มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) – ตอนที่ 31 : ทางเดินฝั่งตะวันตก

ตอนที่ 31 : ทางเดินฝั่งตะวันตก

 

เวลา 13.14 นาฬิกา – ห้างสรรพสินค้าบาคัวร์, ฝั่งตะวันตก

 

มาร์คยืนอยู่ข้างในทางเดินอันน่าขนลุกและเฝ้าดูพื้นที่อย่างระมัดระวังให้มากที่สุด ตามพืนนั้นก็เต็มไปด้วยศพของพวกฝูงซอมบี้ที่หัวแหว่งขาด เมื่อเขาได้เข้ามาในประตูฉุกเฉินก่อนหน้านี้ ซอมบี้นักกระหายได้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาพอดี เขาจึงจัดการแทงไปที่คอของมันก่อนที่ตัวเขาเองนั้นจะเดือดร้อน

 

ตามทางเดินนั้นก็เกือบที่จะโล่งเปล่ายกเว้นว่าจะมีซอมบี้นักกระหายสองสามตัวที่เดินโซเซไปมาและก็มีเศษซากปรักหักพังอยู่ตามทาง ดูเหมือนว่าซอมบี้ส่วนใหญ่ที่อยู่ตามข้างในทางเดินนั้นได้ถูกหลอกล่อออกไปตามแผนที่มาร์คนั้นได้วางแผนไว้ แต่เขาก็ยังไม่คงไม่คิดประมาทปล่อยใจแม้แต่น้อย เขารู้ว่าแม้ว่าเขาจะได้จัดการกับฝูงซอมบี้ส่วนใหญ่ที่นี่ไปแล้ว แต่มันก็แค่เป็นจำนวนส่วนใหญ่ ไม่ใช่จำนวนทั้งหมด

 

เมื่อมองไปที่ฝั่งตะวันออกตามทางเดิน มีรอยเท้าเปื้อนเลือดมากมายอยู่ที่พื้นในขณะที่ตามกำแพงนั้นก็ถูกตกแต่งไปด้วยรอยฝ่ามือและแขนที่เปื้อนเลือด รอยเท้าเปื้อนเลือดทั้งหมดนั้นมาจากทางเดียวกันและสิ้นสุดรอยเท้าที่ประตูที่อยู่ด้านหลังข้างมาร์ค ไม่จำเป็นจะต้องคิดเลยว่ารอยเท้าเหล่านี้มันเป็นของใครกัน

 

อีกด้านหนึ่งของทางเดินนั้นก็ไม่มีอะไรยกเว้นซอมบี้นักกระหายสามตัวที่ได้เดินมาทางมาร์ค ไม่สิ อีกตัวหนึ่งนั้นเพิ่งจะได้โผล่มา ดูเหมือนมันจะมีประตูบานหนึ่งที่เปิดอยู่ทางด้านนั้น เขามองไม่เห็นประตูเนื่องจากมุมและองศาที่เขาผ่านไปตอนนี้ไม่สามารถเห็นได้

 

ซอมบี้ที่เพิ่งปรากฏเข้ามานั้นคือนักกัดผู้หญิง นักกัดคนนี้น่าจะเป็นนักเรียนของวิทยาลัยญี่ปุ่นในบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงนี้ สาเหตุเป็นเพราะว่าเธอสวมชุดเสื้อสีขาวและกระโปรงสีขาวที่มีความยาวลงมาประมาณถึงเข่า อีกอย่างเสื้อที่ขาวสะอาดของเธอก่อนหน้านั้นในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยสีแดงสด ราวกับว่าเธอนั้นได้ทำการอาบเลือดมา

 

เนื่องจากการที่เห็นมาร์คยืนโฉ่งฉ่างยืนตรงนั้น มันก็ได้วิ่งไปทางที่มาร์คยืนอยู่ทันที

 

มาร์คเห็นซอมบี้นักกัดกำลังจะวิ่งเข้ามาจู่โจมใส่เขาและเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้าตัดศรีษะของมันทิ้งไปแต่ในวินาทีสุดท้ายเขาก็ได้ถอยหลังกลับไป เขาคิดว่าถึงเวลาที่จะยืนยันความจริงบางสิ่งบางอย่างและตอนนี้ก็คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะลงมือพิสูจน์เพราะว่าตอนนี้ก็มีเพียงซอมบี้นักกัดแค่ตัวเดียวเท่านั้น

