รุ่งเช้าหลังจากทานอาหารเช้าจนอิ่ม เด็กหนุ่มเนี่ยฟงก็ยังคงออกไปที่ทุ่งกว้างอีกครั้ง ฉากการร้องคำรามเป็นเช่นเดิมเช่นเมื่อวาน ไม่นานทั้งสองก็เผชิญหน้ากันอีกครั้ง รอยแผลจากการต่อสู้เมื่อวานของสัตว์อสูรกระทิงคลั่งขนแดงยังคงมีให้เห็น บาดแผลยังคงเห็นได้ชัดบริเวณปากแผลมีรอยไหม้จากประกายสายฟ้าจากมีดสั้น ไม่ต้องกล่าวสิ่งใดต่อกัน เปรี้ยง เสียงหน้าผากปะทะกับเกราะสายฟ้าเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เท้าหน้าด้านขวากระทืบลงมาหมายจะสังหารเด็กหนุ่ม แต่ถูกหมัดขวาต่อยต้านรับ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง หมัดทั้งสองถูกปล่อยออกมากระหน่ำไปที่อุ้งเท้าของสัตว์อสูรกระทิงคลั่งขนแดง
ความเจ็บปวดจากอุ้งเท้ารับรู้ถึงสมอง มันรีบหันหลังถีบเท้าหลังออกมา เปรี้ยง เกราะสายฟ้าต้านรับอย่างทันท่วงที ฉับ เส้นสีฟ้าวาดผ่านหางขนาดใหญ่ของสัตว์อสูรกระทิงคลั่งขนแดง เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมา เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เด็กหนุ่มต้องขมวดคิ้ว เกราะสายฟ้าถึงกับมีรอยร้าวปรากฏ รีบโบกสะบัดมือขวาส่งพลังปราณเข้าไปที่วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ เด็กหนุ่มทดสอบกระโดดขึ้นด้านบนหมายจะจัดการศีรษะ แต่ว่าระดับความสูงต่างกันมากเกินไป เปรี้ยง หมัดขวาซ้ายถูกต่อยออกไปอย่างรวดเร็วปะทะกับเขาด้านขวาของสัตว์อสูรกระทิงคลั่ง เด็กหนุ่มกระเด็นถอยออกมาหลายสิบก้าว
ไม่นานการต่อสู้ก็จบลง โดยการที่เด็กหนุ่มล่าถอยออกมาก่อน ทันทีที่ออกมาจากทุ่งกว้างเด็กหนุ่มก็รีบกลับไปที่โพรงไม้อย่างรวดเร็ว รีบแก้ผ้ากระโดดลงสระน้ำนั่งโคจรลมปราณรักษาตัวเอง ไม่นานก็รู้สึกแปลกๆที่จุดรวมปราณตันเถียน ร่างกายค่อยๆฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มยังคงนั่งโคจรลมปราณอยู่ไม่ถึงครึ่งหนึ่งชั่วยาม ที่จุดรวมตันเถียนก็รู้สึกร้อนลวกออกมา เด็กหนุ่มกำลังจะกระโดดออกจากสระน้ำก็ได้ยินเสียงดังขึ้น
“ เจ้าไม่ต้องตกใจเด็กน้อย เจ้าหลินฉีกำลังข้ามระดับ มันจะส่งผลให้เจ้านิดหน่อย ในเวลานี้เจ้ารีบโคจรลมปราณเถอะ คอยดูดซับพลังรักษาจุดตันเถียนไปเรื่อย ๆ ”
เด็กหนุ่มไม่กล่าวสิ่งใดนั่งโคจรลมปราณต่อไม่นาน ตูม ตูม เสียงระเบิดดังแววเข้ามาในหู กระแสไฟฟ้าพุ่งออกมาจากร่างกาย ไม่นานเด็กหนุ่มก็ลืมตาขึ้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ หลังจากนั้นก็ตรวจสอบระดับลมปราณของตน พบว่าตนมีพลังลมปราณอยู่ในขั้นสีม่วงขั้นแปด เพิ่มขึ้นมาหนึ่งระดับ ไม่ถึงสามลมหายใจก็มีแสงสีน้ำเงินพุ่งออกมาจากหัวไหล่ด้านขวา
“ คารวะนายท่านเนี่ยฟงขอรับ ตัวข้ามีนามว่าหลินฉี เป็นสัตว์อสูรตัวที่สองของท่านขอรับ ”
“ เรียกข้าเนี่ยฟงก็พอพี่ชายหลินฉี เป็นเพราะท่านแท้ๆระดับพลังลมปราณข้าถึงได้เพิ่มขึ้น ”
หลินฉีได้ยินก็ขมวดคิ้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ ไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่ขอรับ ”
“ แต่ท่านลุ่ยกงกล่าวเช่นนั้นนะขอรับ ”
หลินฉีรีบเพ่งมองไปที่สระน้ำ ข้างล่างมีบางอย่าง
“ คุณชายท่านสำรวจด้านล่างของสระหรือยังขอรับ ”
“ เอ่อ ข้าคิดว่าไม่มีอะไรข้าจึงไม่ได้สำรวจ ”
เมื่อกล่าวจบเด็กหนุ่มรีบดำน้ำตรวจหาบางอย่างด้านล่างของสระ ไม่นานก็พบว่าเจอกับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ เด็กหนุ่มรีบโบกสะบัดมือประกายสายฟ้าก็พุ่งเข้าหาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ ไม่ถึงสิบลมหายใจวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็จางหายไป ด้านล่างเด็กหนุ่มพบเจอกับเขาอันแปลกประหลาดที่ถูกหักทิ้งไว้ ที่มีประกายสายฟ้าออกมา ด้วยความสนใจเด็กหนุ่มจึงคว้าขึ้นมาดู
” ไม่คิดว่าจะพบเจอมันที่นี่ “
” มันคือสิ่งใดขอรับท่านลุ่ยกง “
” มันคือเขาของข้าเอง เจ้านำมันไปดูดซับพลังปราณเถอะ อาจเป็นเพราะมันเจ้าถึงได้เพิ่มพลังได้อย่างมหาศาล “
“ แสดงว่าเมื่อครู่ท่านหลอกข้า ”
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า อย่ากล่าวสิ่งใดให้มากความรีบดูดซับพลังปราณเถอะ ”
เด็กหนุ่มเนี่ยฟงไม่กล่าวสิ่งใดตอบ เพียงแค่ยกยิ้มอย่างดีใจ รีบนั่งโคจรลมปราณดูดซับพลังจากเขาของลุ่ยกง เวลาล่วงเลยมาจนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน