร์ค
***
ย้อนกลับมาสักพักถึงตอนที่มาร์ควิ่งผ่านประตูไป หลังจากที่เขาได้ตะโกนตะโกนคำนั้นออกไปหาเหมย เขาก็ได้กระโดดข้ามศพของหนึ่งในสมาชิกแก๊งนักเลงที่เขาทิ้งไว้ก่อนหน้านี้ที่กลางทางเดิน ซากศพของมันจมกองเลือดตัวเองอยู่
ฝูงซอมบี้ที่วิ่งไล่ตามมาร์คอยู่นั้นก็เริ่มสะดุดศพของแก๊งนักเลง ซอมบี้ตัวหน้าที่ได้สะดุดล้มลงไปกับพื้นนั้นกลายเป็นทำให้ตัวอื่นๆที่ตามมานั้นล้มลงตามกันเป็นโดมิโน ซอมบี้ส่วนใหญ่นั้นล้มลงไป แต่ก็ไม่สามารถทำความเสียหายที่รุนแรงกับพวกมันได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีซอมบี้จำนวนหนึ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ และยังคงวิ่งไล่ตามมาร์คอย่างต่อเนื่อง
ซากศพของหนึ่งในสมาชิกแก๊งนักเลงนั่นกลายเป็นเครื่องมืออีกชิ้นหนึ่งสำหรับมาร์คให้ครั้งสุดท้ายก่อนที่ร่างของมันจะถูกบดขยี้เละไปจนไม่เหลือสภาพใดๆ
เมื่อมาร์คเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปลื้มปิติ พวกมันเหมือนซอมบี้ในหนัง ซึ่งพวกมันเหล่านั้นต่างก็โง่และมีทักษะการทรงตัวที่แย่ แค่ใช้ทริคอันเดียวก็พอที่สามารถจะทำให้พวกมันล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ถ้าเขาสามารถทำให้พวกมันล้มลงอย่างนั้นต่อได้เรื่อยๆ เขาอาจจะสามารถสะลัดพวกมันทิ้งออกไปได้
เขาวิ่งตรงไปตามทางเดินที่ยาวออกไป หัวมุมถัดไปค่อนข้างที่จะอยู่ห่างกับเขา แต่ระยะทางระหว่างเขากับพวกซอมบี้นั้นใกล้กันไม่ถึงนาที ซอมบี้บางตัวจริงๆแล้วนั้นก็วิ่งได้เร็วกว่ามาร์ค
จากนั้นเขาก็เห็นรถเข็นเปื้อนเลือดที่จอดอยู่ข้างทางเดิน บนรถเข็นนั้นมีอุปกรณ์ที่ยังคงสะอาดเอี่ยม เช่น ไม้ถูพื้น ผ้าขี้ริ้ว และไม้กวาด นอกจากนี้ยังมีถังที่บรรจุน้ำอยู่บนรถเข็น
ซอมบี้ตัวหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเขาก็ได้เอื้อมมือไปจับเขาเมื่อเขาจับรถเข็นนั้นเอาไว้ เขาหยิบถังน้ำในขณะที่คว่ำรถเข็นตามไปด้วย เครื่องใช้ทำความสะอาดก็หล่นลงมาอยู่ตรงหน้าซอมบี้ ทำให้ไม้กวาดขวางระหว่างขาของมัน ซอมบี้ล้มหน้าคว่ำลงไปอย่างแรง และหัวของมันก็ถูกเหยียบโดยซอมบี้ตัวหลังที่วิ่งตามมา
มาร์คหันไปและสาดน้ำในถังออกไปที่พื้นก่อนที่จะโยนถังเปล่านั่นใส่ซอมบี้ตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด จากนั้นเขาก็ได้เร่งความเร็ววิ่งออกไปอีกครั้ง
ผลจากสิ่งที่เขาได้ทำไว้นั้นแน่นอนว่าเขาไม่จำเป็นจะต้องหันหลังกลับไปดูเลยว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำสกปกในถังนั้นผสมไปด้วยสบู่ซึ่งมันก็ทำให้พื้นลื่นขึ้นมา
การแข่งขันครั้งนี้ใครมันจะแพ้อนาถไปในที่สุดกันแน่ หลังจากที่ปรากฏว่าพวกซอมบี้นั้นลื่นล้มหน้าคว่ำไปตามๆกัน
นี่คือเหตุผลที่ทำไมคนทำความสะอาดต้องใส่รองเท้ากันลื่นเมื่อต้องทำความสะอาดอยู่ตลอด
การที่เขาใช้วิธีการที่ทำให้พื้นเปียกลื่นนั้นมันเป็นวิธีง่ายๆธรรมดาสำหรับเขา แต่มันก็คือสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ อย่างน้อยก็ทำให้เขาโชคดีขึ้นมาบ้าง เขาสามารถทำบางสิ่งและวิ่งไปด้วยได้
เขาสามารถสู้กับมันได้ แต่เขาจะต้องตายอย่างแน่นอนในตอนนี้ถ้าเขาหยุดิ่ง อีกทั้งเขาสามารถยิงซอมบี้จากข้างหลังเพื่อลดจำนวนพวกมัน แต่นั้นก็ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายตามมา กระสุนของเขามีอยู่อย่างจำกัด เขาจะต้องใจเย็นๆตั้งสติเพื่อที่จะโหลดกระสุนและเขาจะต้องใช้สมาธิในการยิงให้โดนเป้า ใครจะไปรู้ว่าพวกซอมบี้จะโผล่ออกมาจากที่ไหนอีก ถ้าหากเขาเริ่มสร้างความเสียงดังวุ่นวายขึ้นมา การต้องแลกที่จะได้ฆ่าซอมบี้อันนิดน้อยแค่นี้กับชีวิตของเขามันก็ไม่ได้คุ้มค่าที่จะต้องแลก
การวิ่งหนีจากซอมบี้ที่เสมือนสัตว์ล่าเนื้อนั้น ทำให้เขาเข้าใจความรู้สึกของตัวละครที่อยู่ในหนังซอมบี้เรื่อง 28 days later
เหมือนเขาได้ประสบการณ์การออกกำลังกายไปที่ครอบคุมไปทั้งส่วนของร่างกาย เขาเหงื่อออกท่วมไปทั้งร่ายกาย ในขณะที่ขาของเขานั้นก็ได้เริ่มหนักขึ้น ในส่วนของความแข็ง แรงทรหดนั้นเขารู้ว่าตัวเขานั้นไม่สามารถชนะแองเจได้ในตอนนี้ อีกเยอะแค่ไหนที่เขาต้องต่อสู้กับฝูงซอมบี้ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยพวกนี้?
เขาหายใจหอบแรงเท่าที่จะแรงได้ในขณะที่วิ่งไปด้วย
“ฉันควรทำยังไงดีตอนนี้ ?”
ตอนนี้นั้นยังไม่มีซอมบี้ตามมาทันเทา่ไหร่ พวกซอมบี้มันยังคงจะเสียเวลาอยู่กับน้ำสบู่ที่เขาเทลงไปที่พื้นตามทางเดิน
จากนั้นเขาก็ได้มาถึงสุดทางของทางเดิน เขาอาจจะมาถึงสุดทางของฝั่งด้านใต้ของห้าง และทางเดียวที่สามารถไปต่อได้คือเลี้ยวซ้ายไป แต่ในขณะที่เขาได้เลี้ยวซ้ายไปนั้น…
มาร์คก็รีบกระโดดไปทางขวาทันทีและเขานั้นก็เสียการทรงตัว เขาพยายามที่จะไม่ล้มลงไป เขาได้คว้าถังขยะจนถังขยะโค่นล้มลงไปหลายใบ
ตรงหน้าเขามีซอมบี้อยู่ตัวหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่ามันจะถูกดึงดูดโดยเสียงที่มาจากฝั่งทางด้านทางเดินนี้
เขาจัดการฟันไปที่คอของมันโดยทันที เนื่องจากเขาใช้มือซ้ายถือมีดเล่มยาว เขาไม่สามารถจัดการตัดหัวออกจากร่างกายของมันได้อย่างเด็ดขาด แต่ก็จัดการตัดกระดูกสันหลังของมันขาด ซอมบี้ตัวนั้นล้มลงไปกับพื้นด้วยที่หัวของมันห้อยออกมาจากคอของมัน
เขามองไปที่ทางเดินและเห็นว่าไม่มีซอมบี้ตัวอื่นๆจากฝั่งทางที่เขาเพิ่งได้ฆ่าซอมบี้ตัวล่าสุดไป
จากนั้นแววตาของเขาก็สว่างไสวขึ้นมา
เขาเห็นป้ายที่แขวนอยู่ตรงเพดานแสดงสัญลักษณ์ทางบันไดที่ชี้ไปที่ประตูสองบานที่อยู่ทางฝั่งขวามือ ตรงหน้าประตูสองบานนั้นทางซ้ายของทางเดิน มาร์คเห็นว่าประตูเหล็กเงานั้นมีการติดตั้งแผงปุ่มอยู่ทางด้านขวาดของประตู
“แสดงว่าตรงนี้มีลิฟต์อยู่”
แต่นั่นก็ไม่ใช่ทางออกของเขา แต่ประตูก็เป็นสิ่งบ่งชี้สัญลักษณ์ให้เขา เขาชำเลืองไปที่ฝูงซอมบี้ที่กำลังวิ่งไล่เขาอยู่ และเขาก็วิ่งไปที่ประตูนั้น เขาค่อยๆเข้าไปในประตูนั้นอย่างระมัดระวัง ข้างหลังประตูนั้นบันไดให้ขึ้นลงทั้งชั้นบนและชั้นล่าง โชคดีที่มันเหมือนกับข้างนอกทางเดินที่บันไดนั้นไม่มีพวกซอมบี้อยู่
ประตูบานนี้มีด้านจับและรูกลอนประตูที่ค่อนข้างเล็กซึ่งทำให้เขาได้เปรียบ มาร์คนำที่ทิ่มน้ำแข็งออกมาและได้งัดกลอนประตูนั้นเพื่อที่จะเข้าไป ซึ่งรูกลอนประตูนั้นก็เข้ากับที่ทิ่มน้ำแข็งของเขาได้พอดี
จากนั้นเขาก็ได้ปีนขึ้นไปที่บันได้
พวกฝูงซอมบี้ก็ได้มาถึงในเร็วๆนี้และเลี้ยวไปตามหัวมุมทางเดินและพบว่าเหยื่อของมันก็ไม่อยู่แล้ว สิ่งที่มันเห็นเพียงอย่างเดียวก็คือซากศพซอมบี้ที่หัวขาดแหว่งออกมาที่ได้จ้องไปที่พวกมัน