 

หลังจากที่ได้วิ่งเข้าไปใกล้มากขึ้นมันก็จะจู่โจมไปที่มาร์คทันที แต่มันก็สังเกตุได้ว่าเป้าหมายของมันนั้นหายตัวไป ในเมื่อมันวิ่งมาด้วยความเร็วสูงจึงไม่มีสิ่งใดช่วยลดแรงกระแทกการล้มของมัน ซอมบี้นักกัดล้มไปอย่างแรงอยู่ทีพื้น

 

เมื่อซอมบี้นักกัดจู่โจมที่ไปมาร์ค เขาก็ได้หลบตัวหนีไปด้านข้างและซ่อนอยู่ข้างหลังประตูปล่อยให้ซอมบี้นักกัดล้มลงไปอยู่ที่พื้นต่อหน้าเขา

เมื่อซอมบี้นักกัดได้มองขึ้นมา มันเห็นว่ามาร์คยืนอยู่ข้างๆมัน มันก็ได้พยุงแขนสองข้างของมันเพื่อที่จะยืนขึ้นแต่ก่อนที่มันจะสามารถลุกขึ้นมาได้ ร่างกายของมันก็จมลงไปกับพื้นอีกครั้งเนื่องจากถูกน้ำหนักกดทับที่ไม่ได้ทันตั้งรับ มันเสียการทรงตัวเมื่อแขนของมันทั้งสองข้างถูกดึงไปไว้ข้างหลัง

 

ในตอนนี้นั้นมาร์คก็ได้เอาเท้าขวาของเขาเหยียบเข้าไปที่หลังของมันอย่างแรงในขณะที่ก็ผูกแขนทั้งสองข้างของมันด้วยเชือกที่เหลือที่เขามีอยู่ การเอาเชือกมามัดแขนของมันไม่ได้ง่ายเมื่อมันพยายามดิ้นไปดิ้นมาแต่เขาก็ยังคงจัดการกับมันต่อไป หลังจากที่จับแขนมันไปไว้ด้านหลังและมัดเชือก เขาก็จัดการมัดเท้าของมัดต่อ นักกัดยังพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะหลุดพ้นจากการรัดกุมมันยังคงดิ้นไปดิ้นมา ถึงแม้เช่นนั้นมันก็ยังคงดูเหมือนว่ามีความคิดที่จะหนีไป

 

มาร์คจับซอมบี้นักกัดเอาไปไว้ตรงกำแพงและเขาได้ไปจัดการกับซอมบี้นักกระหายอีกสามตัวที่กำลังได้เข้ามาใกล้นี้ มาร์คตัดสินใจที่จะฆ่าซอมบี้นักกัดไปแค่สองตัวโดยการตัดศรีษะของพวกมัน เขาตัดสินใจจะฆ่าสองตัวนี้เพราะว่าเนื้อหนังของมันเละออกมาไม่เหลือทรงใดๆ มันดูน่ารังเกียจเกินกว่าที่มาร์คได้จินตนาการเอาไว้

 

ซอมบี้นักกระหายที่เขาตัดสินใจยังไม่ฆ่าทิ้งนั้นดูเหมือนว่าจะยังเป็นวัยรุ่นหญิงอยู่ มันสวมใส่เสื้อสายเดี่ยวและกางเกงยีนส์ขาสั้น ซอมบี้นักกระหายตัวนี้มีร่องรอยการถูกกัดอยู่หลายๆที่เผยให้เห็นเนื้อหนังข้างในที่ยังสดแน่นและมันก็เหลือแขนซ้ายอยู่ข้างเดียวห้อยแกว่งไปมา ส่วนสำคัญที่สุดของร่างกายมันคือตรงหน้าอกที่ไม่ได้ถูกทำลายใดๆ

 

ซอมบี้นักกระหายตัวนี้ล่วงลงไปกับพื้นเหลือเพียงแค่หัวและส่วนลำตัวของมัน มาร์คได้ตัดแขนและขาทั้งหมดของมันออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้มันเคลื่อนไหวได้ เลือดของมันไหลพุ่งออกมาจากร่างกาย แต่ถึงแม้ว่าเลือดจะไหลออกมาเยอะแค่ไหน มันก็ไม่ได้ดูจะอ่อนแอขึ้นเลยแม้แต่น้อย

