ข่าวเนี่ยฟงหลานชายของอดีตหัวหน้าตระกูลเนี่ยที่เข้าคัดเลือกพรสวรรค์ได้ระดับสีขาว เป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วหมู่บ้านเมฆหมอกและเขตดินแดนแห่งสายลม ผู้คนต่างขนานนามว่าคุณชายขยะ ตระกูลเนี่ยถูกลดสถานะลงอย่างรวดเร็วจากสองตระกูลใหญ่แห่งหมู่บ้านเมฆหมอกเหลือเพียงตระกูลชั้นกลาง ตระกูลซูกลายเป็นตระกูลใหญ่แต่เพียงผู้เดียว
หัวหน้าตระกูลซูจัดงานเลี้ยงฉลองอย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังมีตระกูลใหญ่จากหลายหมู่บ้านเข้ามาเชื่อมความสัมพันธ มีหลายตระกูลอยากเข้ามาเกี่ยวดอง ของกำนัลถูกส่งเข้ามาที่ตระกูลซูอย่างต่อเนื่องหลายสิบวัน หลายสิบปีมาแล้วที่ไม่มีเด็กน้อยผู้ใดที่เข้าทำการคัดเลือกพรสวรรค์แล้วได้ถึงระดับสีน้ำเงิน อีกทั้งวิญญาณสัตว์อสูรที่เลือกเป็นสัตว์อสูรระดับสูงอีกด้วย
บ้านตระกูลเนี่ยหลังจากถูกลดสถานะลงเป็นระดับกลาง หัวหน้าตระกูลคิดขับไล่เนี่ยฟงออกจากตระกูล แต่เพราะมีเนี่ยกังเป็นผู้อาวุโสจึงได้แต่สั่งย้ายให้ไปอยู่ท้ายหมู่บ้าน เนี่ยกังถือว่าหัวหน้าตระกูลยังคงไว้หน้าตนย้ายออกไปอยู่กับเนี่ยฟงเพียงสองคน เด็กน้อยเนี่ยเหวินถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเนี่ยฟงโดยเด็ดขาด ส่วนซูหนิงถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวเนี่ยฟงเช่นกัน
หลังจากถูกขับไล่ออกมาอยู่ท้ายหมู่บ้าน แน่นอนว่าเนี่ยฟงหาได้สนใจ ปิดตัวเงียบศึกษาตำราต่างๆที่เนี่ยกังนำมาให้ เช่น วิธีการปรุงยาอักขระศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงการฝึกกำลังภายนอก เพราะทุกครั้งที่เนี่ยฟงออกจากบ้านแน่นอนว่าถูกขับไล่จากเด็กรุ่นเดียวกันรวมไปถึงผู้ใหญ่ คุณชายขยะกลายเป็นชื่อเรียกของเนี่ยฟงไปโดยปริยาย
เวลาผ่านไปสองปีเนี่ยฟงจากเด็กน้อยตัวผอมกลายเป็นเด็กน้อยร่างกายสูงใหญ่มีมัดกล้ามร่างการเต็มไปด้วยรอยแผลจากการฝึกกำลังภายนอกอย่างหนักหน่วง และเป็นเด็กที่มีความรู้มากกว่าเด็กคนอื่น ช่วงเช้าถึงเที่ยงเนี่ยฟงเน้นออกกำลังกายภายนอก วิ่งขึ้นเขาพยัคฆ์ฝึกกำลัง ช่วงบ่ายฝึกในแม่น้ำในเขาพยัคฆ์ ยามอรุณลับขอบฟ้าอ่านตำราการปรุงยาและตำราอักขระศักดิ์สิทธิ์ ช่วงเวลาสองปีเนี่ยฟงเขียนอักขระศักดิ์สิทธิ์จากหนังสือที่เนี่ยกังให้จนชำนาญรวมไปถึงวิธีการปรุงยาจนหมดสิ้น
เข้าปีที่สามเนี่ยกังยังคงหาซื้อตำราการปรุงยาและอักขระศักดิ์สิทธิ์ให้เนี่ยฟงศึกษาหลายสิบเล่ม ความรู้มากมายจากการศึกษา แต่นั่นเนี่ยฟงก็หาได้ทำได้จริงทั้งหมด เพราะทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการปรุงยาหรือเขียนอักขระศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างทุกขั้นตอนต้องใช้พลังปราณและเลือดหรือแก่นสัตว์อสูรมาเกี่ยวข้องทั้งหมด จนในที่สุดเนี่ยฟงก็ได้รับจดหมายจากเนี่ยเหวินนัดพบกลางดึก แน่นอนว่าเนี่ยฟงไปตามจดหมายนัด
“ เจ้ามาแล้วเนี่ยฟง เจ้าเปลี่ยนไปไม่น้อยจากเมื่อสองปีก่อน ”
“ ท่านพี่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อยเช่นกัน ตัวข้าต้องขออภัยด้วยขอรับในวันที่คัดเลือกพรสวรรค์ ”
“ อย่าใส่ใจไปเลยน้องชายเป็นตัวข้าที่ต้องขออภัยต่อเจ้าหากวันนั้นข้าพูดกับท่านพ่อเจ้าคงไม่ต้องย้ายออกมาอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านเช่นนี้ ”
“ เรื่องมันผ่านมานานแล้วพี่ชาย ตัวข้าหาได้สนใจ ว่าแต่ท่านเรียกข้ามามีสิ่งใดหรือขอรับ ”
เนี่ยเหวินสะบัดมือขวามีหนังสือเล่มหน้าปกสีดำอยู่ในมือ
“ พี่ชายเนี่ยเหวินมีแหวนมิติด้วย ”
“ ข้าได้เป็นของขวัญตอนคัดเลือกพรสวรรค์ ”
“ ในมือของท่านคือ ”
“ ตำราสัตว์อสูรข้าเห็นว่าเจ้าชอบศึกษาตำรา ข้าจึงนำมันมาให้เจ้า ”
เนี่ยเหวินยื่นตำราสัตว์อสูรให้แก่เนี่ยฟง
“ ข้าขอบใจพี่ชายเนี่ยเหวินมากขอรับ ”
เนี่ยเหวินแสยะยิ้มจ้องมองเนี่ยฟงด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“ เนี่ยฟงข้ามีของอีกอย่างจะให้เจ้า ”
พูดจบเนี่ยเหวินก็สะบัดมืออีกครั้งเป็นแผ่นหนังหนึ่งม้วนยื่นให้กับเนี่ยฟง เนี่ยฟงจ้องมองด้วยความสงสัย
“ มันคือสิ่งใดพี่ชาย ”
“ ข้าขโมยมาจากท่านพ่อ มันเป็นชุดอักขระศักดิ์สิทธิ์ในตำนานมันสามารถใช้เพิ่มระดับลมปราณในร่างเพียงแต่ว่า ”
เนี่ยฟงเอ่ยถามด้วยความสงสัยขณะที่เปิดดูแผ่นหนัง
“ เพียงแต่ว่าสิ่งใดขอรับท่านพี่ ”
“ มันต้องใช้เลือดหรือแก่นสัตว์อสูรในป่ามรณะ ”