 

มาร์คทิ้งร่างซอมบี้สองตัวก่อนหน้านั้นไว้และเดินมุ่งไปยังทางที่ซอมบี้สาวนั้นออกมา เขาเห็นว่ามีประตูที่เปิดอยู่นั้นนำไปสู่ทางห้องเก็บของในร้านขายสินค้า เมื่อได้เข้าไปในห้องเก็บของแล้ว เขาก็ไม่พบเจออะไรเว้นแต่ชั้นเก็บของขนาดสูงที่เต็มไปด้วยกล่องรองเท้าและประตูอีกบานหนึ่งที่เปิดอยู่ซึ่งดูเหมือนว่าจะนำไปสู่ทางหน้าร้าน

 

ระมัดระวังและเงียบเข้าไว้คือสองสิ่งที่มาร์คต้องจำขึ้นใจเมื่อได้เดินเข้าไปที่ประตู มาร์คค่อยๆโผล่หัวออกจากประตูแต่เขาก็ได้ถอยกลับมาทันที ไม่กี่ก้าวจากประตูฝั่งขวามีซอมบี้ยืนเฉื่อยอยู่ โดยที่หลังของมันหันเข้ามาทางหน้ามาร์ค ผ่านจากซอมบี้ไปคือทางหน้าร้านรองเท้าและฉากนอกกำแพงตรงกระจกของหน้าร้านไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถที่จะจัดการได้

 

มาร์คค่อยๆปิดประตูลงและล็อคประตู เขาก็ได้ปิดประตูที่นำไปสู่ทางเดินแต่ไม่ได้ล็อคเอาไว้

 

เนื่องจากเขาอยู่ใกล้กับมุมของทางเดินที่นำไปสู่ร้านค้าซึ่งอยู่สุดทางทิศตะวันตกของห้าง เขาตัดสินใจที่จะตรวจสอบพื้นที่เผื่อในกรณีที่เจอพวกซอมบี้เกลื่อนเต็มพื้นที่ แต่โชคดีไปสิ่งเดียวที่เขาเจอคือบันไดที่เชื่อมต่อในทุกๆชั้นเพื่อขึ้นไปยังดาดฟ้าและลิฟท์ขนสินค้า มาร์คมองไปรอบๆและเจอไม้ถูพื้นกับผ้าขี้ริ้วหลายๆผืน เขาหยิบผ้าขี้ริ้วขึ้นมาเผื่อไว้ใช้ในภายหลัง

 

ก่อนที่มาร์คจะกลับไปยังที่เดิม เขาก็ได้หยุดและจ้องไปที่ประตูบานใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆเขา ถ้าเขาคิดถูกประตูบานนี้น่าจะนำไปสู่โซนเครื่งเล่นเกมส์ที่เขาต้องการจะไปก่อนหน้านี้ แต่โซนเครื่องเล่นเกมส์ก็ได้ปิดลงเมื่อตอนที่เขาเห็นล่าสุด แม้ว่าประตูเหล็กของโซนเครื่องเล่นเกมส์จะปิดลงและล็อคด้วยแม่กุญแจ เขาก็ยังจับลูกบิดประตูและพยายามที่จะเปิดประตูแต่ประตูถูกล็อค

 

เขากลับไปยังที่ที่เขาทิ้งซอมบี้เอาไว้ ซอมบี้นักกระหายยังคงอยู่ในที่เดิมแต่ซอมบี้นักกัดนั้นก็ไปอยู่อีกฝั่งของกำแพง คราบสิ่งสกปรกตามพื้นนั้นได้เลอะเต็มเสื้อของซอมบี้นักกัดเพราะว่ามันเอาแต่ส่งเสียงคำรามและกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่กับพื้น มันต้องการที่จะหนีไปแต่มันก็ไม่มีปัญญาทำได้ในเมื่อแขนของมันถูกมัดเอาไว้

 

‘ฉันอาจจะสามารถใช้มันแทนไม้ถูพื้นทีหลังก็ได้’

 

มาร์คมองไปตามพื้นที่ซอมบี้นักกัดได้กลิ้งไปกลิ้งมาและพื้นนั้นก็ดูสะอาดมากกว่าเดิม แม้กระทั่งแอ่งเลือดที่นองไว้อยู่กับพื้นซึ่งมาจากการตัดแขนตัดขาของซอมบี้นักกระหายยังที่จะถูกเช็ดออกไปจากพื้นเกือบหมด

 

จากนั้นเขาจึงได้จับเชือกที่มัดแขนของซอมบี้นักกัดและดึงมันออกมาไว้ที่อีกฝั่งหนึ่ง เมื่อเขาได้วางซอมบี้นักกัดลงไป เขาก็จัดการกับซอมบี้อีกสองตัวด้วยผ้าขี้ริ้ว โดยปกติแล้วเขาจะไม่ใช้ผ้าขี้ริ้วด้วยสองมือของเขา เขานำผ้าขี้ริ้วไปไว้ตรงปลายท่อเหล็กและยัดผ้าขี้ริ้วลงไปในปากของซอมบี้

 

มันถึงเวลาแล้วที่จะพิสูจน์ว่าหนึ่งในทฤษฏีของเขานั้นสามารถยืนยันได้หรือไม่

 

มาร์คได้เอาถอดถุงมือข้างขวาของเขาออกและเอามือห่อหุ้มด้วยกระเป๋า ecobag ที่เขาได้กำลังถือไว้ หลังจากนั้นเขาก็คุกเข่าลงและเอามือยื่นเข้าไปล้วงหน้าอกของซอมบี้นักกระหาย แต่อย่าคิดลึกเชียวล่ะเขาไม่ได้ทำเพื่อการสนองความต้องการตัวเอง เขาเพียงแค่ใช้ฝ่ามือล้วงเข้าไปที่หน้าอกด้านซ้ายของซอมบี้นักกระหายที่อยู่เหนือหัวใจ ไม่ใช่ที่เต้านมของมัน

 

เขาไม่ได้รับความรู้สึกใดๆ

 

เขาก็ทำเช่นนั้นเหมือนกันกับซอมบี้นักกัด เพราะว่าซอมบี้นักกัดนั้นยังดูมีชีวิตมากกว่าซอมบี้นักกระหาย มันช่วยไม่ได้ที่มือของเขาจะสัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างที่นุ่มในหลายๆครั้งแต่เขาก็ยังพยายามจัดการให้มือของเขาไปสัมผัสกับหน้าอกที่อยู่ตรงหัวใจของซอมบี้ีนักกัด

 

ตุบ… ตุบ…

หัวใจของมันยังเต้นอยู่

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์

เรื่องย่อ เป็นเช้าอีกวันที่คล้ายจะปกติธรรมดาเหมือนในทุกๆวัน แต่ใครจะรู้ล่ะ วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ จุดกำเนิดเริ่มต้นของหายนะนั้นไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ แต่หารู้ไม่ เชื้อหายนะนั้นเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เกิดจักรวาลแห่งนี้ แต่นั่นก็แค่เกิดขึ้นบริเวณนอกบรรยากาศของโลกเพียงเท่านั้นเอง ผู้คนและสัตว์ต่างๆกลับฆ่าฟันและกินกันเอง จากนั้นค่อยๆกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดที่ใครๆต่างก็รู้จักชื่อนี้ดี ‘ซอมบี้’ ในขณะที่บางคนนั้นโชคดีได้รับพลังและทักษะความสามารถที่จะต่อสู้กับมัน ทุกๆชีวิตในตอนนี้ที่ไม่ได้ ‘กลายร่าง’ ก็เริ่มพัฒนาหาวิธีทำลายล้างและหยุดเรื่องราวทั้งหมดนี้ในขณะที่โลกทั้งใบนี้กำลังติดเชื้อโดยสารก่อการกลายพันธุ์บางอย่าง มาร์ค ชายผู้เป็นโอตาคุ เกมเมอร์ และไม่ชอบออกไปสู่โลกภายนอก กลับติดแหงกอยู่ใจกลางแห่งความหายนะซึ่งดูเหนือธรรมชาติ การใช้ความคิด ความรู้ และความสามารถที่ไม่เหมือนใครและไม่เป็นไปตามแบบแผนของสังคมของเขานั้น จะทำให้เขามีชีวิตรอดไปอีกนานแค่ไหนกับหายนะที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดซอมบี้ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ และผู้คนชั่วร้ายสารเลวในฐานะผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ในประเทศบ้านเมืองที่มีประชากรล้นเหลือแบบนี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset